โคเลสเตอรอล


วิธีการในการลดโคเลสเตอรอลตัวร้ายนั้น ไม่ยากเลย เพราะเป็นสิ่งที่หาได้ง่ายตามธรรมชาติ ไม่ยุ่งยาก และใช้เวลาไม่มากนัก และที่สำคัญจะต้องมีการเลือกรับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ และมีคุณค่าทางโภชนาการร่วมด้วย เพียงเท่านี้ปัญหาต่างๆที่เกี่ยวข้องกับหัวใจและหลอดเลือดก็ลืมไปได้เลย

หลังจากผลการตรวจสุขภาพประจำปีของเพื่อน ๆ ชาวสำนักหอสมุด ผลปรากฏว่ามีโคเลสเตอรอลสูงกันมาก  โคเลสเตอรอล (cholesterol) เป็นไขมันชนิดหนึ่ง ที่ร่างกายใช้สร้างเป็นเยื่อบุเซลล์ สร้างเป็นฉนวนหุ้มเส้นประสาท สร้างฮอร์โมนต่างๆ ที่สำคัญคือฮอร์โมนเพศ นอกจากนี้ ยังใช้สร้างเกลือน้ำดี ซึ่งช่วยในการย่อยอาหาร ตับจะส่งโคเลสเตอรอล ไปสู่เนื้อเยื่ออื่นๆ ของร่างกาย โดยส่งรวมกับกรดไขมัน และไลโพโปรตีนที่มีความหนาแน่นต่ำมากเรียก วีแอลดีแอล (VLDL) ซึ่งสร้างจากตับ เมื่อวีแอลดีแอลส่งกรดไขมัน ไปให้เนื้อเยื่อไขมันแล้ว ตัวมันเองจะมีความหนาแน่นมากขึ้น กลายเป็นไลโพโปรตีนที่มีความหนาแน่นต่ำ เรียกว่า แอลดีแอล(LDL) ซึ่งมีโคเลสเตอรอลเกาะอยู่ เนื้อเยื่ออื่นๆ ของร่างกายจะรับโคเลสเตอรอลไปได้ ต้องมีตัวรับแอลดีแอล (LDL receptor) จากนั้นแอลดีแอล จะถูกพาเข้าเซลล์ แล้วถูกย่อยสลาย เซลล์จะนำโคเลสเตอรอลไปใช้สร้าง หรือซ่อมแซมเยื่อเซลล์ของเนื้อเยื่อนั้น เอสดีแอล (HDL) ทำหน้าที่ตรงกันข้ามกับแอลดีแอล คือ ขนส่งโคเลสเตอรอล ที่มากเกินพอในเซลล์กลับไปยังตับเมื่อท่านไปรับการ ตรวจเลือดเพื่อดูระดับโคเลสเตอรอลในเลือด ค่าโคเลสเตอรอลที่ตรวจวัด ได้จะเป็นผลรวม ของโคเลสเตอรอลที่ได้มาจากแอล ดี แอล โคเลสเตอรอล, เอช ดี แอล โคเลสเตอรอล และวี แอล ดี แอล โคเลสเตอรอล

 

โคเลสเตอรอลรวม = (LDL-C)+(HDL-C)+(VLDL-C)

(หน่วยที่ได้คือมิลลิกรัม/เดซิลิตร)

 

ในคนที่มีระดับไขมันในเลือดปกติร้อยละ 70 ของโคเลสเตอรอลที่วัดได้จะมาจาก แอล ดี แอล และร้อยละ 17 มาจากเอช ดี แอล ดังนั้นส่วนใหญ่ของผู้ที่มีระดับโคเลสเตอรอลสูงจะเกิดจากการที่มีแอล ดี แอล โคเลสเตอรอลสูง อย่างไรก็ตามผู้ที่มีระดับเอช ดี แอล โคเลสเตอรอลสูงมากก็สามารถทำ ให้ระดับโคเลสเตอรอลรวมสูงได้เช่นกัน

 

แอล ดี แอล โคเลสเตอรอลสูง เป็นไขมันที่เป็นต้นเหตุ และตัวการที่สำคัญที่สุดของโรคหลอดเลือดแดงตีบตัน ระดับแอล ดี แอล โคเลสเตอรอลในเลือดสูงมีความสัมพันธ์กับการ เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน และหลอดเลือดสมองตีบตันฺ

  

โคเลสเตอรอล : สาเหตุสำคัญของโรคหัวใจขาดเลือด

 

ในปัจจุบันโรคหัวใจขาดเลือดเป็นสาเหตุของการตายอันดับต้นๆของคนไทย ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญคือ ภาวะไขมันในเลือดสูง ความดันสูง และการสูบบุหรี่ ซึ่งทั้งหมดเป็นปัจจัยที่ท่าน สามารถควบคุมได้ปรกติหลอดเลือดจะมีผิวเรียบลื่นสม่ำเสมอ แต่เมื่อมี แอล ดี แอล โคเลสเตอรอลมาจับที่ผนังหลอดเลือดจนพอกหนา เรียกส่วนนี้ว่า พลัค (plaque) การก่อตัวของพลัคทำให้หลอดเลือดตีบลง เกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง(atherosclerosis) ดังนั้นหัวใจจึงต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อดันให้เลือดเคลื่อนที่ผ่านไปได้ พลัคสามารถขวางกั้นระบบไหลเวียนเลือดในเส้นเลือด เมื่อเป็นมากขึ้น เลือดจะไหลผ่านไม่ดี เกิดเป็นก้อนอุดตันได้ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือด(coronary heart discase)

 

คนที่มีระดับโคเลสเตอรอลในเลือดสูงเกินกว่า 260 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร จะมีอุบัติการณ์ของโรคหัวใจขาดเลือดสูงกว่าคนที่มีระดับโคเลสเตอรอลในเลือดน้อยกว่า 200 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ประมาณ 3-5 เท่า การที่มีระดับโคเลสเตอรอลรวม(total cholesterol) ในเลือดสูง ส่วนใหญ่เกิดจากการมีระดับแอลดีแอลโคเลสเตอรอลสูง(LDL-C)

 

การมีระดับแอลดีแอลโคเลสเตอรอลมากกว่า 130 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร จัดเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของการเกิดภาวะหลอดเลือดแข็ง เราจึงถือว่า แอลดีแอลโคเลสเตอรอลเป็น โคเลสเตอรอลเลว ส่วนเอชดีแอลโคเลสเตอรอลเป็น โคเลสเตอรอลดี เพราะทำหน้าที่ขนถ่าย โคเลสเตอรอลจากผนังหลอดเลือดแดง ที่แอลดีแอลไปปล่อยไว้ กลับคืนสู่ตับ ซึ่งตับจะเผาผลาญโคเลสเตอรอลเป็นน้ำดี แล้วขับออกจากร่างกายทางอุจจาระ

 

เรายังพบว่า คนที่มีปริมาณระดับเอชดีแอลโคเลสเตอรอล(HDL-C)น้อยกว่า 35 มก./ดล. จะมีโอกาสเป็นโรคหัวใจขาดเลือดมากกว่าคนที่มีเอชดีแอลโคเลสเตอรอลสูง

 

สำหรับการเตรียมตัวก่อนเจาะเลือด ส่วนมากแพทย์จะนัดเจาะเลือดในตอนเช้า ท่านต้องอดอาหาร ก่อนตรวจไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง

โดยหลัง 20.00 น. ของคืนก่อนตรวจ ท่านต้องไม่กินอาหารอะไรอีกยกเว้นน้ำเปล่าที่ดื่มได้

 

ป้องกันโคเลสเตอรอลสูง

      วิธีป้องกันไม่ให้เกิดปริมาณโคเลสเตอรอลสูงในเลือดได้อย่างไร เพราะสุดท้ายแล้ว อาหารคือตัวเรา กินโคเลสเตอรอลไม่เกินวันละ 300 มิลลิกรัม ทำได้โดยลดหรือเลิกกินอาหารที่มีโคเลสเตอรอลสูง โดยเฉพาะเครื่องในสัตว์ สมองหมู หนังสัตว์ เช่น หนังไก่ หนังเป็ด หนังหมู ไข่แดง(ไข่ขาวไม่มีโคเลสเตอรอล) ไข่ปลา ปลาหมึก หอยนางรม เป็นต้น เลือกกินเฉพาะเนื้อปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน นมพร่องไขมัน ใช้น้ำมันพืชปรุงอาหาร ไม่ควรกินอาหารทอดเป็นประจำ เช่นกล้วยแขก ปลาท่องโก๋ ไก่ทอด รวมทั้งแกงกะทิด้วย

 

ข้อมูลบางส่วนจาก http://www.bpl.co.th/knowledge_choles_cholesterol.html

หมายเลขบันทึก: 209583เขียนเมื่อ 17 กันยายน 2008 23:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:34 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

พอดีตื่นมาทำงาน

เลยแวะมาอ่านและทักทายค่ะ

ขอบคุณค่ะ

สุขภาพแข็งแรง  นะคะ

  • ธุ  พี่ไข่ค่ะ..

ที่ห้ามๆ มานั่น  ของโปรดต้อมทั้งนั้น  T_T

<< สวัสดีค่ะ

<< สุขภาพกายจะดีได้ ต้องมาจากสุขภาพใจที่ดีด้วยค่ะ

<< เป็นกำลังใจให้ค่ะ

โอ คุณสายธารตื่นเช้าม๊าก มาก

ขอบคุณครับที่มากทักทายแต่หัววัน

ปัจจุบันคนเราไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย ทำให้เป็นโคเลสเตอรอลสูงกันมาก

ขอให้มีความสุข สมหวังครับ

คุณไข่คะ

  • เดี่ยวนี้พี่ออกกำลังแล้วนะ กลับบ้านหลังหกโมงทุกวันเลย
  • ทำตามเอกสารที่ส่งให้เลยล่ะ
  • จะเป็นคนใหม่ในแปดสัปดาห์ เพราะเจ้าตัวโคเลสเตอรอลนี้แท้เชียว มาลุ้นกันค่ะ ^^

น้องต้อมครับ

นั่นแหละตัวร้ายของที่ห้าม เรากลับชอบ

แต่ก็ต้องระวังเอาไว้นะครับ ไม่ทานมาก

ทานพอหายยากก็พอ

ที่สำคัญต้องออกกำลังกายด้วยนะ

คุณพลังครับ

สุขภาพกายที่แข็งแรง ส่งผลให้สุขภาพจิตดีไปด้วย

ขอบคุณครับ

  • ขอบคุณข้อมูลดีๆ ค่ะ
  • เอ้อ .... กำลังจัดการและควบคุมคอเรสเตอรอลอย่างหนักอยู่ค่ะ
  • แต่วันนี้ขอทานไข่ลูกเขยสักครั้งค่ะ

พี่ดาวฯ ครับ

ตั้งแต่รู้ว่ามีโคเลสเตอรอลสูง นี่ได้เริ่มต้นออกกำลังอีกครั้งอย่างจริง ๆจัง ๆ นี่ก็ได้เดือนกว่าแล้ว

ที่สำคัญทำให้ความดันโลหิตที่เริ่มสูงลดลงเป็นปกติอีกครั้ง

ตอนนี้ต้องหาเวลาออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อยวันละครึ่งชั่วโมง

คุณ Bright Lily

ทานไข่ลูกเขยแล้ว อย่าลืมออกกำลังกายนะครับ

การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอช่วยลดโคเสลเตอรอลได้ครับ

แล้ว "น้ำมันพืช" ชนิดไหนให้ HDL-C มากล่ะคะ แล้วที่เค้าพูดกันว่าไขมันปลาเป็น Cholesterol ดี หมายความว่าไขมันปลาให้ HDL-C ทั้งหมดเลยเหรอคะ และก็แสดงว่าไขมันปลาไม่มี LDL-C ใช่ไหมคะ สงสัยมากๆ เลยค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท