การบริหารและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์นั้น ให้ความสำคัญกับการนำแนวคิดทฤษฏีที่มีอยู่มาใช้ให้เหมาะสม และ Theory of margin เป็นทฤษำหนึ่งที่น่าสนใจนำมาใช้ในการพัฒนาความคิดของนัก HR ได้เป็นอย่างดี วันนี้จึงนำเสนอให้นิสิตได้นำกรอบคิดนี้ไปปรับใช้
มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพิ่มเติมจากบล็อกของนิสิต
รัชดาวัลย์
อีเมลติดต่อ
Ake อีเมลติดต่อ |
ไม่เจออาจารย์2 สัปดาห์ความรู้หายไปเยอะเลยค่ะ
วันนี่รายงาน ตื่นเต้นมากเลยค่ะ
แต่ว่าทำดีที่สุดค่ะ
อ่านแล้วครับอาจารย์
มาปราวารณาตัวเป็นศิษย์คะ
ขอบพระคุณมากนะคะ
จะนำทฤษฎืของอาจารย์ ไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดค่ะ
อาจารย์รวดเร็วในการนำเสนอแนวทางองค์ความรู้โดยเฉพาะทฤษฎีของมาร์กิน
อาจารย์สรุปให้เห็นภาพได้แจ่มชัดมากค่ะ ขอบคุณค่ะ
กำลังเรียนรู้และหาหนังสือวิชาการมาอ่านค่ะ สมัครเรียนปริญญาโทบริหารการศึกษาที่ ม.ราชภัฎสวนดุสิตแล้ว สอบสัมภาษณ์เข้าเรียนปลายเดือนกันยายนนี้ค่ะ
จะนำข้อสรุปของอาจารย์ไปศึกษาเพิ่มเติมค่ะ
จะไปศึกษาทำความเข้าใจค่ะ
จะนำหลัการพัฒนาของอาจารย์ไปทำความเข้าใจเพิ่มเติมค่ะ
กำลังศึกษาได้เข้าใจมากล่ะครับ
ขอบคุณมากสำหรับหลักการของอาจารย์จะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ให้มากที่สุด
ดีจังเลยครับ จะได้นำกรอบคิดนี้ไปปรับใช้
จะออกข้อสอบเรื่องนี้หรือเปล่าคะอาจารย์
อาจารย์ครับกำลังจะนำข้อมูลไปสอบนะครับ
Gotoknow รูปโฉมใหม่ดูดีนะคะ
กำลังรวบรวมพลังภายในที่มีอยู่เพื่อสอบวิชาของอาจารย์คะ
จะนำความรู้ที่ได้รับจากอาจารย์ไปใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด ขอบคุณค่ะ
ใกล้สอบแล้วจะกลับมาอ่านทบทวนความรู้อีกรอบ ปรากฏว่าทฤษฎีของ Margin หายไปจากจอภาพเกือบหมด ทำอย่างไรดีคะ
อ่านแล้วเหมือนกันค่ะ
ใกล้สอบแล้วเข้ามาหาความรู้เพิ่มเติมค่ะ
คุณประเทืองครับ สามารถเลื่อนดูได้จากกรอบด้านล่างครับ
เข้ามาทบทวนความรู้ค่ะ
ขอบคุณท่านอาจารย์มากคะมันช่วยให้เรียนรู้ได้มากขึ้นคะ
ขอบคุณครับที่มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้
อาจารย์คะกำลังนั่งทำข้อสอบวิชาอาจารย์คะ แต่ ทฤษฎีของ margin ไม่ค่อยเข้าใจเลยคะ อาจารย์จะช่วยขยายความอีกนิดหนึ่งได้ไหมคะ ขอบคุณมากค่ะ
อาจารย์คะลองหาข้อมูลเพิ่มเติมแล้ว แต่ไม่ค่อยพบรายละเอียดเลยค่ะ ช่วยแนะนำว่าควรจะศึษาจากเว็บไหนด้วยค่ะ
อาจารย์คะลองหาช้อมูลเพิ่มเติมแล้ว แต่ไม่ค่อยพบรายละเอียดเลยค่ะ ช่วยแนะนำว่าควรจะศึกษาจากเว็บไหนด้วยค่ะ
หลักการของ ทฤษฎี ดูในแผนที่ความคิดแล้ว ลองเอาไปใช้ในที่ทำงาน โดยหลักสำคัญเป็นทฤษฎีที่ใช้พิจารณาเตรียมคนสู่การเปลี่ยนแปลง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นต่อเมื่อมี power มากกว่า load แนวทางในการทำ power ให้มากกว่า load ก็เสนอไว้แล้ว ลองคิดดูสู่การนำไปใช้ครับ ฝึกเขียน เรียนรู้ร่วมกันกับเพื่อนได้ครับแล้วมาเขียนของตนเอง
อาจารย์คะจะออกข้อสอบเรื่องนี้แต่ทำไมรายละเอียดน้อยจังคะ และเกี่ยวกับทฤษฎีนี้น้อยคนนะคะที่จะรู้จัก ถามอาจารย์ท่านอื่นยังสงสัยเลยคะ ส่วนใหญ่ที่เข้าไปศึกษาจะเป็นภาษาอังกฤษซะส่วนใหญ่คะ เก่งภาษาอังกฤษด้วยซิคะ
คุณกัญญาครับ
ข้อนี้ไม่ยาก ไม่ต้องตอบรายละเอียดมากนัก การเขียนตอบเพียงแต่บอกว่าหน่วยงานของเรามีสภาพปัญหาอย่างไร แล้วก็ใช้แนวทางตามทฤษฏัไปแก้ ก็เขียนให้ใน mindmap แล้ว เพียงแต่นำไปเรียบเรียงประยุกต์ใช้เท่านั้นเอง
เจ้าของต้นตำรับของ Theory of Margin คือ Howard Y Mc Clusky ท่านใช้ทฤษฎีนี้เพื่อการศึกษาพัฒนาการมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยที่มีอายุสูงขึ้น บทสรุปของทฤษฎีนี้ก็คือ มนุษย์ยิ่งมีอายุมาก ย่อมมีภาระหน้าที่มากขึ้น ในขณะเดียงกันก็ไขว่คว้าหาทางประสบความสำเร็จแห่งชีวิตเช่นกัน อย่างไรก็ตามปัจจัยสำคัญที่เป็นตัวแปรของทฤษฎีดังกล่าวนี้ มี 2 ตัวแปรคือ
Load ซึ่งหมายถึงภาระหน้าที่ต้องแบกรับ เป็นทัศนคติแง่ลบที่จะทำให้ อีกปัจจัยหนึ่งคือ Powerซึ่งหมายถึงความสามารถ ความมีพลังที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จทัศนคติเชิงบวก ลดถอยลง ดังนั้น Theroy of Margin จึงหมายถึง Load + Power ที่ต้องมีความสม-ดุลย์กัน ในการนำทฤษฎี Margin ไปใช้ในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ก็ควรคำนึงถึงความสัมพันธ์ของ 2 ปัจจัยหลักเหล่านี้ หากท่านนำแนวคิดนี้ไปเปรียบเทียบกับกรอบแนวความคิด Theory of Margin ที่อาจารย์ได้วางกรอบไว้น่าจะเกิด แนวคิดต่อยอดต่อไปได้
เป็นการแลกปลี่ยนเรียนรู้ค่ะ
ถูกต้องแล้วครับ และได้นำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ดัง mindmap ที่ผมได้เขียนไว้ครับ
ครับผม การเป็นผู้บริหารต้องมีความสามารถที่หลากหลาย โดยเฉพาะในด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งถือว่าเป็นการบริหารที่ยากที่สุดในกระบนการบริหารทรัพยากรทั้งหลายในองค์กร ซึ่งในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์นั้นตองพัฒนาทั้งด้าน power และ load ไปพร้อมๆกัน และเป็นไปอย่างสมดุล เพื่อให้การพัฒนาเป็นไปอย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ....