ครูไม่อิ่ม...


คิดที่จะเป็นครูต้องรู้จักความอิ่มที่เที่ยงแท้ ความอิ่มในลาภ ยศ สรรเสริญนั้นเป็นความอิ่มที่ "จอมปลอม"

เป็นครูแล้วไม่อิ่ม ไม่อิ่มในลาภ ไม่อิ่มในยศ ไม่อิ่มในคำสรรเสริญ
ครูที่ไม่ดีก็เลยต่างพากันวิ่งหาลาภด้วยการทำผลงานทางวิชาการ
เมื่อได้เลื่อนตำแหน่งยศฐา บรรดาศักดิ์ก็เพิ่มขึ้น
เมื่อมีเงินเดือน เงินประจำตำแหน่งเพิ่มมากขึ้น ก็สามารถซื้อบ้าน ซื้อรถ มีทอง มีหยอง คนไม่ดีข้าง ๆ บ้านเขาก็จะ "สรรเสริญ..." แต่คนดี ๆ เขาไม่สรรเสริญหรอกนะ เขาจะ "ด่า" เอาด้วยซ้ำ...

คนที่ดีเขาจะสรรเสริญครูที่ดี ครูที่ตั้งใจดี ครูที่เสียสละ

ความอิ่มในลาภ ยศ สรรเสริญนั้นไม่มีวันพอ
เปรียบเสมือนเรากินข้าวให้อิ่มแป้ในวันนี้ มะรืนนี้มันก็ "ขี้" ออกมา

การอิ่มในลาภ ยศ สรรเสริญ เป็นการอิ่มกาย
แต่การอิ่มในการเป็นครูดี ครูที่ตั้งใจให้การศึกษาแก่ศิษย์นั้นเป็น "ความอิ่มใจ"

ครูดีเขาอิ่มใจ ครูแย่ ๆ นั้นจะเน้นแน่ "อิ่มกาย..."
ครูดีเขาใส่ใจความรู้ของศิษย์ ครูแย่ ๆ จะสนใจแต่ปากท้องของตนเอง...

คิดที่จะเป็นครูต้องรู้จักความอิ่มที่เที่ยงแท้
ความอิ่มในลาภ ยศ สรรเสริญนั้นเป็นความอิ่มที่ "จอมปลอม"

อาหารเวลากินเข้าไปมันก็ดี แต่เวลา "ขี้" ออกมามันก็แสนเหม็น
ลาภ ยศ สรรเสริญก็เป็นอย่างนั้น
เพราะโลกธรรมนั้นว่าด้วยเป็นของคู่ คือ
มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ มีสรรเสริญก็ต้องมี "นินทา"

ครูที่โชว์ตนเอง นำเสนอตนเองในสังคมด้วยลาภ ยศ สรรเสริญนั้น ต่อหน้าเขาก็ชม ลับหลังเขาก็ "นินทา..."
ครูที่โชว์ตนเองเช่นนี้ ตอนนี้ชีวิตอยู่ มีเงินให้บริวาร เขาก็ชม ชมเพื่อปลอกลอก แต่เมื่อตายไปเขาก็ "สาปส่ง" นรกก็เปิดประตูต้อนรับ...

ครูดี ครูที่จะทำความดีเพื่อศิษย์ต้องรู้จักความอิ่มที่แท้จริงนะ
ความอิ่มที่แท้จริงนี้จะเกิดขึ้นจากการทุ่มเทสติปัญญา พละกำลังในการมอบความรู้แก่ศิษย์
ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ ทุ่มเท "แจวเรือจ้าง" นี้ส่งศิษย์ให้ถึงฝังฝัน

ครูที่ดีต้องรู้จักสร้างภาพฝันที่ดี...
ภาพฝันที่ดีแก่ศิษย์นั้นคือ ภาพฝันที่อยู่ในศีลในธรรม
ภาพฝันที่ทำให้ศิษย์รู้จักรู้ค่า รู้คุณ รู้จักความกตัญญู กตเวที รู้จักการทำอาชีพที่ดี และเสียสละในวิชาชีพที่ตนได้ประกอบ...

ครูที่ดีต้องทำตัวให้เป็นตัวอย่าง...
คำพูดใดเล่าจะเท่ากับการประพฤติตัวเป็นแบบ เป็นอย่าง
ครูดีต้องเสียสละทำดีให้เด็กดี
ครูที่ดีต้อง "อิ่ม" ให้เด็กดู
ถ้าครูไม่อิ่ม เด็กก็เสพความกระหาย ความอยาก ความเร่าร้อนจากครูนั้น

เราจะเลือกเป็นต้นแบบหรือแม่พิมพ์แบบหิวกระหาย
หรือจะเลือกเป็นต้นแบบหรือแม่พิมพ์ที่อิ่มใจ อิ่มความดี

ความอิ่มที่แท้จริงนั้นเกิดขึ้นได้จาก "การให้" การให้ที่ดี การให้ความรู้ที่ดีแก่ศิษย์
และการให้ที่จริงนี้ย่อมทำให้จิตใจอิ่มด้วยความ "สงบ..."


