เรียนรู้สิ่งที่(น่าจะ)ชอบ.. ให้ดีได้ด้วยตัวเราเอง


ไม่มีความสำเร็จใด.. ที่ได้มาโดยไม่เคยมีความล้มเหลว.. และปราศจากความพยายาม

เรียนด้วยตนเอง.. ก็มีความสำเร็จได้!!

หลายๆคนอาจจะคิดว่า คณิตศาสตร์ เป็นวิชาที่ยากมากๆ.. และฉันเองก็เคยเป็นหนึ่งในหลายๆคนนั้น.. ถึงแม้ว่าคณิตศาสตร์จะไม่ได้ดูยากมากมายสำหรับฉัน.. แต่ว่าฉันก็ไม่ได้ชอบวิชานี้มากมายไปกว่าวิชาอื่น จนกระทั่งตอนป.6 ฉันก็ได้ลองไปสอบแข่งขันวิชาคณิตศาสตร์ (ซึ่งในตอนนั้นไปสอบเฉยๆ เพราะเพื่อนชวน... ไม่ได้คาดหวังอะไร) พอถึงวันประกาศผล... ปรากฏว่า.. ฉันได้รางวัลชมเชย.. (เป็นที่น่าตกใจอย่างมาก) ซึ่งฉันก็ไม่เชื่อเลยด้วยซ้ำว่าจะได้รางวัล.. เพราะนี่เป็นรางวัลแรกในชีวิต (ที่เกี่ยวกับวิชาคณิตศาสตร์)  จากนั้นมา ฉันก็เริ่มรู้สึกว่า.. ฉันอาจจะมีวิชาที่ชอบ.. (เป็นพิเศษ) บ้าง ก็เลยเริ่มฝึกทำโจทย์บ้าง.. จากโจทย์ง่ายๆอย่างการบ้านที่ได้ในแต่ละวัน.. ไปจนถึงการซื้อหนังสือโจทย์มาลองทำ.. ซึ่งตอนแรกๆ.. ก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง.. แต่ก็เป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ได้ดีทีเดียว (ดีกว่าที่ฉันจะนอนเฉยๆ.. หรือคิดอะไรต่างๆนานา ไปเรื่อยเปื่อย)

                จากการฝึกฝนด้วยตนเองในครั้งนี้ทำให้ฉันสามารถสอบเข้ามัธยมต้นของโรงเรียนชื่อดังในจังหวัดอย่าง โรงเรียนอุดรพิทยานุกูลได้... ซึ่งทำให้ฉันดีใจเป็นอย่างมาก.. บางทีก็อดรู้สึกไม่ได้ว่าอาจจะเป็นเพราะวิชานี้ก็ได้.. เราจึงสามารถสอบได้ จากนั้นมาฉันก็ได้รับรางวัลจากการสอบแข่งขันทักษะทางคณิตศาสตร์อีกบ้าง (เกือบทุกรางวัลเป็นรางวัลที่ได้มาโดยไม่ได้หวังว่าจะได้มาก่อน.. เพราะตอนที่ทำข้อสอบ.. ทำไม่ได้เลย.. แต่ว่าพอออกมาดูเฉลย.. ปรากฏว่าถูก!! ^^)

จริงๆแล้วฉันก็ไม่ได้ชอบวิชาคณิตศาสตร์มากไปกว่าหลายๆวิชา.. เพียงแต่ว่า.. ฉันใส่ใจกับวิชานี้มากกว่าวิชาอื่นบ้าง.. เพราะว่าวิชานี้เป็นวิชาที่อาศัยการทำความเข้าใจ.. ถ้าเราเข้าใจในแก่นหลักๆของเนื้อหา เราก็จะสามารถทำโจทย์เกือบทุกข้อของเรื่องนี้ได้เลยทีเดียว และอีกทั้งรู้สึกว่าการทำโจทย์.. เราสามารถทำไปได้เรื่อยๆ.. เพราะเป็นการทบทวนความรู้ที่เรียนมา..โจทย์บางข้อถ้าคิดไม่ออก.. ทำไม่เป็น.. ก็ค้างไว้ก่อน.. ไปถามคนที่รู้แล้วค่อยมาทำก็ได้.. หรือไม่ก็ลองทำมั่วๆไปมั่วๆมาจากความรู้ที่เรามี.. สุดท้าย.. ถึงแม้ว่าเราอาจจะใช้เวลานาน.. วิธีคิดอาจจะซับซ้อนวุ่นวาย แต่สุดท้าย.. บางทีคำตอบก็จะโผล่มาจนได้

การทำโจทย์เยอะๆ สามารถช่วยเราได้ในสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างการทำข้อสอบในห้อง หรือแม้กระทั่งการทำข้อสอบแข่งขัน เพราะว่าการทำโจทย์มากๆ จะทำให้เราเจอความผิดเพี้ยน พลิกแพลงหลายมุมของโจทย์ ดังนั้นเมื่อเราทำข้อสอบไม่ทัน.. พอเราเห็นข้อสอบ.. เราอาจจะคุ้นๆตาว่าข้อแบบนี้เคยทำ.. บางทีอาจจะมีบางข้อที่ทำบ่อยมากๆ จนกระทั่งเห็นโจทย์แล้วจำคำตอบได้กันเลยทีเดียว.. ไม่อย่างนั้นเราก็จะรู้(โดยสัญชาติญาณจากการทำโจทย์) ว่าโจทย์ข้อนี้ต้องทำวิธีนี้ถึงจะสามารถหาคำตอบได้..

ตัวอย่างหนังสือเช่น หนังสือคณิตศาสตร์ หลัก หนังสือคณิตศาสตร์เพิ่มเติม (ม.4,ม.5) หรือข้อสอบเก่าต่างๆ เช่นของสมาคมคณิตศาสตร์ หรือของศูนย์คณิตศาสตร์ เป็นต้น

มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ฉันรู้สึกปลื้มใจมากๆ กับความพยายามของตนเอง ตอนนั้นฉันอยู่มัธยมศึกษาปีที่ 4 ตอนนั้นเพิ่งขึ้นมัธยมปลายมาหมาดๆเลย.. (เพิ่งผ่านการสอบเข้าม. 4 ในโครงการ “สคว” หรือโครงการส่งเสริมการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ หรือที่หลายๆคนรู้จักกันในชื่อง่ายๆว่า แผนวิทย์-คณิต ของโรงเรียนอุดรพิทยานุกูล (โรงเรียนเดิม) ซึ่งในการสอบครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ฉันมีความรู้สึกว่าวิชาคณิตศาสตร์ได้เข้ามาช่วยชีวิตในการสอบเข้า.. เพราะว่ามีการสอบ 3 วิชา ได้แก่ วิทยาศาสตร์ (100 คะแนน) คณิตศาสตร์(100 คะแนน) และภาษาไทย(50 คะแนน).. ทั้งๆ ที่ตอนทำข้อสอบฉันมีความรู้สึกมั่นใจในวิชาวิทยาศาสตร์มากๆ.. เพราะรู้สึกว่าทำได้.. อ่านมาตรง.. แต่สุดท้ายปรากฏว่า.. คะแนนวิชาภาษาไทยรวมกับวิทยาศาสตร์.. ได้เท่ากับวิชาคณิตศาสตร์วิชาเดียว!! พอเห็นคะแนนแบบนี้แล้วก็รู้สึกอึ้งนิดๆ.. แอบคิดอยู่เหมือนกันว่า.. สงสัยเราจะเหมาะกับวิชานี้จริงๆ) พอเข้ามาอยู่ในห้อง 4 (ห้องที่ได้ชื่อว่าเป็น ห้อง gifted.. หมายถึงห้องเด็กโครงการส่งเสริมคณิตศาสตร์เป็นพิเศษ(gifted คณิต) และส่งเสริมภาษาอังกฤษเป็นพิเศษ(gifted ภาษาอังกฤษ) ซึ่งทั้งสองโครงการต้องผ่านการทดสอบเข้ามาอีกครั้งหนึ่ง.. ซึ่งฉันก็เข้ามาได้.. ในฐานะ gifted คณิต.. แต่ว่าจริงๆแล้วก็เกือบไม่ติด.. เพราะว่าได้คะแนนน้อยมากๆ (วัดได้จากการสอบประจำเดือน ที่คุณครูสอนคณิตศาสตร์จะให้สอบเพื่อวัดผลทุกๆเดือน (แถมยังให้รางวัลคนที่ได้คะแนนดีอีกด้วย) โดยคุณครูจะเป็นคนออกข้อสอบและนัดเวลาสอบเองนอกเวลาเรียนอย่างเช่นสอบตอนหลังเลิกเรียนเป็นต้น) ฉันยังจำได้แม่นเลยว่าเดือนแรกที่สอบ.. ฉันได้คะแนนเป็นลำดับที่สาม!!! (แต่ว่านับจากข้างล่างขึ้นมาสามลำดับนะ!!!) .. ซึ่งผลคะแนนอันนี้เองที่ทำให้ฉันรู้สึกว่า.. ฉันต้องพยายามทำโจทย์ให้มากขึ้น.. ทำการบ้านให้ครบ.. และเมื่อเวลาผ่านไป... ผลคะแนนสุทธิที่ได้ในตอนจบม.4 ก็คือได้ลำดับที่ 4 (อันนี้ลำดับที่ 4 จริงๆ!!) ซึ่งในตลอดช่วงเวลาที่ผ่านๆมา.. คะแนนของฉันก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ.. ดีมากๆที่สุด (ถ้าจำไม่ผิด) ก็น่าจะเป็นลำดับที่สาม (จริงๆแล้วดีใจที่ได้รางวัลเป็นเงินจากคุณครูมากกว่า..^^) ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากๆ สำหรับฉัน

และอีกเรื่อง.. ที่ทำให้รู้ว่า.. ถ้าเราทำอะไรบ่อยๆ.. เดี๋ยวมือมันก็ไปเอง..

ตอนนั้นเป็นการสอบแข่งขันคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย.. ที่เรียกว่าสอบคณิตศษสตร์ของศูนย์คณิต เขต ๑ (ฉันอยู่ม. 4) ซึ่งตอนทำข้อสอบ.. ก็รู้สึกได้เลยว่า.. งานนี้อด..แน่ๆ เพราะว่าโจทย์ยากมาก.... แต่.. สุดท้าย..ก็ได้รางวัล ไม่ใช่ว่าทำได้ เคยเห็นโจทย์มาก่อน หรือว่าอะไร.. แต่ว่าเป็นการเดา.. เดาจากความรู้สึกเอาเองว่าโจทย์ยากๆ ยาวๆมันน่าจะได้ตอบอะไรที่ง่ายๆ.. ซึ่งก็เป็นคำตอบที่ถูกอย่างน่าตกใจ.. (เพราะว่าข้อสอบไม่ได้เป็นข้อสอบปรนัย.. แต่เป็นข้อสอบอัตนัยที่ให้เติมแค่คำตอบ.. อีกทั้งยังไม่ได้เดาถูกแค่ข้อเดียว.. แต่ถูกถึงสามข้อ..) ซึ่งรางวัลที่ได้นั้นเป็นรางวัลชมเชย.. (แต่ก็ได้ลำดับที่ 9 เชียว.. ซึ่งฉันดีใจมากๆ) ไม่ใช่รางวัลชมเชยยอดเยี่ยมที่ได้เงินรางวัลด้วย.. แต่ก็ทำให้ฉันรู้สึกว่า.. สงสัยฉันจะมีซิกส์เซนส์ ในการทำข้อสอบคณิตศาสตร์ซะแล้ว..  และหลังจากนั้นมาฉันก็เพิ่งรู้ว่า.. การสอบศูนย์คณิตในครั้งนี้.. จะเป็นการสอบครั้งสุดท้ายในชีวิต.. เพราะว่ามีปัญหาต่างๆมากมาย.. ทำให้การจัดแข่งขันถูกงดติดๆกันถึงสองปี (ตอนฉัน ม.5 และม.6)

นี่ก็เป็นรูป.. ตอนที่ได้รับเกียรติบัตรใบนี้.. (ลำดับที่ 9!!) และรูปที่ถ่ายกับพี่ๆที่ได้รางวัล

 

 

สำหรับใครที่คิดว่าพยายามไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร.. ไม่เห็นได้อะไรเลย.. จริงๆแล้วเราควรคิดดูให้ดีๆว่า.. ประโยชน์.. เกิดอยู่แล้วในทุกๆความพยายาม.. เพียงแต่เราไม่ค่อยพอใจในประโยชน์อันนั้น.. เราก็เลยคิดไปเองว่า.. ไม่มีประโยชน์.. ไม่ได้อะไร..  ซึ่งจริงๆแล้วเราก็ได้หลายๆอย่างจากความพยายามแม้เพียงครั้งเดียว...

ข้อคิด: ทำให้เรารู้จักที่จะพยายามเพื่อให้ได้มาซึ่งความสำเร็จ.. ถึงแม้ว่าความพยายามที่เราจะทำต้องผ่านความเหนื่อยยากมามากมาย เพราะอุปสรรค.. แต่เราก็ต้องรู้จักอดทน..อดทนต่อทุกๆอย่าง.. รวมถึงโอกาสที่จะผ่านเ้ข้ามาด้วย..

สุดท้าย.. ขอปิดท้ายด้วยรูปนี้.. (ถ้าคิดอะไรไม่ออกก็.. ออกกำลังกาย.. เ่ล่นกีฬาแก้เครียดก็ได้..)

 

เอกสารหรือสื่ออ้างอิง (REFERENCES)

ขอขอบคุณ : คุณพ่อ คุณแม่.. ที่เป็นกำลังใจให้เสมอ

                     คุณครูสมโภชน์ มะลิวัลย์ (อาจารย์สอนคณิตศาสตร์ gifted ม. 4)

                     ครูธัญ (ครูสอนพิเศษ ที่คอยแนะนำถึงเรื่องต่างๆ)

                     เพื่อนๆทุกๆคน (ที่เป็นกำลังใจเสมอมา.. และขอบคุณสำหรับรูปด้วย..)

เวปไซต์อ้างอิง: http://asdf.dek-d.com/board/view.php?id=959423

ภาคผนวก (APPENDIX) 

วันเดือนปีที่บันทึก : 14 กันยายน 2552

วันเดือนปีที่แก้ไข : 15 กันยายน 2552 

หมายเลขบันทึก: 297675เขียนเมื่อ 15 กันยายน 2009 00:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)
จิรายุ พนาสวัสดิ์วงศ์

เลขหรออออออ อยากขยันได้มั่งอะ

ตอนนี้ดรีมก็เก่งอยู่แล้วอะเนาะยิ่งขยันก็ยิ่งเก่งอะดิ

ตั้งใจๆสู้ๆ เข้านะ"ก่ายยยยยดามมมมมมม" 555

สุดยอดมากดรีม ขอให้ประสบความสำเร็จต่อไปเด้อ

อยากเก่งแบบสายโคบ้างเด๊

สอนหน่อย ๆ เด้อ ๆ

โหไม่รู้มาก่อนเลยนะนี่ว่าเทพเคยไม่มั่นใจในตัวเอง (แหย่เล่นน้า ^ ^)

ก็สอนๆกันด้วยละนะ ^ ^

เก่งของจริงคือคนนี้นี่เอง

เทพ เทพ เทพ

รูปโรงเรียนสวยดีนะ

ว้าววว

เก่ง จัง

ได้รับรางวัล เยอะ สะ ด้วยยย

สมแล้ว กับ ความ ตั้ง ใจ

สาธุ อยากเก่งมั้ง...

พอดีเก่งอยู่แล้วอะ แค่นี้ จิ๊บๆ พี่ ฮ่าๆ ขออังกฤษ เทพๆ หน่อย ได้ป่ะหละ

ว้าวๆๆ สอนเค้ามั้งสิวิธีนี้

เป็นโรคชอบให้คนพูดให้ฟังอ่ะ ^^

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท