Trip BackPacker@BK-Krabi เป็นทริปแรกของปี 2009 พอเหนื่อยก็หาที่พักเหนื่อย รอเครื่องไปกระบี่
คุณ Stargate บอกว่าไป Museum Siam ดิ ว่าแล้วเราก็แบกเป้ขึ้น แท็กซี่...อิอิ
บอกแท๊กซี่ว่าไป สยามมิวเซียม แท็กชี่งง...ขอเวลาโทรเช็กจุดที่ตั้ง แล้วหันมาออกตัวกับเราว่า ส่วนใหญ่ผู้โดยสารมักจะไปห้างกัน ไม่ค่อยมีใครมาพิพิธภัณฑ์กันหร๊อก อยากจะบอกแท็กซี่ว่า หันมาดูหน้าเราชัดๆ จะรู้ว่าเราหน่ะรุ่นไหน (ถึงชอบดูประวัติศาสตร์และของโบราณ)
สยามมิวเซียมตั้งอยู่ถนนสนามไชย ใกล้กับท่าเตียน ไปง่าย ใช้เส้นทางจากถนนราชดำเนินผ่านสนามหลวงหน้ากระทรวงกลาโหม สวนสราญรมย์จะอยู่ด้านซ้ายมือ จะเห็นป้ายบอกทางรูปคนสีแดง หรือ “คนกบแดง” สัญลักษณ์ที่ใช้แทนการค้นหาของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้
ไปตามถนนสนามไชยไปจะเห็นพิพิธภัณฑ์ซึ่งอยู่ด้านขวามือ ซึ่งใช้อาคารของกระทรวงพาณิชย์เดิม ตอนนี้ไม่เก็บค่าธรรมเนียม แต่พอวันที่ 2 เมษายน 2552 แล้วเห็นว่าจะเก็บค่าเข้าชม เด็ก 50 บาท ผู้ใหญ่ 100 บาท... (ยกเว้นเด็กต่ำกว่า 15 ปี, ผู้สูงอายุ และพระสงฆ์) สอบถามรายละเอียดที่ 02-225-2777 เปิด 10.00-18.00 น. จ้า
เอ๋?...ทำไมถึงมีคนกบแดง...อ่านเรื่องราวที่ http://www.ndmi.or.th/museums/toy_01.html
ห้องแสดงนิทรรศการมี 17 ห้อง ห้องแรกเป็นห้องเบิกโรง ที่นำเสนอด้วยภาพยนตร์สั้น เพื่อที่จะโยงใยให้ความเป็นไป เป็นมา จากดินแดนสุวรรณภูมิจนมาถึงปัจจุบัน ภาพสวยดีค่ะ แต่สำหรับเรา...คิดว่าเข้าใจยากหน่อย ก่อนเข้าชมจริงๆ เจ้าหน้าที่จะแจกเอสารแนะนำแผนที่ในการชมตามลำดับ พร้อมมีคำแนะนำสั้นๆ ทำให้สะดวกต่อการเรียนรู้มากยิ่งขึ้น
เรื่องราวให้ห้องนิทรรศการแสดงได้นำเสนอตั้งแต่โบราณกาล ยุคที่เชื่อในภูตผีปีศาจ จนถึงยุคเฟื่องฟู การค้าขายกับชาวต่างชาติ วัฒนธรรมที่ไหลบ่า ข้าวและการเกษตร พุทธศาสนา สงคราม...และโลกแห่งเทคโนโลยี
นอกจากนี้ยังมีการแสดงนิทรรศการชั่วคราว หมุนเวียนเปลี่ยนกันไป เพื่อให้ผู้เข้าชมรู้จักภูมิหลังของชนชาติไทยได้มากขึ้น ช่วงนี้จนถึงเดือนมิถุนายน 2552 จัดแสดงนิทรรศการชั่วคราวเรื่อง “ปริศนาแห่งลูกปัด” ดังสโลแกนที่ว่า “เห็นลูกปัด เห็นมนุษย์ เห็นสุวรรณภูมิ” งานนี้คนชอบลูกปัดพลาดไม่ได้
เหนื่อยและหิวจะก็มีมุมเล็กๆ ขายอาหาร ของว่างและกาแฟ Black Canyon มีร้านจำหน่ายของที่ระลึก และมีมุมสำหรับทำ Work shop ที่ไม่มีค่าใช้จ่าย วันที่เราไปเห็นสมาชิกชมรมพับกระดาษ มาแนะนำน้องๆ พับกระดาษเป็นรูปต่างๆ ได้อย่างน่ามหัศจรรย์
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เริ่มให้บริการมาตั้งแต่ปี 2551 มีชื่อจริงว่า สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (สพร.) หรือ "มิวเซียมสยาม" เป็นองค์การมหาชนสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ว่างๆ แวะไปเที่ยวสิคะ อย่าลืมพาลูกๆ หลานๆ ไปด้วยนะคะ ไม่น่าเบื่อเลย...รถตุ๊กๆ ก็ขึ้นไปขับได้ ได้ถ่ายรูปกับคุณสมบัติ เมทะนี ดารายอดนิยมด้วยหล่ะ พักเหนื่อยในคาเฟ่ได้อีก หรืออยากทำสมาธิก็เหมาะ ลองเขียนปากกาดิจิทัล ก็ In trend...ว่างแล้วแวะไปนะคะ
ขออนุญาต Link บทความน่าอ่านเกี่ยวกับลูกปัดไว้ที่นี่นะคะ
ลูกปัด:ของคุณนงลักษณ์ วิไลลักษณ์
และคุณเมฆินทร์ ลิขิตบุญฤทธิ์ เขียนเกี่ยวกับ การเป็นแหล่งเรียนรู้
ภาพสวยจังจ้ะ..พี่ตุ่น..
แอ๊วกะกิ๋ม..บ่นกันอยู่ว่า..น่าไปด้วยจังเนอะ..
อิจฉาจริง..จิ๊ง...
^^
ทริปหน้าจะส่งข่าว เก็บเงินไว้นะจ๊ะครูแอ๊ว
ทริปนี้จอง low cost ไว้
ถ้าไม่ชัวร์ ลาไม่ได้เสียเงินฟรี
เสียดายลูกปัดที่โชว์ไว้หายไปเยอะมากค่ะ ไปครั้งแรกเห็นเพียบ ตอนหลังถูกคนชอบสะสมช่วยกันหยิบไปเก็บที่บ้านเลยเหลือไม่มากเท่าเดิม
สวัสดีค่ะคุณ
บัวปริ่มน้ำ
ขอบคุณที่แวะมาทักทายค่ะ
สวัสดีค่ะ
ป้าจ๋า
แหม! ปั่นบันทึกใหม่ได้รวดเร็วทันใจจริงนะ วันหลังเราหาที่ไปกันอีกนะ
คุณStar Gate
สวัสดีค่ะ
หายเหนื่อยหรือยังค่ะ
ขอบคุณการถามไถ่ของคุณกระติกค่ะ
ไปเที่ยวไม่เหนื่อยค่ะ
แต่กลับมาทำงานเหนื่อยค่ะ
ตามมาดูว่าน้องตุ่นไปเห็นอะไรบ้าง อิ อิ ทันสมัยมากๆพี่ยังไม่ได้ไปพิพิธภัณฑ์นี้เลยค่ะ คงได้ไปสักวัน แบบว่าใกล้ไปหน่อยเลยยังไปไม่ถึง
คนใกล้ไปเมื่อไหร่ก็ได้ค่ะ
สำหรับคนไกล...ไปทั้งที...ขอแวะชมอะไรนิดๆ หน่อยบ้าง
มักอิจฉาคน กทม. ที่มีอะไรให้ดูมากมาย
ที่ชอบมากคือ พระที่นั่งวิมานเมฆ และวัดพระแก้ว...ดูเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อค่ะ
และชอบแฝงตัวไปกับคณะทัวร์...จะได้รู้ข้อมูลมากขึ้น