ขับรถต้องมองกระจก


เวลาจะแซงเราก็ต้องชะโงกมองกระจกหน้าให้รู้ว่าสถานการณ์ข้างหน้าหากแซงแล้วเอาตัวรอดได้ไหม และก็ต้องชำเลืองกระจกข้างให้รู้ว่าแซงนั้นไม่เบียดกับใคร

      ...ขับรถต้องมองกระจก จริงหรือ?...เกี่ยวอะไรกับงานวิจัยนะ...

  • วิจัยคือการลงทุน ไม่อาจอยู่เดี่ยว ๆ ลอย ๆ ได้
  • ขับรถต้องมองกระจกหลัง กระจกข้าง กระจกหน้า
  • หาโจทย์วิทยานิพนธ์ต้องรู้ว่า

-รถมีจุดหมายปลายทางที่ไหน
-เส้นทางเป็นอย่างไร
-กำหนดถึงเมื่อไหร่
-ก่อนออกรถต้องมองกระจกหลังและกระจกข้าง
-เมื่อรถเคลื่อนมองกระจกหน้าให้มากไว้

     ...วิจัยก็เหมือนการขับรถต้องมองกระจก วิจัยอยู่เดี่ยว ๆ ลอย ๆ ไม่ได้ เช่นเดียวกับการขับรถ อย่าคิดว่าเราเป็นเจ้าถนนคนเดียว ขับรถต้องมองกระจกหลัง กระจกข้าง กระจกหน้า เพราะฉะนั้น การหาโจทย์วิจัยต้องรู้ว่ารถที่เราขับมีจุดหมายปลายทางที่ใด ก่อนจะออกรถต้องมองกระจกหลังและกระจกข้าง ที่พูดอย่างนี้ก็มีนัยว่าก่อนจะทำอะไรให้มองให้รอบว่าใครเขาทำอะไรไว้บ้างแล้ว ข้างหลังคือ อดีต ประวัติศาสตร์ ใครทำอะไร อย่างไร อย่าไปทำซ้ำ เมื่อรถเคลื่อนคือเมื่อเริ่มทำแล้วให้มองกระจกหน้าให้มาก อย่างมัวแต่มองกระจกหลัง มันจะตกถนน แล้วเวลาจะแซงเราก็ต้องชะโงกมองกระจกหน้าให้รู้ว่าสถานการณ์ข้างหน้า หากแซงแล้วเอาตัวรอดได้ไหม และก็ต้องชำเลืองกระจกข้างให้รู้ว่าการแซงนั้นไม่เบียดกับใคร ดิฉันขอเปรียบเทียบให้เห็นการทำวิจัยแบบเดียวกับการขับรถ เพื่อให้เข้าใจสภาพจริงมากขึ้น....

หมายเลขบันทึก: 307898เขียนเมื่อ 23 ตุลาคม 2009 03:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 พฤษภาคม 2012 22:48 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ยอดเยี่ยมครับ อยากนั่งรถที่มีคุณเป็นคนขับ ปลอดภัยแน่ครับ

คิดดี นะ แต่ต้องทำได้ด้วย ครับ อยากขับรถคันนี้ให้คุณนั่ง ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท