เมื่อต้นปีนี้ผมซื้อที่ปลูกบ้านไว้แปลงหนึ่ง พื้นที่ 3 ไร่กว่าๆ ถมที่แล้วก็ยังเหลือพื้นที่ว่างๆ อยู่ 2 ไร่กว่า คิดจะปลูกพืชหลายอย่าง แต่มาคิดดูแล้ว ปลูกต้นไม้มาเกือบครบทุกประเภทแล้ว คงเหลือแต่พืชอาหารคือข้าวที่ยังไม่เคยปลูก ฝนนี้เลยตัดสินใจคิดที่จะทำนา ปลูกข้าวเอง แต่เนื่องจากเป็นที่บุกเบิกใหม่ ครั้นจะทำเป็นนาลุ่มเหมือนชาวบ้านเขาก็เกรงว่าจะทำไม่ทัน(ปรับพื้นที่ไม่ทัน) เลยตัดสินใจว่าแรกๆ เราน่าจะปลูกข้าวแบบข้าวไร่ไปก่อน แล้วค่อยปรับพื้นที่ไปเรื่อยๆ หลายๆ ปีก็คงจะทำเป็นนาได้
เมื่อเตรียมดินก็เลยตรวจวิเคราะห์ธาตุอาหารอย่างง่าย พร้อมทั้งวัดค่าพิกัดเพื่อหาชื่อชุดดิน พบว่าเป็นกลุ่มดินที่ 33/38 (ดินที่เหมาแก่การปลูกพืชไร่และไม้ผล) เป็นดินชุดกำแพงเพชร มีค่า pH ประมาณ 6.5 ไนโตรเจนต่ำ ฟอสฟอรัสสูง และโปแตสเซี่ยมต่ำ
หลังจากตัดสินใจแล้วก็จ้างรถไถปรับที่ให้เสมอกัน เพราะพื้นที่ไม่ค่อยเรียบ จากนั้นก็ไถไปรอบหนึ่งรอจนฝนตกจึงหยอดข้าวไร่ ซึ่งพันธุ์ข้าวไร่นั้นไปขอมาจากจังหวัดลำปาง ได้มา 2 พันธุ์ ไม่รู้ว่าชื่อทางการเรียกว่าอะไร แต่ชาวบ้านเรียกว่าข้าวแพร่ และอีกพันธุ์หนึ่งเรียกว่าข้าวก่ำ (ข้าวสีนิล)
วันปลูกก็สนุกน่าดู เพราะยังไม่เคยปลูกข้าวไร่เหมือนกัน ทดลองใช้หลายๆ วิธี ทั้งใช้ไม้ปลายแหลมกระทุ้งแล้วหยดเมล็ดข้าว ใช้เสียมด้ามยาวแซะดินแล้วหยอด และวิธีสุดท้ายที่น่าจะเหมาะสมกับดินของที่นี่มากที่สุดก็คือใช้จอบขุดหลุมตื้นๆ แล้วหยอด
หยอดหลายครั้งกว่าจะเต็มพื้นที่ประมาณ 2 ไร่เศษ เริ่มหยอดครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 เมษายน จนรุ่นสุดท้ายเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2552
เกือบหนึ่งเดือนที่คอยดูการเจริญเติบโต เมื่อเช้านี้ลองไปเดินดูพบว่า มีความแตกต่างของการงอกและการเจริญเติบโตไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ
2
ภาพนี้เห็นความแตกต่างในส่วนของความงอก
ฝีมือน้องไผ่ น้องฝ้าย และน้องป๊อบเพื่อนน้องฝ้ายมาช่วยปลูก (มือใหม่) หยอดข้าวเผื่อเมล็ดลีบ แต่ข้าวก่ำออกเกือบทุกเมล็ด เลยมีมากต้นอย่างที่เห็น ถ้าหยอดซัก 5 เมล็ดน่าจะกำลังดี แต่ก็เป็นผลดีเพราะจะได้ถอนไปซ่อมในส่วนที่ข้าวไม่งอก...อิอิ
งานในลำดับต่อไปก็คือการถางหญ้าครับ คงได้สนุกไปอีกเป็นเดือน
เป็นการหาทางที่จะพึ่งตนเองอย่างหนึ่งนะครับ ไม่ปลูกข้าว แล้วซื้อข้าวกินนั้นทำได้และทำอยู่แล้ว แต่คิดว่าทำในสิ่งที่เราต้องการน่าจะดีกว่า เพราะข้าวอย่างไรเราก็ต้องกินอยู่ทุกวัน ก็เลยลองปลูกดู ผลจะเป็นอย่างไรค่อยศึกษาและเรียนรู้ไปเรื่อยๆ แล้วจะนำมาบันทึกแลกเปลี่ยนในโอกาสต่อไปนะครับ
ท่านใดมีความรู้และประสบการณ์จะนำมาแบ่งปันกันบ้างก็ยินดีนะครับ
บันทึกมาเพื่อการ ลปรร.
วีรยุทธ สมป่าสัก 22 พ.ค. 2552
สวัสดีครับคุณ สิงห์
คิดถึงเจ้า ไผ่ กิจกรรมอย่างนี้คงโดน
อยากทราบข้าวก่ำ (ข้าวสีนิล) เป็นพันธ์เดียวกับข้าวหอมนิลหรือเปล่าครับ
ทำไร่สนุกตอนแทงสัก(ใช้ไม้ปลายแหลมกระทุ้ง) แล้วให้สาวคนที่เล็งไว้หยอดเม็ดข้าวตาม (ปกติเวลาทำข้าวไร่เขามักลงแขกครับ)มีประสบการณ์เล็งสาวจากทำข้าวไร่ 55555555
สมัยเป็นเด็กที่บ้าน (บุรีรัมย์) แม่ท่านก็เคยปลูกข้าวไร่ครับ...
ตอนปลูกไม่เท่าไหร่ครับ...แต่ตอนกำจัดวัชพืชจำพวกหญ้านี่สิครับ...เขียวเหมือนกันไปหมดทั้งข้าวทั้งหญ้า...
ถ้าไม่ตั้งสติดีดีเป็นอันต้องกำจัดทั้งข้าวและหญ้าไปพร้อมกันทุกที
ระลึกถึงครับ...
มาเรียนรู้ค่ะ
สวัสดีครับพี่สิงห์
น่าอิจฉา ผมยังหาที่ปลูกบ้านที่น่านยังไม่ได้เลย ....
ผมโตมากลางทุ่งนาเลยครับ แต่บ้านผมเป็นชาวนารุ่นสองไม่ได้ทำนากินเองแล้ว ส่วนผมเป็นชาวนารุ่นสาม อย่าว่าแต่ไม่ได้ทำนาเองเลย ไม่ได้เข้าใกล้ต้นข้าวในระยะ 1 เมตรมาหลายปีแล้วครับ
คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ เหมือนกันครับ ผมกำลังจะซื้อบ้าน อาจจะปลูกข้าวไร่ข้างบ้านสักกอครับ
สวัสดีค่ะ
ดีคับ จากพังงา มีปลูกข้าวไร่เหมือนกัน พันธ์ดอกข่า