ถ้าคุณแน่..อย่าแพ้...แดจังกึม...
กลับจากงานคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ฯ ที่จังหวัดปทุมธานี ผมก็ออกพื้นที่อีก 2-3 วัน กลับมาก็ได้รับทราบว่าต้องไปรับเสด็จ “พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร” ในโครงการ “สายใยรักแห่งครอบครัว” ที่อำเภอโพธิ์ตาก
เราออกเดินทางกันตั้งแต่เช้าของวันที่ 7 พฤษภาคม เพื่อเตรียมงานให้ทันเวลาเย็น โดยมีทีมงานบางส่วนเดินทางล่วงหน้าไปก่อนหลายวัน..
“ครัวสายใยรัก” คือจุดที่ผมได้รับมอบหมายให้ดูแลช่วยแม่บ้านสายใยรัก เตรียมอาหารเพื่อเลี้ยงเกษตรกรผู้มาร่วมงาน
พอถึงจุดหมาย งานแรกที่ต้องทำคือยกกระสอบข้าวสารสิบกว่ากระสอบ..
จากนั้นก็ยกรังถึงบรรจุข้าวขึ้นนึ่งบนเตาแก๊ส เกือบสิบเตา
พอข้าวสุกก็ยกข้าวร้อน ๆ ไปให้แผนกบรรจุลงกล่องในโรงครัว
ยกกับข้าวจากแผนกปรุงให้ฝ่ายบรรจุ
แล้วยกกล่องที่บรรจุเสร็จแล้วกลับมาเก็บที่ห้องเสบียง(โดยมีคุณตุ้ม กับน้องเป้าเป็นผู้ดูแล)
เพื่อที่จะยกออกไปให้แผนกจ่ายเสบียงเมื่อมีเกษตรกรมาเบิก...(น้องอ้อม กับพี่ปุ๊...)
.....แล้วผมก็ ยกรังถึงบรรจุข้าวขึ้นนึ่งบนเตาแก๊ส พอข้าวสุกก็ยกข้าวร้อน ๆ ไปให้แผนกบรรจุลงกล่องในโรงครัว ยกกับข้าวจากแผนกปรุงให้ฝ่ายบรรจุ แล้วยกกล่องที่บรรจุเสร็จแล้วกลับมาเก็บที่ห้องเสบียง เพื่อที่จะยกออกไปให้แผนกจ่ายเสบียงเมื่อมีเกษตรกรมาเบิก...ยกน้ำใส่หม้อนึ่ง...ยกกล่องโฟมให้ฝ่ายบรรจุ....
แล้วผมก็ยกอีกรอบ แล้วก็อีกรอบ....แล้วก็อีกรอบ....ฯลฯ
*****************************************************
ผ่านไปครึ่งวัน..เริ่มมีแม่บ้านถามว่า..“คุณมาจากไหน...?”เขาคงไม่เคยเห็น “ลูกจ้างหัวใจเถ้าแก่..” แบบนี้บ่อยนัก หรืออาจจะงงกับชุดเครื่องแบบครึ่งท่อน (เสื้อกล้าม) ของผมก็เป็นได้...คำตอบก็คือ... “ผมมาจากเกษตรครับ”....
ผ่านไปถึงช่วงบ่าย...นอกจากคำถามที่แสดงความห่วงใยว่า.. “ทานข้าวแล้วยัง..” ก็ยังมีคำถามเชิงหยอกเอินให้หายเหนื่อยกันทั้งคนถามและคนถูกถามว่า.... “ขยันจัง...มีแฟนหรือยัง..” ซึ่งคำตอบคือ “ลูก 2 คนแล้วครับ” แล้วก็ยกหม้อข้าวร้อน ๆ ไปเทให้คนถามบรรจุกล่องต่อไป..
" รายงาน ๆ ๆ น้ำดื่มเรากำลังจะหมดครับ.."
ผมถือถังน้ำเปล่าเดินเข้าไปหา “เลขาโรงครัว” (พี่อ๋อเสื้อเหลือง)
แต่ถนนเริ่มถูกปิด..เพราะใกล้เวลาเสด็จ รถน้ำไม่สามารถเข้ามาส่งได้..โทรศัพท์มือถือถูกสั่งให้ปิด..ติดต่อขอความช่วยเหลือไม่ได้อีก.....
“ประกาศ ๆๆๆ นี่คือน้ำดื่มถังสุดท้ายที่เรามี...ใครทานข้าวแล้วยังไม่ได้ทานน้ำ..ขอให้รีบมาทาน...”
อากาศตอนบ่ายที่ร้อนระอุ..ยิ่งอยู่ใต้เต็นท์ยิ่งอบอ้าว...ยิ่งอยู่ใกล้เตาไฟตลอดเวลายิ่งร้อนทวีคูณ...พัดลมมีแค่ 3 ตัว คนที่อยู่กับเตาไฟหมดสิทธิ์ใช้เพราะลมจะพัดแก๊ส...
คนที่มารับข้าวกล่องเริมออกันแน่นเพราะข้าวเริ่มสุกไม่ทัน...ทุกคนงานล้นมือ..แล้วนั่น..น้องอ้อม..แผนกจ่ายข้าวกล่อง..เป็นลม...
ต้องหาทางไปเอาน้ำกินมาให้ได้...??? (พี่แอ๊ว...หัวหน้าแดจังกึม..)
โชคดีที่คนถือกุญแจรถเดินกลับมาที่โรงครัว...แต่ถนนเริ่มถูกปิด..ผมรีบวิ่งไปขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่จราจร...แล้วก็ขอร้องให้เจ้าหน้าที่ อพปร.ที่มาทานข้าวแต่ไม่มีน้ำกินให้ช่วยขนถังน้ำ 18 ถังขึ้นรถ แล้วติดรถไปช่วยยกถังน้ำด้วย 2 นาย (ได้น้ำติดก้นถังพอรองท้องไปก่อน)
บนรถที่จอดตากแดดทั้งวัน.....ร้อนระอุทั้งอากาศ...เบาะ.....และพวงมาลัย.... ผมพึ่งนึกได้ว่าตัวเองอยู่ในชุดเสื้อกล้าม..เมื่อขับผ่านเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในชุดเครื่องแบบเต็มยศหลายนาย...แต่ที่ทำได้ก็คือ...ขับตะบึงไปหาน้ำ...
ถึงจุดรับเสด็จจุดที่ 1 ถังน้ำดื่มที่มีน้ำแข็งแช่เย็น ๆวางเป็นระยะเต็มพื้นที่......ไม่มีเวลาสนใจมากนัก ได้น้ำจากเครื่องกรองน้ำของกรมทรัพยากรน้ำที่ต่อสาย ขึ้นมาใส่ถังในรถช่วยให้ไม่ต้องยกหนัก...เมื่อขับกลับถึงโรคครัวมีคนพูดว่า... “ไชโย...เรารอดตายแล้ว..เรามีน้ำกินแล้ว..”
ปล. ที่เล่ามาทั้งหมดไม่ได้คิดจะอวดอ้างหรือชมว่าตัวเองเก่ง ขยัน หรือดีเลิศ ทุกคนมีงาน...โดยเฉพาะกลุ่มแม่บ้านที่ “ครัวสายใยรัก” ที่เตรียมงานล่วงหน้าเหนื่อยมาก่อนผมตั้งหลายวัน เมื่อเช้าก็ตื่นมาเริ่มทำครัวตั้งแต่ ตี 3 .......ยังไม่ได้พักเลย...
กลุ่มหุงข้าวทั้งร้อนแดดและร้อนไฟในเตา
กลุ่มทำกับข้าวดีหน่อยที่มีทีมละ 3 คนแบ่งหน้าที่ชัดเจน พอผัดเสร็จพอมีเวลาพักช่วงสั้น ๆ (ได้ผิงไฟเป็นระยะ)
กลุ่มบรรจุลงกล่องอยู่ในห้องที่อากาศไม่ผ่าน ความร้อนอากาศเพิ่มขึ้น คนก็เยอะ ข้าวที่บรรจุก็ร้อน กับข้าวก็ร้อน รีบก็รีบ ไม่มีเวลาลุกออกมาหายใจหายคอ
กลุ่มขนเสบียงก็เดินทั้งวันจนเท้าบวม
กลุ่มจ่ายเสบียงก็เจอคลื่นมหาชนจนเป็นลมไป 1 คน
ผมจึงต้องคอยเป็นกำลังใจให้เขา ช่วยให้เขายืนหยัดทำงานต่อไปได้ด้วยความรู้สึกดี ๆ และเพื่อพิสูจน์ตัวเองว่า “ยักษ์ในตัวเองยังตื่นอยู่หรือไม่”
ถ้าคุณแน่..อย่าแพ้...แดจังกึม...
หลายคนที่มารับเสด็จอาจไม่ได้กินอาหารฝีมือพวกเรา..อาจต้องทนหิว คงต้องขออภัยที่พวกเราไม่สามารถให้บริการได้หมดทุกคน โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ทหารที่โผล่มาจากราวป่าเมื่อท่านเสด็จกลับแล้ว(ด้วยความหิวโซ) แต่กับข้าวที่บรรจุเสร็จของเราหมด ได้ข้าวเพียงเล็กน้อย กับข้าวอีกนิดหน่อย ช้อนก็ไม่พอ ใส่ถุงรวม ๆ กัน กับแววตาเห็นใจจากแม่บ้าน “กลุ่มนี้น่าจะได้คนละ 2 กล่องด้วยซ้ำไป..” แม่บ้านกล่าวขณะขนของเข้าเก็บในโรงครัว.. “พรุ่งนี่ค่อยมาจัดการต่อ..วันนี้เก็บเข้าข้างในก่อน เหนื่อยแล้ว...”
ปล.2 ผมแปลงร่างคืนเป็นชุดเครื่องแบบสีกากีเพื่อเข้าแถวส่งเสด็จ และแปลงร่างเป็นเด็กโรงครัวอีกครั้งตอนเก็บของ….
สวัสดีค่ะ
เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าแดจังกึม ทำงานสำเร็จได้ด้วยดี เพราะมียักษ์ใจดีนี่เอง แล้วตกลงกินข้าวหรือยัง? ก่อนมายกของน่ะค่ะ
สวัสดีเจ้าค่ะ คุณอาปรีดา
หิวๆๆๆๆๆๆๆ เลยแวะมาหา คิคิ หิวๆๆๆๆ คิคิ คิดถึงค่ะ รักษาสุขภาพด้วยนะเจ้าค่ะ เป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ ----> น้องจิ ^_^
ผมดูรูปแล้ว..รูปใส่เครื่องแบบ..หล่อสู้...รูปข้างล่างไม่ได้...เหมือนพระเอก..จาพนม..เลยครับ
สวัสดีค่ะ
* ให้รู้ซะบ้างว่าความสำเร็จของแดจังกึมมาจากฝ่ายพลาธิการ
* รูปหล่อข้างล่างเหมือนจะพนมเนอะ.....เหนื่อยไง
* ในที่สุดยักษ์ตัวใหญ่ก็ได้ทำงานแล้ว
* สุขสบายรับฤดูฝนนะคะ