เรื่องเล็ก...ที่เป็นเรื่องใหญ่


วันนี้ยังคงมีอาการเจ็บปวดนิ้วก้อยข้างซ้ายอยู่ แต่ดีกว่าเมื่อวานมากแล้วที่ทั้งวันรู้สึกร้อนๆหนาวๆปวดตุบๆที่นิ้ว ระบมไปทั้งแถบ ซึ่งเป็นผลมาจากแผลเล็กนิดเดียวที่สกปรกและถูกปิดทับห่อหุ้มไว้อย่างดีถึง 2 วัน เปิดออกมานี่แทบน้ำตาร่วงเพราะแตะโดนพลาสเตอร์ก็ปวดแสนสาหัสเลย เป็นก้อนหนองสีเหลืองบวมปูด กว่าจะเจาะแตกให้อาการเบาบางก็ทรมานใช้ได้เลย

ได้บทเรียนคราวนี้ เพราะเมื่อมีแผลที่รู้สึกว่าโดนบาด (จากซี่ฟันของพลาสติดแร็พ) แต่มองหาไม่เห็นเป็นแผล ก็เลยไม่ได้สนใจจะไปล้างน้ำให้สะอาด ทำสิ่งที่ทำต่อไปจนเสร็จ พอไปล้างมือก็เพียงรู้สึกแสบๆ ก็ล้างปกติไม่ได้ใส่ใจดูเสียอีกเพราะคิดว่าแผลเล็กน้อย เจ็บนิดหน่อยเดี๋ยวคงหายไปเอง ลืมแม้กระทั่งจะหยดเบตาดีนตามปกติที่เคยทำ พอต้องออกไปทำธุระก็ไปทันที บ่นเล็กน้อยว่าเจ็บนิ้ว คุณสามีเลยหวังดีเอาพลาสเตอร์แบบกันน้ำมาปิดให้เสียอย่างดี ไหนๆพลาสเตอร์ดีแล้วกันน้ำด้วยก็เลยยิ่งไม่แกะเลย ทั้งๆที่รู้สึกเจ็บๆตลอดเวลา จนกระทั่งผ่านไป 2 วันรู้สึกมีอาการไข้ขึ้นเล็กน้อยและเห็นว่านิ้วที่ติดพลาสเตอร์นอกจากจะปวดมากขึ้นแล้วยังดูอ้วนผิดปกติอีกด้วย

ได้ข้อคิดว่า นี่แหละหนาปัญหาเล็กนิดเดียวเกือบเป็นปัญหาใหญ่ถึงไข้ขึ้นได้ก็เพราะไม่ได้ดูแลแก้ปัญหาเสียตั้งแต่ต้น เทียบเคียงได้กับอีกสารพัดเรื่องในชีวิตคนเรานะคะ อะไรที่เป็นปัญหา อย่ามองข้ามเลยไป แก้ไขดูแลกันเสียแต่เนิ่นๆ อย่าข้ามขั้นตอน ทำอะไรให้ถูกแบบแผนก็จะช่วยตัดปัญหาที่จะเกิดได้ด้วย เก็บมาฝากในวันนี้ที่รู้สึกคนละเรื่องกับเมื่อวานอย่างสิ้นเชิงเลยค่ะ รู้เลยว่าป่วยกายนี่ทำให้เราพลอยเสียหัวไปด้วยในหลายๆเรื่องทีเดียว

หมายเลขบันทึก: 325217เขียนเมื่อ 5 มกราคม 2010 17:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 11:48 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆค่ะ

สบายดีไหมค่ะ

  • จุดเล็ก ๆ ที่เราไม่ใส่ใจ
    บางครั้งทำให้เราต้องเสียใจจนคาดไม่ถึงก็มีค่ะ
  • ขอบพระคุณข้อคิดดี ๆ ค่ะ

สวัสดีค่ะพี่โอ๋... เรื่องเล็กๆ ขาดอะไรไปบางอย่าง...น๊า...จึงกลายเป็นเรื่องใหญ่ เลย ค่ะ

คิดถึงพี่เสมอค่ะ

สวัสดีคะอาจารย์โอ๋

ขอให้หายเร็ว ๆ นะคะ

นี่เป็นบทเรียน ใส่ใจเรื่องเล็กน้อยแล้วจะไม่ทำให้เป็นเรื่องใหญ่

  • สวัสดีปีใหม่ค่ะ อ.โอ๋
  • ติดเชื้อเข้าไปแล้วสิคะนั่น
  • รักษาสุขภาพค่ะ

ท่านพุทธทาสเคยกล่าวว่า ความเจ็บไข้มาตักเตือนให้ฉลาด ครับ

บางท่านบอกว่าลองแยกกายและจิตออกจากกัน กายเดือดร้อนแต่ใจไม่เดือดร้อน ซึ่งระดับปุถุชนเราจะไม่เดือดร้อนใจได้ ก้เมื่อกายไม่เดือดร้อนมาก แต่หากกายเดือดร้อนมาก ใจจะเดือดร้อนไปด้วย ถ้าเรายังเก่งไม่พอครับ

หลักศัลยกรรมมักจะให้เอาเชื้อโรคและเนื้อตายออกจะหายเร็วนะครับ

ผมเคยผ่าฝีเด็กคนหนึ่ง ด้วยความเป็นหมอเด็ก แผลจึงไม่ใหญ่ พอดีมีเพื่อนหมอศัลยกรรมโผล่มา เขากรีดแคว่กเลย หนองออกหมดเกลี้ยง

ไม่ได้เล่าขู่ขวัญนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท