สู่..อาศรมร่มรัก(บทชีวิต..คืนอำลา)


..หนึ่งรากแก้วการอ่าน..เช่นฉัน ขอกำหนดเป็นปณิธานใจ ในการ “หยั่งราก” ให้ลึกที่สุดตราบทีมีแรงและลมหายใจ**

 

สู่…อาศรมร่มรัก [บทชีวิต..คืนอำลา]

  

มหัศจรรย์ร่มสักรักห่ม

รื่นรมย์ดวงจิตประภัสสร

เริ่ม..เรียน..รู้..ชีวิต..ทุกบทตอน

ประนมกรก้มกราบกราน.ครูกานท์.เอย

 

 

..คืนอำลา..

นั่งนึกหมองมองจันทร์กระจ่างฟ้า          แสงจันทราสว่างวับจับใจฉัน

สายลมพลิ้วอ่อนละมุนกลางแสงจันทร์   ใต้สักนั้นเห็นเงา..เหงาหัวใจ

ทุกภาพงามยามมองผ่องดวงจิต           ยิ่งเพ่งพิศแพรวพราววับวาวไหว

เสียงครูบอกปิดแสงของดวงไฟ           จันทร์สวยใสฉาบไล้ทั่วไพรวัลย์

ส่องลอดเล็ดใบสักประจักษ์ฉาย          แวววับพรายทั่วลานสักมิเหหัน

เสียงทุ้มทุ้มนุ่มหูครูดังพลัน                 บอกศิษย์นั้นได้เล่าความในใจ

อยากบอกใจฝากใจดั่งใจฝัน               ใบสักนั้นเฝ้ารับรู้อยู่ไหวไหว

พวกเราเงียบเพื่อก่นค้นหัวใจ               เตรียมออกไปเอ่ยขานผ่านอักษรา

เสียงจั้กจั่นเรไรก้องในป่า                   เพื่อนรักจ๋า..โปรดได้บอกอย่าหวั่นไหว

เสียงเพื่อนเพื่อนพี่น้องบอกความนัย     สิ่งที่ได้เขียนอ่านผ่านบทเรียน

บทชีวิตทุกบทกำหนดแน่ว                 ได้เลือกแล้วเส้นทางการอ่านเขียน

ครูรากแก้ว..ทุกคนมีพากเพียร           ไม่ลืมเลือนขุนเขาก้าวข้ามพลัน

น้ำตาค่อยรินไหลจากใจฉัน                ภาพของวันคืนวานค่อยผ่านผัน

โอ้ครูแก้วศิษย์จำลาจรจรัล                พระคุณนั้นจำจรดหมดหัวใจ 

 

   

บทชีวิต ณ ทุ่งสักอาศรม

 

กลัวที่จะกล้า..

          ครูพูดสัพยอกฉันพร้อมรอยยิ้มที่อบอุ่น .. “คนเชียงใหม่ เวลาสั่นเขายกขาขึ้นด้วย”..เมื่อฉันแสดงอาการสั่นผับๆ ครั้งนำเสนอผลงานในชั่วโมงแรกของการเรียนวันแรกที่หน้าห้อง  สั่นจริงๆ ไม่ได้เสแสร้งเลย  มื่อสั่น  เสียงสั่นจนพูดเกือบไม่เป็นภาษา  ขาสั่นมากโดยเฉพาะขาขวา สั่นจนต้องยกขึ้นไปไพล่ไว้ด้านหลังขาซ้ายตั้งหลายครั้ง  หลายนาทีทีเดียวอย่างไรก็ไม่เลิกสั่นจนต้องเลิกพูด  โห.. ศน.อ้วนเอ๋ยผ่านมาตั้งหลายร้อยเวที..ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ได้    ตัวเองเท่านั้นที่ตอบได้คือ.. กลัวครูกานท์มากนั่นเอง  กลัวตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้า ยิ่งเห็นหน้าก็ยังกลัวอยู่ ร่างกายจึงไม่สามารถต้านแรงใจได้..จึงเป็นเช่นนี้  ครูคงไม่ทราบว่าจริงๆแล้วอยากเรียนรู้กับครูมากที่สุด  นานมาแล้ว  จนกระทั่งครูหยิบยื่นโอกาสอันงดงามให้..ครูคะ เป็นความกลัวแต่ก็กล้าในการรับรู้ความรู้จากครูค่ะ..กลัวที่จะกล้า เพื่อเสาะหาความรู้พลัน..เพียงเพิ่มความเชื่อมั่น เส้นทางฝันนั้นเป็นจริง…ฉันจะกล้าที่จะก้าวต่อไป..

 

กล้าที่จะกลัว..

          บทชีวิตบทนี้..ยิ่งใหญ่ในความรู้สึกมาก ครูหยิบยื่นเสรีภาพในการเรียนรู้ให้ลูกศิษย์ทุกคนขึ้นอยู่ว่าใครจะรู้จักใช้เสรีภาพนี้ให้ตรงกับความหมายมากที่สุด  เสรีภาพในการไขว่คว้าหาความรู้  เรียนรู้ร่วมกลุ่มร่วมหมู่พวก  อยู่ในกฎเกณฑ์ ข้อตกลงที่สร้างขึ้น อยู่อย่างมีวินัย            ..ยอดเยี่ยมจริงกลวิธีสร้างคนดีของครูที่ฉันสัมผัสได้    แม้ว่าในบางครั้ง ฉันคิดว่าครูต้องกล้าเสี่ยงมากทีเดียวกับการสูญเสีย     เพื่อให้ศิษย์รักเดินทางสู่เป้าหมายได้สำเร็จ  โดยมีจิตสำนึกในความเป็นคนดีมากที่สุด   ครูให้ความสำคัญเรื่องความเกียจคร้านมาก ความเกียจคร้านเป็นศัตรูของความสำเร็จ    ครูบอกว่า “เจ้าความเกียจคร้านนั้น ตัวตนของมันค่อยๆสั่งสมจากพฤติกรรมหลีกหนีการปฏิบัติ  หนีความยาก หนีความลำบาก  หนีอารมณ์อันไม่พึงปรารถนา   โดยมันจะซุกแอบแฝงอยู่ในตัวเรานี่แหละ..เราจะต้องเอาชนะมันให้ได้   เพื่อการก้าวย่างได้อย่างภาคภูมิใจ

 

แกะใจ..อ่านชีวิตเขียนชีวิต

บทอ่านเขียนชีวิตบทนี้..เป็นยอดบทเรียน  ณ เกาะดอกไม้ ในทุ่งสักอาศรม   ครูสอนวิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการ  คิดแยบคายแยบยล  คิดสืบสาวหาเหตุ  ทุกคนต้องคิด คิด คิด  มองชีวิตแบบทะลุทะลวง  ไม่แตะๆเพียงผิวเผินเท่านั้น   เพราะชีวิตคือชีวิต    ฉันยอมรับว่าตลอดชีวิตของฉัน..ฉันเพิ่งพบวิธีการจัดการเรียนรู้ของครูกานท์ที่วิเศษสุด  ในภาคเช้าของวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๕๒ ตั้งแต่เก้าโมงเช้าจนถึงเที่ยงครึ่ง  ฉันและเพื่อนๆต้องค้น  ค้น และค้นหาคำตอบจากปริศนาชีวิตที่ครูกำหนดให้  ..สืบ  ค้น  หาคำตอบ เมื่อคิดว่าถูกแล้วนำมาบอกเล่าให้ครูฟัง  ครูกำหนดคะแนนให้เต็มสิบ ได้สิบเมื่อไหร่แสดงว่าค้นพบแล้ว “ปริศนาชีวิต  กลุ่มของฉันใช้เวลารวม ๓ ชั่วโมงกว่าในการเรียนรู้  เดินเข้าเดินออกในเกาะดอกไม้..เข้าไปค้นหาคำตอบแล้วออกมานั่งสานเสวนากัน  เมื่อรวมเป็นคำตอบของกลุ่มแล้วจึงไปพบครู  บอกเล่าให้ครูฟัง  รวม ๔ ครั้ง  ครั้งแรกได้ ๖ คะแนนครึ่ง  ครั้งที่สองได้เพิ่มอีก ๑ คะแนน เป็นเจ็ดคะแนนครึ่ง  ครั้งที่สามตอบได้ตรงประเด็นคะแนนพรวดขึ้นไปเป็น ๙ อีกหนึ่งคะแนนต้องไปเขียนชีวิต ถึงพบสัจธรรมของชีวิต..ขอไม่เฉลยนะคะ ครูขอสัญญาแล้วว่า การค้นพบชีวิตนั้นทุกคนต้องค้นเอง..เพื่อนๆที่สนใจตามไปทุ่งสักนะคะ..ไปหาครูแห่งชีวิต วิธีการแกะใจ..อ่านเขียนชีวิตของครูน่าทึ่งมากค่ะ

                                                            

                        

                            ..มุมหนึ่ง..ของปริศนาชีวิตบนเกาะดอกไม้

                               

  

ปณิธานใจ..ครูรากแก้วการอ่าน

          ยังจำภาพ...มวลรวมของเด็กไทยในวันนี้ของครู ..เกียจคร้าน หนักไม่เอาเบาไม่สู้ ชอบสบาย นิ่งใบ้  ไร้แก่นสาร กล้าในทางเสื่อม  เปราะบาง  อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้  ไม่รักการอ่าน  คิดไม่เป็น  หย่อนมารยาท ไร้รากวัฒนธรรม ฯลฯ ..ท้ายสุด ครูถามพอหรือยัง..ครูยังบอกอีกว่าสาเหตุน่ะหรือ อันดับหนึ่งคือครอบครัว..แตกแยก  เลี้ยงด้วยเงิน ปล่อยปละละเลย ไม่รักการอ่าน บริโภคนิยม เลี้ยงดูแบบผิดๆ..(เป็นความเจ็บปวดมากกว่าเสื้อเหลืองน้ำเงินแดงเสียอีก..จริงไหมล่ะคะ..)

          ดังนั้นบทอ่านเขียนชีวิต หนึ่งรากแก้วการอ่าน” เช่นฉัน ..ขอกำหนดเป็นปณิธานใจ ในการ “หยั่งรากให้ลึกที่สุดตราบทีมีแรงและลมหายใจ**   เพื่อแก้ไขมวลรวมของเด็กไทยในวันนี้ทุกประเด็น  โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้  และการสร้างนิสัยรักการอ่าน ดังบทกวีแสนงดงามของครูกานท์ที่เคารพยิ่ง..

                     รากไทรแผ่ปกพื้น          พสุธา

                     แก้วเกดกระดังงา           มิ่งไม้

                     การเวกสาลิกา              เกาะกิ่ง ก้านเอย

                          อ่านกาพย์กล่อมไม้ไหล้   เพราะพริ้งเพลินฟัง     

 

 

                   

 

 

ฉันจะไม่ลืม

..น้ำเสียงของครูที่หนักแน่นและมั่นคงยิ่งนัก...หลังจากพิธีบายศรีสู่ขวัญ ก่อนพิธีปิดค่าย..

 

อย่าเป็นศิษย์เป็นครูแค่มายา

อย่ากลับมาถ้าไม่รักการอ่าน

อย่าบอกว่ารู้จักครูกานท์

ถ้ามิกินจิตวิญญาณอ่านตัวเอง

 

                             ..ด้วยสัญญาใจค่ะ..

 

                         จะเป็นศิษย์ของครูทั้งหัวใจ

                         จะกลับไปด้วยใจรักการอ่าน

                         จะบอกว่าเป็นศิษย์(ดี)ของครูกานท์

                         ด้วยมีจิตวิญญาณอ่านตัวเอง..

              

                        

                                          

 

 

เพื่อนๆที่สนใจอ่านทั้ง ๔ บท ค่ะ..

๑.สู่..อาศรมร่มรัก   บทเริ่ม    http://gotoknow.org/blog/snauon/255164

๒.สู่..อาศรมร่มรัก   บทเรียน  http://gotoknow.org/blog/snauon/255623

๓.สู่..อาศรมร่มรัก   บทรู้       http://gotoknow.org/blog/snauon/256032

๔.สู่..อาศรมร่มรัก   บทชีวิต   http://gotoknow.org/blog/snauon/256869

สวัสดีค่ะ..

หมายเลขบันทึก: 256869เขียนเมื่อ 23 เมษายน 2009 08:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (20)

สวัสดีค่ะ

  • ความสำคัญและจิตวิญญาณของการอ่าน
  • พี่คิมเปิดเครื่องเจอ..บันทึกของน้อง
  • รีบมาทักทาย
  • กลัวจะลืมพี่สาวค่ะ
  • คิดถึงนะคะ

ฝากเพลงนี้ให้ครูอ้วนครับ

"ปั้นดินให้เป็นดาว"

ขอเป็นสิ่งแทนความสุข ฉ่ำเย็น ในวันทำงานวันนี้ครับ

 

แวะมาสวัสดีพี่ศน.อ้วน..

คิดถึงพี่นะคะ..^^

สวัสดีครับ ศน.อ้วนครับ

มารับทราบปณิธานใจ

ปัญหาครอบครัว..แตกแยก  ส่งผลถึงเด็ก ๆ

เลี้ยงด้วยเงิน ปล่อยปละละเลย ไม่รักการอ่าน บริโภคนิยม เลี้ยงดูแบบผิด ๆ ครับ

ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะ ศน.อ้วน

แวะมาเยี่ยมด้วยความคิดถึง เพลงเพราะมากค่ะ

ก้าวทุกย่างก้าว เราต้องก้าวอย่างมั่นคง

และไม่ลืมที่จะหันกลับมามองเส้นทางเดินนั้นด้วยความภาคภูมิใจ

เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ

สวัสดีค่ะศน.อ้วน คนเก่ง

กลัวจังค่ะ กลัวที่จะอ่านตัวเองแต่ก็กล้าที่จะเรียนรู้การอ่านชีวิต เขียนชีวิต  และก็บทกลอนของครูกานท์ บทนี้ไงคะ 

อย่าเป็นศิษย์เป็นครูแค่มายา

อย่ากลับมาถ้าไม่รักการอ่าน

อย่าบอกว่ารู้จักครูกานท์

ถ้ามิกินจิตวิญญาณอ่านตัวเอง

      เราต้องพยายามค่ะ

ด้วยรัก...พี่เหมียว

 

  • ธุ  พี่ ศน.อ้วนค่ะ..

ต้อมเป็นคนที่ขี้กลัว  กลัวไปหมด   จนบางทีก็ทำให้พลาดโอกาสดีๆ ไปมากมาย    กลัวที่จะก้าว..จริงๆ

สวัสดีค่ะ ศน.อ้วน

เมื่อวานครูเอกลับจากเขตพื้นที่ เกือบเที่ยงค่ะ เรียบร้อยค่ะ

เหลือแต่ทำเรื่องส่งวฐ.2  ค่ะ

ป้าเอื้องห้องอำนวยการเข้ามาทักครูเอ เลยนานค่ะ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดียามเช้าพี่คิมที่น่ารักค่ะ..

น่ารักสม่ำเสมอ

ใช่แล้วค่ะ..จิตวิญญาณของการอ่าน..

ครูรากแก้วการอ่านอย่างน้องก็จะพยายามอย่างที่สุดค่ะ

ที่จะพาเพื่อนๆครูและนักเรียนให้ก้าวไป..

ขอบคุณมากๆๆค่ะ

ครูตุ๊กค่ะ..

ภาพสวยจัง..ใช่เลยจ๊ะ..ความงดงามของชีวิต

ขอบคุณจ๊ะ

สวัสดีเจ้า..น้องเอก

ขอบคุณเจ้า กำนี้ดีแต้ๆ "ปั้นดินให้เป็นดาว"

คุณครูกานท์..เปิ้นกำลังปั้นเจ้า..ปั้นหลายก้อน

แล้วปี้อ้วนก่อเจื้อว่า..ดินแต่ละก้อนจะเป๋นดาวได้ตวยละ

อาจเจิดจรัสอยู่กลางฟ้า..แม้บางดวงจะอยู่เพียงขอบฟ้าเต้าอั้น

แต่ก่อเป๋น "ดาว" เหมือนกั๋น

ขอบคุณสำหรับความจุ้มเย็นตี้นำพามาหื้อปี้อ้วนเจ้า

น่าฮักแต้ๆ..น้องบ่าวคนเก่ง

อยู่ดีมีสุขนะเจ้า

 

น้องแอ๊วจ๋า..

คิดถึงเช่นกันค่ะ

พี่อ้วนไปไม่ถึงบ้านน้องแอ๊วซักกะที

ส่งใจไปแล้วนะคะ...

ขอบคุณค่ะ..สาวน้อย

มีความสุขกับงานก่อนเปิดภาคเรียนนะคะ

สวัสดีค่ะ..อาจารย์วัชรา

อาจารย์เห็นด้วยใช่ไหมคะ..สาเหตุที่ก่อเกิดมวลรวมของสภาพเด็กไทยวันนี้

เรามาช่วยกันคนละไม้คนละมือนะคะ..

เพื่อคุณภาพของชาติในวันข้างหน้า

ช่วยกันๆๆๆๆ..

ขอบคุณอาจารย์มากค่ะ

สวัสดีค่ะ..อาจารย์บิ๊กบุ๊ค

ขอบคุณสำหรับมิตรภาพและกำลังใจที่สวยงามค่ะ..

ใช่แล้วค่ะ..ก้าวไปๆๆ

ก้าว..พร้อมกับการทบทวน..และร่วมภาคภูมิใจในการก้าว

ศน.อ้วนจะพูดกับเพื่อนครูเสมอค่ะ

จะก้าวยาวก้าวสั้นใช่ปัญหา..ขอให้รักการก้าว..

และให้ทุกก้าว..เต็มเปี่ยมด้วยความมุ่งมั่น..ศรัทธา..

เป็นหนึ่งกำลังใจให้ อ.บิ๊กบุ๊คเช่นกันค่ะ

 

พี่เหมียวจ๋า..

สัญญาใจของน้องเจ้า..

จะเป็นศิษย์ของครูด้วยหัวใจ

จะกลับไปด้วยใจรักการอ่าน

จะบอกว่าเป็นศิษย์(ดี)ของครูกานท์

ด้วยมีจิตวิญญาณอ่านตัวเอง..(ทั้งชีวิต)

...เจ้าค่ะ..

ดีจัง..จะเอาไปเพิ่มในบันทึกด้วย..อิอิ

กึ๊ดเติงหาเจ้าๆๆๆๆ...

 

น้องต้อมจ๋า..

หลายครั้งเช่นกันค่ะ..ที่พี่อ้วนพลาดโอกาสดีๆของชีวิต

ที่เกิดจากสาเหตุ..ความกลัว..ความไม่กล้า..ความไม่มั่นใจ

พี่อ้วนขอนำคำพูดของครูกานท์มาบอกน้องต้อมนะจ๊ะ..

    ..ความเขินอาย  เกิดจากปมซ่อนเร้นบางอย่างที่ไม่อยากเปิดเผย  ปมซ่อนเร้นของการขาดประสบการณ์  ขาดความรู้  ขาดความเข้าใจที่ลึกซึ้งและกว้างขวางเพียงพอ  ปมอุปสรรคปัญหาและข้ออ่อนด้อยในตนเองของคุณ ฯลฯ

   ..ถ้าคุณต้องการชนะมัน  คุณจะต้องเปิดเผยมัน  เรียนรู้มัน  เข้าใจมันและหาวิธีกำจัดมัน  ความไม่กล้าและความไม่เชื่อมั่นก็คล้ายๆกันนั่นเอง  มันเกิดจากปมที่คุณขาดและซุกซ่อนไว้  วิธีกำจัดปมที่ดีที่สุด ก็คือ เร่งเติมเต็มสิ่งที่ขาดและบกพร่องนั้นเสีย..

อิอิ..พี่อ้วนก็พิมพ์ไป..เตือนตัวเองไปด้วยแหละค่ะ

เพราะพี่อ้วนก็ต้องแก้ไขตัวเองอยู่เช่นกัน

เหมือนกลัวครูกานท์ค่ะ..สั่นผับๆ ด้วยคิดอยู่เสมอว่าครูเก่งมาก เราพูดอะไร ทำอะไร จะผิดหมดหรือเปล่านะ  ครูจะว่าให้ไหมนะ  ครูจะตำหนิไหมนะ  แต่พอพี่อ้วนพยายามสร้างความเชื่อมั่นให้ตัวเอง จากวัน..เป็นสองวัน..ที่ค่าย ฯ ได้สัมผัส ได้เรียนรู้กับครูแล้วก็สบายใจเพิ่มมากขึ้น ยิ่งรู้ว่าครูใจดี ไม่ดุ  ก็มีความกล้าเพิ่มขึ้นค่ะ  กล้าจะเขียนความคิดของตัวเอง และกล้าที่จะไปบอกกล่าวต่อที่ประชุม ..อึมม์..ดีขึ้นจริงๆค่ะ

น้องต้อมลองนะคะ..

ตอนนี้พี่อ้วนก็กล้าแล้วค่ะ..กล้าที่จะก้าว

บนความมุ่งมั่น..ศรัทธา และความถูกต้อง

โห..คุยเสียยาวเลย..

น้องต้อมมีความสุขดีนะคะ..รักษาสุขภาพกาย+ใจด้วยนะคะ

ชุ่มฉ่ำๆ..เย็นๆ..ในการทำงานนะคะ (ท่ามกลางอากาศร้อนจัด)

ด้วยรัก..พี่อ้วน

ครูเอจ๋า..

ขอโทษจ๊ะ..วานนี้ที่ไม่ได้ดูแลสาวน้อยตลอด

เอาไว้ต่อไปในการทำงานหากติดขัดอะไร บอกศน.อ้วนนะจ๊ะ

ขอบคุณจ๊ะ..

ประทับใจมากค่ะ

ขอชื่นชมว่าเป็นบทความที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้ในมุมหนึ่งของสัจธรรมแห่งชีวิต ตั้งแต่ บทเริ่ม บทเรียน บทรู้ และบทชีวิต เป็นการถ่ายทอดภาษาที่ลึกซึ้ง กินใจ ทำให้ผู้อ่านคล้อยตามอารมณ์ของผู้เขียนที่เอ่อล้นด้วยความศรัทธา อ่านแล้วฮึกเหิมกับการหยั่งรากแก้วการอ่าน แต่บางครั้งก็กลัวที่จะกล้าเพราะรู้ว่าความเป็นจริงบางครั้งก็นำมาซึ่งความเจ็บปวด เพราะเราอ่านตัวเองแล้วรู้ว่าเราเป็นอย่างไร ...

เฮ้อ..แอบอิจฉา (อีกแล้ว)ที่ได้เห็นภาพสวยของครูตุ๊กแกกับศน.อ้วนค่ะ

และขอยืนยันว่าอยากเป็นลูกศิษย์ของครูกานท์เหมือนเดิมค่ะ

จาก น้องขวัญลินลดาเองค่ะ

สวัสดีค่ะ ครูอ้วน

      เรียกครูอ้วนดีกว่า (ขลังดี) เคยเห็นครูนานมาแล้วแต่ไม่รู้จัก มีเพื่อนครูภาษาไทยบอกกันว่า ศน.คนนี้เขี้ยวมาก สมัยส่งครูต้นแบบครั้งแรกๆแล้ว มาเห็นอีกครั้งเมื่อทางสำนักฯเชิญมาเป็นวิทยากรให้ครู ที่สำคัญในเว็บฯเขต 1 ก็เห็นลิงค์ของครูอ้วน ครานี้ได้เวลาแล้วจึงได้สมัครเป็นสมาชิก และอาจรบกวนบ้างเป็นครั้งคราว ชอบและศรัทธามากค่ะ

     "กาลครั้งหนึ่งแนวมาล้าน มีโสติงตึงหนั่ว ป่ำอยู่ในถ้วย..." จากครูคนเดียวกันที่ครูอ้วนพูดถึง  เคารพและนับถือ peepee

                              

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท