คุยเฟื่องเรื่องการ์ตูน


การ์ตูนก็มีชีวิต

ผมเรียนศิลปะมาในสมัยเด็กต่อช่วงวัยรุ่น เเต่เป็นผู้ใหญ่เต็มตัว กลับเปลี่ยนเเนวตัวเองมาเรียนวิชาการล้วนๆ เเต่อย่างไรก็ตามงานวาดการ์ตูนผมก็ไม่เคยเรียนมาโดยตรงเช่นเดียวกัน ผมจับงานทางจิตรกรรมมาตลอด เเต่มาช่วงที่ต้องทำวิทยานิพนธ์ ปริญญาโท ที่ ม.ศิลปากร จึงเข้าไปสัมผัสเรียนรู้ทักษะการ์ตูนเต็มตัว ปรากฎว่า มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ผมคาดไม่ถึงจริงๆ ว่างานการ์ตูนเป็นศาสตร์เฉพาะด้านที่ต้องอาศัยประสบการณ์การเรียนรู้เชิงเทคนิค มากมายผมใช้เวลาในการทำวิทยานิพนธ์กว่า 2 ปี คลุกคลีกับนักเขียนการ์ตูนอาชีพเพียบเลย ได้ความรู้มหาศาล เเถมได้เงินใช้อีก เพราะเอาการ์ตูนที่วาดไปขายสำนักพิมพ์ ได้ตัง อีก แม้ราคาค่างวดจะน้อยนิดเเต่ภูมิใจมากกว่า เอาละมีตัวอย่างสัก 1 ภาพ นะครับ

 

หมายเลขบันทึก: 290160เขียนเมื่อ 23 สิงหาคม 2009 01:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (28)

ขณะที่เรียน ป.โท ที่ศิลปากร งานอดิเรกของผมคือ เดินหาสำนักพิมพ์เพื่อขายงานการ์ตูน พร้อมๆกับการเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพเพื่อ เขียนรายงานวิทยานิพนธ์ งานครั้งนั้นต้องขอบคุณ พี่เซีย ไทยรัฐ ที่เมตตา พี่กระโจน แห่งศรีสยาม(การ์ตูนตลาดตลก) พี่สละ นาคบำรุง พี่โอม รัชเวทย์ พี่เอ๊าะ ขายหัวเราะ พี่พล ข่าวสด เเละที่ลืมไม่ได้ตลอดชีวิต คือ อ.ปยุต เงากระจ่าง ครับ

อ.ปยุต เงากระจ่าง ท่านเมตตาผมมาก ทั้งพาไปศึกษา บริษัทสร้างการ์ตูนที่เเคราย ให้ข้อมูล เเถมเป็นที่ปรึกษาให้ผม เมื่อทำผลงานนักวิชาการชำนาญการเมื่อกว่า 10 ปีก่อนด้วยครับ

สวัสดีค่ะอาจารย์ เปิดห้องการ์ตูนคุยกันก็ดีเนาะ หนูก็ชอบงานการ์ตูนเช่นเดียวกันเอาละค่ะ ทักทายเเค่หอมปากหอมคอ หนูเรียนเคยวิชาหลักการพัฒนาชุมชน กับอาจารย์คะ่......

  • ดูเหมือนผมก็เคยไปดูงานบริษัทสร้างการ์ตูนที่แคราย
  • ผมเคยเขียนถึงอาจารย์ประยุตและบริษัททำการ์ตูนที่แครายไว้ในเว็บเพาะช่าง พยายามสื่อให้เห็นแง่มุมที่งานศิลปะและสื่อการ์ตูน เป็นอุตสาหกรรมทางศิลปะและวัฒนธรมที่ไทยเป็นฐานการผลิตให้กับวอลซ์ดิสนีย์ ซึ่งเผยแพร่ไปทั่วโลก แล้วคนไทยก็ไปซื้อและนำเข้าจากต่างประเทศมาดู ทั้งที่เป็นฝีมือจากคนไทย
  • การขาดการให้ความสำคัญต่อการทำงานเชิงจินตนาการและความคิด การสะสมทุนสังคม และการจัดการเชิงธุรกิจที่อยู่ได้กับความเป็นจริง ทำให้งานผลิตของคนไทยจำนวนมากกลายเป็นต้องรับเข้ามาในสังคมของตนเองใหม่ด้วยจิตวิญญาณของฝรั่งและต่างประเทศ
  • อยากให้ไปเขียนต่อช่วยกันนะครับ อาจารย์กู้เกียรติใกล้ชิดกับวงการมากกว่า เป็นของจริงกว่า เขียนเลย เราไม่เขียนถ่ายทอดไว้ใครจะเขียน

สวัสดีค่ะ

  • สุดยอดฝีมือนะคะ
  • ทุกเพศทุกวัยชอบการ์ตูนค่ะ
  • ครูคิมก็ชอบนะคะ  อ่านการ์ตูน
  • และสะสมของเอ๊าะมาตลอด
  • เป็นแบบอย่างที่ดีแก่เด็กและเยาวชนค่ะ
  • ขอขอบพระคุณค่ะ
  • เยี่ยมเลยค่ะ
  • พี่ก็ชอบอ่านการ์ตูน  แต่วาดไม่เป็น
  • ชอบดูคนวาดรูปค่ะ  โดนเฉพาะการ์ตูน

เป็นนักอ่านการ์ตูน โดย เฉพาะขายหัวเราะ เป็นกรรมพันธ์ติดมาถึงลูก ทุกวันนี้ต้องซื้อทุกฉบับเลย

สวัสดีค่ะ

  • ครูอ้อย ตั้งใจมากบอกว่า  อยากเรียนการเขียนการ์ตูนค่ะ เป็นประโยชน์ต่อการสอนมากๆๆเลยค่ะ 
  • เมตตา สอนครูอ้อยบ้างนะคะ

ดอกไม้ของครูอ้อย สวยไหมคะ

Saraa1

สวัสดีค่ะ  ดีมากเลยค่ะที่คิดว่าการ์ตูนเป็นศาสตร์ ที่บ้านชอบการ์ตูนทุกคนค่ะ  ลูกชายสองคน เรียน"ซิกัม" กันหมดเลย มีความสุขค่ะ

สวัสดีค่ะอาจารย์กู้เกียรติ

ขอขอบคุณความคิดเห็นใน blog KM เมื่อวานนี้ค่ะ เป็นกำลังใจที่ดีค่ะ

อาจารย์วาดการ์ตูนเก่งมาก สวย มีชีวิตชีวา

อยากเรียนบ้างค่ะ แต่พรสววรค์ไม่ค่อยมีทำไงดีคะ

สวัสดีค่ะ...อาจารย์กู้เกียรติ

บล๊อกสวยเย็นตาดีค่ะ...

มาชื่นชมคนศิลป์...ส่วนตัวชอบการวาดภาพทุกชนิดเลยค่ะ

ตอนแรกคิดจะเรียนด้านศิลปะเหมือนกันค่ะ...เพราะชอบวาดภาพชอบจินตนาการ

อารมณ์ศิลปินค่ะ...แต่วิถีชีวิตไม่ได้เป็นไปอย่างใจปรารถนา...

แต่อย่างไรใจก็ยังรักงานศิลป์อยู่ดีค่ะ...ชอบดูเค้าวาด...แต่ไม่ชอบวาดให้ใครดู (เพราะดูไม่จืด)

---------------

ขอบคุณนะคะที่แวะทักทาย...วาดภาพเก่งมาก ๆ...มืออาชีพจริง ๆ ค่ะ

สวัสดีค่ะ อาจารย์

เปิดสอนไหมคะ

พอลล่าอยากเรียนค่ะ ชอบค่ะ

การ์ตูนก็มีชีวิตค่ะ

สวัสดีค่ะ

ขอบคุณมากนะคะ ที่แวะไปเยี่ยมทักทาย มั่นใจว่าต้องได้เคยอ่านการ์ตูนฝีมืออาจารย์หลายเรื่องแล้วแน่ๆ ค่ะ จำลายเส้นได้ แต่ไม่มีโอกาสได้รู้จักกับผู้วาด จนมาวันนี้นับว่าเป็นโชคดีมากๆ ค่ะ โดยส่วนตัวแล้ววาดการ์ตูนไม่เป็นค่ะ เคยพยายามจะวาดแต่ไม่สำเร็จ

ขอเป็นกำลังใจให้อาจารย์ผลิตผลงานสร้างสรรค์ต่อไปนะคะ :)

เป็นภาพการ์ตูนลายเส้นบ้างครับ

 

ขึ้นกระทู้ใหม่ซิท่าน..จะได้ดูหลายแบบ..เผื่อเพื่อนๆครูจะเซฟพริ้นต์ให้ลูกๆหรือนักเรียนเอาไประบายสีได้น๊าอิๆๆๆ

ประเด็นที่เป็นผลจากการได้มีโอกาสคลุกคลีกับนักเขียนการ์ตูนอาชีพ นั้นคือกระบวนการเข้าสู่อาชีพนักเขียน เพราะเส้นทางของเเต่ละท่านล้วนหินทั้งสิ้น...การยอมให้นายทุนกดค่าต้นฉบับ เพื่อความสุขเเค่การมีผลงานได้ตีพิมพ์ นั้นเเสดงให้เห็นว่าเงินไม่สำคัญเท่าคววมภาคภูมิใจ ที่ผลงานได้มีคนชื่นชมยินดี เเละได้เเสดงออก

http://www.oknation.net/blog/nilsamai

น้องคนนี้วาดสีน้ำเก่งมาก..หรืเป็นเพราะเราชอบสไตล์น้องเขาก็ไม่รู้....

เมื่อไหร่จะเปิดอบรมการเขียนการ์ตูนมั่งค่ะ..อยากไปอบรมค่ะ..

ดึกมากยังไม่นอนกินหนมก่อนก็ได้..เพื่อนเอามาฝากไปนอนแล้ว..บาย..

เอ้ากลายมาเป็นคุยเฟื่องเรื่องใส่ไฟล์วิดีโอซะนี่..ขออภัยนะอิๆหวังว่าจะเป็นประโยชน์ค่ะ...เอากลอนพี่สุมาฝากด้วย...

 

  • ...สวัสดีครับ...อาจารย์กู้เกียรติ...
  • ...การ์ตูน เข้าถึงเด็กได้อย่างดีครับ ไม่เฉพาะเด็กนะครับ ผมคิดว่าทุกคนชอบเหมือนกันนั่นแหละ "ขายหัวเราะ"ยังขายดีเสมอ
  • ...อาจารย์ครับ ความเหมาะสมของการ์ตูนที่จะนำเสนอให้กับเด็กครับ จำนวนหน้า   เนื้อเรื่อง  รูปแบบของการ์ตูน  อาจารย์ให้ความเห็นหน่อยนะครับ เด็กระดับอนุบาล   ระดับประถมศึกษา มัธยมต้น มัธยมปลาย
  • ...ถ้าได้คำแนะนำ ครูอาจจะเพิ่มสื่อการเรียนการสอนอีกชนิดหนึ่ง ทุกวันนี้เด็กจะเขียนการ์ตูนเอง ในรูปแบบของหนังสือเล่มเล็ก วาดภาพประกอบตามความสามารถของตนเองครับ ...คิดว่าคงเป็นประโยชน์กับครูอีกหลาย ๆ ท่านครับ...ขอบคุณครับ...

3. บูรณาการความรู้ด้านจิตวิทยา การ์ตูนบางเรื่องให้ความรู้ด้านจิตวิทยาทำให้เราเข้าใจบุคลิกภาพและความเป็นไปของตัวละครในเรื่องมากยิ่งขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักเป็นการ์ตูนที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ใหญ่ เนื่องด้วยความซับซ้อนของเนื้อเรื่องและการดำเนินเรื่องนั้นมักจะคล้ายกับนวนิยาย ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องดีอีกประการหนึ่งที่อ่านการ์ตูนแล้วจะได้รับความรู้กว้างไกลมากขึ้น ได้เข้าใจจิตใจของผู้อื่นมากยิ่งขึ้น ดังเช่น การที่ตัวการ์ตูนกล่าวอ้างอิงทฤษฎีการป้องกันตนเองของมนุษย์ไว้ว่า

“ การพูดกับตุ๊กตา เป็นพฤติกรรมหนึ่งของเด็กที่มีปัญหาทางจิต ความฝันหรือจินตนาการอาจเป็นความเห็นแก่ตัวของคนเรา ในการสร้างโลกอย่างที่ตัวเองอยากให้เป็น วางตัวเองไว้ในนั้น ห่างไกลจากความจริง ลักษณะเช่นนี้ไม่ใช่การเจ็บป่วย การพูดจากับตัวเองเป็นวิธีการป้องกันตนเองจากความไม่มั่นคงทางจิตใจ มีทั้งการพูดกับตุ๊กตา ,ต้นไม้, สัตว์,รูปปั้น ฯลฯ บางคนใช้วิธีวาดรูป, แต่งกลอน ทั้งหมดนี้ก็เพื่อแสดงความในใจออกมา ปัญหาคือ ความในใจที่ว่านั้นคืออะไร หากเป็นความเกลียดชัง ความแค้น ก็ต้องระวังกันหน่อย ...คนที่กลัวความเงียบเหงาเพราะไม่ได้คุยกับใคร คนที่มักระบายความในใจให้คนอื่นฟัง ชอบขอความเห็นใจจากคนอื่น คนแบบนี้ยังน่ากลัวน้อยกว่าคนที่ตัดสินใจด้วยตัวเองไม่ได้ แต่มุทะลุบ้าบิ่นทำอะไรไปตามอารมณ์ตัวเอง”



4. แสดงคุณธรรมการรู้จักบทบาทหน้าที่และจรรยาบรรณวิชาชีพ ตัวการ์ตูนส่วนใหญต่างก็มีบทบาทหน้าที่ไม่ต่างจากมนุษย์ ดังนั้นสิ่งไร้ชีวิตวิญาณนี้จึงแลดูเสมือนมีชีวิต เพราะอย่างน้อยก็ได้แสดงคุณธรรมความดีในอาชีพเป็นข้อเตือนใจให้กับผู้ชมทุกเพศทุกวัย ยกตัวอย่างเช่น ตัวการ์ตูนที่เป็นแพทย์ ซึ่งได้แสดงทัศนคติไว้เป็นกำลังใจให้กับแพทย์ที่ไม่สามารถช่วยชีวิตคนไข้บางรายไว้ได้ว่า “คนเป็นหมอ บางครั้งก็ต้องแยกแยะให้ออกว่าควรเสียเวลากับคนที่ตายไปแล้ว หรือควรรีบช่วยคนไข้อื่นที่กำลังรอความช่วยเหลือ หมอไม่ใช่คนไร้จิตใจ เลือดเนื้อที่ปราศจากชีวิตในความคิดของเขา มีเพียงกรณีเดียว คือ หมดหนทางช่วยชีวิตแล้วเท่านั้น และถ้อยคำบางประโยคของหมอก็สามารถเป็นกำลังใจบรรเทาความป่วยไข้ได้ราวปาฏิหาริย์ เช่น ยังมีสติดี สบายใจได้ คุณไม่เป็นอะไร ไม่มีอะไรร้ายแรงถึงชีวิต ทำใจให้สบาย” นอกจากนี้ยังมีแง่คิดในอาวิชาชีพอื่นๆที่น่าให้ประทับใจและเป็นกำลังใจแด่ผู้ประกอบอาชีพนั้น



5. แสดงสัจธรรมและปรัชญาชีวิต สิ่งที่ผู้คนส่วนใหญ่มองว่าไร้สาระนี้ ไม่แน่นอนเสมอไป หากรู้จักเลือกอ่าน เลือกชม จะได้ค้นพบการ์ตูนดีๆ ที่ทำให้เราได้เรียนรู้โลกกว้างยิ่งขึ้น เหมือนการ์ตูนเรื่องหนึ่งที่สอดแทรกนิทาน และสรุปแนวคิดสอนใจว่า

“ สรรพสิ่งทุกเรื่องเหมือนม้าของไซโอ นานแสนนานมาแล้วในที่แห่งหนึ่ง มีผู้เฒ่าที่ทำนายเรื่องต่างๆได้อย่างแม่นยำ วันหนึ่งม้าของผู้เฒ่าได้หนีหายไป แต่ผู้เฒ่าไม่รู้สึกเสียใจแต่อย่างใด ( ผู้เฒ่าคิดว่า : นั่นอาจเกิดเรื่องดีๆ ขึ้น ก็เป็นได้นะ ) ระหว่างที่ม้าหนีหายไป มันได้เกี้ยวเอาม้าสาวสวยกลับมาด้วย ทั้งๆที่คนรอบข้างดีใจแท้ๆ แต่คราวนี้ ผู้เฒ่ากลับเสียใจ ( ผู้เฒ่าคิดว่า : นี่อาจจะเกิดเรื่องร้ายขึ้นก็ได้นะเนี่ย ) และแล้ว บุตรชายของผู้เฒ่าที่ขี่ม้าสาวสวยนั้น ได้พลัดตกม้าจนขาหัก แต่มีผู้เฒ่าคนเดียวที่เบิกบานใจ ในที่สุดก็ได้เกิดสงครามขึ้น ทำให้คนหนุ่มในเมืองถูกเกณฑ์ออกไปรบจนตายหมด มีเพียงลูกชายของผู้เฒ่าที่ขาเจ็บทำให้มีชีวิตรอดโดยไม่ได้ออกไปรบ ในชีวิตมนุษย์ จึงอาจกล่าวได้ว่าไม่อาจรู้หรือคิดเองได้ว่าเรื่องใดคือเรื่องดี เรื่องใดเป็นเรื่องไม่ดี ”

การ์ตูนเรื่องหนึ่งได้สอดแทรกนิทานที่น่าประทับใจเรื่องหนึ่งเอาไว้ด้วย คือ นิทานเรื่อง “หิมะลบรอยเท้า” อันมีใจความตามที่ตัวละครได้เล่าว่า “กาลครั้งหนึ่ง มีพระธุดงค์ไปจนถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง วันนั้นอากาศหนาวเย็น หิมะตกหนัก ทั้งท่านไม่ได้ฉันอาหารมานาน จึงขอมาพักที่บ้านชายชรา แต่ชายชรานั้นยากจนมาก กระทั่งถั่วสักเม็ดก็ไม่มี ชายชรานั่งเงียบอยู่สักครู่ แล้วก็ลุกขึ้นเดินออกไปข้างนอก เมื่อกลับมา ชายชราได้นำหัวมันมาด้วย และได้ต้มถวายพระ เมื่อพระฉันจนอิ่มและมีเรี่ยวแรงดีแล้ว ก็ได้ออกธุดงค์ต่อไป คืนนั้นเอง ในหมู่บ้านเกิดโกลาหล เนื่องจากหัวมันถูกขโมย ชาวบ้านคิดว่าคนร้ายต้องทิ้งรอยเท้าไว้บนหิมะ ดังนั้นจึงรอให้เช้า จะได้ออกตามจับตัวคนร้าย พอรุ่งเช้าปรากฏว่า หิมะได้ตกลงมาลบรอยเท้าไปจนหมด สุดท้ายก็ไม่มีใครรู้ว่าชายชราขโมยหัวมันมาต้มให้พระฉัน นิทานเรื่องนี้กล่าวถึงความผิดที่เกิดจากความตั้งใจดี ที่แม้กระทั่งธรรรมชาติยังอดยื่นมือเข้ามาช่วยไม่ได้ หากในการกระทำความผิดนั้นมีความปรารถนาดีซุกซ่อนอยู่ ฉันก็อยากเป็นคนหนึ่งที่สังเกตเห็นความปรารถนาดีนั้น”

แต่ละหนึ่งความรู้สึกของมนุษย์ เป็นพลังผลักดันสู่การเคลื่อนไหวในทุกสรรพสิ่ง” ตัวการ์ตูนที่กล่าวเช่นนี้ทำให้เรามองเห็นคุณค่าของการสร้างสรรค์ผลงาน ที่สามารถพัฒนาชีวิตมนุษย์ให้เจริญงดงามมากยิ่งขึ้น “การ์ตูน” ก็คือผลงานหนึ่งที่ทำให้ทุกคนมีความสุข สนุกสนาน และซาบซึ้งใจ... เพียงแต่ “ที่ใดมีแสงสว่าง ที่นั่นย่อมมีมุมมืดซุกซ่อนอยู่” เมื่อพิจารณาในอีกแง่มุมหนึ่งนั้น “การ์ตูน” ก็เปรียบเสมือนดาบสองคม หากเลือกคมไม่ถูกที่ ไม่ถูกทาง ก็จะกลายเป็นสื่ออันตรายได้เช่นกัน โดยเฉพาะผู้ยังเยาว์วัยที่ยังอ่อนด้อยด้วยความรู้และประสบการณ์ ซึ่งผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำ ดูแลอย่างใกล้ชิดในการเลือกชม เลือกอ่านสื่อการ์ตูนเหล่านี้ คอยสอดส่องสกัดคมดาบด้านที่เป็นอันตราย กลั่นกรองเอาสิ่งที่มีคุณค่าและเหมาะสมให้กับเยาวชน หากกระบวนการนี้มีความเข้มแข็งแล้ว ไม่ว่าดาบนั้นจะมีคมสักกี่ด้าน เด็กก็จะสามารถเลือกลับคมด้านที่สร้างสรรค์ได้เป็นอย่างดี เพราะการ์ตูนไม่เลวร้ายอย่างที่คิด ถ้าผู้ใหญ่เปิดใจกว้าง ลองหันมามองการ์ตูนในแง่ดีกันบ้าง แล้วจะพบกับสิ่งดีๆ ที่บรรจุอยู่ในจินตนาการชวนฝันนั้นได้ เช่นเดียวกับเรื่อง “สรรพสิ่งเหมือนม้าของไซโอ สิ่งที่เสมือนไร้สาระ อาจมีสาระมากมายสอดแทรกอยู่ด้วยก็เป็นได้” 

ที่มา.....ข้อคิดดีๆที่มีในเสมือนไร้สาระ

            รูปการ์ตูนใหม่

            พลังจิต

            การ์ตูนไทย

...อาจารย์ครับ ความเหมาะสมของการ์ตูนที่จะนำเสนอให้กับเด็กครับ จำนวนหน้า เนื้อเรื่อง รูปแบบของการ์ตูน อาจารย์ให้ความเห็นหน่อยนะครับ เด็กระดับอนุบาล ระดับประถมศึกษา มัธยมต้น มัธยมปลาย ......นี้เป็นข้อคำถามของท่าน udomran ถามประเด็นเหล่านี้ ผมเคยเขียนเป็นบทความสืบเนื่องจากการวิจัยไว้เรื่องความเหมาะสม จำนวนหน้า เนื้อเรื่อง รูปแบบไว้มีโอกาสจะนำเสนอโดยละเอียดครับ ถ้าเราเเบ่งกลุ่มเป้าหมายเป็นระดับชั้นอย่างที่ท่านว่านะครับผมมีหลักการดังนี้ครับ

1.อนุบาล

จำนวนหน้า-มักไม่เกิน 16 หน้า เเต่ก็ขึ้นอยู่กับเนื้อหาด้วยครับ

เนื้อเรื่อง-เป็นเรื่องใกล้ตัว ธรรมชาติ สิ่งของ เพื่อสร้างการเรียนรู้เบื้องต้น หรือจิตนาการสูงส่งไปเลยครับ

รูปแบบ-ตัวการ์ตูนง่ายๆ เส้นน้อย สีสดใส รายละเอียดไม่มากนัก เพื่อสร้างจิตนาการให้เด็กคิดตามครับ

2.ประถมศึกษา

ใกล้เคียงกับอนุบาลเเต่ต่างตรงที่เรื่องราวเริ่มซับซ้อนขึ้น การ์ตูนเส้นสายต้องมีรายละเอียดเพิ่มขึ้น เหมือนจริงมากขึ้นเเละที่สำคัญเนื้อเรื่องต้องเป็นเรื่องใกล้ตัว ที่สามารถนำเสนอโลกของเด็กวัยนี้ได้ครับ

3.มัธยมต้น มัธยมปลาย

เด็กเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น การ์ตูนเเนวโน้มต้องแฟชั่นมากขึ้น การเเต่งกาย ฉาก การผูกเรื่องมีความซับซ้อนซ่อนเงื่อน มีจิตนาการ วิถีตัวละครใกล้จริงมากขึ้น มีเรื่องรักๆใคร่ๆเเบบวัยรุ่น การเเต่งกายตัวละครต้องทันยุคทันสมัย

จำนวนหน้ามีมากขึ้น

 

  • ...ต้องขอขอบคุณท่านอาจารย์เป็นอย่างสูงเลยนะครับ...
  • ...อธิบายรายละเอียด ได้ชัดเจนดีครับ... 

สวัสดีค่ะ อาจารย์

  • เป็นการอธิบายเรื่องราวของตัวการ์ตูน ให้กับผู้ที่อ่านการ์ตูนเข้าใจได้อย่างง่ายดาย
  • อาจารย์เยี่ยมมากค่ะ วาดการ์ตูนก็เก่ง อธิบายได้เข้าใจง่ายดาย เป็นความสามารถที่ตัวเองอยากจะมี
  • แต่ก็ยังทำได้ไม่ค่อยดีเท่าใดนัก
  • ขอบคุณค่ะสำหรับคำอธิบายที่มาพร้อมกับภาพการ์ตูนสวยๆ...

สุดยอดเลยนะคะฝีมือวาดการ์ตูน ว่าง ๆ พี่ประสงค์ต้องการผลิตสื่อการสอนด้านคุณธรรมให้นักเรียนประถมต้องขอความอนุเคราะห์นะคะ จะคิดค่าล่วงเวลามากหรือเปล่าคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท