วิธีการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า


วิธีดูแลผิวที่ถูกต้อง
วิธีการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า

คุณทราบหรือไม่ว่า วิธีดูแลผิวที่ถูกต้อง ควรเริ่มต้นจากการทำความสะอาดผิวที่ถูกวิธี ซึ่งเป็นการยืดอายุเซลผิวหนังได้นานที่สุด เป็นการป้องกันผิวหนังไม่ให้ถูกทำลายได้ดีที่สุด และแน่นอนว่าเป็นการชะลอวัยอย่างได้ผลที่สุด

จะพบว่าในวันหนึ่งๆ คนเราทั้งชายและหญิง เด็กและผู้ใหญ่จะต้องล้างทำความสะอาดผิวหน้าอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เท่ากับวันหนึ่งๆ จะต้องล้างหน้าบ่อยถึง 365 x 2 = 730 ครั้งเป็นอย่างน้อย ดังนั้นผลิตภัณฑ์ที่นำมาทำความสะอาดผิวหน้า หรือผิวหนัง จึงควรที่จะต้องถูกชำระล้างออกให้หมดจรดจากผิวหนัง ไม่ควรตกค้างหรือสะสมบนผิว และไม่ควรทำลายเซลผิว เพราะการตกค้างของสารเคมีของสารทำความสะอาดบนผิวหนังและการทำลายเซลผิวทีละน้อยนั้น จะถูกสะสมทุกครั้งที่ทำความสะอาดผิวหนัง เมื่อสังเกตุดูผิวโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผิวหน้า จำพบว่า ทำไมผิวหน้าจึงไม่เต่งตึง มีริ้วรอย ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ จะบรรเทาลงได้เพียงบางส่วนเมื่อบำรุงผิวหน้าด้วยครีมบำรุงผิว แต่หากเราหันมาสนใจการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างถูกวิธี จึงจะเป็นการแก้ไขปัญหาที่สาเหตุอย่างแท้จริง

 

ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหนังโดยทั่วไปในท้องตลาด คือ สบู่ก้อน สบู่เหลว ครีมโฟมล้างหน้า ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในปัจจุบันจะมีสารทำความสะอาดซึ่งเรียกโดยศัพท์ทางวิชาการว่า เซอร์แฟคแต้น (Surfactant) สารเคมีกลุ่มนี้ มีมากมายทั้งที่มีในธรรมชาติจากพืชสมุนไพร และจากการสังเคราะห์ขึ้นทางวิทยาศาสตร์ บางชนิดให้ฟองมากมาย และบางชนิดไม่ให้ฟอง แต่ทั้งสองชนิดมีประสิทธิภาพในการชำระล้างและทำความสะอาดผิวได้ดีเช่นกัน

ข้อแตกต่างที่สำคัญซึ่งนักวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ได้พิสูจน์แล้วคือ สารที่ให้ฟองมากมักเป็นสารที่มีประจุไฟฟ้าลบ (Anionic Surfactant) และสารที่ให้ฟองน้อยคือสารที่มีทั้งประจุไฟฟ้าบวกและลบรวมอยู่ในสารเดียวกัน (Amphoteric Surfactant) ส่วนสารที่ไม่ให้ฟองเลยมักจะเป็นสารทำความสะอาดชนิดไร้ประจุไฟฟ้า (Nonionic Surfactant) ประเด็นสำคัญที่นักวิทยาศาสตร์การแพทย์วิจัยพบอีกก็คือ สารที่ให้ฟองมากและมีประจุไฟฟ้าลบจะตกค้างบนผิวหนังได้มากและสามารถแทรกซึมเข้าสู่ผิวหนังได้ ทำให้เกิดการสะสมบนผิวหนังทุกครั้งที่ใช้สารนี้ทำความสะอาดผิว และทำให้ผิวหนังเกิดอาการระคายเคือง เซลผิวจะค่อยๆ ถูกทำลายทีละน้อย โดยเห็นได้จากอาการผิวหนัง หรือผิวหน้าที่แห้ง มีริ้วรอยตีนกา หยาบกร้าน ทั้งนี้ พบว่ากลไกการทำความสะอาดผิวหนังนั้นไม่เกี่ยวข้องกับฟองที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด ดังนั้น ฟองจึงให้ผลเสียในการทำลายเซลผิวมากกว่าผลดี นอกจากนี้ยังพบว่าสารที่ทำให้เกิดฟองมากนี้ มีโอกาสในการเป็นสารก่อสิว ซึ่งการทางวิชาการเรียกว่า สารคอมีโดจีนิก (Comedogenic Agent)

สารทำความสะอาดที่ให้ฟองน้อย หรือไม่ให้ฟองเลย มีชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ นอนไอโอนิค เซอร์แฟคแต้น (Nonionic Surfactant) เช่น ครีมโฟมล้างหน้าที่ไม่มีฟอง มักจะมีองค์ประกอบของสารทำความสะอาดชนิดที่ไม่มีประจุไฟฟ้า สารประเภทนี้เมือนำมาชำระล้างผิวจะสามารถถูกชะล้างด้วยน้ำออกได้ง่าย เนื่องจากไม่มีประจุไฟฟ้านั่นเอง จึงไม่ตกค้งหรือไม่มีการสะสมที่ผิวหน้า ดังนั้นจึงไม่พบการแทรกซึมเข้าสู่ผิวหนัง และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สารกลุ่มนี้ไม่ระคายเคืองผิวหนังเลย และไม่เป็นสารก่อสิวอีกด้วย ซึ่งหากใช้เป็นประจำ ผิวหนังและผิวหน้าจะสะอาด แต่ไม่แห้งกร้าน และไม่หยาบ ไม่เป็นสิว และด้วยคุณสมบัตินี้เอง ทำให้สารไร้ประจุชนิดนี้เป็นที่นิยมในอเมริกาและยุโรป ในทางตรงกันข้าม สารที่ให้ฟองมากจะไม่พบมากนักในประเทศเหล่านี้ นอกจากสินค้าราคาถูกเท่านั้น สารทำความสะอาดชนิดนี้จึงนิยมใช้เป็นองค์ประกอบของผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดของเด็กเล็ก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับทารกแรกเกิด

ดังนั้น ผู้ที่ต้องการดูแลผิวให้ถูกวิธีอย่างจริงจัง จึงควรเริ่มต้นที่การล้างทำความสะอาดผิวหน้าอย่างถูกวิธีภายหลังจากการล้างหน้าเสร็จแล้ว ควรทาด้วยครีมบำรุงบางๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อยู่ในห้องปรับอากาศเป็นประจำ เนื่องจากความชื้นในอากาศต่ำภายในห้องปรับอากาศ จึงจำเป็นต้องบำรุงและปกป้องผิวด้วยครีมบำรุงเพื่อไม่ให้ผิวหนังสูญเสียความชุ่มชื่น

หมายเลขบันทึก: 192615เขียนเมื่อ 7 กรกฎาคม 2008 11:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 00:55 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท