ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง (Transformational
leadership)
หมายถึง
รูปแบบของผู้นำที่แสดงออกโดยมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงทัศนคติและสมมุติฐานของสมาชิกในองค์การ
และสร้างความผูกพันในการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์และกลยุทธ์ขององค์การ
โดยการเปลี่ยนสภาพหรือเปลี่ยนแปลงความพยายามของผู้ร่วมงานให้สูงขึ้นกว่าความพยายามที่คาดหวัง
พัฒนาความสามารถของผู้ร่วมงานไปสู่ระดับที่สูงขึ้นและมีศักยภาพมากขึ้น
ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง เป็นกระบวนการที่ผู้นำมีอิทธิพลต่อผู้ร่วมงานและผู้ตามโดยเปลี่ยนแปลงความพยายามของผู้ร่วมงานและผู้ตามให้สูงขึ้นกว่าความพยายามที่คาดหวัง พัฒนาความสามารถของผู้ร่วมงานและผู้ตามไปสู่ระดับที่สูงขึ้นและศักยภาพมากขึ้น ทำให้เกิดการตระหนักรู้ในภารกิจและวิสัยทัศน์ของทีมและขององค์การ จูงใจให้ผู้ร่วมงานและผู้ตามมองให้ไกลเกินกว่าความสนใจของพวกเขาไปสู่ประโยชน์ของกลุ่มองค์การหรือสังคม ซึ่งกระบวนการที่ผู้นำมีอิทธิพลต่อผู้ร่วมงานหรือผู้ตามนี้ จะกระทำโดยผ่านองค์ประกอบพฤติกรรมเฉพาะ 4 ประการของภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง หรือที่เรียกว่า “4I’s” (Four I’s) คือ
1.1
การมีอิทธิพลอย่างมีอุดมการณ์ (Idealized Influence หรือ
Charisma Leadership :
II หรือ CL)
หมายถึง
การที่ผู้นำประพฤติตัวเป็นแบบอย่าง
หรือเป็นโมเดลสำหรับผู้ตาม ผู้นำจะเป็นที่ยกย่อง เคารพนับถือ ศรัทธา ไว้วางใจ
และทำให้ผู้ตามเกิดความภาคภูมิใจเมื่อร่วมงานกัน
ผู้ตามจะพยายามประพฤติปฏิบัติเหมือนกับผู้นำและต้องการเลียนแบบผู้นำของเขา
สิ่งที่ผู้นำต้องปฏิบัติเพื่อบรรลุถึงคุณลักษณะนี้ คือ
ผู้นำจะต้องมีวิสัยทัศน์และสามารถถ่ายทอดไปยังผู้ตาม
ผู้นำจะมีความสม่ำเสมอมากกว่าการเอาแต่อารมณ์
สามารถควบคุมอารมณ์ได้ในสถานการณ์วิกฤต
ผู้นำเป็นผู้ที่ไว้ใจได้ว่าจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง
ผู้นำจะเป็นผู้ที่มีศีลธรรมและมีจริยธรรมสูง
ผู้นำจะหลีกเลี่ยงที่จะใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน
แต่จะประพฤติตนเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้อื่นและเพื่อประโยชน์ของกลุ่ม
ผู้นำจะแสดงให้เห็นถึงความเฉลียวฉลาด ความมีสมรรถภาพ ความตั้งใจ การเชื่อมั่นในตนเอง
ความแน่วแน่ในอุดมการณ์
ความเชื่อและค่านิยมของเขา
ผู้นำจะเสริมความภาคภูมิใจ ความจงรักภักดี
และความมั่นใจของผู้ตาม
และทำให้ผู้ตามมีความเป็นพวกเดียวกันกับผู้นำ
โดยอาศัยวิสัยทัศน์และการมีจุดประสงค์ร่วมกัน
ผู้นำแสดงความมั่นใจช่วยสร้างความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อการบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ
ผู้ตามจะเลียนแบบผู้นำและพฤติกรรมของผู้นำจากการสร้างความมั่นใจในตนเอง
ประสิทธิภาพและความเคารพในตนเอง
ผู้นำการเปลี่ยนแปลงจึงรักษาอิทธิพลของตนในการบรรลุเป้าหมายและปฏิบัติภาระหน้าที่ขององค์การ
1.2 การสร้างแรงบันดาลใจ (Inspiration Motivation :
IM)
หมายถึง
การที่ผู้นำจะประพฤติในทางที่จูงใจให้เกิดแรงบันดาลใจกับผู้ตาม
โดยการสร้างแรงจูงใจภายใน
การให้ความหมายและท้าทายในเรื่องงานของผู้ตาม
ผู้นำจะกระตุ้นจิตวิญญาณของทีม (Team spirit)
ให้มีชีวิตชีวา
มีการแสดงออกซึ่งความกระตือรือร้น
โดยการสร้างเจตคติที่ดีและการคิดในแง่บวก
ผู้นำจะทำให้ผู้ตามสัมผัสกับภาพที่งดงามของอนาคต
ผู้นำจะสร้างและสื่อความหวังที่ผู้นำต้องการอย่างชัดเจน
ผู้นำจะแสดงการอุทิศตัวหรือความผูกพันต่อเป้าหมายและวิสัยทัศน์ร่วมกัน
ผู้นำจะแสดงความเชื่อมั่นและแสดงให้เห็นความตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายได้
ผู้นำจะช่วยให้ผู้ตามมองข้ามผลประโยชน์ของตนเพื่อวิสัยทัศน์และภารกิจขององค์การ
ผู้นำจะช่วยให้ผู้ตามพัฒนาความผูกพันของตนต่อเป้าหมายระยะยาว
และบ่อยครั้งพบว่า
การสร้างแรงบันดาลใจนี้
เกิดขึ้นผ่านการคำนึงถึงความเป็นปัจเจกบุคคลและการกระตุ้นทางปัญญา
ช่วยให้ผู้ตามจัดการกับอุปสรรคของตนเองและเสริมความคิดสร้างสรรค์
1.3 การกระตุ้นทางปัญญา (Intellectual Stimulation :
IS)
หมายถึง
การที่ผู้นำมีการกระตุ้นผู้ตามให้ตระหนักถึงปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในหน่วยงาน
ทำให้ผู้ตามมีความต้องการหาแนวทางใหม่ๆมาแก้ปัญหาในหน่วยงาน
เพื่อหาข้อสรุปใหม่ที่ดีกว่าเดิม
เพื่อทำให้เกิดสิ่งใหม่และสร้างสรรค์
โดยผู้นำมีการคิดและการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ
มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีการตั้งสมมุติฐาน การเปลี่ยนกรอบ
(Reframing)
การมองปัญหา
และการเผชิญกับสถานการณ์เก่าๆด้วยวิถีทางใหม่แบบใหม่ๆ
มีการจูงใจและสนับสนุนความคิดริเริ่มใหม่ๆในการพิจารณาปัญหาและการหาคำตอบของปัญหา
มีการให้กำลังใจผู้ตามให้พยายามหาทางแก้ปัญหาด้วยวิธีใหม่ๆ
ผู้นำมีการกระตุ้นให้ผู้ตามแสดงความคิดและเหตุผล
และไม่วิจารณ์ความคิดของผู้ตาม
แม้ว่ามันจะแตกต่างไปจากความคิดของผู้นำ
ผู้นำทำให้ผู้ตามรู้สึกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ท้าทายและเป็นโอกาสที่ดีที่จะแก้ปัญหาร่วมกัน
โดยผู้นำจะสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ตามว่าปัญหาทุกอย่างต้องมีวิธีแก้ไข
แม้บางปัญหาจะมีอุปสรรคมากมาย
ผู้นำจะพิสูจน์ให้เห็นว่าสามารถเอาชนะอุปสรรคทุกอย่างได้
จากความร่วมมือร่วมใจในการแก้ปัญหาของผู้ร่วมงานทุกคน
ผู้ตามจะได้รับการกระตุ้นให้ตั้งคำถามต่อค่านิยมของตนเอง ความเชื่อและประเพณี การกระตุ้นทางปัญญา
เป็นส่วนที่สำคัญของการพัฒนาความสามารถของผู้ตามในการที่จะตระหนัก
เข้าใจ
และแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง
1.4
การคำนึงถึงความเป็นปัจเจกบุคคล
(Individualized
Consideration : IC)
ผู้นำจะมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับบุคคลในฐานะเป็นผู้นำให้การดูแลเอาใจใส่ผู้ตามเป็นรายบุคคลและทำให้ผู้ตามรู้สึกมีคุณค่าและมีความสำคัญ
ผู้นำจะเป็นโค้ช (Coach) และเป็นที่ปรึกษา
(Advisor) ของผู้ตามแต่ละคน
เพื่อการพัฒนาผู้ตามผู้นำจะเอาใจใส่เป็นพิเศษในความต้องการของปัจเจกบุคคล
เพื่อความสัมฤทธิ์ผลและเติบโตของแต่ละคน
ผู้นำจะพัฒนาศักยภาพของผู้ตามและเพื่อนร่วมงานให้สูงขึ้น
นอกจากนี้ผู้นำจะมีการปฏิบัติต่อผู้ตามโดยการให้โอกาสในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
สร้างบรรยากาศของการให้การสนับสนุน
คำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลในด้านความจำเป็นและความต้องการ
การประพฤติของผู้นำแสดงให้เห็นว่าเข้าใจและยอมรับความแตกต่างระหว่างบุคคล
เช่น
บางคนได้รับกำลังใจมากกว่า
บางคนได้รับอำนาจการตัดสินใจด้วยตนเองมากกว่า
บางคนมีมาตรฐานที่เคร่งครัดว่า
บางคนมีโครงสร้างงานที่มากกว่า
ผู้นำมีการส่งเสริมการสื่อสารสองทาง
และมีการจัดการด้วยการเดินดูรอบๆ (Management by walking around)
มีปฏิสัมพันธ์กับผู้ตามเป็นการส่วนตัว
ผู้นำสนใจในความกังวลของแต่ละบุคคล
เห็นปัจเจกบุคคลเป็นบุคคลทั้งครบ (As a whole person)
มากกว่าเป็นพนักงานหรือเป็นเพียงปัจจัยการผลิต
ผู้นำจะมีการฟังอย่างมีประสิทธิภาพ มีการเอาใจเขามาใส่ใจเรา
(Empathy)
ผู้นำจะมีการมอบหมายงานเพื่อเป็นเครื่องมือในการพัฒนาผู้ตาม
เปิดโอกาสให้ผู้ตามได้ใช้ความสามารถพิเศษอย่างเต็มที่และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆที่ท้าทายความสามารถ
ผู้นำจะดูแลผู้ตามว่าต้องการคำแนะนำ
การสนับสนุนและการช่วยให้ก้าวหน้าในการทำงานที่รับผิดชอบอยู่หรือไม่
โดยผู้ตามจะไม่รู้สึกว่าเขากำลังถูกตรวจสอบ (รัตติกรณ์ , 2545
: 39 - 41)
จากความหมายและองค์ประกอบของภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง
จะเห็นได้ว่า
ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงมีความสำคัญต่อประสิทธิภาพและประสิทธิผลในชีวตและการทำงานของบุคคลเป็นอย่างมาก
ดังนั้น
ผู้บริหารการศึกษา
จึงควรส่งเสริมและสนับสนุนให้นักศึกษาในมหาวิทยาลัยมีภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงในระดับที่สูงขึ้น
โดยมหาวิทยาลัยควรมีนโยบายสนับสนุนให้มีการฝึกอบรมและพัฒนาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงในระดับนักศึกษา
ทุกคณะ
เพื่อให้นักศึกษาตระหนักถึงความสำคัญของภาวะผู้นำและแสดงพฤติกรรมภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น
โดยฝึกการสร้างวิสัยทัศน์
การคิดและการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ การวางแผน การตั้งเป้าหมาย
ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการทำงาน การมองปัญหา และการเผชิญกับสถานการณ์เก่าๆ
ด้วยวิถีทางใหม่แบบใหม่ๆ
การทำงานร่วมกันเป็นทีม
การพัฒนาเพื่อนร่วมงานให้มีความสามารถในการทำงาน
จูงใจให้ปฏิบัติงานโดยเน้นประโยชน์ของกลุ่ม
คอยส่งเสริมและให้กำลังใจแก่กลุ่ม
การบริหารอารมณ์และการบริหารความเครียด การมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี
ซึ่งจะช่วยให้นักศึกษาสามารถพัฒนาตนเองให้มีระดับภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงในระดับสูงขึ้น
เพื่อเพิ่มความสำเร็จในการเรียน
การทำงานและเพิ่มโอกาสก้าวหน้าในชีวิตมากขึ้น
โดยผู้บริหารสามารถเพิ่มทักษะภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงได้ง่ายๆ
จากการจัดโครงการหรือกิจกรรมต่างๆ
หรือสนับสนุนให้นักศึกษาเข้าร่วมโครงการต่างๆ
ที่มีองค์การต่างๆจัดขึ้น ดังนี้
1. โครงการครูบ้านนอก (มูลนิธิกระจกเงา จ.เชียงราย) http://www.bannok.com/volunteer/
2. โครงการช่วยเหลือผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาสและผู้ประสบภัยทางธรรมชาติต่างๆ http://www.siamvolunteer.com/
3. โครงการอบรมค่ายพุทธบุตร http://www.watphrasri.org/bhutabut_web/index.html
4. โครงการเลี้ยงอาหารกลางวันแก่เด็กๆในโรงเรียนชนบท http://www.volunteerspirit.org/
5. โครงการค่ายอาสาเพื่อพัฒนาชนบท http://www.klong6.com/index.php , http://www.rsalife.com/rsa1.htm
6. โครงการปลูกต้นไม้และอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ http://www.redbullspirit.org/index.php
7. โครงการที่เกี่ยวกับศาสนา เช่น โครงการอบรมพัฒนาจิตเพื่อพ่อ http://www.watpacharoenrat.com/
8. โครงการต้นกล้าสีขาว http://www.bizethics.ktb.co.th/home1.jsp
9. โครงการอาสาสมัครเพื่อสังคม http://www.thaivolunteer.org/
10. โครงการสุขแท้ด้วยปัญญา http://www.volunteerspirit.org/
โดยโครงการและกิจกรรมต่างๆนี้
จะช่วยพัฒนาทักษะภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง ในองค์ประกอบทั้ง 4 ด้าน
พร้อมเสริมสร้างพฤติกรรมจริยธรรมต่างๆของนักศึกษาให้มีมากขึ้น
บางโครงการหรือกิจกรรมนั้นภาคธุรกิจเป็นผู้จัดโครงการเพื่อสังคมเหล่านี้
เมื่อนักศึกษาได้ไปเข้าร่วมก็จะได้ความรู้ในการบริหารจัดการและมีเพื่อนต่างสถาบันมากขึ้น
เพิ่มเครือข่ายการเรียนรู้ได้ดี
และที่สำคัญผู้บริหารการศึกษาจะต้องมีการประชาสัมพันธ์โครงการผ่านสื่อต่างๆ
เช่น โทรทัศน์
วิทยุกระจายเสียง ป้ายประกาศ เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย
และหนังสือแจ้งเกี่ยวกับกิจกรรมไปยังภาควิชาและคณะต่างๆในมหาวิทยาลัย
เพื่อให้นักศึกษาทุกคนรับทราบอย่างทั่วถึง
ส่งเสริมให้นักศึกษาตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงและแสดงพฤติกรรมทางจริยธรรมเพิ่มขึ้น
เราเชื่อว่าความเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง สามารถสร้างได้
และการสร้างพฤติกรรมทางจริยธรรมให้เพิ่มขึ้น เป็นสิ่งที่ทำได้
เพื่อให้นักศึกษาเป็นทั้งคนดีและคนเก่ง
โดยใช้กระบวนการการเรียนรู้ การมีส่วนร่วมจากการทำกิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ
ปรับทัศนคติ และเพิ่มวิสัยทัศน์ในการเรียนรู้ ผ่านประสบการณ์ต่างๆ
แล้วเราจะพบว่า.....
อัจฉริยะ สร้างได้ จริงๆค่ะ
ขอบคุณค่ะ ดีมากๆเลย
ขอบคุณมากนะคะ
ที่เข้ามาอ่านและแสดงความคิดเห็น
ขอให้โชคดีค่ะ
พรุ่งนี้จะสอบ Compre เลยเข้ามาหาความรู้ ขอบคุณนะคะ
ผมขอแบบสอบถาม ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง ไปทำวิจัยได้ป่าวคับ
ถ้าได้จะเป็นความกรุณาอย่างสูงเลยคับ
ขอบคุณล่วงหน้าคับ