เรื่องราวความรักที่จะกล่าวต่อไปนี้ ตั้งใจจะเขียนเป็นบันทึกแรกเปิดตัวปฐมฤกษ์บล็อก One Soul in Two Bodies แต่เนื่องจากว่าศิลาจะต้องขออนุญาตเพื่อนรักก่อนนำมาเสนอ ตอนนี้ผ่านกองเซนเซอร์เรียบร้อยแล้ว จึงขอมาแบ่งปันเรื่องราวความรักดี ๆ ของเพื่อนรักของศิลาค่ะ
ขอตั้งชื่อเรื่องนี้ว่า “มหัศจรรย์แห่งรัก”...เพราะเพลงนี้ชอบมาก และยิ่งแวะไปฟังเพลงที่บันทึกคุณครูตุ๊กแกมาแล้วที่นี่ http://gotoknow.org/blog/music-in-my-mine/265085
ก็ยิ่งทำให้ย้อนคิดถึงเรื่องราวความรักของเพื่อนศิลาคนนี้ค่ะ มันน่าประทับใจจริง ๆ นะ...
ศิลาพบเพื่อนรักคนนี้ตอนเรียนปริญญาโทใบแรก หลายปีมาแล้วค่ะ...เราสองคนนิสัยคล้ายกันคือเป็นคนหัวไว พูดจาเร็ว กระโดดเหมือนกบ ข้ามไปเรื่องนู้น กระโดดมาเรื่องนี้ แต่ก็เข้าใจกันดี...เคยเจอไหมคะคนแบบนี้...
เพื่อนรักของศิลาทำงานมาแล้วหลายอาชีพมากตามประสานักผจญภัยทางอาชีพ…เป็นนักข่าว เป็นนักเขียน เป็นกองบรรณาธิการ เป็นนักดนตรี เป็นอาจารย์... ตอนมาเรียนปริญญาโทด้วยกันนั้น ศิลาว่าเพี้ยนแล้วที่เป็นคนบ้าเรียน (แต่ศิลาเรียนไม่เก่งเท่าไหร่) เธอกลับเพี้ยนกว่า เธอเรียนปริญญาโทพร้อมกันสองแห่งเลยค่ะทั้งที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์...และต่างสาขาวิชากันด้วยซิ
ขณะที่พบเธอครั้งแรกนั้น เธอเพิ่งเลิกกับแฟนที่เป็นบรรณาธิการของสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง...แต่เธอก็ไม่มีอาการเศร้าให้ปรากฏ ร่าเริง แจ่มใส เธอบอกสั้น ๆ ง่าย ๆ ว่า “มันถึงเวลาที่เขาจะต้องไปจากเรา เราก็ต้องปล่อยให้เขาไป” เหมือนทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา....คนทำบุญรู้สึกอย่างไร เพื่อนศิลาก็มีใบหน้าอิ่มบุญอย่างนั้น...ตอนนั้น ก็งงนะคะ แต่ก็คิดว่าสงสัยว่าเพื่อนเราเขาทำใจไว้นานแล้วล่ะ...สาเหตุที่เลิกรากันน่าจะเป็นคำพูดที่เราได้ยินกันบ่อย ๆ “เข้ากันบ่ได้ก๋า”
หลังจากเลิกรากับแฟนเก่าได้ไม่นาน ก็มีปรากฏการณ์ใหม่เกิดขึ้น เวลาศิลากับเพื่อนเดินไปไหนมาไหนด้วยกันก็จะมีผู้ชายคนหนึ่งเดินตาม...หน้าตาพอใช้ ผมบนศรีษะน้อยไปหน่อย...เวลาลมพัด..ปอยผมที่บังไว้ เหนือศรีษะก็ปลิว มองเห็นหน้าผากกว้าง...แปลความว่าอะไร...อิอิ เพื่อนเขาแซวให้ฟังลับหลังนะคะ ภาพที่เล่ามาเนี่ย...เพราะศิลาก็ไม่กล้าสังเกต จ้องมองเขาตรง ๆ
แล้วเพื่อนก็เฉลยให้ฟังว่า..."ผู้ชายคนนั้นเป็นเพื่อนของแฟนเก่าเราเอง...ชื่อพี่ภัทร"
เพื่อนศิลาเล่าว่าพี่ภัทรเขาเคยพูดกับเพื่อนว่า "หากมุขกับตรินไปด้วยกันไม่ได้ พี่ภัทรขอมาจีบนะ” ...
แล้วเพื่อนก็บอกศิลาว่า “มันมาจริง ๆ ว่ะ” ไปเรียกเขาว่ามันเดี๋ยวเถอะ
ขอบอกแบบไม่เข้าข้างเพื่อนว่า เพื่อน “มุข” ไม่ใช่คนสวยเลยค่ะ...ตาชั้นเดียว ใส่แว่นเหมือนเด็กเรียน ตัวผอมบางมาก ๆ ไม่มีเนื้อ ไม่มี....555 เลย...เป็นผู้หญิงที่มีท่าทางเรียบร้อย แต่อย่าให้เปล่งวาจาออกมานะ คม ตรงไปตรงมา และตรงเรื่องตรงราว ไม่มีอ้อมค้อม แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีวาทศิลป์ อดีตนักข่าวมีหรือจะใช้คำพูดไม่เป็น
จะว่าไปนี่คงเป็นบุพเพสันนิวาสกระมังคะ...คนสวยใช่ว่าจะมีคนมอง หากว่าไม่มีเสน่ห์บางอย่างมาดึงดูดผู้ชายบางประเภท...ประเภทพี่ภัทรนี่เขาชอบผู้หญิงที่ฉลาดกว่าเขาค่ะ (เขาเคยบอก)
ทุกครั้งที่พี่ภัทรเดินตามเพื่อนศิลา เพื่อนศิลาก็จะจูงมือศิลากึ่งวิ่งกิ่งเดินหนี เหมือนเขาเป็นไส้เดือนกิ้งกือ... (ไม่สวยแต่เลือกได้) พี่ภัทรก็จะเดินจ๋อง ๆ ตามมาเรื่อย ๆ ...ไม่รีบร้อน ไม่ท้อถอย... (หายากนะสมัยนี้)
จะตามหา ไม่ว่าเธออยู่ไหน
จนมีอยู่ครั้งหนึ่ง ศิลาทนไม่ไหว รำคาญอยากให้ ได้ ได้กันซะที (ขออภัยที่ใช้คำนี้ อารมณ์นั้นมันแบบนี้เลย อิอิ) จะได้จบ ๆ เหมือนในหนังรักโรแมนติค ก็เลยแกล้งขาพลิก เดินช้า ๆ จนพี่ภัทรตามมาทัน และเดินตามเราสองคนไปทานข้าวก่อนเข้าห้องเรียนตอนค่ำ...
ต่อมา หลัง ๆ ศิลาไม่เห็นพี่ภัทรอีก ก็ถามเพื่อน “มุข” ว่า “เฮีย หายไปไหน “
เพื่อนก็บอกว่า “เคลียร์กันแล้ว บอกว่าตอนนี้ยังไม่ชอบ ไปทำอะไรมาก็ได้ให้สำเร็จสักอย่างให้เห็นก่อน อาจจะชอบขึ้นมาก็ได้”
ตอนนั้น พี่ภัทรเป็นเจ้าหน้าที่นิติกรอยู่กระทรวงการคลัง สำหรับเพื่อน ”มุข” แล้วธรรมดา ยังไม่โดดเด่น...จะว่าเพื่อนอยากได้คนรวยหรือก็คงไม่ใช่ เพื่อนบอกว่าอยากได้คนที่มีความมุมานะทำอะไรด้วยความพยายามอย่างถึงที่สุด
ผ่านไปนานปีกว่าได้ค่ะ เพื่อนศิลาก็โทรมาบอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“แก...ทำไงดี...”
“อะไรจ๊ะเธอ”
“พี่ภัทรสอบติดผู้ช่วยผู้พิพากษาแล้ว”
“จริงเหรอ...ก็ดีน่ะซิ ดีใจด้วยนะ”
“ดีใจกับเขาก็ดีใจอยู่หรอก แต่มันเสียวแปล๊บ ๆ ในอก...”
“อาการอะไรเนี่ย เสียวแปล๊บ ๆ งง โรคหัวใจเหรอ” แกล้งถาม 555
“โรคเสียดายว่ะ....ทำไม่ดีกับเขาไว้เยอะ เขาจะกลับมาหาฉันหรือเปล่าเนี่ย”
เฮ้อ...นึกว่าอะไร...เคยไหมคะที่เราไปขับไล่ไสส่งใครสักคนแล้ววันหนึ่งเขาทำอะไรสำเร็จขึ้นมาสักอย่างแล้วเราก็เกิดอารมณ์“เสียดาย” ศิลาอยากจะบอกว่า “สมควรแล้วล่ะ” แต่ฐานะเพื่อนนางเอกก็ต้อง นิ่งไว้
เพื่อนกินไม่ได้นอนไม่หลับหลายวัน คงเพราะไล่เขาแบบไม่มีเยื่อใย แม้จะให้ความหวังเล็ก ๆ บ้างก็ไม่รู้ว่าเขาจะสนใจไยดีหรือเปล่า...จริง ๆ เพื่อนอาจจะสับสนในช่วงนั้นอยู่ก็ได้ เพราะเพิ่งเลิกกับแฟน อยู่ดี ๆ เพื่อนของอดีตแฟนก็มาตามจีบ...มันดูจะเหมือนมีอะไรมาหลอน ๆ ทำให้ลืมกันไม่ลงหรือเปล่า ก็เลยตัด ๆ ไปซะให้หมด...(คิดเข้าข้างเพื่อน)
อีกอย่าง พฤติกรรมที่พี่ภัทรกล่าวจองไว้ตั้งแต่ยังไม่เลิกกับแฟนเก่า ก็แปลก ๆ ตอนนั้น คนเขายังไม่เลิกกันก็บอกว่า “เลิกกันเมื่อไหร่ พี่จะมาจีบ” คนแบบนี้ เป็นใคร ใครจะไม่กลัวรู้สึกว่าช่างกล้าบ้าบิ่น จนคนฟังตั้งตัวไม่ติด ย่อมต้องถอยเป็นธรรมดา
ผ่านไปหลายเดือน เพื่อนก็มาเล่าให้ฟังว่า “สำเร็จแล้ว เราติดต่อกันและเริ่มสนิทกันแล้ว”
สาเหตุเพราะชะตากรรมหรือจงใจมิทราบได้... เพื่อนเราขับรถชนกับใครไม่รู้ (สงสัยสับสนอยู่) แล้วก็ไม่มีใครให้พึ่งพิงในกรุงเทพ (เธอเป็นสาวต่างจังหวัด) โทรหาพี่ภัทร (ไม่รู้ฟอร์มหรือเปล่า) พี่ภัทรก็รีบเป็นซุปเปอร์แมนมาช่วยสาวมุขทันที
เพื่อนเล่าว่าพี่ภัทรจดจำเสมอที่มุขบอกว่าให้ไปทำอะไรให้สำเร็จในชีวิตสักอย่างแล้วกลับมา ก็ไปทำมาแล้วเรียบร้อย แต่ที่ยังไม่ติดต่อมาเพราะตั้งแต่ “สอบติดท่าน” ว่าที่ท่านก็ยุ่งเหลือหลาย ในใจก็รอจังหวะจะโทรมา พอดีสาวเจ้าหาเรื่อง เอ๊ย มีเรื่องติดต่อไปเสียก่อน
รู้ไหมคะว่า เรื่องราวความรักของเพื่อนศิลาเรื่องนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ศิลาด้วยเช่นกันที่จะค้นหาใครสักคนที่มองเราเป็นเป้าหมายในการมุมานะพยายามที่จะทำอะไรให้สำเร็จในชีวิตสักอย่างเพื่อมาอยู่เคียงข้างกับเรา
มหัศจรรย์แห่งรัก สร้างสรรค์พลังอันยิ่งใหญ่จริง ๆ ค่ะ
เรื่องราวน่ารัก ๆ มหัศจรรย์แห่งรักยังไม่จบค่ะมีต่อตอนต่อไป...
คำถามท้ายบท...กัลยาณมิตรท่านใดมีเรื่องราวประทับใจ หรือบทเรียนราคาแพงเกี่ยวกับความรักมาเล่าสู่กันฟังได้นะคะ มาร่วมต่อเติมคำว่า “มหัศจรรย์แห่งรัก” กัน แต่ละท่านเข้าใจคำนี้ว่าอย่างไร มีพลังมากน้อยแค่ไหนในการผลักดันให้เราทำอะไรสักอย่างเพื่อคนที่เรารัก
มีความสุขกับความรักได้ทุก ๆ วันนะคะ
ขอบพระคุณเพลงประกอบ ชื่อเพลง "Love is all around" โดย Wet Wet Wet
ครับความรักมีพลังอันยิ่งใหญ่ จริงๆ
เป็นเรื่องราวความรักที่น่ารักมากค่ะ พี่ศิลาเล่าได้เห็นภาพมาก ชวนติดตามจะรออ่านมหัศจรรย์แห่งรักตอนจบนะคะ
มหา สงสัย ดอกไม้จัง
สวัสดีค่ะอาจารย์...
ต้องบอกว่าชอบมากๆ MIRACLE OF LOVE....
สวัสดีค่ะคุณศิลา
อ่านแล้วยิ้มเลยค่ะ....(^___^).....
นี่ เพื่อนมุข คงไม่กล้าเล่าเองแน่เลย แต่มีคนเล่าให้ถึงได้รู้...ความน่ารัก....
อ่านแล้วมหัศจรรย์จริง ๆ ค่ะ .... หันมาคิดถึงเรื่องของตัวเอง...ตามที่คุณศิลาทิ้งท้ายไว้ให้....
คิดแล้วยิ้มละมุนละไม...ยังไม่เล่าหรอกค่ะ....ต้องรอตกผลึกกว่านี้หน่อย...
ขอบคุณค่ะ
(^___^)
สวัสดีค่ะพี่ศิลา
...
ถูกใจจังเลยค่ะ ...
รัก มหัศจรรย์แห่งชีวิต และการรังสรรค์โลก
ปูเชื่อมั่นว่า Love will conquer everything J
5 5 เวลาปูพูดอย่างนี้ ใครๆ ก็จะสวนว่า แม่นางทฤษฎีร่ำไป 5 5
ไว้เจอเมื่อไหร่ จะมาปรึกษาพี่ศิลา ศิราณี นะคะ อิ อิ
...
น่าติดตาม และสนุกมาก อยากเล่ามหัศจรรย์ของเราบ้าง รอก่อนนะคะ
(มาทันเปิดบล็อกล่าสุดไม่เกิน 24 ชั่วโมง ดีจังค่ะ^*)
คุณศิลาคะ อ่านเรื่องนี้แล้ว ว้าวววว...ค่ะ ดาวลูกไก่มีเพื่อนสนิทที่คุยปรับสารทุกข์สุกๆ ดิบๆ กันอยู่หนึ่งคน แต่ว่าเพื่อนสนิทคนนี้เป็นผู้ชายเต็มร้อย% นะคะ เราคุยทุกเรื่องจากในหัวอกหัวใจถึงเรื่องราวครอบจักรวาล และประโยคเด็ดๆ ประโยคหนึ่งที่เราสองคนสรุปไว้ จำขึ้นใจและใช้มันเวลาจบบทสนทนาเมื่อรู้สึกว่าชักจะยืดเยื้อเสมอๆ ค่ะ รู้สึกว่าน่าจะเข้ากับเรื่องนี้เรื่องมหัศจรรย์แห่งรักของคุณ "เพื่อน มุข" กับคุณ "พี่ภัทร" ค่ะ อ๊ะ...อยากรู้ไหมคะว่าประโยคเด็ดของดาวลูกไก่กับเพื่อนสนิทว่าอย่างไร...
"อะไรที่ใช่ อย่างไรก็ใช่ แต่ถ้าไม่ใช่ ทำอย่างไรๆ ก็ไม่ใช่"
ไม่รู้จะใช้ได้เหมือนเรื่องนี้ไหมคะ ^^ คิดถึงคุณศิลาค่ะ^^ เพิ่งจะ วาง ว่าง เว้น...ค่ะ
สวัสดีค่ะ
สวัสดีค่ะพี่Sila Phu-Chaya
มหัศจรรย์แห่งความรัก...คู๋กันแล้วก็คงไม่แคล้วกันนะคะ
อ่านๆยิ้มๆชวนติดตามจังเลยค่ะ
จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ ว่าพระนางจะลงเอยกันอย่างไร
ขอบคุณค่ะพี่ศิลา...^_^
พี่ศิลาขา...
มารายงานตัวก่อนค่ะ ..^_^..
พี่ศิลาขา...
อ่านไปลุ้นไป ยิ้มไป ลุ้นจริงๆนะคะว่าตอนจบจะเป็นอย่างไร ว้า มาให้ติดตามตอนต่อไปซะได้ อิ..อิ.. ไม่เป็นไรค่ะหนูรอได้
เพื่อ มหัศจรรย์แห่งรัก....
ขอบคุณที่ไปชวนมาซึบซัมกับความรักแบบน่ารักๆของเพื่อนพี่ศิลานะคะ
จะรอติดตามตอนต่อไปอย่างใจจดใจ่จอค่ะ..^__^..
พี่ศิลาขา....(แอบแวบมาค่ะ)
มารออ่านตอนต่อไปค่ะ..^_^..
"อะไรที่ใช่ อย่างไรก็ใช่ แต่ถ้าไม่ใช่ ทำอย่างไรๆ ก็ไม่ใช่"
รางวัลทางจิตวิญญาน
มอบให้..ด้วยความระลึกถึง