จากที่เคยอ่านบันทึก ส่งเสริมการเกษตรข้ามจังหวัด ของสิงห์ป่าสัก วันนี้ผมกลับเจอเหตุการณ์คล้าย ๆ กันจึงนำมาเล่าสู่กันฟังครับ
ได้รับการติดต่อ ประสาน มาจาก คุณนิมิตรชัย ชัชวาลย์ (คุณมิตร) หนุ่มใหญ่จากอำเภอพิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช ว่าสนใจจะมาศึกษาดูงานด้านการปลูกผัก ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่เขาปลูกเป็นอาชีพ มีที่ไหนบ้างพอจะอำนวยความสะดวกให้หน่อยได้หรือไม่ เขาบอกว่าเคยเข้าไปอ่านใน G2K ของหนุ่มร้อยเกาะ แล้วเห็นว่าเคยแนะนำเกษตรกร รายที่เด่น ๆ ไว้หลายราย
ผมเลยรับปากไว้ว่าจะประสานงานให้ จึงประสานไปยัง สำนักงานเกษตรอำเภอพุนพิน และพี่ยีน(คุณชาญณรงค์ พังงา)นักวิชาการผู้รับผิดชอบ ตำบลท่าข้าม พี่เขาได้กรุณานัดแนะกับเกษตรกรผู้ปลูกผักไว้ให้
วันที่ 19 ก.พ. 52 คุณมิตรพร้อมคณะ 5 คน ก็เดินทางมาจากจังหวัดนครศรีธรรมราช นัดพบกันที่สำนักงานเกษตรอำเภอพุนพิน ท่านเกษตรอำเภอ คุณสมชาย กะณะโกมล และทีมงานให้การต้อนรับและนำคณะไปที่ ศูนย์การเรียนรู้การเกษตรพอเพียงบ้านบางท่าข้าม หมู่ 3 ตำบลท่าข้าม ไปถึง พี่สมพล ไทยบุญรอด ตัวแทนกลุ่มผู้ปลูกผัก รอต้อนรับคณะอยู่แล้วและได้สาธยาย การดำเนินงานของกลุ่มให้ฟังซะยาวเลย
กลุ่มปลูกผักบ้าน บางท่าข้าม แห่งนี้ ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี (ห่างประมาณ 2 กิโลเมตร) มีสมาชิก กลุ่มประมาณ 50-60 ครอบครัว เมื่อก่อนเป็นชาวจังหวัดราชบุรี กันทั้งกลุ่ม ได้มาอยู่ที่นี่เมื่อ 20-30 ปี มาแล้ว ตอนมาใหม่ ๆ มาทำสวนส้ม ทำได้ 3-4 ปี พอเข้าฤดูฝน ตอนที่ยังไม่มี เขื่อนรัชชประภา น้ำมาท่วมสวนส้มเสียหายหมด กลับบ้านที่ราชบุรีก็ไม่ได้ เพราะขายที่ขายทางมาหมดแล้ว จึงต้องเปลี่ยนอาชีพ หันมาปลูกผัก เพราะจะหนีน้ำได้ ตั้งแต่มีเขื่อน น้ำก็ไม่ค่อยท่วมหนักๆแล้ว และประกอบกับมีถนนสายใหญ่ 4 เลน ตัดผ่าน ทำให้ชะลอน้ำไว้ได้เยอะ มีผลดีกับคนที่อยู่ด้านใต้ถนน แต่กับคนที่อยู่ด้านเหนือถนน ก็จะเจอกับน้ำที่ระบายไม่ทันเหมือนกัน
ในกลุ่มฯ มีพื้นที่รวมประมาณ 350 ไร่ พืชผักที่ปลูกคือ พริก (ยอดสน) คะน้า กวางตุ้ง ถั่วฝักยาว แตง ขายส่งที่ ตลาดโพธิ์หวาย ในตัวเมืองสุราษฎร์ และมีพ่อค้าคนกลางมารับไปส่งที่จังหวัดภูเก็ตบ้าง คุยได้สักพัก ท่านเกษตรอำเภอและพี่ยีน ขอตัวกลับเพราะมีภารกิจที่อำเภอ
จากนั้นก็เป็นเรื่องที่ผู้มาดูงานสนใจ คุณมิตรและคณะ ยิงคำถามเป็นชุด ๆ ในเรื่องที่เจอปัญหามาจากที่บ้าน และเรื่องที่สนใจเพิ่มเติม และชวนกันเดินเข้าไปในแปลงผัก คุยกันไปด้วย ดูของจริงไปด้วย
การตัดสินใจเลือกชนิดพืชผักที่จะปลูก ต้องดูตลาดเป็นหลัก วางแผนเรื่องน้ำ ทั้งขาดน้ำ และน้ำท่วม ต้องดูแลดินอย่างดี ปรับปรุงดิน การใส่ปุ๋ย การตากดิน การใส่โดโลไมท์ ถ้าให้ดีต้องเอาดินไปวิเคราะห์เพื่อจะได้เลือกใช้ปุ๋ยได้ถูกต้อง ไม่สิ้นเปลือง พืชผักเป็นพืชที่ทำเงินดี แต่ปลูกซ้ำแปลงไม่ได้ ต้องสลับ ด้วยพืชอื่น 1 ครั้งก่อน
คะน้ารายได้ต่อพื้นที่ ดีที่สุด ต้นทุน ประมาณ 15-20 % ของราคา มะระผลตอนแทนดีกว่าบวบ พืชที่ต้องใช้ค้าง ใช้ตาข่ายแทนค้าง จะให้ผลผลิตดีกว่า เช่นปลูกถั่วแล้วตามด้วยบวบได้ ที่กลุ่มทำพริกขายเมล็ดพันธุ์ด้วย(พริกแดง) ได้ราคาดีกว่าขายพริกเม็ดสด(พริกเขียว-แดง) 50 %
คุณนิมิตรชัย ชัชวาลย์
การปลูกผัก ปัจจัยสำคัญที่เข้ามาเกี่ยวข้องอีกอย่างหนึ่ง คือ ศัตรูพืช ซึ่งมีทั้งโรคและแมลง การจัดการศัตรูพืชเป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้ปลูกผักแต่ละครั้ง (รอบ/Crop) ประสบความสำเร็จ
- โรคเน่าคอดิน ต้องตากดินก่อนแล้วปรับปรุงด้วยโดโลไมท์
- แตงร้าน โรคราน้ำค้าง เพลี้ยไฟ เพลี้ยอ่อน ต้องใช้สารเคมีเข้าช่วยบ้าง
- มะระ มีแต่ยอดไม่มีลูก เป็นไวรัส ไอ้โต้ง มีเพลี้ยไฟ , ไรแดง เป็นพาหะ พบมากในขณะที่มีอากาศร้อนชื้น กึ่งฝนกึ่งแดด
- ถั่วฝักยาว หนอนเจาะดูด ทำให้ดอกร่วง ต้องป้องกันก่อนช่วงที่เป็นดอก โรคราสนิม ต้องตัดวงจรการปลูก
- พริก โรคกุ้งแห้ง ยังป้องกันไม่ได้ ต้องเตรียมดินดี ๆ บำรุงดิน
การปลูกพืชผักบางครั้งต้องใช้สารเคมีบ้าง เพื่อตัดวงจรของโรคและแมลง แต่ในการใช้สารเคมีนั้น ก็คำนึงถึง ความปลอดภัย ทั้งของผู้ผลิตและผู้บริโภค สภาพแวดล้อม และต้นทุนการผลิตด้วย ในแปลงผักที่นี่ มีความปลอดภัยพอสมควร เพราะยังมีหอยเชอรี่คลานและวางไข่ที่บริเวณร่องน้ำอยู่เลย
กลุ่มปลูกผักบ้านบางท่าข้ามนี้ เคยเป็นโรงเรียนเกษตรกรผักมาก่อน และร่วมกิจกรรมกับทางราชการมากมาย เป็นแปลงเกษตรอินทรีย์ แปลงพยากรณ์ศัตรูพืชผัก เป็นแปลงการเรียนรู้เรื่องการปรับปรุงดินของกรมพัฒนาที่ดิน พี่สมพลเป็นหมอดินอาสา เป็นประธานศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรตำบลท่าข้าม ช่วยเกื้อกูลงานของทางราชการมาตลอด พี่สมพลบอกว่า ต้องอาศัยทางราชการในการสนับสนุนกลุ่ม เช่น เงินทุนหมุนเวียน ที่ทำการกลุ่ม รถไถเตรียมดิน วัสดุปรับปรุงดิน วิชาการต่างๆ ทั้งจากส่วนราชการและ องค์การบริหารส่วนตำบล
คุยกันประมาณ 2 ชั่วโมง คุณมิตรและคณะคงจะเก็บข้อมูลได้มากพอสมควรตามที่ต้องการ จึงได้ขอบคุณและขอตัวกลับ ก่อนจะจากกัน พี่สมพลได้ฝากให้ผมช่วยประสานกับพ่อค้าให้มารับซื้อผลผลิตโดยตรงกับผู้ปลูกผัก เพื่อตัดวงจรพ่อค้าคนกลางให้สั้นลงบ้าง ผู้บริโภคจะได้ไม่ต้องซื้อผักราคาแพง และผู้ปลูกผักก็จะขายผักได้ราคาดีขึ้นบ้าง ผมก็ตกปากรับคำว่า จะประสานงานให้ เพราะว่า มีพรรคพวกที่รู้จักกับพ่อค้าที่ตลาดหัวอิฐ จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นตลาดกลางสินค้าของภาคใต้ แต่ไม่รู้ว่าจะได้ผลแค่ไหน
พี่สมพล ไทยบุญรอด
พี่สมพลบอกว่ายินดีแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับทุกท่าน และได้ให้เบอร์โทรศัพท์ไว้ด้วย 077-311055 ,086-5965211
เมื่อคุณมิตรกลับถึงบ้านตอนค่ำ ๆ ก็ได้โทรศัพท์มาขอบคุณผม และบอกว่าการดูงานวันนี้คุ้มค่าจริง ๆ ได้พบกับคัมภีร์การปลูกผักเล่มใหญ่เลย เพราะพี่สมพลเขาตอบข้อสงสัยของคณะได้ทุกอย่าง รู้เรื่องการปลูกผักละเอียดยิบ แถมยังแซวผมมาว่า นักวิชาการสู้พี่เขาได้หรือเปล่า ผมก็ต้องยอมรับว่า “ทฤษฎี ไหนจะสู้การปฏิบัติ” และหวังว่าจะได้ไปเยี่ยมแปลงผักที่ อำเภอพิปูน นครศรีธรรมราชบ้าง
...งานส่งเสริมการเกษตร เป็นงานบริการที่ไร้พรมแดน จริงๆ.. ครับ..
ชัยพร นุภักดิ์
สวัสดีท่านเกษตร “ทฤษฎี ไหนจะสู้การปฏิบัติ” สรุปได้ สั้น ง่าย ชัดเจน ครับ
สวัสดีครับ คุณ หนุ่ม กร~natadee
สวัสดีท่านเกษตร กลับมาอีกครั้ง การได้เรียนรู้กับ "ตัวจริง เสียงจริง " อย่างคุณสมพล ฯ ซึ่งมีความจริงใจที่จะถ่ายทอดความรู้ให้กับทุกๆคน น่าชื่นชมมาก ฝากขอบคุณและให้กำลังใจท่านด้วย ครับ
นักส่งเสริมเปลี่ยนบทบาทจากผู้แนะนำเป็นผุ้ประสานจริงๆ
แต่คำว่านักวิชาการยังค้ำคออยู่
ยังไงก็ต้อง..เรียนรู้อยู่ร่ำไป....
ขอบคุณมากครัย
สวัสดีครับพี่ เกษตรยะลา
สวัสดีครับ คุณถั่วเขียว
สวัสดีครับ อ.ขจิต ฝอยทอง
สวัสดีครับ อ. สิงห์ป่าสัก