แว่นเก่า ใจใหม่ เลนส์ใสเพราะลอกคราบอัตตา


 

เมื่อเร็วๆนี้ได้รับเกียรติให้ไปช่วยงาน สานจิตรเสวนา: มหกรรมความรู้พัฒนาจิต จัดโดยแผนงานพัฒนาจิตเพื่อสุขภาพ มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์ เขาขอให้ช่วยทำหน้าที่พิธีกรในห้องประชุมใหญ่ ในวันที่ ๑๐-๑๑ กันยายน ๒๕๕๒ ณ ศูนย์การประชุมไบเทค บางนา งานจัดได้ดีมากอิ่มเอมใจกันไปตามๆกันเพราะได้พบเรื่องราวดีๆมากมายจากคนจิตใจดีตัวจริง เชื่อว่ามีคนเขียนเล่ากันไม่น้อยจากการที่มีคนร่วมงานราวพันคนเห็นจะได้ เลยจะไม่ขอเล่า วันนี้เพียงนำปาฐกถาพิเศษเรื่อง Spiritual Health In Thailand โดย นพ.ประเวศ วะสี ที่กล่าวในการเปิดงานมาฝาก อยากให้ได้อ่านกันค่ะ

http://sph.thaissf.org/?module=article&page=detail&id=239

วันนี้อยากเล่าเรื่องการรู้ตัว รู้สึกว่าจิตตัวเองพัฒนาขึ้นกว่าแต่เก่าก่อน ที่กล่าวถึงงานเสวนาฯ เพราะเป็นเหตุให้ได้ย้อนพิจารณาตนเอง

งานพิธีกรนั้นที่จริงผู้เขียนก็เจียมสังขาร ไม่ได้อยากรับงานแบบนี้เท่าไหร่ เนื่องจากต้องใช้สายตาในการอ่านคิว สื่อสารรายละเอียดที่ต้องแจ้งแก่ผู้เข้าร่วมประชุม หมายความว่าต้องใช้แว่นตาแน่ๆ แต่เมื่อน้องๆไว้ใจที่จะใช้พิธีกรสูงวัยก็ยินดีค่ะ

คงเดากันได้ไม่ยากว่าแว่นสายตาสำหรับสว.นั้นคือแว่นสายตายาว

มีแว่นตาเลนส์โพรเกรสสีพ อยู่หนึ่งอันตัดมากว่าเจ็ดปีแล้ว ราคาแพงมาก ใช้สมัยที่ยังเรียนปริญญาเอกและต้องไปเสนองานในแวดวงวิชาการทั้งในและต่างประเทศ แต่เจ้าแว่นอันนี้ผู้เขียนจะหยิบมาใช้ก็เมื่อจะขึ้นเวทีเท่านั้น ซึ่งเลนส์ชนิดนี้สมัยก่อนคุณภาพยังไม่เป็นแบบไร้รอยต่อเหมือนสมัยนี้ เขาจึงบอกว่าต้องหัดใส่สักหนึ่งหรือสองสัปดาห์ให้ชิน แล้วก็จะสบาย แต่ผู้เขียนนั้นเป็นคนใจร้อนมาก ขี้หงุดหงิด รำคาญเพราะมันต้องฝืนความเคยชิน และฝืนใจที่จะต้องปรับตาเมื่อต้องการอ่านหนังสือ คือ เวลาจะอ่านหนังสือ ก็จะอยากรู้เรื่อง รู้ข้อใหญ่ใจความเร็วๆ จึงเบื่อที่จะฝึกและหยิบมาใช้ประจำ

ทุกครั้งที่หยิบมาใช้ตอนขึ้นเวทีจึงใช้เมื่อมีความจำเป็นที่เมื่อพูดก็ต้องเงยมองผู้ฟังบ้าง จะมาถอดแว่นที่ชอบใช้ แบบถอดเข้า ถอดออกคงดูน่ารำคาญ หรือมองลอดแว่นเหมือนครูไหวใจร้ายก็คงไม่งามแน่ๆ การขาดการฝึกฝนใช้งาน จึงรู้สึกว่าฝืดฝืนตาเหลือเกิน ใช้ประเดี๋ยวเดียว ปวดศีรษะไปหลายชั่วโมง ปกติจึงใช้แว่นสายตายาวเป็นแว่นอ่านหนังสือธรรมดา

ที่จริงคิดจะไปตัดแว่นเลนส์โพรเกรสสีพเทคโนโลยีใหม่อยู่แล้ว  แต่เข้ากรุงเทพทีไรไปไม่ถึงถนนสีลมซึ่งเป็นที่ตั้งร้านแว่นประจำสักที จนกระทั่งต้องมารับเป็นพิธีกรให้งานสานจิตรเสวนาฯ

เมื่อทราบว่าไม่มีทางไปตัดแว่นใหม่ทัน จึงไปหยิบแว่นอันเก่านี้มาใช้ มาลองตั้งสติฝึกดู ซ้อมการใช้อยู่วันหนึ่ง รู้สึกว่าพอไหว ในงานจึงสวมแว่นนี้ตั้งแต่เริ่มงานในตอนเช้า จนหมดรายการที่ต้องประกาศประมาณเที่ยง (ภาคบ่ายเป็นการแบ่งห้องย่อย หมดหน้าที่) ทำหน้าที่ไปได้สะดวกราบรื่นถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ และไม่ได้รู้สึกมึนหรือปวดศีรษะอย่างเคยเลย ทั้งๆที่ควรจะมีอาการเพราะสายตาปัจจุบันยาวถึง  ๒๗๕ หน่วย แว่นที่ตัดตอนนั้นแค่ ๒๐๐ หน่วยเท่านั้น

สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ “ความนิ่ง” ของ “จิต” ตนเอง ไม่ไปเชิญความหงุดหงิดมารอก่อนล่วงหน้า ระหว่างใช้เมื่อรู้สึกไม่ถนัดหรือกำลังจะเกิดความขุ่นใจ รำคาญ ก็มองเห็นอารมณ์และกลับมาอยู่กับตัวอักษร ข้อความ ที่ต้องสื่อสารออกไป เมื่อรู้สึกว่ามองไม่ชัดก็ปรับระยะและมุมข้อความให้อ่านได้พอดี

จิตที่นิ่ง จะสามารถรับรู้ทุกสิ่งได้ฉับไว ตรงกับความเป็นจริง ไม่ฟุ้งซ่าน ปรุงแต่งเลอะเทอะ นึกถึงคำเทศนาของ ท่านพุทธอิสระ แห่งวัดอ้อน้อย นครปฐม ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วกัลยาณมิตรมารับไปฟังท่านแสดงธรรม จำคำสอนของท่านที่ว่า “ทำอะไรทำให้ตรง” คือ ตรงกับสิ่งที่กำลังทำ รู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ ไม่เอาเรื่องอื่นมาปน มาปรุง นั่นคือ “มีสติ” นั่นเอง ท่านยังเตือนว่าต้องฝึกกันทุกเรื่องตั้งแต่เรื่องเล็กๆน้อยๆ เป็นการสะสมนิสัยที่ดี หากไม่ฝึกทำจากเรื่องเล็กๆในชีวิตประจำวัน เรื่องใหญ่ๆจะทำอย่าง “ตรง” ได้อย่างไร เพราะจิตไม่เคยถูกฝึกมาก่อน