ที่มาจากบันทึก  อยากรวย อยากสวย อย่าเป็น "ครู..."


หมายเลขบันทึก: 307904เขียนเมื่อ 23 ตุลาคม 2009 06:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ขออนุญาตเก็บข้อความค่ะ

ความอิ่มที่แท้จริงนั้นเกิดขึ้นได้จาก "การให้" การให้ที่ดี การให้ความรู้ที่ดีแก่ศิษย์ และการให้ที่จริงนี้ย่อมทำให้จิตใจอิ่มด้วยความ "สงบ..."

ขอบคุณค่ะหนูขอยึดหลักของความอิ่ม..และพอใจมากที่ได้สอนเด็กให้มีประสบการณ์ค่ะ และจะสอนให้รู้จักการให้..แม้จะใช้เวลาบางนะคะ

เรียน คุณสุญญตา

"ครูที่ไม่ดีก็เลยต่างพากันวิ่งหาลาภด้วยการทำผลงานทางวิชาการ

เมื่อได้เลื่อนตำแหน่งยศฐา บรรดาศักดิ์ก็เพิ่มขึ้น"

สมัยนี้ครูสอนอย่างเดียวไม่ได้น่ะค่ะ การทำผลงานทางวิชาการนั้นส่วนหนึ่งเป็นแรงกดดันจากเบื้องบน คนที่ไม่ทำก็จะมองว่าเป็นคนไม่ดี ทั้งที่การเอาใจใส่ดูแลนักเรียนก็ทำเต็มที่ แต่นับเอาเป็นผลงานไม่ได้ ครูคนไหนไม่ทำกลายเป็นไม่ดีไม่มีคุณภาพไปซะงั้นค่ะ

ด้วยความนับถือ

สวัสดีครับ

     จริงๆ ก็ทุกอาชีพนะครับ เป็นคนต้องรู้จักอิ่ม ต้นไม้ยังรู้จักอิ่ม เพราะจะกินอีกก็ไม่ได้มันให้กินแค่นั้นก็กินได้แค่ที่จะกินได้ แต่ความพอดีอยู่ตรงไหน จะเป็นอะไรก็ทำตามหน้าที่ที่มี ที่ไม่ไปทำให้สังคมมีปัญหาครับ ไม่มีใครในโลกนี้ที่จะทำอะไรคนเดียวได้ดีหมดและอิ่มได้หมด เพราะบางคนอยากจะอิ่มแต่ก็ไม่มีให้กิน เพราะอาหารมันไม่ได้กระจายตัวอยู่รอบๆ ทุกคน บางคนต้องดิ้นรนหางาน ทำงานเพื่ออาหารให้ได้อิ่มกาย อิ่มใจ อิ่มปัญญา แต่บางกลุ่มคนไม่ต้องดิ้นรนอะไรมีอยู่บนกองอิ่มครับ ดังนั้นคนที่มีอิ่มก็ควรจะให้คนอื่นได้อิ่มบ้าง คนไหนอิ่มมากก็บริจาคมาก คนไหนอิ่มน้อยก็ต้องขยันมากๆ หมั่นเพียรศึกษาเยอะๆ รู้ว่าวันหนึ่งมีโอกาสอิ่มก็แจกจ่ายคนอื่นต่อไปครับ

     เป็นอาชีพนั้นเพื่ออาชีพนั้น เป็นครูเพื่อความหมายของคำว่าครู เป็นศิษย์เพื่อเป็นความหมายของศิษย์ เป็นคนเพื่อคุณค่าแห่งความเป็นคน เป็นอะไรก็เป็นแต่เป็นให้ดีสมตามที่เป็น บริบทในชีวิตจริงมันมากกว่าทฤษฏีเยอะครับ สิ่งที่ต้องทำบางทีทำกันก็เพราะหลายๆ ปัจจัย การศึกษาไทยไม่ได้จริงใจกับการศึกษาที่จะพัฒนาที่แท้จริง มันเลยออกมาง่อยๆ แบบนี้ละครับ ผมว่าผมก็พอจะเข้าใจครูหลายๆ คนที่ต้องทำแบบที่ท่านว่าครับ ทุกคนก็พยายามจะปรับเพื่อหาจุดสมดุลกันทั้งนั้น แม้แต่โลกนี้ก็ต้องการความสมดุล โลกเสียสมดุลเมื่อไหร่ อาชีพความเป็นคนก็จบลงเมื่อนั้นครับ

ด้วยมิตรภาพครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท