นกเสรีไทย…
" ความทรงจำที่ยังมีชีวิต "
เรื่องนี้มันต้องมาจากที่บ้านผมเคยเลี้ยงนกอยู่หลายตัวเลยล่ะ แต่ก็ไม่รู้ประวัติแท้ ๆ กัน นอกจาก “นกปรอดหัวโขน” หรือที่ชาวปักษ์ใต้ผมเรียก “นกกรงหัวจุก” แล้ว ผมก็ชื่นชอบนกที่มีชื่อว่าเขียวหรือสีเขียวเอามาก ๆ เพราะตัวเองเกิดวันพุธ และก็นั่นล่ะชอบมาก ๆ ที่บ้านก็จะสรรหา สิ่งมีชีวิตสีเขียว ๆ มาอยู่ด้วยเป็นอันมาก อาทิเช่น นกเขียวคราม นกแก้ว นกสาลิกา นกหกเล็ก นกเปล้า และที่คลั่งไคล้มาก ๆ ก็ นกเขียวก้านตองนี่ล่ะ มีมันเกือบทุกพันธุ์ย่อย เลยก็ว่า ได้ แต่ก็รู้ครับว่ามันผิดกฎหมาย เพราะเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง แต่ก็หายห่วง เพราะพ่อกระผมเองก็ชอบเช่นกัน ท่านเลยไปจดทะเบียนกับกรมป่าไม้ สำนักงานย่อยตามที่ รัฐบาลประกาศอนุโลมให้เรียบร้อยไปแล้ว แต่ก็นั่นล่ะครับ “ นกเสรีไทย...ทำไม่มาหมดเสรีภาพ อยู่ในกรงขัง ! “ เฮ้อ...จึงไม่เลี้ยงมันแล้วเดี๋ยวนี้เหลือบางตัวที่ไม่สามารถปล่อยได้ ต้องเลี้ยงต่อ เพราะมันหากินไม่เป็นแล้ว เอ้อ ! มือถือสากปากถือศีลซะงั้น เหอ ๆ เอาล่ะ ไปทราบประวัติกันหน่อย......
ทำไมถึงชื่อ....นกเสรีไทย
เมื่อ ปี พ.ศ.2489 สถาบันสมิธโซเนียน แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ตั้งชื่อ “ นกเขียวก้านตองปีกสีฟ้า “ หรือ “ นกเขียวลออ “ ซึ่ง เฮอร์เบิร์ต จี. เด็กแนน พบที่บ้านท่าล้อน ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อ ปี พ.ศ.2489 ว่า “ Chloropsis Cochinchinensis Serithai “ หรือ“ นกเสรีไทย “ เพื่อให้เป็นเกียรติและเป็นที่ระลึกแก่ขบวนการเสรีไทย
มารู้จักนกเสรีไทย หรือ นกเขียวก้านตองปีกสีฟ้า …กันเหอะ !
นกเขียวก้านตองปีกสีฟ้า chloropsis cochinchinensis (blue-winged leafbird)
ชื่อสามัญ: Blue-winged Leafbird ชื่อวิทยาศาสตร์: Chloropsis cochinchinensis
เป็นชนิดพันธุ์หนึ่งของสกุลนกเขียวก้านตองลักษณะพิเศษคือมีแถบสีฟ้าที่ขอบปีกด้านนอก ยาวตั้งแต่หัวปีกถึงปลายปีก โดยความเข้มอ่อนขึ้นอยู่กับอายุและชนิดพันธุ์ย่อยของนก ชนิดพันธุ์นี้พบครั้งแรกในเขตโคชินไชน่า (ปัจจุบันคือเวียดนามใต้) จึงนำชื่อสถานที่พบมาตั้งเป็นชื่อวิทยาศาสตร์ว่า cochinchinensis
นกเขียวก้านตองปีกสีฟ้ามีความยาวจากปลายปากถึงปลายหาง 19 เซนติเมตร ลำตัวอยู่ในแนวนอน บริเวณตะโพกมีขนยาวและฟูเช่นเดียวกับนกปรอด ปากยาว เรียวโค้ง และมีความยาวพอๆกับหัว เหมาะที่จะใช้สอดเข้าไปในกรวยดอกไม้เพื่อดูดกินน้ำหวานตอนปลายปากงุ้มลงเล็กน้อย รูจมูกเป็นรูปไข่ ขนที่หน้าผากยาวลงมาถึงรูจมูก ที่มุมปากมีขนเส้นเล็กๆแข็งๆ สั้นๆ มองเห็นไม่เด่นชัดนัก ปีกมนกลม ขนปลายปีกมี 10 เส้น ขนหางมี 12 เส้น หางยาวตัดตรง ขาและนิ้วเท้าสีเทาอมฟ้า ขาท่อนล่างสั้นมาก นิ้วเท้าเล็กยื่นไปข้างหน้า 3 นิ้วยื่นไปข้างหลัง 1 นิ้ว
ส่วนบนของลำตัวตั้งแต่หลังคอ หลัง ไหล่ ตะโพก จนถึงขนคลุมโคนหางด้านบน เป็นสีเขียวสดเช่นเดียวกับบนหัวและท้ายทอย ปีกสีเขียวเข้มแต่มีแถบสีฟ้าสะท้อนแสงที่ขนคลุมปีกเห็นได้ชัดเจน และครีบขนด้านนอกของขนปลายปีกทุกเส้นเป็นสีฟ้า แต่เห็นไม่ค่อยชัดเพราะนกมักหุบปีกตลอดเวลา แต่ถ้าหากนำไปเทียบกับนกเขียวก้านตองชนิดอื่นแล้ว จะเห็นว่านกเขียวก้านตองปีกสีฟ้า มีปีกสีออกฟ้าชัดเจนกว่าแม้ว่าจะมิได้มีสีฟ้าทั่วทั้งปีก ขนหางคู่กลางเป็นสีเขียวเข้มเช่นเดียวกับปีกแต่ขนหางที่เหลืออีก 5 คู่เป็นสีฟ้าเช่นเดียวกับครีบขนด้านนอกของขนปลายปีก
นกเขียวก้านตองปีกสีฟ้าเป็นนกที่มีความแตกต่างระหว่างเพศ แบบเห็นได้ชัด โดยเพศผู้จะมีขนรอบดวงตา รอบปาก และบริเวณคางเป็นสีดำ ภายในแถบสีดำยังมีขีดสั้นๆ เฉียงๆ ีน้ำเงินอยู่สองข้างคางอีกด้วย แต่ไม่ชัดเจน นอกจากนี้รอบแถบสีดำจะมีแถบสีเหลืองล้อมรอบอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งค่อยๆกลมกลืนส่วนบริเวณหัวจะมีสีเขียวออกไปทางเหลือง หน้าผากและแถบสั้นๆเหนือตาเป็นสีเหลืองสดใส แล้วค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเขียวสดทางตอนบนและด้านข้างของหัว บริเวณท้ายทอยเจือสีทองเล็กน้อย ซึ่งลักษณะดังกล่าวนี้มักเข้าใจผิดว่าเป็นนกเขียวก้านตองหน้าผากสีทอง แต่จุดที่ต่างคือสีเหลืองจะไม่เข้มมาก และแถบสีฟ้าที่ปีกจะดูเด่นชัดกว่า
นกเขียวก้านตองปีกสีฟ้า เป็นนกเขียวก้านตองที่มีชนิดพันธุ์ย่อย(สปีชีส์ย่อย) มากที่สุดในบรรดานกเขียวก้านตองทั้งหมด โดยแบ่งออกถึง 10 ชนิดย่อย
แต่ที่เรากล่าวถึงนี้ ก็คือ “ นกเขียวก้านตองปีกสีฟ้าเสรีไทย “ หรือ “ นกเสรีไทย “
ชื่อวิทยาศาสตร์: C. c. serithai
ค้นพบครั้งแรกที่บ้านท่าล้อ อำเภอพูนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดย Herbert g. Deignan ตั้งชื่อให้เป็นเกียรติกับขบวนการเสรีไทย มีถิ่นอาศัยบริเวณทางตอนใต้ของเขตตะนาวศรีในประเทศพม่า และในประเทศไทยตั้งแต่คอคอดกระลงมาจนถึงจังหวัดตรัง
ที่มา : จาก คอลัมน์ รู้ไปโม้ด หนังสือพิมพ์ข่าวสด
และ จาก วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี http://th.wikipedia.org
....บุญรักษา ครับพี่น้อง
ภาพสวยคะ
ไม่ทราบเลยว่านกนี้ ชื่อ นกเสรีไทย
ขอบคุณคะ
ชอบนกที่อยู่ตามธรรมชาติมากกว่า ครับ