หนี้สินกับเงินเก็บเราควรเลือกอย่างไหนดีนะ


เสียดายเงินเก็บแต่หนี้ก็สำคัญไม่น้อย

การผลัดวันประกันพรุ่งเป็นมะเร็งร้ายต่อความก้าวหน้าของชีวิตทุกชีวิต หากเราไม่ใช้คำนั้นแต่เปลี่ยนจากผัดวันประกันพรุ่งมาเป็นการจัดลำดับความสำคัญ ก็จะดีมาก

การจากไปของคนที่เรารู้จักมักคุ้นนำความเศร้ามาสู่เรา แต่อาลัยอย่างไรก็ไม่ช่วยอะไร และยิ่งมีมหัตภัยไข้หวัดใหญ่2009 ก็ยิ่งทำให้ต้องระมัดระวังในการดำเนินชีวิตมากขึ้น  ไม่รู้ว่าตนเองจะเป็นอะไรหรือเปล่า อยู่หรือตาย

หนี้สิน ทรัพย์สินต่างๆ ก็ควรจัดการให้เข้าที่เข้าทาง หากยังค้างคาจะเป็นการประมาทมาก

การสร้างฐานะที่ได้ผลก็เห็นหลายคนทำคล้ายๆกัน  อาทิ

 การนำพาตนเองและครอบครัวมาอยู่ในภาวะจำกัด คือการสร้างทรัพย์สินโดยการซื้อแบบผ่อนส่ง คล้ายกับการซื้อรถยนต์ จากนั้นเรารีบเทหนี้

ส่วนผมในช่วงตอนเลือกการผ่อนเราก็เลือกการผ่อนส่งแบบสบายๆ เงินก็จะถูกหักออกไปแบบหวานเย็นมากเลย เพื่อนๆ ก็ทำอย่างนี้ล่ะ แต่ก็มีหลายคนใจร้อนหรืออาจจะวางแผนก็ได้นะ เค้าพยายามที่จะเพิ่มเงินส่งรายเดือนทุกครั้งที่มีโอกาส เช่น เดือนนี้มีเงินเหลือ 1500 เค้าก็บวกเพิ่มเข้าไปเลย ทำอย่างนี้เรื่อยๆ ปัจจุบันก็หมดหนี้กันไป

ในขณะที่เพื่อนผู้เดินด้วยความสุข ยังต้องส่งต่อค่าบ้านไปอีก 5-10 ปี อย่างนี้ก็ทำให้ได้คิดนะครับ..เราหรือเขาถูกกันแน่

 

การหักเก็บเงินเข้าบัญชีก็ดีครับ เราสามารถทำให้แต่ละคนในครอบครัวมีเงินเป็นอนาคตของตนเอง ส่วนเงินเดือนที่ได้รับเพิ่มขึ้นก็ยังคงเพลิดเพลินอยู่กับการใช้จ่ายประจำวัน ชีวิตความเป็นอยู่ก็สุขสบาย หันมามองอีกทีไม่มีอะไรดีขึ้นเลย หนี้ก็ยังตามหักเงินของเรา เงินที่อยู่ในบัญชีก็ถูกกระทบกระเทือนเนื่องจากความต้องการ อยากได้รถยนต์ใหม่ ,ต้องประกันชั้นหนึ่ง, อยากเที่ยวโน่นเที่ยวนี่ ,เดี๋ยวช่วยคนโน้นหน่อย ฯลฯ เราเองก็เป็นขาประจำแวะไปเบิกเงินมาใช้ตลอด เงินที่ว่าจะได้เห็น ก็ยุบหนอพองหนออยู่อย่างนั้น

น่าจะเป็นการดีมากเลยถ้าเรานำเงินในบัญชีที่เราเก็บไว้โยกไปใช้หนี้ ไม่นานหนี้นั้นก็หมด กลายเป็นทรัพย์สินไป

สูตรเดิมที่ต้องทำก็คือ สร้างตนเองให้อยู่ในภาวะจำกัดและปลดตัวเองออกจากภาวะนั้น ทำทั้งชีวิตอย่างนี้ เงินก็คงอัดแน่นในกระเป๋าทั้งๆ ที่เราทันรู้ตัวเลย

 

หมายเลขบันทึก: 282548เขียนเมื่อ 3 สิงหาคม 2009 08:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 08:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

สวัสดีค่ะ

  • พี่คิมมาเป็นกำลังใจให้ค่ะ
  • ชีวิตคือการต่อสู้...เป็นหนี้เพื่อทรัพย์สิน ความอยู่รอด หการสร้างหลักฐาน  เป็นเรื่องของชีวิตค่ะ
  • สู้ ๆ ๆ ๆนะคะ...

นกน้อยทำรังแต่พอตัวคะ  พอทำไปแล้ว ถ้ามีกำลังมากขึ้น ก็ค่อยเพิ่มสิ่งสะดวกมากขึ้นตามกำลังความสามารถ หรืออาจจะหยุดยั้ง ก็ดูความสามารถตน  อย่าเกินกำลัง มันจะมีปัญหา ชีวิตจะไม่สงบสุข  เพราะสิ่งสะดวกมากขึ้น ก็คือภาระที่เราต้องรับผิดชอบมากขึ้น  เราก็ต้องขยันมากขึ้น เดี๋ยวจะมาบ่นว่า ไม่ได้ไปเปิดหูเปิดตา ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าใหม่ ไม่ได้โน่น ไม่ได้นี่  เพราะจะต้องออมเงินเพื่อมาตัดหนี้สินนั้น

การมีหนี้มีสินเพราะอยากได้สิ่งของ  ตอนแรกกำลังยังไม่ถึง ก็ผ่อนเล็กน้อยตามสบาย แต่หารู้ไม่ว่า สิ่งของถ้าผ่อนนานดอกเบี้ยมันก็ย่อมมากขึ้น ถ้านานมากบางครั้งดอกเบี้ย เท่ากับต้นเลยก็มี

และสิ่งของบางอย่างเราต้องรู้ทัน เช่นการซื้อรถ ถ้าเราไปผ่อนหมดก่อน กำหนด  เขาก็จะไม่ลดให้เรามากมาย  เพราะเขาบวกใส่ไว้ทั้งดอกทั้งต้น ในระยะเวลากี่ปีเรียบร้อยแล้ว

ถ้าเรามาตัดเร็วเขาก็ลดให้เราไม่เท่าไหร่  แต่ทำไมบางคนเขาก็พอใจที่จะทำ คือรีบไปส่งให้หมด นั่นคือ เขาไม่อยากมีหนี้มีสิน  อยากเป็นอิสระ คนเราถ้าไม่มีหนี้  มันก็ไม่ได้เคี่ยวเข็ญตนเอง  อยู่แบบสบายไร้หนี้สิน

และถ้าเรามีเก็บอยู่ เราก็ซื้อเงินสดซิคะ  แต่ต้องมีเงินเหลือใส่ไว้ธนาคารยามฉุกเฉินด้วยนะคะ ไม่ใช่เอาไปตัดหนี้หมด  เป็นไรมา จะหาจากไหน

ขอให้อย่าประมาท  อย่าให้มีปัญหามารุมเร้า

 

P ขอบคุณคุณครูสำหรับกำลังใจครับ

P ต้องรอบคอบ ขอบคุณนะครับ

มาชม

ทายทัก

แบบสบาย ๆ นะครับ

Pอุ่นอกแม่ เป็นกลอนที่ไพเราะในสไตล์ผู้ชายแต่ง ดีมากๆ เลยครับ

มาชม

มาเชียร์

แบบสบาย ๆ นะครับ

ขอบคุณครับ

อิ อิ อิ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท