กำไรจากการทำนาแบบไม่ไถ ไม่ดำ ไม่หว่าน


กำไรสูงสุดจากการทำนาที่ผมได้รับคือ สุขภาพของผมและสมาชิกในครอบครัวของผมเอง

หลังจากที่ผมทำนาเองเกือบ ๒๐ ไร่ แบบประหยัดพลังงาน ลงทุนน้อย แบบทำด้วยตนเอง มากว่า ๔ ปี ผมมักได้รับคำถามจากผู้มาเยี่ยมส่วนใหญ่ก็คือ

  1. ได้ผลผลิตเท่าไหร่
  2. ได้กำไรเท่าไหร่

ที่ผมก็ตอบตรงๆว่า ผลผลิตในนาผมได้ไม่มาก

  • ถ้าคิดเฉพาะที่นาก็ได้เพียง ๖๐๐ ถึง ๘๐๐ กก./ไร่
  • ถ้าคิดเฉพาะจุดที่พัฒนาปรุงดินได้สมบูรณ์แล้วก็ได้ประมาณ ๘๐๐ กก. ถึง ๑๐๐๐ กก./ไร่
  • ถ้านำพื้นที่คันนามาเฉลี่ยอีก ผลผลิตก็จะได้เพียงไม่เกิน ๔๐๐ กก./ไร่

ทำให้ผมไม่ค่อยอยากคุยเรื่องผลผลิตมากนัก เพราะผมไม่ค่อยสนใจด้านผลผลิต

แต่สนใจ “กำไร” มากกว่า

จากการทำนาแบบลงทุนน้อยที่สุด เท่าที่จะทำได้ (ที่เหลือแต่การเก็บเกี่ยวที่ยังต้องจ้างอยู่ในปัจจุบัน) โดยเน้นการพึ่งตนเองเป็นหลัก ต้องทำงานทุกอย่างแบบวางแผนพึ่งตนเองมากที่สุดเท่าที่คิดออก ตั้งแต่

  • ไม่ไถ เพื่อลดการพึ่งรถไถ น้ำมัน และการจ้าง
  • ไม่ดำ เพื่อลดค่าจ้างดำ
  • ไม่หว่าน (หรือหว่านเสริมนิดหน่อย) เพื่อประหยัดเมล็ด และแรงงาน
  • ทำคันดินดักน้ำฝนให้เข้านาเอง แบบไม่รอน้ำชลประทาน
  • เลี้ยงปลากินหอยเชอรี่  เพื่อลดการใช้แรงงานเก็บ และหลีกเลี่ยงการใช้สารพิษในน้ำ
  • ปล่อยให้มีนก แมลง และสัตว์ธรรมชาติควบคุมกันเอง เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้สารพิษอีกหลายชนิด
  • ทำร่องน้ำรอบนากั้นไม่ให้หญ้าลงนา ทำให้ต้นไม้ไม่แข่งกับการเจริญของข้าว เป็นที่ให้ปลาอยู่ เป็นแหล่งน้ำรดต้นไม้ และลดความจำเป็นในการซื้อดินมาทำทางเดินและขนของในนา
  • ปลูกต้นไม้บนคันนาเพื่อเป็นผัก ผลไม้ ใบร่วงเป็นแหล่งปุ๋ย กิ่งไว้ลดปัญหาขโมยปลา และช่วยลดปัญหาหญ้าบนคันนาที่จะลงมาเป็นปัญหาในนา
  • เลี้ยงปลาเป็นอาหารสำรองของครอบครัว และของพื้นที่ เพื่อลดความจำเป็นในการซื้ออาหารโปรตีนจากตลาด และการซื้ออาหารสุนัขที่บ้าน
  • ฯลฯ

การมีนาที่ทำเอง สามารถใช้เป็นที่ดูงาน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ สอนได้ทุกวิชา เป็นสถานที่ทำปัญหาพิเศษ โครงงานนักศึกษาทุกสาขา วิทยานิพนธ์ งานวิจัยทุกระดับ จนกระทั่งการกำหนดนโยบายจัดการทรัพยากรระดับแปลง ระดับพื้นที่ และการเกษตรระดับชาติ

ที่เหนืออื่นใด นอกจากครอบครัวผมจะได้แหล่งอาหารที่มีคุณภาพสูง สะอาด ปลอดภัยแล้ว ยังได้ใช้นาเป็นที่พักผ่อน ออกกำลังกาย แบบบูรณาการ และครบส่วนพร้อมๆกัน

ทั้งร่างกาย สมอง และจิตใจไปพร้อมๆกัน

ที่หาได้ยากจากการใช้ชีวิต ทำงาน ออกกำลังกาย พัฒนาความรู้ พัฒนาจิตและ จัดการความรู้แบบแยกส่วนที่คนทั่วไปคิดหรือทำ

ที่ผมพบว่าทำให้คุมน้ำหนักให้เหลือ ๖๙ กก. (จาก ๗๘ กก.) เท่าๆกับตอนจบปริญญาเอกใหม่ๆ เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว

จากการออกกำลังแบบ “ครบส่วน” และ “บูรณาการ” ได้ครบถ้วนจริงๆ

ผลการตรวจเลือด และสุขภาพเชิงประจักษ์ ผมคิดว่า

ผมแข็งแรงกว่าเมื่อสิบปีที่แล้ว

นอกจากจะไม่เคยเจ็บป่วยแล้ว เมื่อฤดูเก็บเกี่ยวที่ผ่านมา ผมสามารถแบกข้าวหนัก ๕๐ กก. ไม่ต่ำกว่า ๒๐ กระสอบ ขึ้นเก็บบนศาลาสูงสองเมตร ที่บ้านได้แบบไม่มีอาการปวดเมื่อยแต่อย่างใด

แม้จะทำงานหนักก็นอนหลับสบาย ไม่ปวดเมื่อย

ดังนั้น กำไรสูงสุดจากการทำนาที่ผมได้รับคือ สุขภาพของผมเอง

เวลามีคนถามว่าได้กำไรเท่าไหร่

ผมจึงตอบไม่ได้ (อีกแล้ว)

เพราะผมไม่ทราบว่าสุขภาพที่เป็นอยู่ของผมมีมูลค่าสักเท่าไหร่ ทั้งต่อวัน ต่อเดือน ต่อปี ฯ

ใครทราบช่วยแจงให้ฟังหน่อย ผมจะได้ตอบคำถามผู้มาเยือนได้

ขอขอบพระคุณล่วงหน้าครับ

หมายเลขบันทึก: 320855เขียนเมื่อ 17 ธันวาคม 2009 01:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 02:23 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (20)

สวัสดีครับอาจารย์

มาส่งข่าวครับ ข้าวที่ปลูกไว้ตอนนี้แข่งกันออกรวงแล้วครับ

น่าสนใจมาก ๆ ครับ จาก ๗๘ กก. เหลือ ๖๙ ก.ก. (อยากทำมั่ง ฮิ ฮิ...)

 

น่าสนใจมากครับ แล้วน้ำที่นาอาจารย์แสวงดีไหมครับ มีชลประธานไหมครับ

ถ้านับระบบชลประทานแล้ว ผมน่าจะอยู่ปลายคลอง

น้ำมาช้า และไม่มาก

ผมจึงไม่สน ไม่คอยน้ำชลประทาน

เน้นใช้น้ำฝนเป็นหลัก ชลประทานเสริม (แล้วแต่จะมาไม่มา)

เพราะ ผมต้องการพัฒนาการพึ่งตนเองแบบระบบ "น้ำฝน" ครับ

ตอนนี้ไม่มีน้ำในนาเลย มีแต่ในบ่อพอเป็นที่พักปลา แต่ลูกข้าวก็กำลังจะออกรวงเสริมกับข้าวร่วง คาดว่าปีหน้าไม่หว่านก็ได้ (ถ้าไม่เปลี่ยนพันธุ์ข้าว)

ก็ทำไปเรียนไป

ผมไม่ทราบมาก่อนหรอกครับ

ทำแบบที่ฝรั่งว่า Take as it comes ประมาณนั้นครับ

ทั้งการเรียน และผลผลิตครับ

น่าสนใจดีนะคะอาจารย์

ดิฉันเคยดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจคนหนึ่ง มานอนโรงพยาบาลแค่ 2 วัน ค่ารักษา 2แสนกว่าค่ะ

ที่สำคัญ หลังจากนั้นจะมีชีวิตอยู่ได้นานแค่ไหน?

การทำงานที่ออกแรงจนเหงื่อออก ทำให้ร่างกายแข็งแรง ช่วยลดโรคภัยค่ะ

ถ้าทุกคนคิดได้และทำได้ อย่างอาจารย์ พวกดิฉันอาจจะตกงาน ค่ะ

"อโรคยา ปรมาลาภา" ค่ะ

  • อาจารย์ครับคนยุคใหม่ออกกำลังกาย
  • ผมเห็นพ่อแม่ปู่ย่าตายายไม่เห็นต้องออกกำลัง เห็นแต่ท่านทำงาน
  • ร่างกายก็แข็งแรงดี ไม่อ้วนไม่ลงพุง
  • ผมเห็นด้วยกับอาจารย์ครับออกกำลังกายแบบบูรณาการ

สวัสดีครับ อ.แสวง ผมอยากทำเป็นหัวข้อดุษฎีนิพนธ์ครับ (สาขาสิ่งแวดล้อมษศึกษา) กะจะลงเรียนเทอม1/53( มิ.ย. 2553)ครับ

อยากขอคำแนะนำจากอาจารย์ ครับ ว่าจะทำในแนวไหน ออกมาในรูปแบบใด เพื่อ หาข้อมูล และเตรียมเก็บไว้เป็นข้อมูลเขียนบทนำ (ผมทำวิทยานิพนธ์ เรื่อง การอนุรัก๋สิ่งแวดล้อม เพื่อสนับสนุนการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการเลี้ยงโคพื้นเมือง อ.นาแห้ว จ.เลย )

สิ่งที่ผมสนใจก็คือปรัชญาเกษตรธรรมชาติ การหวนกลับสู่วิถีแห่งธรรม ไม่ทำลายธรรมชาติ พึ่งตนเอง สามารถเลี้ยงตัวเองได้ในพื้นดินเดิมๆโดยไม่บุกรุกเพิ่ม

ปัญหาที่เจอในพื้นที่คือเกษตรกรใช้ระบบทุนนิยมมากขึ้น หันไปพึ่งวัตถุภายนอก สารเคมี ชอบสบาย เป็นหนี้สิน ฯลฯ

ขอบคุณครับ

[email protected]

อยากทำเป็นแปลงทดลองปัญหาพิเศษ แต่พื้นที่นาที่อ.นาแห้ว มีน้อย (เพราะภูเขา เยอะ) และกระจายอยู่หลายที่ (2-3 แห่ง)ที่ๆละ ประมาณ 1-2 ไร่ครับ แต่ละที่ห่างกันประมาณ 15 กม.พอจะเป็นไปได้ไหมครับ

อาจารย์เป็นผุ้ที่รู้จริง ทำจริง เห็นกับตาจริงๆ และสอนให้คนรู้จริง นับถือครับ อ่านความเคลื่อนไหวของอาจารย์มาเป็นปี เคยเจออาจารย์ครั้งหนึ่งที่ ม.นเรศวร อาจารย์ให้หินดาวตก ผมยังเก็บไว้ ทราบว่าอาจารย์แข็งแรง ก็ดีใจ และจะดีใจที่สุด คือ อาจารย์มีลูกศิษย์ที่ภูมิปัญญาแข็งแรง

ขอบคุณครับอาจารย์

ขอบคุณครับ ทุกท่านที่มาให้กำลังใจ

ด้านการวิจัยนั้นต้องทำด้วยตัวเองครับ แล้วจะรู้ว่าอะไรเป็นแกนสำคัญ แล้วควรจะเริ่มอย่างไร พัฒนาอย่างไร

อยาได้แนวทางก็อ่านที่ผมเขียนไว้แล้ว โดยอาศัย "เริ่มจากสิ่งที่ตัวเองมี"

และ อย่าเริ่มจากสิ่งที่ตัวเองไม่มีเป็นอันขาด จะทำให้ท้อ และเรียนรู้น้อย

ผมได้ข้อสรุปมาว่า คนที่ล้มเหลวเพราะเริ่มจากสิ่งที่ตัวเองไม่มีครับ

น่าสงสาร บอกก็ไม่ฟัง ไม่ทราบจะช่วยอย่างไร คงต้องอุเบกขาครับ

ขอบพระคุณครับ

ผมติดตามผลงานอาจารย์มาพอสมควรแล้วครับ แต่ยังไม่ลึกซึ้งเท่าไหร่ ยังไงจะทบทวน ตรึกตรองอีกหลายๆหน ขอบคุณครับ

น่าสนใจดีครับ กะว่าเกษียณแล้วจะไปทำมั่ง

สารานุกรม

ถ้ารอให้เกษียณ ร่างกายจะกรอบซะก่อน พัฒนาไม่ขึ้น

ต้องเตรียมการตั้งแต่เนิ่นๆ อย่าประมาทครับ เพราะเมื่ออายุใกล้เกษียณนั้น เอ็นกล้ามเนื้อและกระดูกจะติดยึด ยืดไม่ออก ขืนยืดไปก็พัง

ผมจึงขอแนะนำว่า "ทำวันนี้" เลยครับ ไม่ต้องรอ ช้าไป 1 นาทีก็สายไปแล้ว

ขอให้โชคดีครับ

สวัสดีค่ะท่าน ดร.แสวง รวยสูงเนิน

วันนี้(10 มกราคม 53) ได้ไปฟังอาจารย์บรรยายเกี่ยวกับการทำผลงานวิชาการก็เข้าใจมากขึ้น ขอขอบคุณอาจารย์มากที่ได้ให้ความร้ และสนใจการทำนาแบบธรรมชาติควบคุมกันเองอ่านแล้วประทับใจมากผลผลิตไม่เท่าไหร่แต่กำไรด้านสุขภาพประมาณค่าไม่ได้ จะลองออกกำลังกายโดยการทำงานเหมือนอาจารย์ลองดูค่ะ

(สพท.กาฬสินธุ์ เขต 2 )

ได้ติดตามบทความของอาจารย์มาซักพักแล้ว รู้สึกเลื่อมใสมากครับ ตอนนี้ทำงาน IT มา 10 ปีแล้ว มีที่นาทั้งของพ่่อแม่ทั้งของตัวเองซื้อรวม 27 ไร่ได้ กำลังเริ่งศึกษาหาความรู้ด้านการเกษตรอยู่เพราะเริ่มเบื่อชีวิตในกรุงเทพแล้ว ได้อ่านบทความของอาจารย์แล้วรู้สึกมีความหวังมาก ๆ ครับ ขอเป็นกำลังใจให้อาจารย์อีกคนครับ

ขอขอบคุณกับกำลังใจที่ให้ครับ

ที่ดินของผม มีหน้าดินลึกราวหนึ่งศอก ล่างจากนั้นเป็นดินเหนียวปนกรวด เป็นดาน

ปลูกพืชยืนต้นไม่ค่อยจะได้ แต่น้ำน่าจะขังได้ดี

แก้ไขอย่างไรดี จะได้ปลูกต้นไม้เจริญงอกงาม

ผมรอคำตอบครับ

ใช้สว่านเจาะระเบิดดานก้นหลุม ใส่แกลบเผาอัดลงไป แล้วต่อไปจะดีเอง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท