การสร้างเงินเดือน เดือนที่13 สำหรับตัวเราเอง ด้วยการออม
ผมเป็นมนุษย์เงินเดือนมาเป็นเวลานานกว่า25ปี แต่ตอนนี้ได้เปลี่ยนสถานภาพของตนเองจากการเป็นข้าราชการ มาเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย ดังนั้นเงินค่าตอบแทนรายเดือนควรจะเรียกว่าค่าจ้างน่าจะเหมาะสมกว่านะครับ ตอนที่ทำงานใหม่ๆได้รับเงินเดือนประมาณ2,750 บาทเมื่อประมาณยี่สิบกว่าปีก่อน ในตอนนั้นรู้สึกว่าของยังไม่มีราคาสูงเหมือนอย่างปัจจุบัน
ผมเริ่มออมเงินโดยการสมัครเป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จำกัดโดยการซื้อหุ้นสหกรณ์ตามระเบียบ(หุ้นละ10บาท) ในรอบปี (เดือนกุมภาพันธ์)สหกรณ์ก็จะจ่ายเงินปันผลให้กับสมาชิกที่ซื้อหุ้นรายเดือน (ปัจจุบันเงินปันผล จ่ายให้ร้อยละ5) เมื่อเวลาผ่านไปถึงปัจจุบันมองดูใบเสร็จสหกรณ์ ผมเป็นสมาชิกและซื้อหุ้นมากว่า300 งวดมีเงินทุนเรือนหุ้นพอสมควร และถือได้ว่าเงินปันผลที่ได้รับในเดือนกุมภาพันธ์หลังวันประชุมสามัญประจำปีจะเป็นเงินเดือน เดือนที่13ของผมที่จะสามารถนำไปใช้จ่ายได้พอสมควร
การออมเงินที่ละเล็กทีละน้อยโดยการซื้อหุ้นสหกรณ์ออมทรัพย์นั้น ก็เป็นหนทางหนึ่งที่เราจะได้เงินก้อนใหญ่ในระยะยาว เพราะเราจะไม่ค่อยรู้สึกถึงการออมเพราะเขาจะหักจากเงินเดือนก่อนเลย ดังนั้นเราจะเห็นว่าเมื่อเงินน้อยๆออมนานๆก็เป็นเงินก้อนไว้ใช้ในยามเกษียณได้ครับ
ความเห็น (8)
สวัสดีค่ะ
การออมเป็นหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเป็นเรื่องของการสร้างภูมิคุ้มกันในการดำเนินชีวิตให้มีความสุขค่ะ
สวัสดีครับคุณ สุนันทา
ขอบคุณครับที่เข้ามาทักทายครับ เมื่อเราออมเราต้องลดความอยากได้สิ่งต่างๆลงให้ได้ นะครับ "ตอนเริ่มออมนั้นยากลำบากต้องอดทนครับ"
สวัสดี วสุ
*** ตอนที่ทำงาน มช. เงินเดือน ...เดือนแรก 2,765 บาท ไปฉลองกันที่ฝายหิน
มีคุณแอ๊ด ...คุณป๋อง...คุณต๋อย ...สนุกเพราะรู้สึกเงินเยอะมาก
*** แปลกที่ช่วงนั้นมีเงินเหลือเก็บ...รวมกับทำงานล่วงเวลาด้วย...อยู่อย่างสบายๆ
*** มาถึงตอนนี้ทำไมเก็บออมไม่ค่อยได้เลย...เศร้าจัง...ขอยึมเงินเดือนที่ 13 มั่งซิ...อิอิ
สวัสดีครับคุณกิติยา เตชะวรรณวุฒิ
อย่าไปคิดมากเลยครับ ที่เงินไม่ค่อยเหลือก็เพราะว่ามีคนช่วยใช้ แต่ก่อนใช้คนเดียวแต่ก็เหงา ถูกหรือเปล่า... ดังนั้นเหลือเท่าไหร่ก็เก็บออมเท่านั้น ..ครับผม
สวัสดีครับ
ผมก็เป็นมษุนย์เงินเดือน เหมือนกัน การออมเพื่อใช้ในวัยขราก็กำลังทำอยู่ ครับ แต่ตอนนี้ส่งลูกๆเรียนไปก่อน ครับ
สวัสดีครับผศ. เพชรากร หาญพานิชย์
ขอบคุณครับที่แวะมาทักทาย ยินดีที่ได้รู้จักอาจารย์ครับ
การส่งลูกเรียนหนังสือที่ต้องใช้เงินทองนั้นถือว่าเป้นการลงทุนทางด้านความรู้ให้ลูกๆ ครับ ผลที่จะกลับมามากมายในอนาคต ครับผม
ชื่นชม มีหลักคิดดีมาก ไม่น่ามีความเสี่ยง แบบนี้ต่อยอดเป็นเดือนที่14 15 ต่อไปอีกได้เลย ที่สำคัญมากๆเราต้องมีวินัยในตัวเอง.........อิอิ.อิ อย่างผมวินัยแตก กู้มากกว่าออม คิดเป็นแต่ปันผลได้มากดี ลืมคิดเบี้ยที่เสียไป.....555 ขอบพระคุณ โชคดีครับ
สวัสดีครับท่านนายประจักษ์~natadee
ขอบพระคุณครับท่านที่กรุณาเข้ามาทักทาย ให้กำลังใจครับ ผมเช่นกันกู้ก็มี ออมก็ทำ คติคือ" กู้แล้วส่งต้นและดอกทุกเดือนเงินต้นคงเหลือจะลดลง และขณะเดียวกันออมด้วยทุกเดือนเงินออมก็จะเพิ่มขึ้น"เนานๆไปก็จะเป็นผลดีกับเราครับ