ลำธาร ร้านอาหาร และการขอนิดส์นึง


Appreciative Inquiry : การขอนิดส์นึง

วันนี้ได้มีโอกาสอ่าน IS เกี่ยวกับ AI in restaurant ของรุ่นพี่มาครับ

เจอสิ่งไม่น่าเชื่ออยู่ในนั้นเต็มไปหมด... เพราะว่าพี่เขาได้ใช้ AI เพื่อค้นหาประสบการณ์ที่สุดยอดรวบรวมไว้มากมาย

ในการเลือกสถานที่ที่จะรับประทานอาหาร เชื่อไหมครับว่ากว่า 40% ลูกค้าชอบบรรยากาศริมน้ำ ( น้ำตก/สระ/คลอง )

อีก 20% คือร้านนั้นตกแต่งด้วยต้นไม้ ซึ่งจะเห็นได้ว่า 60% ของลูกค้าชอบบรรยากาศร้านที่ตกแต่งแบบธรรมชาติ

ผมเลยลองคิดกลับมาที่ตัวผมเอง
... เออ... มันก็จริงนะ ผมก็เป็นคนที่ชอบกินข้าวในบรรยากาศแบบนั้นเหมือนกัน

ต้องเข้าใจครับว่า.. การออกไปกินข้าวนอกสถานที่นั้น เราไม่ได้เน้นการไปรับประทานอย่างเดียว เรายังต้องการสถานที่

ที่มันผ่อนคลาย สามารถนั่งชิวๆคุยกันได้ ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังรับประทานอาหาร จริงไหมครับ....



ครับ... และด้วยเหตุที่ว่าบรรยากาศเป็นสิ่งสำคัญที่ลูกค้าใช้เลือกร้านอาหารที่จะรับประทาน

รุ่นพี่คนนี้จึงคิดที่จะสร้างลำธารน้ำตกเล็กๆ ขึ้นภายในร้านอาหารของพี่เขาครับ....

อาจารย์เล่าให้ผมฟังว่า
... "ในตอนแรกรุ่นพี่คนนี้ไม่สามารถที่จะสร้างลำธารน้ำตกได้ เนื่องจากแม่ของพี่เขาไม่ยอมครับ"

ผมเลยถามอาจารย์ต่อว่า
... "แล้วพี่เขาทำยังไงครับอาจารย์"  อาจารย์เล่าต่อ "พี่เขาอาศัยลูกดื้อ  ประมาณว่าห้ามได้ห้ามไป

ยังไงก็จะสร้าง ว่าแล้วพี่คนนั้นก็ได้สร้างลำธารน้ำตกขึ้น"ที่มุมเล็กๆ" ของร้านก่อน ตอนแรกที่คุณแม่พี่เขาเห็นก็ถามครับว่าอะไร

พี่เขาก็ตอบไปว่าน้ำตกไงแม่... แม่พี่เค้าก็ งงๆครับ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร แล้วพี่เค้าก็ค่อยๆขยายความยาวลำธารขึ้นเรื่อยๆ

จนสุดท้ายพี่ก็สามารถทำให้ร้านของพี่เขามีบรรยากาศแบบธรรมชาติโดยมีเสียงน้ำไหลจากลำธารน้ำตกอยู่ภายในร้านได้สำเร็จครับ"



ทำไมถึงทำได้สำเร็จละ... เรามาดูกันครับ

เมื่อได้ผลสำรวจมาพี่เขาก็มีแผนที่จะสร้างลำธารน้ำตก ในตอนแรกคุณแม่นั้น "ไม่ยอมให้สร้าง" ครับ

แต่พี่เขาอาศัยลูกดื้อ แล้วใช้"การขอนิดส์นึง"เป็นตัวช่วย คือ การสร้างลำธารที่มุมเล็กๆของร้านก่อน

คุณแม่เห็นก็ งงๆครับ แต่ไม่ได้ว่าอะไร เพราะคิดว่าลำธารน้ำตกนี้ ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรมากมายกับร้าน

ซึ่งพอคุณแม่เปิดใจยอมรับกับลำธานน้ำตกที่เกิดขึ้นได้แล้ว การที่พี่เขาจะขยายให้มันยาวขึ้นจนครอบคุลมทั้งร้าน

ก็ไม่ใช้เรื่องที่ยากอะไร... จริงไหมครับ เพียงแต่ต้องใช่้เวลาหน่อยเท่านั้นเอง ^^


เป็นอย่างไรกันบ้างครับ... เคสตัวอย่างนี้แสดงให้เห็นอีกแล้วครับว่า "การขอนิดส์นึง" ช่วยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้


เพียงแค่พี่เขา "ขอนิดส์นึง" การสร้างลำธารน้ำตกที่ถูกต่อต้านในตอนแรก ก็สามารถดำเนินการได้จนสำเร็จ

ลองนำ "การขอนิดส์นึง" ไปปรับใช้ดูครับ ผมว่ามันจะให้ผลที่น่าแปลกใจมากเลยทีเดียว


แล้วคุณละคิดยังไง

หมายเลขบันทึก: 327054เขียนเมื่อ 12 มกราคม 2010 02:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:13 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

พี่ขอถามคำถามว่า

หากว่า การขอลำธารให้แลดูเป็นธรรมชาติ

เข้ากับบรรยากาศของร้านอาหารเนี่ย เป็นสิ่งที่ดูเหมาะสม

แต่หากว่า มันไม่ใช่ธุรกิจร้านอาหารล่ะ

อย่างเช่นว่า มีความคิดอยากจะขอนิดส์นึงแบบแหวกแนว

ว่าต้องการให้สถานที่ดูโอ่โถงเป็นธรรมชาติ บรรยากาศสบาย

มีน้ำตก มีต้นไม้ แต่สถานที่นั้น เป็นร้านทอง

ไพรัชต์มีความเห็นว่า เราควรจะขอนิดนึงโดยมีวิธีการอย่างไร

หรือมีความเห็นยังไง คิดว่าเป็นไปได้ที่คำขอนั้นจะบังเกิดผลหรือไม่

ช่วยแชร์พี่ด้วยจ้า

jw

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมานะ ตอบพี่แจ๋วแหววครับ

ในความคิดของผมการขอนิดส์นึง สามารถใช้ได้กับสถานการณ์ที่เราต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงความคิด

เปลี่ยนแปลงความเชื่อ เปลี่ยนแปลงระบบอะไรอย่างนี้ครับ เพราะการขอนิดนึงนั้นเปรียบเสมือนเราค่อยๆไปปรับ

ทัศนคติของเขาใหม่ ซึ่งถ้าระบบหรือสิ่งที่เราขอนั้นมันเป็นประโยชน์และใช้กับธุรกิจนั้นและเวิร์ค

โอกาสที่จะสำเร็จ และเกิดการเปลี่ยนแปลงก็จะสูงตามไปด้วยครับ

คราวนี้มาที่คำถามครับ ใช้ได้ครับ สำหรับร้านทองการที่จะตกแต่งเป็น style ธรรมชาตินั้น ผมว่าถ้าอยากจะทำก็ทำได้ครับ

อาจจะเริ่มจากจุดเล็กๆที่หน้า counter มาเป็นแจกกันดอกไม้ หรือต้นไม้กระถางเล็กๆ

บริเวณหน้าร้านก็หาต้นไม้มาวางให้ดูมีสีสันูเป็นธรรมชาติมากขึ้นอะไรแบบนี้ครับ

แล้วถ้าทำแล้วมันเวิร์ค ก็ค่อยๆขยายมาที่ป้ายร้าน เริ่มมีเถาวัลมีอะไรก็ว่ากันไป ให้มันเป็นบรรยากาศธรรมชาติๆตามที่ต้องการ

แต่ในความคิดผมนะครับ สำหรับธุรกิจร้านทอง การแต่งแบบแนวธรรมชาติอาจจะไม่เวิร์คครับ เพราะร้านทองนั้นการที่

ผู้บริโภคเลือกและตัดสินใจที่จะเข้านั้นหลักๆผมว่ามันอยู่ที่ความน่าเชื่อถือ และความโปรงใสของทางร้านมากกว่าบรรยายกาศครับ

อย่างผมเองถ้าจะเลือกร้านทองที่จะเข้าไปดูส่วนมากก็จะดูวิธีการขายครับ หลายๆร้านใช้วิธีอธิบายแบบโปรงใส

ให้เห็นกันไปเลยว่าปกติทองเนี่ยเค้าคิดราคากันยังไง บอกวิธีชั่งบอกไปเลยว่าของเราอยู่เกรดไหนและแนะนำสิ่งดีๆไป

ลูกค้าจะเกิดความเชื่อมั่น เชื่อใจ ประมาณว่าเอ่อร้านนี้ดีนะ อธิบายให้เรารู้ละเอียดดี อันนี้น่าจะเวิร์คกว่าครับ

ซึ่งพนักงานขายก็มีส่วนสำคัญครับ หาคนหน้าตาที่น่าเชื่อถือ และมีการพูดจาที่เป็นกันเองได้ ยิ้มเก่ง ผมว่ามีชัยไปกว่าครี่งครับ

ส่วนถ้าจะตกแต่งร้านผมแนะนำให้ทำเป็นสวนหย่อมสักมุมหนึ่ง มีที่นั่งให้พักผ่อน ให้ได้ใช้เวลานั่งคิดตัดสินใจ แบบธรรมชาติ

อาจจะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อมากขึ้นก็ได้ ( อันนี้ต้องลองถามลูกค้าดูครับ ว่าถ้ามีแบบนี้มันจะช่วยในการตัดสินใจซื้อหรือไม่ )

แต่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าร้านทองน่าจะดูจากภายนอกแล้ว รู้สึกว่าโปรงใส น่าเชื่อถือครับ ไม่ใช่เป็นป่าถึบๆมันดูไม่เหมาะ

กับธรรมชาติของธุรกิจ ที่ต้องการรักษาความปลอดภัยที่สูงด้วยครับ.... ไม่ทราบว่าตอบตรงคำถามหรือเปล่า ^^

ผมติดตามอ่านผลงานของคุณไพรัชช์มาตลอดนะครับ แต่นี่เป็น Ment อย่างเป็นทางการครั้งแรก

การขอแบบ ขอนิดส์นึง ของคุณไพรัชช์ นี่น่าสนใจมากครับผมจะลองนำไปใช้ดูครับ

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ ที่เอามาแบ่งปันกันครับ

จะติคตามผลงานต่อไปนะครับ

ขอนิดส์นึง ขึงนิดนอ ขอไปเถิด

อย่าเตลิด ให้พอเพียง เพียงที่ขอ

ขอมากไป เขาไม่ให้ อย่าแงงอ

ขอนิด...ส์นึง ควรรู้ขอ เพื่อกาลไกล

 

by ALMON : Mr. จับถูก

นิดส์นึง คำง่ายๆๆ แต่ได้ผลค่ะ

เปนคนชอบทานอาการนอกบ้านเหมือนกันค่ะ โดนเฉพาะร้านที่มีต้นไม้เยอะ น้ำตกจำลองยิ่งชอบ

ได้บรรยากาศ ทั้ง รูป รส กลิ่น เสียง ขอบคุณสำหรับสาระดีๆค่ะ

ขอนิดเดียว คำสั้นๆแต่มักจะได้ผล ก็ต้องใช้ให้ถูกคนถูกที่ถูกเวลา ด้วยอ่ะน่ะไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ก็ต้องใช้ได้ถูกกาลเทศะ ^^

ขอบคุณพี่ม่อนสำหรับกลอนครับ... ผมว่ามันตรงกับ ขอนิดส์นึง เอามากๆ

ถ้าเจอเคสขอนิดส์นึงที่น่าสนใจอีก ขอยืมไปใช้หน่อยนะครับ ^^

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านนะครับ

พบกับประสบการณ์ขอในหลายๆแบบที่ "ขอแล้วเวิร์ดได้" ที่นี้ทุกวันครับ

แวะมาทักทายค่ะ

เห็นด้วยค่ะ ส่วนตัวก็ชอบร้านอาหารบรรยากาศดี ๆ เช่นริมแน่น้ำ หรือ ในสวนที่มีต้นไม้เยอะ ๆ ไม่ชอบห้องแอร์ค่ะ

คนน่ะ โหยหาธรรมชาติ เพราะอยู่กับคอนกรีตทั้งวันมาแล้วนี่คะ

(^___^)

ขอบคุณมากๆ สำหรับคำตอบที่ละเอียดจ้า

jw

วันนี้ นำเทคนิคการขอนิดนึงไปใช้ แล้วก็ได้ผลด้วยค่ะ

เกือบโดนคุณตำรวจจับเพราะไม่ใส่หมวกกันน๊อค

แต่ก้ใช้เทคนิคขอนิดนึง (ขอเวลาใส่หมวกต่อหน้าคุณตำรวจ) จนรอดมาได้คร่ะ

***แฮ่ะๆๆ นี่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ห้ามลอกเลียนแบบนะคระ ^^"

ร้านอยู่ที่ไหนคะ

น่าไปจังเลย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท