บทกวีแห่งสายรุ้ง


Photobucket
ภาพ จุดทอดจรดของโค้วรุ้งบนแผ่นดิน โดย  (SwantiJareeCheri )   


Photobucket
ภาพ รุ้งสลาย โดย: แม่ไก่   




<p>สืบเนื่องจากบทความ  024 : บทกวีแห่งสายรุ้งของอินเดียนแดง @192083 โดย บัญชา ธนบุญสมบัติ ได้กล่าวถึงเพลง  (Walk on a rainbow trail)  ของอินเดียแดงเผ่านาวาโฮ (Navajo) ที่ว่า
</p>

<p>Walk on a rainbow trail;
Walk on a trail of song,
and all about you will be beauty.
There is a way out of every dark mist, over a rainbow trail.
</p>



ผู้เขียนลองแต่งเป็นโคลงสี่สุภาพ  ไว้ดังนี้



<p>สะกดรอย เร่งก้าว-            เท้าตาม-
ทางที่แสนงดงาม              อร่ามฟ้า
ลำนำขับขานความ            แช่มชื่น
มืดหม่น พ้นข้างหน้า         พบโค้งรุ้งเมลือง 

</p>
<p>ซึ่งผู้เขียนได้ลองนำโคลงบทนี้ให้เพื่อนที่จบด้านอักษรศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษช่วยตรวจดู เธอบอกว่า “ทำใมแปลได้ห่วยมาก” ก็เลยพูดแก้เก้อกะเธอไปว่า “การแปลมันมีหลายระดับนะจ๊ะ ฮาๆเอิ๊กๆ” สำหรับทรรศนะของผมนั้นมีอยู่ว่า อินเดียแดง เก่งเรื่อง สะกดรอย ก็เลยลองคิดว่าตัวเองเป็นอินเดียแดง</p>

ชาวอินเดียแดงสมัยก่อนคงอยากรู้ว่า รุ้งเกิดขึ้นได้อย่างไร ไฉนจึงมีสีสันงดงามนัก และที่ปลายโค้งรุ้งนั้น จะไปทอดจรดตรงจุดไหนของแผ่นดิน และคงมีชาวอินเดียแดงหลายๆ รุ่น พยามที่จะเดินทางออกตามหาจุดทอดจรดของโค้งรุ้งบนแผ่นดิน แต่เมื่อไปแล้วคงไปลับไม่กลับมาอีกเลย หรือไม่ก็ไปแล้ว แต่ไปไม่ถึงสักทีเพราะรุ้งหายไปเสียก่อน ฉะนั้นการเดินทางตามหาจุดทอดจรดของโค้งรุ้งบนแผ่นดิน คงถือเป็นวีรกรรมที่ชายชาวอินเดียแดงพึงกระทำสืบๆ กันมา วีรกรรมความกล้าหาญนี้ต่อมาจึงถูกนำมาแต่งไว้เป็นเพลงขับร้องประจำเผ่า การตามหา จุดทอดจรดของโค้งรุ้งบนแผ่นดิน นั้นต้องอาศัยความกล้าหาญ และความเชื่อมั่น อีกทั้งยังต้องต่อสู้ฝ่าฟันกับอุปสรรคนานัปการ

ถึงแม้นจะไม่ได้พบจุดทอดจรดของโค้งรุ้งบนแผ่นดิน แต่ประสบการจากการเดินทางนั้น ก็นับว่าเป็นสิ่งที่น่าอภิรมย์ยิ่ง ใครก็ตามที่อาศัยความกล้าหาญ และความเชื่อมั่น อีกทั้งยังได้ต่อสู้ฝ่าฟันกับอุปสรรคนานัปการให้ลุล่วงไปได้ แม้นจะไม่ได้พบกับจุดทอดจรดของโค้งรุ้งบนแผ่นดินด้วยตา แต่เขาก็ย่อมได้พบ จุดทอดจรดของโค้งรุ้งบนแผ่นดิน ด้วยใจของเขา

หลังจากฟังจบเธออึ้งไปสักพักหนึ่ง แล้วก็ไม่ได้ว่าอะไรต่อ....

คนอินเดีย(ตัวจริง) ที่ไม่ใช่อินเดียแดง ก็คงเชื่อแบบนี้ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ (หม่อมเจ้ารัชนี แจ่มจรัส นามปากกา น.ม.ส.) ทรงนิพนธ์ร้อยกรอง แทรกคติความเชื่อของชาวอินเดียโบราณ ไว้ใน นิทานเวตาล ความว่า

มาณวกะฉันท์ ๘

จง จร(ะ) เที่ยว     เทียว บท(ะ) ไป
พง พน(ะ) ไพร     ไศละลำเนา
ดุ่ม บท(ะ) เดิน      เพลิน จิต(ะ) เรา
แบ่ง ทุข(ะ) เบา     เชาวนะ ไว


ฉบัง ๑๖

ชายใดไม่เที่ยวเทียวไป    ทุกแคว้นแดนไพร
มิอาจประสบพบสุข
ชายใดอยู่เหย้าเนาทุกข์    มิด้นซนซุก
ก็ชื่อว่าชั่วมัวเมา ??


เมื่อพูดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับ รุ้ง ผู้เขียนเชื่อว่าท่าน ผู้อ่านหลายๆท่าน ย่อมที่จะต้องนึกถึงบทอาขยานในเรื่องพระอภัยมณีคำกลอนของท่านสุนทรภู่ ตอนที่พระฤๅษีสอนสุดสาคร หลังถูกชีเปลือยผลักตกหน้าผา เอาม้ามังกรและไม้เท้ากายสิทธิ์ไป (จากตอนที่ 25) ที่ว่า

 

ที่มาของภาพ http://img46.imageshack.us/img46/3618/picstory11da9.jpg

บัดเดี๋ยวดังหงั่งเหง่งวังเวงแว่ว          สะดุ้งแล้วเหลียวแลชะแง้หา
เห็นโยคีขี่รุ้งพุ่งออกมา                     ประคองพาขึ้นไปจนบนบรรพต
แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์               มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวจนเลี้ยวลด          ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน
อันมนุษย์นี้ที่รักสองสถาน                 บิดามารดารักมักเป็นผล
ที่พึ่งหนึ่งพึ่งได้แต่กายตน                 เกิดเป็นคนคิดเห็นเจรจาฯ
แม้นใครรักรักมั่งชังชังตอบ              ให้รอบคอบคิดอ่านนะหลานหนา
รู้สิ่งไรไม่สู้รู้วิชา                               รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี
จงคิดตามไปเอาไม้เท้าเถิด               จะประเสริฐสมรักเป็นศักดิ์ศรี
พอเสร็จคำสำแดงแจ้งคดี                  รูปโยคีหายวับไปกับตาฯ

 

ทุกวันนี้ผู้เขียนเอง เมื่อมองเห็นรุ้ง ในฟากฟ้า ผู้เขียนก็มักที่จะระลึกถึงเนื้อหาในคำกลอนสุนทรภู่ (ซึ่งสุนทรภู่คงรับแนวความคิดนี้มาจาก พุทธสุภาษิต) สรุปได้ดังนี้

1.จิตใจมนุษย์คดเคี้ยวเลี้ยวลดเหมือนดังเถาวัลย์ ลึกล้ำกว่าน้ำในมหาสมุทร
2.ผู้ที่รักและหวังดีกับเราอย่างบริสุทธิ์ใจก็คือพ่อแม่(พี่น้อง) 

ตนแล  เป็นที่รักยิ่ง : อตฺตา  หิ  ปรม  ปิโย.  (องฺ.  สตฺตก.  ๒๓/๙๙.)
ความรัก(อื่น)เสมอด้วยตนไม่มี : นตฺถิ  อตฺตสม  เปม.   (ส.  ส.  ๑๕/๙.)

เพราะเราเกิดมาจากเลือดเนื้อเชื้อไขของพ่อแม่ (พ่อแม่(พี่น้อง)จึงรัก เรา เสมือนดั่งรักตัวเอง)


3.ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน (
อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ.)
4.ตนเตือนตนของตนให้พ้นผิด ตนเตือนจิตตนได้ใครจะเหมือน ตนเตือนตนไม่ได้ใครจะเตือน ตนแชเชือนใครจะช่วยให้ป่วยการ
 (อตฺตนา โจทยตฺตานํ)
5.ใคร่ครวญก่อนแล้วจึงทำดีกว่า (นิสมฺม กรณํ เสยฺโย)
6. แม้นใครรักรักมั่งชังชังตอบ (อย่ารักแบบไม่ลืมหูลืมตา)
7.ปัญญาประเสริฐกว่าทรัพย์ (ปญฺญา ว ธเนน เสยฺโย)
8.รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี


สำหรับคติเตือนใจว่าด้วยเรื่อง  รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี    นั้น มิใช่เป็นการ ตัดช่องน้อยแต่พอตัว เพื่อหนีเอาตัวรอดแต่เพียงผู้เดียว สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (วิน ธมฺมสารเถร) ท่านทรงได้อรรถาธิบายธรรม โดยทรงอุปมาอุปไมย ไว้อย่างคมคาย ว่า

ศรัทธา เปรียบด้วยเสาระเนียด หิริ เปรียบด้วยคู โอตตัปปะ เปรียบด้วยคันคูหรือเชิงเทิน พาหุสัจจะ เปรียบด้วยอาวุธ วิริยารัมภะ เปรียบด้วยกำลังพล สติ เปรียบด้วยนายประตู ปัญญา เปรียบด้วยกำแพง เมื่อพร้อมด้วยธรรมะ 7 ประการดังกล่าวแล้ว บุคคลย่อมแคล้วคลาดจากข้าศึกภายนอกภายใน

ก็ในท้ายที่สุดนี้ผู้เขียนหวังใจว่า เพื่อนสมาชิก G2K ทุกท่านจะเตรียมการ สร้างกำแพงแก้ว 7 ชั้นไว้คอย ป้องกันข้าศึกภายนอก และข้าศึกภายใน ตั้งแต่วันนี้ และขอภาวนาให้เพื่อนสมาชิก G2K ทุกท่าน ปลอดภัย กันทุกผู้ทุกคนครับ สู้ๆ :)

ปล.ถ้าเห็นรุ้งกินน้ำที่ไหน ก็นึกถึง กวิน บ้างนะค้าบ ฮาๆเอิ๊กๆ 

หมายเลขบันทึก: 192617เขียนเมื่อ 7 กรกฎาคม 2008 12:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:15 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (29)

คุณกวินคะ

  • เป็นบันทึกที่มีความต่อเนื่อง เกี่ยวโยงกันอย่างลึกซึ้งมากค่ะ เริ่มจาก เรื่องรุ้ง...ต่อมาจนถึง...พุทธสุภาษิตที่สอนใจ
  • ชอบและจะนำไปสอนตัวเองบ้าง...

ตนเตือนตนของตนให้พ้นผิด ตนเตือนจิตตนได้ใครจะเหมือน ตนเตือนตนไม่ได้ใครจะเตือน ตนแชเชือนใครจะช่วยให้ป่วยการ (อตฺตนา โจทยตฺตานํ)


ภาพประกอบตอนฤาษีสอนสุดสาครสวยจังค่ะ  เคยท่องกันเล่น ๆ แปลงสารว่า...

บัดเดี๋ยวดังหงั่งเหง่งวังเวงแว่ว       สะดุ้งแล้วเหลียวแลชะแง้หา
เห็นโยคีขี่รุ้งพุงออกมา               ว่าแล้วพาประคองหาของกิน

                   (^__^)

  • โอ้โหน้องกวิน เริ่มต้นที่อินเดียนแดง
  • ลงท้ายให้สร้างกำแพง 7 ชั้น
  • อืม มันจะกันพิษเศรษฐกิจได้ไหม ฮ่าๆ
  • -----------
  • พี่ชอบรุ้งกินน้ำมากๆ มักพบเห็นเสมอ ระหว่างเดินทางภายใต้ขอบฟ้ากว้างในชนบท ที่ไม่มีตึกระฟ้ามาบดบัง แต่ไม่ค่อยได้ถ่ายภาพเก็บไว้ อยากได้ภาพ 180 องศาแต่ ไม่เคยอยู่ในชัยภูมิดีๆแบบนั้นเลย
  • ตอนนี้อยู่ในเมืองโอกาสเห็นภาพเหล่านี้น้อยเต็มที
  • พี่..เอาภาพรุ้งกินน้ำที่ถ่ายจากชั้น 2 ห้องทำงานมาฝาก
  • Rainbow01

สวัสดีครับ

ขี่รุ้งครับ ;)

Rainbow_payut

คนเหนือเฮาว่าฮุ้ง      ยอฉาย
มันส่องยามฝนปราย   ผ่อนหล้า
หากคนล่นโตยสาย     แถบโก่ง
สุดโด่งขอบตีนฟ้า      จักได้สลุงคำ

คุณกวิน 

นำภาพนี้มาฝาก พอจะเข้ากับ...."No need for orchestra if the guitar can do" ไหมคะ...^_^..

มาเรียนด้วยคน  ขอมาอ่านและทำความเข้าใจก่อน เดี๋ยวจะเขียนกลอนมาให้ตรวจนะค่ะ

 

แต่ดูเหมือนโยคีของ อ.หมู (ธ.วั ช ชั ย ) จะไม่มีพุงนะครับ ;-)

 

ขอบคุณทุกๆท่านนะครับ

คุณน้อง...กวิน ....

ในมุมมองของพี่ สายรุ้งเป็นเพียงภาพที่ฉาบทาท้องฟ้าชั่วครู่ยาม

ก็จางหาย ผ่านมาแล้วผ่านไป... มิไยดีที่คนมองจะยังถวิลหาอยู่ว่า...เมื่อใดจะกลับมาอีก  และไม่เกิดซ้ำที่เดิมแม้เราจะเฝ้าชะแง้รอแล้วรอเล่าเฝ้าแต่รอ...........ได้อุบายธรรมที่ว่า     

จงอย่ายึดมั่นสิ่งที่เห็น

สิ่งที่เป็นอยู่   ทำวันนี้ให้ดีที่สุด แล้วหรือยัง 

แต่เราก็พอจะมีความสุขกับสายรุ้งที่มองเห็นเนอะว่ามั๊ย....

+ สวัสดีค่ะน้องกวิน....

+ หาตามหาเส้นทางแห่งรุ้งด้วยคนค่ะ + อ่าน เพลิน ๆ จากอินเดียแดง มาอินเดีย แล้วมาถึงท่านสุนทรภู่ เพลิน ๆ อยู่กับพุทธภาษิตมารู้สึกตังอีกที...อ้าว...ฉันเดินทางถึงกำแพงแห่งใจแล้วเหรอนี่....

+ ไม่ได้มาเยี่ยมหลายวัน...คิดถึงค่ะ....

+ ดีใจที่น้องกวินสบายดี....

+ เอารุ้งมาฝากด้วยคนค่ะ

Photobucket

รูปนี้แปลกยิ่งแล้ว      กวินเหย
ลงดิ่งกลางลานเลย   ทึ่งแท้
อันตัวม่อนมิเคย       พบผ่าน
ฤๅว่าเป็นฟิล์มแก้      แต่งไว้เหมือนจริง.

Photobucket
ภาพ รุ้งสลาย โดย: แม่ไก่   


สวัสดีครับพี่นุส nussa-udon  นึกถึงกลอน เสียเจ้า โดย อังคาร กัลยาณพงศ์ (กวีกลุ่ม Surrealist) ที่ว่า

เสียเจ้าราวร้าวมณีรุ้ง           มุ่งปรารถนาอะไรในหล้า
มิหวังกระทั่งฟากฟ้า            ซบหน้าติดดินกินทรายฯ 
จะเจ็บจำไปถึงปรโลก          ฤารอยโศกรู้ร้างจางหาย
จะเกิดกี่ฟ้ามา ตรมตาย        อย่าหมายว่าจะให้หัวใจฯ 
ถ้าเจ้าอุบัติบนสวรรค์           ข้าขอลงโลกันตร์หม่นไหม้
สูเป็นไฟเราเป็นไม้              ให้ทำลายสิ้นถึงวิญญาณฯ 
แม้แต่ธุลีมิอาลัย                 ลืมเจ้าไซร้ชั่วกัลปาวสาน
ถ้าชาติไหนเกิดไปพบพาน     จะทรมานควักทิ้งทั้งแก้วตาฯ 
ตายไปอยู่ใต้รอยเท้า            ให้เจ้าเหยียบเล่นเหมือนเส้นหญ้า
เพื่อจดจำพิษช้ำนานา          ไปชั่วฟ้าชั่วดินสิ้นเอยฯ

ขอบคุณมากๆเลยครับคุณพี่อ๋อย  แอมแปร์ สำหรับภาพรุ้ง (จุดทอดจรดของโค้งรุ้งบแผ่นดิน)

สวัสดีครับท่านอาจารย์  ทนัน ภิวงศ์งาม   ลืมนึกประเด็นถึงประเด็นภาพตัดต่อ แต่ก็อาจจะเป็นภาพจริงๆก็ได้นะครับ ไม่ว่าจะภาพจริงหรือตัดต่อ ก็สวยดีว่ามั้ยครับ ขอบคุณครับอาจารย์กระผม

ประเด็นตัดต่อนั้น    อาจมี
ฤๅแต่งบนฟิล์มสี     ยอมได้
กระไรช่างเถอะดี     สวยอยู่
เดินสู่จุดจรดไซร้     ย่อมได้สลุงคำ

ขอบคุณอาจารย์  ทนัน ภิวงศ์งาม  อีกครั้งครับ ขออภัยที่ไม่ได้ตอบด้วยโคลงสี่นะครับ

สวัสดีคุณกวิน

ชอบที่บอกว่า...ถึงแม้นจะไม่ได้พบจุดทอดจรดของโค้งรุ้งบนแผ่นดิน แต่ประสบการจากการเดินทางนั้น ก็นับว่าเป็นสิ่งที่น่าอภิรมย์ยิ่ง ใครก็ตามที่อาศัยความกล้าหาญ และความเชื่อมั่น อีกทั้งยังได้ต่อสู้ฝ่าฟันกับอุปสรรคนานัปการให้ลุล่วงไปได้ แม้นจะไม่ได้พบกับจุดทอดจรดของโค้งรุ้งบนแผ่นดินด้วยตา แต่เขาก็ย่อมได้พบ จุดทอดจรดของโค้งรุ้งบนแผ่นดิน ด้วยใจของเขา

เป็นปรัชญาที่น่านับถือ ต้องน้อมคารวะ นักปรัชญาหนุ่มครับ...

ไม่สำคัญหรอกว่า..เราจะประสบความสำเร็จอะไร แค่ไหน เพียงเราได้ทำตามความฝัน มุ่งมั่น ศรัทธา ด้วยใจที่บริสุทธิ์ สิ่งนั้นเป็นรางวัลในชีวิตให้เราอยู่แล้ว

รุ้งงามอยู่เบื้องหน้านั้นงดงามเกินฝันใฝ่  แต่เราก็ยังเฝ้ามองแม้จะต้องทอดถอนใจ ... ไกลเกินเอื้อม ให้ชมความงาม เพียงชั่วครู่ยาม แล้วก็ร้างจางไป

แต่มนุษย์ก็ยังรอ...รุ้งงาม ความหวังเสมอมา

สวัสดีครับ

สวัสดีค่ะคุณกวิน

ตามพี่คนตัดไม้มาอ่านค่ะ...ความจริงก็อ่านแล้วนะคะ

มาอ่านอีกก็ชอบอีกค่ะ และเห็นด้วยกับที่พี่คนตัดไม้กล่าวไว้...

ไม่สำคัญหรอกว่า..เราจะประสบความสำเร็จอะไร แค่ไหน เพียงเราได้ทำตามความฝัน มุ่งมั่น ศรัทธา ด้วยใจที่บริสุทธิ์ สิ่งนั้นเป็นรางวัลในชีวิตให้เราอยู่แล้ว

มุ่งมั่นและมีความสุขในวันหยุดยาวที่จะถึงนี้นะคะ...^_^...

ไม่ได้มาทักทายนาน กลอนยังไพเราะเหมือนเดิม

  • ขอบคุณพี่คนตัดไม้ คนไม่มีราก และคนโรงงาน ครับ

ชอบมากค่ะ  ... เหนือคำบรรยาย ภาพ 2

 

  • …. Rainbow Smile 
  • Make us Bright & Spice our Life
  • ….
  • โค้งรุ้งสูง ขอบฟ้า มีความหลัง
  • สวยงดงาม ตอกย้ำ มีความหมาย
  • ฟ้าหลังฝน ดีกว่านี้ อย่างแน่นอน
  • ทั่วธานี  นคร แห่งความหวัง  ...
  • ขอบคุณค่ะ   ...

 

 

สวัสดีครับคุณ poo ขอบคุณสำหรับบทกลอนเพราะๆ นะครับ นครแห่งความหวัง ชื่อเพราะจัง

คุณน้องกวิน...

พี่นุส..เอารุ้งมาฝาก..รุ้งสวยๆหายากและเล่นตัวมากๆตามไปติดๆ  ยิ่งตามก็ยิ่งหนีตามมาหลายวัน..  วันนี้ได้รูปสดๆเลิกงานก็เจอเลย..

.....รุ้งที่หนองประจักษ์ศิลปาคม... 

สวัสดีครับพี่นุช nussa-udon  ขอบคุณสำหรับรูปรุ้งสวยๆนะครับผม ดูข่าวการเมืองเรื่องการปะทะกันระหว่างม้อบสองฝ่ายที่ หนองประจักษ์ศิลปาคม แล้วเป็นห่วงพี่นุชนะครับ กลัวโดนลูกหลง...

....ขอบคุณ ..คุณน้องกวินมาก..เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ใกล้ๆกับตึกพี่เอง..น่ากลัวไม่น่าเกิดขึ้นเลย ดูข่าวในทีวียังตกใจเกิดมายังไม่เคยเห็นเหตุรุนแรงเช่นนี้มาก่อน ... ดังจริงๆ..ไม่น่าเลยหลังเกิดเหตุฝนตกอย่างแรงนานเป็นชั่วโมงกว่าพี่จะกลับบ้านได้ ออกมาจากตึกก็เจอรุ้งที่เห็น นั่นแหละค่ะ ได้แต่เสียใจและสงสารคนที่โดนทำร้าย..เจ้าหน้าที่ทั้งทีมแพทย์พยาบาลก็ทำงานหนักทีเดียวค่ะ ถึงอย่างไรชาวอุดรตัวจริงเสียงจริงอย่างพี่ก็ใจดีและจริงใจค่ะ...

สวัสดีครับพี่ nussa-udon ดีใจที่พี่ไม่ได้เป็นอะไรจากการปะทะกันของม้อบทั้งฝ่ายนะครับ ขอเป็นกำลังใจให้ เจ้าหน้าที่ทั้งทีมแพทย์พยาบาล ครับ

ขอบคุณ ท่าน ผอ.ประจักษ์ ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท