การพัฒนาการคิดคลี่คลายโดยวิธีทางศิลปะ เป็นหนทางที่ดีอย่างหนึ่งสำหรับการลองเปลี่ยนอริยาบทของชีวิตให้มาอยู่กับสุนทรียภาพ และงานศิลปะ
ลองเริ่มต้นจากการมองไปยังสิ่งที่เป็นธรรมชาติทั่วๆไป
มองให้เห็นโครงสร้างโดยรวม แล้วร่างภาพ จัดวางให้ลงตัว เลือกโครงสี เพื่อศึกษาด้วยการลงมือวาดภาพเหมือนจริงโดยละเอียด การเรียนรู้ทั้งหมดจะไปด้วยกัน คือ สมอง มือ สายตา และการหลอมรวมเป็นหนึ่งกับสภาพแวดล้อม
มองแบบแผนของภาพรวมแล้วร่างภาพ
ศึกษาโครงสีและแสงเงาในภาพรวม
มาถึงขั้นนี้แล้ว เราจะแตกฉาน เห็นแบบแผนของธรรมชาติและความเชื่อมโยง ประสานสอดคล้อง กลมกลืน หลายแง่มุม หลายลักษณะ ข้อมูลและประสบการณ์อันเข้มข้น จะสะท้อนสู่ภาวะภายใน มีความลึกซึ้ง แยบคาย เข้าใจและหยั่งถึงสิ่งที่เรียกว่าสุนทรียภาพ และมีสายตาเห็นโลกภายนอกในภาษาศิลปะได้ดียิ่งๆขึ้น
เห็นความเรียบง่าย และทดลองโครงสีและแบบแผนของเส้น ซึ่งสามารถหาลูกเล่น ออกแบบและลดทอนได้อย่างไม่จำกัด
เราจะเริ่มเข้าใจและเกิดภาพในความคิดได้ว่า คนทำงานศิลปะ และคนเขียนรูปที่เราเห็นภาพขั้นสุดท้ายของเขานั้น แท้จริงมีกระบวนการภายในเกิดขึ้นมากมาย อีกทั้งงานสร้างสรรค์ ที่สื่อสะท้อนสู่งานเขียน งานศิลปะ งานศิลปะประยุกต์ และงานกราฟิค รวมไปจนถึงงานศิลปะหัตถกรรม และการสื่อภาษาระดับต่างๆ ที่อยู่ในวิถีชีวิตชุมชน นั้น แท้จริงแล้วสะท้อนซึ่งกันและกันกับสังคมและถิ่นฐาน ของสังคมหนึ่งๆอย่างยิ่ง
เราจะเริ่มเข้าใจและพอจะเห็นเค้าเงื่อนว่า เมื่อสัมผัสกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ของสังคมและท้องถิ่นฟนึ่งๆแล้ว ทำไมมันเหมือนกับกับมีการสื่อและตอบโต้ ให้รู้สึกได้ถึงจิตวิญญาณและความจำเพาะตนของสังคมนั้นๆ ทำไมแผ่นดิน ต้นไม้ แม้น้ำ ภูเขา ของท้องถิ่นไทย เหมือนกับพูดไทยและร้องรำเป็นเพลงไทย และเมื่อไปสู่ถิ่นฐานอื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน
หากเห็นกระบวนการคลี่คลายอย่างนี้แล้ว จะเริ่มเข้าใจว่าสรรพสิ่งสะท้อนซึ่งกันและกัน และสิ่งสร้างสรรค์ต่างๆของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นศิลปะและอื่นๆ ล้วนมีที่มาครับ
รวมทั้งจะสามารถเห็น พลังศิลปะที่มีอยู่ในธรรมชาติ เข้าไปกล่อมเกลาการสร้างสรรค์ลีลา และความงดงาม ในสิ่งที่ปัจเจกและสังคมเป็นไปโดยธรรมชาติ ในกิจกรรมต่างๆของชีวิต ความงาม ความลงตัว ความพอดี ในการจัดสรรสรรพสิ่ง มีอยู่โดยธรรมชาติ
พลังความเป็นศิลปะมีอยู่โดยธรรมชาติ ทุกคนหยั่งถึงและสามารถเข้าถึง การเล่าและถ่ายทอดออกมาใหม่ด้วยภาษาการสร้างสรรค์ของเราเอง จึงทำให้เกิดงานศิลปะ ศิลปะจึงเป็นความเข้าใจและรู้สึกเชื่อมโยงถึงกันได้ระดับสำนึกและจิตวิญญาณ ข้ามพ้นภาษาถ้อยคำ และขอบเขตทางกายภาพของสังคม
เมื่ออ่านภาษาศิลปะในธรรมชาติออก การคลี่คลายและสร้างสรรค์ศิลปะออกมา ก็เป็นไปอย่างไม่จำกัด คุณค่าและความหมายของสิ่งต่างๆ ก็เพิ่มพูนมากยิ่งๆขึ้น ความอิ่มเต็มจากภายในมีโอกาสพัฒนา ความสมดุลระหว่างจิตใจและโลกทางวัตถุ มีความกลมกลืน พอเพียง ดีขึ้น
ลองจากสิ่งแวดล้อมและสภาพธรรมชาติ ให้เห็นว่าอยู่ตรงไหนและในอริยาบทไหน ก็มองให้เห็นความเป็นศิลปะได้แล้ว คราวนี้ลองฝึกฝนกับสิ่งรอบตัว เริ่มจากสัมผัสกับธรรมชาติความเป็นจริง เชื่อมโยงกับความเป็นจริงอย่างลึกซึ้ง อ่านธรรมชาติ เรียนรู้และสื่อสารกับภาษาธรรมชาติ
เริ่มเขียนภาพแบบเหมือนจริง เพื่ออยู่กับธรรมชาติภายนอก และพลังที่สื่อสะท้อนสู่ภายในตัวเราทุกทิศทุกทาง
หากเราทำวิจัยและเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งที่กำลังเรียนรู้ผ่านการวาดภาพและทำงานศิลปะด้วย กระบวนการทางความรู้ก็จะเข้ามามีส่วนร่วมในการวาดและสื่อสะท้อนลงไปในงาน พร้อมทั้งยิ่งเพิ่มความชัดแจ้งเมื่อเราเรียนรู้ผ่านการวาดของจริง
การเริ่มจากสังเกตอย่างลึกซึ้งจากธรรมชาติ แล้วก็วาดเก็บเนี๊ยบเพื่ออยู่กับสิ่งที่เห็นอย่างลึกซึ้ง ทำให้องค์รวมของการเรียนรู้และความกระจ่างแจ้งค่อยพัฒนาขึ้นภายในจิตใจของเรา ยิ่งไปก่วานั้น ความสำเร็จและการเห็นความก้าวหน้า ความงดงาม อย่างต่อเนื่อง จะทำให้เราเกิดพลังแห่งความอิ่มปีติ
รวมกันแล้วก็จะเป็นพลังแห่งความชัดแจ้ง เชื่อมมั่น เริ่มคิดพลิกแพลง คลี่คลายออกไปได้อย่างหลากหลาย ลองศึกษาโครงสี สัดส่วน ลีลาแสงเงาและเส้นอันเกิดจากแสงเงาและน้ำหนัก ยิ่งทำได้มากก็จะยิ่งแตกฉาย เห็นได้จากลีลาเส้น วิธีเลือกสี และการจัดวางองค์ประกอบต่างๆ
งานสร้างสรรค์ต่างๆ ที่คืนสู่ความเรียง่าย จะเป็นภาษาที่เรียบง่ายแต่เกิดจากการตกผลึก มีพลังการสื่อความเข้าใจ
รวมทั้งเมื่อนำไปใช้ในกิจวัตรประจำวันอื่นๆ ก็จะสะท้อนถึงภาษาของการเคลื่อนไหวออกจากภายใน
เห็นมาโดยลำดับอย่างนี้ เราก็จะเห็นความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันอย่างแนบแน่นระหว่างธรรมชาติ สังคม ถิ่นฐาน สิ่งแวดล้อม กับการสร้างสรรค์ของมนุษย์ รวมทั้งเห็นความเป็นภาวะเดียวกันของศิลปะและความงามในสรรพสิ่ง ในสิ่งที่ดูเหมือนแยกส่วนและแตกต่างกัน.
"ยิ้มบัว"
.
พินิจบัวพินิจบึงผลิยอดใบ
ค่อยแย้มดอกบอกใดในทุ่งท่า
พินิจเส้นแสงเงาจากราวฟ้า
จรดรอยตีนกาดวงหน้ายาย
.
จิตสงบนบบัวขึ้นเหนือเกล้า
ตักบาตรยามเช้ารับแดดฉาย
พลิ้วจีวรอ่อนเบาพริ้งเพรางาย
โลกระบายยิ้มชรางามกว่าบัว
.
ครูกานท์
ทุ่งสักอาศรม
สวัสดีครับอาจารย์ เป็นทรรศนะว่า มนุษย์กับการสะท้อนความงดงามออกจากจิตใจของมนุษย์ คือความงามและงามกว่าอื่นใด อย่างนั้นเลยนะครับเนี่ย
เข้ามาเก็บสิ่งที่ขาดหายไปครับอาจารย์
เมื่ออ่านภาษาศิลปะในธรรมชาติออก การคลี่คลายและสร้างสรรค์ศิลปะออกมา ก็เป็นไปอย่างไม่จำกัด คุณค่าและความหมายของสิ่งต่างๆ ก็เพิ่มพูนมากยิ่งๆขึ้น ความอิ่มเต็มจากภายในมีโอกาสพัฒนา ความสมดุลระหว่างจิตใจและโลกทางวัตถุ มีความกลมกลืน พอเพียง ดีขึ้น
อิ่มปิติยิ่ง
ขอบคุณครับ
ยินดีที่คุณอเนกเข้ามาอ่านและได้ในสิ่งที่สนใจนะครับ คุณอเนกมีพลังการทำงานอยู่ข้างในอยู่แล้ว อยากแนะนำว่า ไม่ต้องกังวลเรื่องการวาด การสร้างสรรค์งานศิลปะ เป็นมากกว่าการวาดรูป คุณมีสิ่งนี้อยู่นะครับ
เพราะฉนั้นต้องฝึกสื่อสารกับภายในตนเอง ฝึกที่จะเชื่อมโยงมันเข้ากับโลกภายนอก สะท้อนการเห็นแล้วก็ฝึกฝนการแสดงออกมาให้ได้อย่างใจ แล้วค่อยย้อนกลับมาสนใจเรื่องเทคนิคทางศิลปะทีหลังนะครับ อยากให้เห็นตัวอย่างงานโฟล์คอาร์ต ของคุณแม่ชุมสาย มีสมสืบ แม่ของศักดิ์สิริ มีสมสืบ ลองคลิ๊กไปดูนะครับ
ที่มา : จากเว็บศิษย์เก่าเพาะช่างhttp://www.pohchang.org/webboard/index.php?topic=1653.0
และถ้าหากเป็นนักอ่านด้วย ก็ลิ๊งค์หนังสือนี้ให้พัฒนาแนวคิดนะครับ ผมเขียนให้น้องๆ ที่เพาะช่าง อนุญาตให้เอาไปใช้อย่างไรก็ได้เลย
ที่มา : จากเว็บศิษย์เก่าเพาะช่าง
http://www.pohchang.org/webboard/index.php?topic=1102.0
ทำงานนะครับ ทำเลย ไม่ต้องตั้งความหวังอะไรหรอก ทำให้ได้ทำก็แล้วกัน
สวัสดีค่ะพี่ชาย
เป็นคนไม่มีหัว และไม่มีพรสวรรค์ ทางด้านวาดภาพระบายสีเลยค่ะแต่ชอบมากๆ
เห็นได้ถึงความงดงาม และความหมายของภาพวาดต่างๆ
นั่งมองด้วยความสนใจและพยายามแกะรอยจะเลียนแบบบางภาพค่ะ อิอิ..แบบครูพักลักจำ
ลิงค์ตามดูแล้วประทับใจทุกภาพเลยค่ะ เพลิดเพลินจนอยากแอบ Save ไว้
ขออนุญาตตรงนี้เลยได้ไหมคะ
เป็นสื่อตัวอย่างให้เด็กๆชั้นป.6 ได้ศึกษาหน่อยค่ะ
http://www.pantown.com/board.php?id=11476&area=4&name=board5&topic=94&action=view
http://www.pantown.com/board.php?id=11476&area=4&name=board5&topic=91&action=view
http://www.pantown.com/board.php?id=11476&area=4&name=board5&topic=92&action=view
http://www.oknation.net/blog/moy
http://www.oknation.net/blog/silpa
น่าชื่นชมและขอให้กำลังใจนะครับ
น่าสนใจคะการพัฒนาความคิดโดยอาศัยศิลปะ
บางท่านก็ใช้วิธีการอื่นๆนะคะเช่นงานปั้นคะ
น่าสนใจคะการพัฒนาความคิดโดยอาศัยศิลปะ
บางท่านก็ใช้วิธีการอื่นๆนะคะเช่นงานปั้นคะ
ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะทั้งคำชมและอีกหนึ่งกำลังใจที่ที่พี่ชายมอบให้
ในชีวิตวัยเรียนลำบากมากค่ะ พ่อแม่ส่งลูกเรียนถึง 5 คน เป็นพี่สาวคนโตด้วยค่ะ
กว่าจะได้เรียนจนจบอนุปริญญาต้องแลกมาด้วยน้ำตาเพราะฐานะทางบ้านไม่เอื้ออำนวย เลยทำให้เป็นคนค่อนข้างจะแกร่ง และอดทนพอสมควรค่ะ
พ่อแม่ยื่นจอบ เสียม และปากกาให้ลูกทั้ง 5 คน สิ่งใดที่ชอบก็เลือกเอา
กว่าจะก้าวมาถึงวันนี้ก็นับว่าเหนื่อยอยู่เหมือนกันค่ะจับพร้อมกันสามอย่างเลย
และสิ่งที่ลูกทั้งหมดเลือกจับปากกา ก็ทำให้ก้าวเดินมาได้จนถึงทุกวันนี้ค่ะ
สิ่งที่อยากทำให้เด็กๆก็เพราะเคยได้รับโอกาสดีๆมาจากอาจารย์ในสมัยเรียน และอีกอย่างหนึ่งอยู่กับเด็กๆแล้วสบายใจค่ะ เติมเต็มในสิ่งที่เขาไม่ได้ และทำให้เขามีความสุขกับการเรียน เราก็มีความสุขไปด้วย ไม่บั่นทอนจิตใจกันทั้งครูและเด็กค่ะ
ทั้งหมดต้องยกความดีให้กับพ่อและแม่ พระในบ้านที่อบรมสั่งสอนและเป็นกำลังใจให้ลูกๆมาตลอด แต่ตอนนี้ไม่มีแม่แล้วค่ะ
ลองตามไปดูครอบครัวของน้อง ที่นี่ นะคะ
เก็บภาพความสุขของเด็กๆมาฝากค่ะ
กระป๋องออมสินจากไม้ไผ่
กิจกรรม คุณธรรมนำความรู้สู่เศรษฐกิจพอเพียงพอเพียง
สวัสดีครับ อาจารย์...
มาถึงขั้นนี้แล้ว เราจะแตกฉาน เห็นแบบแผนของธรรมชาติและความเชื่อมโยง ประสานสอดคล้อง กลมกลืน หลายแง่มุม หลายลักษณะ ข้อมูลและประสบการณ์อันเข้มข้น จะสะท้อนสู่ภาวะภายใน มีความลึกซึ้ง แยบคาย เข้าใจและหยั่งถึงสิ่งที่เรียกว่าสุนทรียภาพ และมีสายตาเห็นโลกภายนอกในภาษาศิลปะได้ดียิ่งๆขึ้น
ขอบคุณมากค่ะสำหรับแนวคิดงานศิลป์ที่ generate ไปสู่การ transform เรียนรู้สู่ภายในตัวเราเอง..ขอฝากตัวเป็นสมาชิกประจำ blog ของอาจารย์นะคะ..
..พี่ได้ถ่ายภาพ แสงเงาใต้ใบบัวยามบ่ายที่หน้าบ้าน เพื่อประกอบบันทึกนี้ค่ะ :
http://gotoknow.org/blog/nongnarts/290868
สวัสดีครับคุณพี่นงนาท สนธิสุวรรณ ครับ
สวัสดีครับคุณณัฐรดาครับ
เรียนท่านอ.
อ่านสองรอบแล้ว ประทับใจมากค่ะ
รู้สึกว่าตัวเองเข้าใจงานศิลปะมากขึ้น
แต่ก็ได้เพียงความรู้สึกเหมือนเข้าใจ
สงสัยต้องขออนุญาตprintออกมาอ่าน
ค่อยๆคลำตามตัวอักษร
อิอิ ไม่อยากบอกเลยว่าทำไมถึงต้องอ่านให้มันทะลุ
ก็ปีนี้เขากำหนดให้สอนศิลปะ นาฎศิลป์ และดนตรีรวม 4 ห้อง
ครูต้อยขอสารภาพว่าใช้บันทึกของท่านอ.นี่แหละ เรียนรู้ทั้งศาสตร์ และศิลป์
บันทึกพัฒนาการคิดคลี่คลายโดยวิธีทางศิลปะ
กลับช่วยให้ตัวเองรู้สึกดีมากๆค่ะ
และมองเห็นแนวทางที่จะพัฒนาความคิดเด็กน้อยบ้างแล้ว
ขอบคุณค่ะ
วันนี้ ๗ มกราคม เป็นวันเกิดเพาะช่าง
ขอน้อมบูชาพระวิษณุกรรม เทพและครูแห่งช่าง
ขอน้อมคารวะบูชาดวงวิญญาณศาสตราจารย์ประกิต(จิตร) บัวบุศก์
กราบคารวะครูเพาะช่างทุกท่าน
ขอน้อมรำลึกพี่ๆเพื่อนๆและน้องๆชาวศิลปหัตถกรรมราชบุรี
และคนทำงานศิลปะทุกคน