สติ ได้ช่วยในการลดอัตตาตนเองอีกข้อ คือ สามารถใช้แว่นเก่านี้ได้โดยไม่รู้สึกอายที่แว่นไม่เก๋ไก๋ ทันสมัย เป็นสมัยก่อนก็คงรีบตามใจตนเองด้วยการขวนขวายถึงที่สุดที่จะตัดแว่นใหม่ให้ได้ แว่นใหม่อาจทำให้รู้สึกสบายตา มั่นใจ ถึงอาจรู้สึกสวยขึ้นอีกนิด แต่หน้าที่พิธีกร ตรงๆ คือ การสื่อสารกับผู้อยู่ในห้องประชุมอย่างชัดถ้อยชัดคำ ใช้คำพูด น้ำเสียง จังหวะ ลีลาที่ฟังแล้วรื่นหู เข้าใจได้ ไม่ใช่การไปโชว์ตัวเอง

นั่งรถกลับบ้านได้นึกทบทวนจึงเห็นผลของการพัฒนาเปลี่ยนแปลงตนเอง รู้สึกมีความสุขเงียบๆคิดว่าต้องหมั่นสะสมการฝึกตนในสิ่งเล็กๆน้อยๆในแต่ละวัน ขัดเกลากิเลสไปเรื่อยๆ นี่มาถูกทางแล้ว วัยชราของเราต้องเป็นวัยชราที่มีคุณภาพจากข้างในแน่ๆ เตรียมแก่ ก่อนแก่(กว่านี้) รวมทั้งเตรียมตาย ก่อนตาย รู้สึกดีจริงๆค่ะ

 

หมายเลขบันทึก: 297151เขียนเมื่อ 13 กันยายน 2009 16:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (29)
  • สวัสดีค่ะ อ.พี่นุช
  • แว่นเก๋ออกค่ะ
  • ป้าแดง ก็ต้องพึงแว่นแต่ไม่ค่อยถนัดกับแว่นอย่างที่เขาบอกว่าไร้รอยต่ออะไรนั่นอ่ะค่ะ เลยใช้ไม่สะดวก สู้อันละ 199 บาทไม่ได้เลย อิอิอิ
  • -----
  • ปล. เวลาที่พี่นุช อยู่เวที ดูสวยงามมากๆค่ะ

สวัสดีค่ะคุณป้ายุวนุช

หนูค่อย ๆอ่านบันทึกของคุณป้า  หนูเข้าใจกับการฝึกสติมากขึ้นค่ะ

หนูขอขอบพระคุณคุณป้ามากค่ะ  หนูจะพยายามมาอ่านอีกนะคะ

วันนี้หนูขึ้นบันทึกใหม่ค่ะ  แต่ไม่มีคนรู้จัก  เพราะหนูยังไม่เข้าใจระบบค่ะ

บันทึกของหนูอยู่ที่นี่นะคะ

http://gotoknow.org/blog/wittayasamphan/297058

เดี๋ยวนี้แว่นเลนส์โพรเกรสสีพดีดี และใส่ง่ายปรับสายตาได้เร็วมีหลายยี่ห้อค่ะ ตอนนี้แก้ว..ใช้ของเลนส์และกรอบแว่นของ Hoya ก็เบาดีนะคะ

วันหลัง ทราบว่า ได้ รับเชิญ ให้ รีบ บอก นะคะ จะ ไป ดู แล ให้ เป็น อย่าง ดี และ เป็น กำลังใจ... ได้ ความ รู้ อีก ต่างหาก อ่าน แล้ว มี ความสุข

พี่ติ๋ว คะ

อย่าบอกนะว่าคุณpa_daeng ไปงานสานจิตรฯ แล้วไม่มาทักทายกัน จะงอนเลยนะคะ

แว่นอันนี้ก็ยังดูใช้การได้อยู่แต่เลนส์เริ่มจะออกเหลืองด้วยกาลเวลาแล้วค่ะ พี่ก็เหมือนคุณแดงมีแว่นแบบถูกๆไว้หลายอันทั่วบ้าน เผื่อใช้เร่งด่วน หากใช้ดูหรืออ่านอะไรแป๊บๆไม่มีปัญหา ตอนนี้ตาพี่ต้องพึ่งแว่นอย่างมากค่ะ อิ อิ ก็อายุปูนนี้^__^

ขอบคุณที่มาเยี่ยมนะคะ พี่หายไปครั้งละนานๆแถมไม่ค่อยได้ไปเยี่ยมคุณแดงเลยหมู่นี้

สวัสดีค่ะหนูน้องนัท ป้าไปอ่านบันทึกหนูแล้วเขียนได้ดีมาก การเขียนเป็นการฝึกเรียบเรียงความคิดที่ดี เป็นการฝึกสติ-สมาธิได้ทางหนึ่ง ค่อยๆฝึกไปนะคะ ทุกครั้งที่เราเขียน หรือทำอะไรก็ตาม หากมีสติรู้ไปอีกนิดว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นี้เป็น กุศล หรือเป็น อกุศล คือดีหรือไม่ดี ก็จะเป็นการสร้างนิสัยให้เป็นคนละเอียด สำรวม ระวังตนเองเสมอ บุญรักษานะคะ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของคุณแก้ว..อุบล จ๋วงพานิช ค่ะ พี่ว่าจะไปวัดสายตาตัดแว่นใหม่เร็วๆนี้ แล้วไว้ใจร้านประจำ เพราะที่บ้านก็ตัดที่ร้านนี้มายาวนาน เคยไปทำที่สาขาอื่นของเขา ก็ยังไม่ดีเท่าที่ร้านเดิมค่ะ หมู่นี่มีเรื่องที่ต้องทำให้ใช้สายตามาก ไปงานสานจิตรฯ ก็ซื้อหนังสือดีๆมาอีกหอบหนึ่งค่ะ

สวัสดีค่ะพี่ติ๋ว ขอบคุณมากค่ะที่มาเยี่ยมแบบทันใจ แถมยังไปเชิญชวนมิตรเก่ามากันอีกหลายคน นี่พี่ปุ๊กับพี่ฟ้าก็มาแวะทัก ยังไม่ได้ตอบเลยค่ะ

งานหน้าจะบอกนะคะ ระลึกถึงพี่ติ๋วเสมอค่ะ

  • แวะมาขอบพระคุณพี่นุชค่ะ ที่กรุณาเป็นผู้นำทางให้ไปพบกับแสงสว่างทางปัญญาค่ะ
  • เขียนได้นิดหน่อย เพราะมีโทรศัพท์มาก่อกวนใจค่ะ ทำให้สติไม่ต่อเนื่อง แล้วจะแวะมาทักทายใหม่ค่ะ

ขอบคุณคุณศิลาSila Phu-Chayaและคุณสัมภเวสีเช่นกันค่ะ ส่งถึงรถ พร้อมเสบียงให้นั่งทานอร่อยไปตามทาง ดีใจที่เราได้พบเห็น ได้ฟังสิ่งดีๆร่วมกันค่ะ

บันทึกนี้มีเสน่ห์ตรงที่อ่านแล้วนึกภาพอิริยาบถงามๆของพี่นุชออกด้วย พร้อมๆกับได้ข้อคิดการ"จับสติ"ตัวเองในภาคปฏิบัติแบบเห็นจริง ชอบมากเลยค่ะ

พี่นุชเป็น "ดารา"ในดวงใจไปแล้วค่ะ เข้าใจความรู้สึกของคน"ปลื้ม"ดาราก็ตอนที่ได้พบตัวเป็นๆพี่นุชมาแล้วนี่แหละค่ะ

พี่นุชครับ แม้แต่แว่นตาก็สอนเราได้จริงๆๆด้วย น้องไม่ได้ใส่แว่นแล้ว สงสารสายตาเริ่มยาว เริ่มเป็น สว ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ

สวัสดีค่ะคุณนุช.....ชื่นชอบ..ค่ะ...ขอให้อยู่เย็นเป็นสุขนะคะ..ยายธีค่ะ...(ขอบคุณกับคำแนะนำจะพยายามค่ะ...กำลังทำงานกับเด็กๆยังคงยุ่งๆอยู่อีกหลายวัน)....(ก็ได้สติ...นี่แหละค่ะ..จิตคนนี่...เหมือนเข็นครกขึ้นภูเขา..จริงๆเลย..เหอๆหมายถึงตัวเอง)

ขอบคุณ คุณโอ๋-อโณ ค่ะที่คอยให้กำลังใจชื่นชมกันเสมอๆ

การฝึกตามดู ตามรู้ตนเองนี่พี่นับว่าโชคดีที่อยู่บ้านที่สงบและไม่มีภารกิจมากที่ทำให้เครียดคิดฟุ้งซ่าน เมื่อชีวิตช้าลงได้ ก็ฝึกง่ายขึ้น เหมือนไปอยู่วัดเลยค่ะ^__^ สำคัญที่ไม่มองข้ามบททดสอบ ได้ฝึกเนืองๆ ไม่ใช่ต้องอยู่สงบจึงมีสติได้ พี่คิดว่าเวลาที่เราต้องการใช้งานสติที่สุดคือเวลาที่ความเป็นปกติถูกรบกวนค่ะ

อ้าวอาจารย์ขจิต ฝอยทอง ทำไมไม่ใส่แว่นแล้วล่ะคะ หรือกลัวไม่หล่อ หรือกลัวดูเป็นสว.แล้วเสียคะแนน ไปทำเลสิกมาหรือเปล่าคะ

ขอบคุณสำหรับคำอวยพรค่ะคุณยายธี ขอให้คุณยายธีมีความสุขเช่นเดียวกันค่ะ ให้หายยุ่งแล้วคงได้ชมภาพจากแดนไกลนะคะ ตั้งตารอ^___^ค่ะ

สวัสดีค่ะ

  • น้องสายตาสั้นค่ะ...ไปไหนๆไม่ค่อยชอบใส่แว่น เพราะรู้สึกว่ามันรำคาญค่ะ
  • ที่สำคัญรู้สึกว่าดูไม่สวย อิอิ (ยังยึดติด)
  • เวลาไปไหนจึงใส่คอนแทคเลนส์...ถ้าไม่ออกไปไหนก็ใส่แว่น หรือไม่ก็ปล่อยให้มองโลกแบบภาพเบลอๆค่ะ

พูดถึงแว่นพออายุมากขาดไม่ได้เลยนะครับ

สวัสดีค่ะน้องพิชชา ยิ้มๆกับที่บอกว่า  ปล่อยให้มองโลกแบบภาพเบลอๆค่ะ
แว่นตาเดี๋ยวนี้มีแบบเท่ๆให้เลือกมากมายนะคะ แต่คงรู้สึกรำคาญ ใช้คอนแทคเลนส์น่าจะสบายกว่ากันมาก

พี่ไม่มีทางเลือกค่ะ สว.ส่วนมากจะสายตายาวค่ะ ต้องพึ่งแว่นมากขึ้นเรื่อยๆ

อยู่ขบวนการเดียวกันค่ะคุณเบดูอิน เมื่อก่อนเคยขำคนที่ต้องใส่แว่นทานข้าว ตอนนี้ตัวเองก็อาการเดียวกันค่ะ หากไม่ใส่แว่นแทบจะไม่แน่ใจว่ากำลังทานอะไร^__^

  • ดีจังครับ 
  • อ่านแล้วมีความสุข 

ขอบคุณค่ะคุณตาเหลิม ที่มาแวะเยี่ยม

พี่อ่านเรื่องจากบล็อกคุณก็มีความสุขเช่นกันค่ะ^__^

สวัสดีค่ะพี่นุช

เพิ่งมาเจอหัวข้อนี้ ตั้งชื่อได้เท่ห์มากเลยค่ะ อ่านแล้วก็ได้สติไปด้วย คิดตามอย่างที่พี่นุชเล่า ขอบคุณมากค่ะที่ทำให้ได้ย้อนมองตัวเองไปด้วยค่ะ

สวัสดีค่ะคุณอุ๊Pa l i n_x a n a =) การฝึกสังเกตอารมณ์ ความรู้สึกตัวเองอย่างเป็น"ผู้ดู" ไม่ใช่ "ผู้เป็น" นั้นพี่ก็ได้เรียนรู้วิธีการจากการเข้าปฏิบัติธรรม มีครูบาอาจารย์ท่านเมตตาสอนให้ค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ต้องนำมาฝึกต่อในชีวิตประจำวัน ใช้สิ่งที่เกิดขึ้นจริงเป็นบทเรียน บททดสอบค่ะ เตาะแตะไป พยายามไปค่ะ ^___^

  • พี่นุชเจ้า..

ต้อมไม่ต้องใช้แว่นตาค่ะ  ^^  ถึงแม้ว่าจะมีคนทำนายไว้มากว่าอ่านหนังสือได้ทั้งกลางแจ้งและในที่มืดขนาดนี้อีกหน่อยคงต้องได้พึ่งพาแว่นตาแน่ๆ  

ต้อมเคยหยิบแว่นตาของผู้สูงอายุทั้งหลายมาลองสวมใส่ดู   ทำเอาตาลายเลยค่ะ   ส่วนตัวเองน่ะใช้แค่แว่นกันแดดถูกๆ จากฝั่งพม่าราคาไม่เกินห้าร้อย   ใช้มานานหลายปี..จนถลอกปอกเปิกไปหมดแล้วด้วย   ไม่เห็นอายใคร อิอิ (จริงๆ แล้วงก)

แว่นตาก็คือแว่นตา   ยังไงคนสวมใส่อย่างพี่นุชก็สวยงามกินขาดใครๆ อยู่แล้วค่ะ ^^

คุณต้อมอายุยังไม่ถึงพึ่งแว่นก้ดีแล้วค่ะ เพราะมันน่ารำคาญ ไม่สะดวกกับชีวิตสักเท่าไหร่หรอกนะคะ ดังนั้นจึงควรถนอมสายตา ดูแลให้ดี แว่นสายตาน่ะไปเที่ยวเอาของใครๆมาลองไม่ได้หรอกค่ะ เราต้องวัดเฉพาะของตัวเราเท่านั้น

แหม เล่นชมกันอย่างนี้ ใครๆเขาจะคิดว่าจะงามอะไรกันหนักหนาปานนั้นเนอะ

แว่นกันแดดถูกแพงไม่สำคัญเท่าเลนส์ที่ใช้กรองยูวี และแสงจ้านั้นต้องมีคุณภาพดีพอควรไม่เช่นนั้นจะเป็นการทำร้ายตาเราโดยไม่รู้ตัวนะคะ เรื่องสุขภาพ อวัยวะสำคัญต้องลงทุนกันหน่อย ประหยัดเรื่องกินของแพง กินบ่อยๆ เก็บตังค์ซื้อแว่นกันแดดที่มีคุณภาพดีหน่อยก็ดีนะคะคุณต้อม อิ อิ รับรองหุ่นก็งาม นัยน์ตาก็ได้รับการปกป้องที่ดี

แว่นเก่า ใจใหม่ เลนส์ใสเพราะลอกคราบอัตตา

ดีจังเลยค่ะ

 

ขอบคุณค่ะคุณเกด Pเกด เกศนี บุณยวัฒนางกุล มีทีท่าว่าจะต้องใช้แว่นตาบ่อยๆในระยะหลายเดือนข้างหน้า เลยตัดใจไปตัดแว่นใหม่ให้สบายตาขึ้นแล้วค่ะ

อ่านบันทึกของอาจารย์แล้วได้ความรู้ดีค่ะ

ขอขอบคุณจะแวะมาอ่านอีกค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท