หัดคิดอย่างโค
เครื่องมือในการบริหารในโลกยุคปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก ผู้บริหารหลายคนตามไล่เรียนแทบจะไม่ทัน
เชื่อหรือไม่ว่า หลายคนกำลังคร่ำเคร่งกับ เรื่อง Core competency โดยคิดว่า มันใหม่ มันดี มันเท่ห์ สะเหลือเกิน แต่ จริงๆแล้ว ก็เป็นเครื่องมือระดับ mainstream แก้ปัญหาในระดับกลางๆ ไม่ลึกซึ้ง มีมานานแล้ว ใช้กันมาแล้วไม่ต่ำกว่า 18 ปีในต่างประเทศ แต่ เรื่อง Core competency นี้ ก็ยังดีกว่า เรื่องเดิมๆ การทำ positioning สินค้าแบบเดิมๆ หรือ การทำ มหาวิทยาลัยในองค์กร ก็ฟังดูทันสมัย แต่ก็ยังเป็นระดับ mainstream แต่ก็อีกนั่นแหละ ก็ยังดีกว่าพวกเปลือกๆ อย่าง การใช้การอบรมตามแผน อบรมในห้องเรียน (conventional learning) งานบุคคลแบบโรงเรียนในระบบ ซึ่งจัดว่าเป็น downstream คือ ต่ำกว่า ตื้นกว่า เปลือกนอกกว่าพวก mainstream
หลายคน กำลังทำ Lean manufacturing กำลังทำ Six Sigma กำลังทำ MBWA (Management by walking around) ก็คงคิดว่า ใหม่มาก สะใจ แก้ปัญหาได้ ซึ่งจัดว่าเป็นแค่ระดับ mainstream
การบริหารระดับ Upstream เป็นอะไร ที่ลงลึก เจาะเข้าถึงระดับใจ ระดับก้นบึ้งของต้นตอปัญหา เช่น ก่อนที่จะแก้ปัญหาใด เราก็ควรพิจารณา ว่า เราเคยเห็นตัวเราหรือเปล่า เรานั่นแหละอาจจะเป็นตัวปัญหา ตัวสร้างปัญหา
การที่เอาคนมีปัญหา (ตัวเรา) ไปแก้ปัญหา ทำอย่างไร ก็แก้ปัญหาไม่ได้ มีแต่จะสร้างปัญหาเพิ่ม
การโทษคนอื่น การพยายามเอาเครื่องมือบริหารใหม่ๆ ระดับเปลือก ระดับกระพี้ มาแก้ปัญหา อาจจะแก้ปัญหาไม่ได้ แถมยังวุ่นวายกว่าเก่า เช่น ทำ BSC / KPI อาจจะดูดี แต่ ถ้าทำ BSC/KPI ไม่เป็น คือ ทำแบบไม่เข้าใจตนเอง ไม่เข้าใจโลก ไม่เห็นสันดานตนเอง ฯลฯ เราก็มักจะพลาดไปทำแบบไม่ Co-inspiration ไม่ Co-creation ไม่ Co-owner ไม่Co-responsibility
หัดคิดอย่างโค คือ การคิดแบบ Theory U นั่นเอง เป็นเครื่องมือบริหาระดับ Upstream
บ่อยครั้ง ที่เรามักตำหนิ ผู้บริหารระดับสูง ว่าไม่ดี ไม่ช่วย เห็นแก่ตัว ฯลฯ เชื่อหรือไม่ว่า เรายิ่งตำหนิมากเท่าไร เรายิ่งเพาะความเกลียดชังมากขึ้น จุดดำในใจเราก็ดำมากขึ้น นี่แหละ ที่ทำให้เรา กลายเป็นตัวปัญหามากขึ้น
ลองมองแง่บวก มองเจ้านายของเราใหม่
ลองสุนทรียสนทนา (dialogue) กับเจ้านายมากขึ้น ใช้หลักการ “ยิงคำถาม กระตุ้นต่อมคิด” ให้มากขึ้น ลอง “หาจุดร่วม (co-initiating) สงวนจุดต่าง”
ลอง “คิดต่าง ไม่ใช่ศัตรู คิดต่าง ไม่ใช่ต่อต้าน … คิดต่าง คือ โอกาสสำหรับนวตกรรม”
ลองดูนะครับ พอ co-initiating ได้แล้ว ก็จะเข้าสู่ โค ตัวต่อไป คือ Co-sensing และ ลงไปสู่ Co-presencing ซึ่งก็คือ ก้นบึ้งของ วิถียู นั่นเอง
ใครคือข้า...ข้าคือใคร
ข้ามาจากที่ไหน...แล้วข้าจะไปที่ใด
?????.....?????
"ก่อนเกิดใครคือข้า เกิดมาแล้วข้าคือใคร" วลีเด็ด ที่ พระอาจารย์ของพระอาจารย์ตั๊กม้อ ตั้งเป็นคำถามป่วน ให้ เจ้าชาย (อดีตพระอาจารย์ตั๊กม้อ) ขบคิด จนต้อง ออกบวช เพื่อแสวงหา คำตอบนี้
สุดยอดท่านไร้กรอบ คิดแบบCo แบบมีเป้าหมาย
บ่อยครั้ง ที่เรามักตำหนิ ผู้บริหารระดับสูง ว่าไม่ดี ไม่ช่วย เห็นแก่ตัว ฯลฯ เชื่อหรือไม่ว่า เรายิ่งตำหนิมากเท่าไร เรายิ่งเพาะความเกลียดชังมากขึ้น จุดดำในใจเราก็ดำมากขึ้น นี่แหละ ที่ทำให้เรา กลายเป็นตัวปัญหามากขึ้น
ขอบคุณครับอาจารย์
นึกถึงคำนี้เลยครับ..."ฉันหรือเธอที่เปลี๊ยนไป"
จากเดิม
จากนี้ไป
ขอบคุณอาจารย์ที่ให้สติเรื่องโทษเจ้านายค่ะ มองดูตัวเองบ่อยๆก็จะโทษนายน้อยลงเอง
Our bottom line ของเรา ที่ลงมาเกิดเป็นคน
คือ มองย้อนเข้าไปศึกษาภายในใจของเรา เก็บแต้ม "สติ" ให้มากๆๆๆ จนเป็น "มหาสติ"