ใช้สมาธิออกกำลังกาย


ไปเดี่ยว แต่ไม่เดียวดาย

           ช่วงนี้  แม้หกโมงเย็นแล้ว ฟ้าก็ยังสว่างจ้าอยู่เลย ทำให้รู้สึกว่ามีเวลาทำอะไรๆ ต่อได้อีก  ก็ดีไปอย่าง

            โดยปกติในตอนเย็นหลังเวลาเลิกงาน (ไม่ได้หมายถึงเลิกทำงานในวันนั้นๆ แล้ว)  ถ้าไม่ติดงานที่มีสีแดงขีดเส้นใต้จริงๆ  ก็จะต้องแต่งตัวเสื้อยืด กางเกงขาสั้น ข้ามฟากจากตึกเอส เอ็ม ไปฝั่งตรงข้ามคือ สนามกีฬาของ กองพลทหารม้าที่ 2  เพื่อไปออกลีลาแอโรบิก  เพราะเป็นที่ที่ใกล้ที่สุด และเวลาทำกิจกรรมค่อนข้างใช้ได้คือ หกโมงเย็น ถึง ประมาณหนึ่งทุ่ม  เวลาไป ก็ไปคนเดียว แต่ไม่โดดเดี่ยวเอกา  เพราะสามารถไปแสวงหาเพื่อนใหม่ในลานกีฬาได้  ที่จริงเมื่อก่อน ก็มีน้องเก๋ น้องอ้อ ไปด้วย แต่ช่วงหลังใช้บริการลุยเดี่ยว ไปหาเพื่อนเอาดาบหน้า  ที่จริงก็คอยกระแซะน้องๆ ที่ สคส. ไปออกกำลังด้วยกัน  แต่แต่ละคนก็มีความเป็นส่วนตัวอื่นๆ ที่อยากทำหลังเลิกงาน ซึ่งอาจรวมถึงการไปออกกำลังประเภทอื่นด้วย ก็ไม่ว่ากัน  (ขอบอกว่า พี่แอนน์ และ น้องจ๊ะจ๋า ก็ออกกำลังประจำเหมือนกัน คือ ฟิตบอลล์ และ แบดมินตัน)

              ที่อยากบันทึกไว้ตรงนี้คือ แอโรบิก มักใช้การนับจังหวะ หนึ่งถึงแปด เป็นมาตรฐาน บางครั้งก็ลดลงมาเป็น หนึ่งถึงสี่ หรือ หนึ่งถึงสอง เพื่อเปลี่ยนลีลาท่าทางได้บ่อยขึ้น  เวลาเต้น ก็คอยดูครู ซึ่งจะบอกว่าให้เต้นท่าไหน และนับจังหวะให้ทุกคนทำพร้อมๆ กัน  ระหว่างเต้น ถ้าห่วงคุยกับเพื่อนข้างๆ ก็จะไม่ได้ฟังที่ครูบอก  ทำให้เสียจังหวะแดนซ์อันสวยงาม  ตอนแรกคิดว่า ก็ทำตามๆ ที่ครูบอก ก็คงทัน  แต่ที่จริง ถ้าเราตั้งใจฟังที่ครูบอก  เราจะทำได้ตามจังหวะที่พร้อมเพรียงกับครูและเพื่อนๆ   ดูสิ แม้แต่ออกกำลัง ยังต้องอาศัย "สมาธิ" ด้วย  ที่จริงก็ดี เพราะวันๆ ก็ค่อนข้างวุ่นวายอยุ่กับการตอบรับโทรศัพท์  ขายหนังสือ ซีดี ของ สคส. ทั้งทางโทรศัพท์ และทาง F2F  หลังเลิกเวลางาน  มาทำ "สมาธิ" กับ การขยับกาย ยืดเส้นยืดสาย บริหารหลอดเสียง  โสตเพลงเพราะๆ จากเพลงที่ไม่เคยรู้จัก  ฟังทุกวันๆ ก็ร้องได้เอง

               เคยอ่านบทความเกี่ยวกับ "นาฬิกาในตัวเรา"  ซึ่งอธิบายว่า ช่วงเวลาไหน อวัยวะในร่างกายทำหน้าที่อะไร เช่น 05.00 - 07.00 น. ลำไส้ทำงาน เป็นเวลาของการขับถ่าย  ไม่ร่างกายไม่ได้ทำ  ลำไส้จะกินของเสียกลับเข้าไปในร่างกายอีก แย่เลยเนอะ  และ...... ตอนเย็น ช่วง 17.00 - 19.00 น. เป็นเวลาของ ตับหรือไต (หรืออะไรสักอย่าง) ดังนั้น ช่วงนี้ ควรทำใจให้สบาย (คือเวลาเลิกงานพอดีเลย)  ไม่ควรออกกำลังกายหรือทำงานหนัก   แต่ในความเป็นจริง ลานแอโรบิกใน กทม. เริ่มเปิดลานตั้งแต่หกโมงแทบทั้งนั้นเลย  มันก็ขัดๆ กันอยู่ แม้จะเป็นเวลาที่เหมาะสำหรับคนทำงานก็ตาม 

               แม้ว่า มันจะดูขัดกัน แต่เราก็จะแดนซ์ต่อไป เพราะลานมันโล่ง (พอที่จะให้เราไปเผาผลาญไขมันได้)

               แล้ววันนี้ ท่านๆ ทั้งหลาย ดูแลสุขภาพร่างกายกันอย่างไร เข้ามาคุย บอกกันบ้าง เผื่อชอบ จะได้แจมด้วย ขอบคุณค่ะ

หมายเลขบันทึก: 36131เขียนเมื่อ 29 มิถุนายน 2006 22:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 พฤษภาคม 2012 17:52 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)
การออกกำลังกายช่วยทำให้สารสุขหลั่งออกมาเยอะ...ตัวเองก็ชอบออกกำลังกาย ไปว่ายน้ำเพราะชอบ"น้ำ" สดชื่นดี หากไม่ได้ไปก็จะไปเดิน กับคุณแม่ เป็นช่วงเวลาที่มีค่าเพราะนอกจากเกิดผลดีต่อเราแล้วยังได้คุยกับคุยแม่ด้วย ถือว่าเป็นการดูแลท่านอีกแบบหนึ่งด้วย เดินไปคุยไปเบาๆ สบายๆ...อิ่มใจทุกครั้ง หากไปว่ายน้ำคุณแม่ไปได้ก็ท่านก็จะไปด้วยเราก็จะไปกัน มีคุณแม่ พี่ป้อม(พี่สาว) อะตอมหลายชาย และดิฉัน..นอกจากนี้ปิดท้ายการเข้า case counseling ทุกครั้งดิฉันก็จะแน่นำ case ไปออกกำลังเพื่อเพิ่มทุนทางอารมณ์ให้แก่ตนเองด้วย ทุนที่ว่านั้นคือ..."สารสุข"...ที่ว่านั่นแหละคะ
ที่ มอ.มีวงแอโรบิคที่ ว่า ในมอ.เองนับได้ 7 ที่ แต่ดิฉันไม่ชอบ ชอบที่จะวิ่ง เดิน รอบอ่างน้ำใหญ่ เพราะเป็นพิ้นที่กว้าง เบาสมอง บวกมีต้นจำปีรอบอ่าง หอมอบอวลไปทั่ว  แม้ว่าจะชอบมาก แต่ก็ต้องตามอารมณ์ คุณลูก ๆ สองคน บางวันแกก็ไม่เดิน บางวันแกก็จะแอโรบิค บางวันแกให้เอาจักรยานใส่ท้ายรถไปขับที่เนินเขา บางวันแกต้องมานั่งอยู่ข้างโต๊ะรอแม่ ทำงาน ไม่ลงตัวว่าเราจะออกกำลังกายกันแบบไหนดี  ต่างจังหวัดดีมาก ๆ ที่เราสามารถเลือกที่จะทำอะไร ที่ไหนก็ได้ สงสารคนกรุงเทพค่ะ
ที่อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอนนี่ ผมฝึกศิลปะการต่อสู้ของญี่ปุ่นที่เรียกว่าไอคิโดให้กับเด็กวัยรุ่นทุกเย็นครับ เด็กบางคนบอกว่า มาฝึกแล้วช่วยลดความก้าวร้าวลงได้เยอะ การออกกำลังกายน่าจะมีส่วนช่วยลดความก้าวร้าว และลดความรุนแรงทางสังคมลงได้ด้วย น่าจะมีการส่งเสริมจริงๆจังๆทุกหน่วยงานเลยนะครับ

พี่แกบคะ อ่านแล้วสนุ้กสนุกคะ I like it :)

อยู่คณะแพทย์ม.อ. มีบริการเต้นแอโรบิกทุกวันตอนประมาณ 5 โมงเย็นค่ะ ชอบมากเพราะเป็นการออกกำลังที่ค่อนข้างครบสูตร ทำให้เราต้องทำตามตั้งแต่ต้นจนจบ แม้ว่าจะลดหย่อนความหนักตามสังขารบ้าง แต่ระบบการหายใจก็ได้ทำงานเต็มที่ค่ะ ถ้าเป็นไปได้จะพยายามไปทุกวัน ช่วงนี้เรามีกีฬาสีทุกวันพฤหัส ก็ได้เป็นที่ซ้อมกีฬาอื่นๆเป็นครั้งคราว

โชคดีอีกอย่างของชาวม.อ.ก็คือมีสระว่ายน้ำบริการ ตัวเองจะพยายามตื่นแต่เช้าไปว่ายน้ำค่ะ ปกติจะว่ายวันละ 10 รอบ (250 เมตร) แล้วก็เกาะโฟมตีขาเล่น ทุกเช้าจะพบคุณพี่คนหนึ่งซึ่งท่านเกษียณแล้ว มาว่ายน้ำทุกวัน วันละ 50 รอบ(ต่อเนื่องกันไม่หยุดเลย ของตัวเองนี้ 10 รอบหยุดสัก 5-6 หน) เห็นแล้วทึ่งมากค่ะ เป็นกำลังใจที่ดีมากให้กับเรา 

พี่เม่ยออกกำลังกายได้ทุกอย่างที่ขวางหน้า...
  • เมื่อสาวๆ ก็ตีเทนนิส เดี๋ยวนี้ไม่ไหวแล้วเปลี่ยนมาเป็นเต้นแอร์โรบิคใน ม.อ. แต่คนละวงกับคุณโอ๋ค่ะ....แต่เว้นวรรคไปนานหลายเดือนแล้ว....
  • โชคดีที่ช่วงนี้ภาควิชาพยาธิมีกิจกรรม sport day ยาวนานหลายเดือน พี่เม่ยก็อาศัยการร่วมลงแข่งขันกีฬาเป็นการออกกำลังไปในตัวเลย....
  • คุณแกบคะ  แอร์โรบิคเนี่ย นอกจากต้องมีสมาธิแล้ว ต้องพยายามทำท่าให้สวยด้วยนะ ไม่งั้นเดี๋ยวคนข้างหลังนินทาแย่เลย......
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท