ให้อภัย.... ให้อย่าบริสุทธิ์


เคยให้อภัยใครบ้างมั๊ย.....แล้วรู้สึกอย่างไร!!!

 

อภัยทาน...คือการให้ที่บริสุทธิ์

 

การให้อภัย

 

          การให้อภัยจะช่วยให้สามารถยุติปัญหาต่างๆ ได้ เปรียบเสมือนคนล้างแก้วน้ำให้สะอาด ทำให้เหมาะสมที่จะรองรับน้ำบริสุทธิ์ที่เทลงไปใหม่

การให้อภัย

 

ให้อภัยเหมือนล้างใจให้สะอาด

          การให้อภัยจะช่วยให้สามารถยุติปัญหาต่างๆ ได้ เปรียบเสมือนคนล้างแก้วน้ำให้สะอาด ทำให้เหมาะสมที่จะรองรับน้ำบริสุทธิ์ที่เทลงไปใหม่ เหมือนการโยนของที่ไม่ชอบทิ้งเสียโดยไม่ต้องเสียดาย การให้อภัยคือการแสดงกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด อภัยทานเวลาจะให้ไม่ต้องไปขอใคร ไม่เหมือนใครมาขอเงินเรา ที่ต้องควักกระเป๋าให้ แต่การให้อภัยไม่ต้องหาจากไหนและไม่รู้สึกว่าเป็นการสูญเสีย

          ขอให้ภูมิใจเมื่อมีใครมาขอโทษ เมื่อมีใครให้อภัยเราหรือเมื่อสำนึกได้ว่าได้ทำอะไรผิดพลาดไปก็ขอโทษกัน การขอโทษหรือการให้อภัย มิใช่การเสียหน้าหรือเสียรู้ มิใช่การได้เปรียบเสียเปรียบแต่อย่างใด หากแต่เป็นการชำระใจให้สะอาด เหมือนภาชนะสกปรกก็ชำระล้างให้สะอาด ใครจะคิดอย่างไรมิใช่ประเด็น แต่สำหรับผู้แสดงออกว่าเราให้อภัยในเรื่องนี้ต่อบุคคลผู้นี้แล้ว นั่นเป็นสิ่งสำคัญเพราะสิ่งนั้นจะถูกบรรจุลงไปในจิตของเรานั่นเอง

          การผูกอาฆาต ความพยาบาท ความอิจฉา โกรธ เกลียด ความคิดแก้แค้น ทิฐิมานะนั้น เป็นเสมือนเชื้อไวรัส อภัยทานคือเครื่องมือแอนตี้ไวรัส ส่วนจิตของเราเหมือนคอมพิวเตอร์ ในชีวิตที่เหลืออยู่นี้อาจจะดูเหมือนยาว แต่มีใครบอกได้ว่าจะอยู่ได้ปลอดภัยถึงวันไหน เราต้องการความทรงจำที่เลวร้าย หรือต้องการความทรงจำที่ดีในชีวิต ต้องการนั่งนอนอย่างมีความสุข มีชีวิตอยู่ด้วยความอิ่มเอิบหรือต้องการมีชีวิตอยู่ด้วยการถอนหายใจ ด้วยความทุกข์และกังวลใจ สิ่งเหล่านี้กำหนดได้ที่ตัวเอง

การให้อภัย

 

ฝึกใจให้คิดแต่เรื่องดีๆ

          ความคิดเป็นสิ่งที่ทรงพลังมาก สุขหรือทุกข์ของมนุษย์อยู่ที่วิธีคิด คิดเป็นก็พ้นทุกข์ คิดไม่เป็นแม้แต่เรื่องมิใช่เรื่อง ก็อาจเกิดเรื่องได้ คนเราอยู่ไม่ถึง 100 ปี ทำไมจะเสียเวลามาครุ่นคิดเรื่องไร้สาระ ทำไมจะต้องเสียเวลามาทำเรื่องที่ทำให้เกิดทุกข์ การยอมกันเสียบ้าง ก็เป็นความสุขได้ไม่ยาก เวลาที่โกรธ เกลียด พยาบาทใคร สีหน้าของเราจะเปลี่ยนไปหน้าจะเครียดแดงก่ำ เลือดสูบฉีดเร็ว หัวใจเต้นแรง มือไม้สั่น 

          เวลาโกรธจัดจิตที่ถูกครอบงำโดยอารมณ์ร้าย คือ ความหนักใจ เหนื่อยหอบ ทำอะไรก็เป็นทุกข์ไม่มีความสุข แต่พอได้ยกโทษให้ใครเมื่อหายโกรธเหมือนยกภูเขาออกจากใจ จะรู้สึกทันทีว่ายิ้มได้ มีความสบายใจโล่งโปร่งสบาย คิดแต่เรื่องดีๆ จิตใจก็เบิกบานอิ่มเอิบ ที่สำคัญช่วยทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ผ่องใส

          เราอาจคิดว่าการให้อภัยบ่อยๆ แก่คนบางคน เขาอาจจะไม่ปรับตัว ยังก่อเหตุอยู่เสมอๆ งานก็ไม่สำเร็จ ยังเหลวไหลอยู่เหมือนเดิม นั่นอาจเป็นเหตุผลในการทำงาน แต่สำหรับเหตุผลของใจนั่น เมื่อให้อภัยใจเราก็เบา เพราะหมดห่วง หมดทุกข์ หมดสนิมที่จะมากัดใจให้ผุกร่อน วิธีคิดมีความสำคัญมากสำหรับชีวิตของคน เรามักได้ยินเสมอว่า แพ้หรือชนะอยู่ที่กำลังใจ แท้จริงแล้วคำว่ากำลังใจก็คือวิธีคิดนั่นเอง พลังที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์คือการที่ใจมีกำลัง และเป็นกำลังจากความคิดที่ดี

          มนุษย์จึงต้องสร้างกำลังใจให้แก่กันและกัน กำลังใจเป็นสิ่งที่ให้ไม่รู้จักหมด ยิ่งให้คนอื่นได้มากเท่าไร กำลังใจก็จะยิ่งเกิดขึ้นแก่เรามากเท่านั้น เหมือนวิชาความรู้ ยิ่งให้ยิ่งพอกพูน ยิ่งหวงไว้เฉพาะตัวก็ยิ่งหดหาย การให้อภัยแม้ยากแต่หากพยายามทำบ่อยๆ ให้กลายเป็นนิสัย จะเป็นความสุขใจในภายหลังเมื่อย้อนนึกถึง ด้วยเหตุนี้จึงต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิดให้ได้ ไม่ให้ใจเป็นถังขยะแต่ให้ใจเป็นหิ้งบูชาพระที่งดงามทุกวัน ด้วยการมองแต่เรื่องดีๆ ของคนให้พบ มองบวกคิดบวกพูดบวก เพราะการทำอะไรเป็นบวกจะทำให้ได้กำไรใจสบาย

 

การให้อภัย

 

 


แล้วพบกันใหม่จ้า...

ขอบคุณข้อมูลจากเน็ต
หมายเลขบันทึก: 192612เขียนเมื่อ 7 กรกฎาคม 2008 11:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 00:55 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ขอบคุณ..คุณคนโรงงาน ค่ะ..ที่แวะมาทักทาย....(ก่อนได้ใจให้ใจ...กัสจังจำไว้เสมอเยย..)

สวัสดีครับ

  • แวะมาเยี่ยมครับ
  • เอาส้มตำ ไก่ยางมาฝากครับ
  • อิอิ

 

แหม ครูโย่ง  ค่ะ..เหมือนรู้ใจ..ของชอบเลยค่ะส้มตำเนียะ..ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค๊า

good, forgive

best, forget

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท