เมื่อ 22 พฤษภาคม 2552 ที่ผ่านมา ผู้เขียนได้ไปร่วมช่วยจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “แนวทางการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงวัย ด้วยการออกกำลังกายและโภชนาการ” ผู้เข้ารับการอบรมประกอบด้วย แกนนำชมรมผู้สูงอายุ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่รับผิดชอบงานส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ จาก 35 ชมรม จำนวนทั้งสิ้น 148 คน
โดยผู้จัดการอบรมหวังว่า เมื่อได้รับการอบรมแล้วผู้สูงอายุจะสามารถประยุกต์ใช้ในการออกกำลังกายและเลือกรับประทานอาหารได้อย่างเหมาะสม
เริ่มลงทะเบียนตั้งแต่ 08.00 – 08.30 น.
ทดสอบความรู้ก่อนรับการอบรม
ดูแต่ละท่านตั้งอกตั้งใจทำแบบทดสอบ
ได้เวลาอันสมควร น้องอ้อ (คุณสิริรำไพ ภูธรใจ)
กล่าวรายงานเพื่อเชิญผอ.ศูนย์อนามัยที่ 10
เปิดการอบรม
นายแพทย์ชัยพร พรหมสิงห์
ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 10 ให้เกียรติมาเปิดงาน
วัฒนธรรมองค์กรกรมอนามัย
ยืดเหยียดก่อนและหลังการอบรม
หลังจากนั้นก็เริ่มต้นการบรรยายแรกด้วย เรื่อง “ส่งเสริมอย่างไร ให้ผู้สูงวัยพึ่งตัวเองได้ด้วยการออกกำลังกาย” โดย นพ.วิสุทธิ์ พัฒนาภรณ์ เจ้าของสำนวนที่ว่า ...แลกเปลี่ยนต่างวัย เป็นกำไรของชีวิต
คุณหมอแนะนำว่า การสร้างความสุขในผู้สูงอายุที่ง่ายและดีมากๆอย่างหนึ่งคือ การร้องรำเพลง
ในภาพผู้สูงอายุอาสาสมัครออกมาร้องเพลง
ร้องอย่างเดียวไม่สนุกต้องมีรำด้วย
การสร้างสุขอีกอย่าง คือ การหัวเราะ
หลังจากนั้นก็เป็นการบรรยายในหัวข้อ
เรื่อง “กินถูกหลักลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี”
โดยพี่อ้อย (คุณวรุณยุพา หนันต๊ะ )
ในภาพสอนการวัดรอบเอวที่ถูกวิธีด้วย
พักรับประทานอาหารเที่ยงเพื่อสุขภาพ น้ำพริก ผักลวก แกงเลี้ยง และผัดผักรวม ผลไม้ตามฤดูกาล
และเริ่มช่วงบ่ายเป็นการแนะนำ เรื่อง “การออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ” โดย อาจารย์น้ำหวาน ( ดร.อัจฉริยา กะสิยพัท) จาก ม.ราชภัฏเชียงใหม่
อาจารย์น้ำหวาน
และการบรรยาย สาธิต ฝึกปฏิบัติ “การทดสอบสมรรถภาพทางกายของผู้สูงอายุ” โดย อาจารย์เก๋( อาจารย์ ชิตินทรีย์ บุญมา ) และลูกศิษย์ จาก ม.ราชภัฏเชียงใหม่
หลังจากนั้นให้แบ่งกลุ่มหมุนเวียนให้ทดลองทำ
กลุ่มที่ 1 ลุก ยืน นั่ง 30 วินาที พี่ติ๊กเป็นคนแนะนำ
กลุ่มที่ 2 ยกน้ำหนักขึ้น ลง 30 วินาทีผู้เขียนเป็นคนแนะนำ
กลุ่มที่ 3 ย่ำเท้ายกเข่าสูง 2 นาที อาจารย์เก๋เป็นคนแนะนำ
กลุ่มที่ 4 นั่งเก้าอี้แตะปลายเท้า อาจารย์น้ำหวาน เป็นคนแนะนำ
กลุ่มที่ 5 มือไขว้หลังแตะกันน้อง นักศึกษาเป็นคนแนะนำ
กลุ่มที่ 6 การเดิน 6 นาที นักศึกษาเป็นคนแนะนำ
ปิดการอบรมเวลา 15.57 น. เลิกก่อนเวลาตั้ง 3 นาที อิอิ
ถ่ายรูปร่วมกัน
สิ่งที่ได้เพิ่มเติมจากการไปร่วมงานครั้งนี้ คือ การจัดกิจกรรมให้ลื่นไหลตามเวลาที่กำหนดทุกกิจกรรม เพราะเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าผู้สูงอายุจะเป็นผู้ที่สั่งสมประสบการณ์ไว้มาก จึงมักชอบที่จะแสดงออกมา และต้องการถ่ายทอดให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ ฉะนั้นจึงนับเป็นเรื่องท้าทายที่ผู้จัดการอบรมต้องควบคุมเวลา ให้แต่ละกิจกรรมพอดีตามเวลาที่กำหนด แต่ในการจัดอบรมครั้งนี้พี่อ้อยทำได้ ผู้เขียนแอบสังเกตการณ์การจัดอบรมครั้งนี้ ลองอ่านดูนะคะเผื่อเอาไปใช้ในการจัดอบรมกับผู้สูงอายุท่านอื่นๆได้
เรื่องแรกการเตรียมตัว
1. ก่อนวันอบรม แบ่งงาน อธิบายบทบาท ความรับผิดชอบ และขั้นตอนการทำงานของแต่ละคนชัดเจน
2. วันอบรม ทุกคนขึ้นนั่งบนรถเรียบร้อย พอรถเคลื่อนพี่อ้อยเริ่มทบทวนหน้าที่อีกครั้งก่อนไปถึงที่จัดอบรมฯ
- วันนี้ เวลาไหน ใครทำอะไร
- ถ้ามีการเปลี่ยนแปลง หรือ มีกิจกรรมที่ต้องทำเพื่อให้
งานเรียบร้อย พี่อ้อยจะมากระซิบบอกแต่ละคน ว่าจะ
ทำอะไรตอนไหน และให้ใครช่วย อะไร
เรื่องที่สอง การพูด
1. ต้องพูดชัดถ้อย ชัดคำ
2. อธิบายช้าๆ ไม่รวบรัด
3. อธิบายขั้นตอนกิจกรรมเฉพาะที่จะต้องทำ ส่วนกิจกรรมลำดับต่อไปจะอธิบายเมื่อจะเริ่มทำกิจกรรมเพื่อไม่ให้ผู้สูงอายุสับสน
4. ใช้ถ้อยคำแสดงความเคารพและเป็นกันเอง
5. ให้มีโอกาสได้แสดงความคิดเห็นในบางจังหวะ
6. พูดยกย่องชื่นชมเมื่อทำได้ หรือ กล้าแสดงออก
ลองเอาไปใช้ดูนะคะ รับรองได้ผล ผู้จัดสามารถควบคุมเวลาในการจัดอบรมได้ ส่วนผู้สูงอายุสุขใจ ที่ได้เข้าร่วมอบรม และได้แสดงออกเจ้า
ดีจังเลยพี่เขี้ยวขา...เห็นแล้วชื่นชมชื่นชมจ้า
กอดกอดกอด....ก่อนนอนนะคะ...ไปแล้วววววว
สวัสดีครับพี่เขี้ยว
สวัสดีค่ะพี่เขี้ยว
แวะมาชมภาพกิจกรรมดีๆค่ะ...และจะมาบอกว่า " คิดถึง " ด้วยค่ะ.....
สวัสดีครับอาจารย์.
......"อย่านี้ไม่ถือว่าสูงวัย นะคะ.."
(ภาพจากอินเตอร์เนต)
สวัสดีครับ มนัญญา ~ natachoei ( หน้าตาเฉย) มากราบขออภัย 100 ครั้ง ผู้น้อยสมควรตาย แต่โทษครานี้ขอไว้ก่อนนะครับ ยิ่งทราบว่าท่านทั้งหลายเตรียมให้เกียรติมากเท่าไร ความเกรงใจก็มากขึ้นเป็นทวีคูณ วันที่สองที่เชียงใหม่เราก็ปรึกษากันเรื่องนี้จะโทรอยู่แล้ว แต่ด้วยความซาบซึ้งในความเมตตากรุณาเท่าที่ทราบเตรียมอย่างโน้นอย่างนี้ ก็เลยลงมติว่าไว้โอกาสที่จำเป็นจริงๆดีกว่า โอกาสหน้ามีอีกครับต้องได้พบกันแน่ๆ ถือโอกาสขอบพระคุณ ม่อนมีความสุขมากในการไปครั้งนี้ ฝากคุณหมอเรียนญาติมิตรที่แสนดีทุกท่านด้วยนะครับว่าผมและครอบครัวขอกราบขอบพระคุณอย่างสูง โชคดีครับ
อิอิ......โทรเสียแบตหมดคามือไปแล้วครับ ขอบพระคุณมากครับ เก็บสะสมรอบหน้าจะได้แยะๆ.....5555
สวัสดีครับ มนัญญา ~ natachoei ( หน้าตาเฉย) มนัญญา ~ natachoei ( หน้าตาเฉย) ตามมาอีกรอบ.....อิอิ.อิ ผมชอบเชียงใหม่มานาน นอกจากพระธาตุดอยสุเทพ วัฒนธรรมอันดีงาม แล้วคนชาวเชียงใหม่ที่ได้พบปะทั้งที่ไม่เคยพบไม่เคยรู้จักจะยิ้มแย้มแจ่มใส ให้พวกเราในทุกที่ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งญาติมิตรที่แสนดีชาว GTK แบบคุณหมอและพรรคพวก ยิ่งทำให้เชียงใหม่มีมนต์เสน่ห์เป็นที่หลงไหลมากยิ่งขึ้นสำหรับครอบครัวผม ขอบกราบขอบพระคุณมากครับ
สวัสดีค่ะพี่เขี้ยว
เป็นโครงการดีที่ให้ความสำคัญกับผู้สูงวัย
ต้องดูแลท่านหลังจากที่ท่านดูแลพวกเรามา
ขอให้มีความสุขนะคะ
สวัสดีครับ มนัญญา ~ natachoei ( หน้าตาเฉย)
ใช่เลยครับ สิ่งหนึ่งที่เห็นเทียบเคียงกับครั้งที่ผ่านมา ที่ตัวเมืองเชียงใหม่มีตึกอาคารทันสมัยมากขึ้น หลายจุดจำไม่ได้ ที่สำคัญชัดเจนรถติดมากขึ้นแยะ เข้าไปที่ดอยปุยเกือบไม่เห็นคนแต่งกายแบบแม้ว รวมทั้งภาษาที่ใช้ได้ไปแอบดูคุณครูโรงเรียนพ่อหลวงสอนก็สอนเป็นภาษาไทยแบบที่เราพูดได้ชัดเจน สังเกตสินค้าที่นำมาขายก็เหมือนๆกับที่เชียงใหม่ บางอย่างเหมือนกับตลาดทั่วๆไป หรือผมแก่เลยแยกไม่ออกว่าของแท้ของเทียม แต่สิ่งหนึ่งที่ยังรักษาไว้ได้ดีมากคือความมีน้ำใจ เอื้ออาทร ยิ้มแย้มแจ่มใส ให้ผู้มาเยือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณหมอและเพื่อนๆ จึงเป็นความประทับใจที่ฝังลึก เชียงใหม่จึงเป็นเมืองในฝันพวกเราเสมอมา และจะไปอีกแน่นอน ขอบพระคุณขอให้มีความสุข โชคดีครับ
หวัดดีจ้า
มาทักทาย...พาเด็กๆมาเที่ยวค่ะ
ในอนาคตประเทศไทย รวมทั้งอีกหลายๆ ประเทศในเอเชียจะเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยมากขึ้นนะคะ
ในประเทศไทยเองเราเคยมีปัญหาเรื่องประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างสูงในอดีต ทำให้ประเทศไทยต้องมีการรณรงค์เรื่องการคุมกำเนิดกันอย่างขนานใหญ่ ทำให้อัตราเจริญพันธุ์รวมลดลงอย่างมาก
แถมมีการรณรงค์เรื่องของการคุมกำเนิดก็อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่ง เช่น "มีลูกมากจะยากจน" หรือ "มีลูกดีไม่เกินสอง" ส่วนสาเหตุอื่นๆ เช่น อายุเฉลี่ยของคู่สมรสมีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งสังเกตได้ชัดเจนว่า หนุ่มสาวในปัจจุบันกว่าจะได้เริ่มแต่งงานก็มักจะใกล้หรือเลยเลขสามไปแล้ว ผลจากการแต่งงานช้า ทำให้หญิงไทยมีบุตรคนแรกเมื่อมีอายุสูงขึ้น และทำให้มักจะลังเลที่จะมีบุตรคนที่สองเนื่องจากอายุที่มากขึ้น
นอกจากนี้ ก็คือแนวโน้มที่คนไทยจะอยู่เป็นโสดมากขึ้น ปัจจุบัน จะพบว่าผู้หญิงมีแนวโน้มเป็นโสดมากกว่าผู้ชาย ซึ่งสาเหตุสำคัญ เนื่องจาก การที่หญิงไทยมีระดับการศึกษาสูงขึ้น
ดังนั้น การที่มีการรณรงค์ในเรื่องการเสริมสร้างสุขภาพที่ดีของคนสูงวัย จึงเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมมากค่ะ
สวัสดีค่ะ ทั้งหมดนี้ชอบอย่างเดียวค่ะ หมอหล่อจัง ชอบชอบ
ชวนพี่หมอมาเยี่ยม