ช่วงนี้เป็นช่วงหน้าร้อน...อาจจะทำให้เกิดอากาศปวดหัว หน้ามืดบ่อย ๆ ซึ่งเราก็ต้องระมัดระวังตัวเองให้ดี ดื่มน้ำให้เยอะ ๆ และพยายามอยู่ในที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก...สำหรับตัวผู้เขียนเองก็ปวดหัวอยู่บ่อยๆ เหมือนกัน เวลาออกแดดนานๆ หรืออากาศร้อนจัดๆ ซึ่งสาเหตุของการปวดหัวมีอยู่หลายสาเหตุ แต่ที่แน่ๆ ผู้เขียนไม่อยากปวดหัวแบบไมเกรนเลยเพราะมันทรมานมาก (เคยฟังจากคนที่เป็นมาก่อน) แค่ปวดหัวในช่วงก่อนจะถึง.....วันนั้นของเดือน หรือระหว่างนั้น มันก็ปวดหัวแบบน้องๆ ของไมเกรนแล้ว...เราลองมาอ่านดูกันนะค่ะว่า...การปวดหัวแบบไมเกรนเป็นอย่างไร และอะไรคือสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคนี้ และจะมีวิธีป้องกันอย่างไร...
ไมเกรน เป็นอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง มักปวดบริเวณขมับข้างใดข้างหนึ่ง คนที่เป็นไมเกรนมักมีอาการเตือนล่วงหน้า เช่น เหนื่อย อ่อนเพลีย หาวบ่อย ตาพร่ามัว แสบตา เห็นภาพซ้อน หรือเห็นแสงจ้าเป็นจุด หรือเส้นซิกแซกในตา ซึ่งกระบวนการทั้งหมดอาจเป็นอยู่ประมาณ 10 -30 นาที ก่อนจะปวดศีรษะหรือมีอาการวิงเวียน คลื่นไส้และอาเจียนตามมา ไมเกรนมักเป็นๆ หายๆ ผู้หญิงเป็นมากกว่าผู้ชายถึง 3 เท่า สาเหตุของการเกิดมายเกรนยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่สังเกตได้ว่าสามารถถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ และเกิดจากระบบการทำงานของหลอดเลือดในสมองผิดปกติ หลีกเลี่ยงสถานที่ที่ร้อนและแออัด โดยเฉพาะงานนิทรรศการต่างๆ ที่ผู้คนหนาแน่น อากาศหายใจไม่เพียงพอ ทำให้วิงเวียนศีรษะได้ง่าย หรือหลังจากการเผชิญกับอากาศร้อนภายนอก และเดินเข้าภายในอาคารที่อากาศเย็นทันที อาจทำให้เกิดอาการปวดหัวแปลบขึ้นมา ในกรณีที่ต้องขับรถในช่วงแดดส่องจัด ควรสวมแว่นตากันแดด ป้องกันแสงสะท้อนเข้าตา และหากรู้สึกว่าไมเกรนกำลังคุกคาม รีบหาที่นั่งพักหลับตาสักครู่ ใช้ผ้าเย็นประคบหน้าผากหรือต้นคอ จะบรรเทาอาการได้ รับประทานอาหารครบทุกมื้อ โดยเฉพาะอาหารมื้อเช้าซึ่งร่างกายต้องการมากที่สุด หลังจากท้องว่างเป็นระยะเวลากว่า 7-8 ชั่วโมง หากปล่อยให้ท้องว่าง น้ำตาลในเลือดจะลดต่ำลง อาจทำให้อาการไมเกรนกำเริบได้ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ใช้เวลาหยุดสุดสัปดาห์ในการพักผ่อนอย่างเต็มที่ หรือประยุกต์ท่าโยคะที่เรียกว่า ท่าศพ เพื่อการผ่อนคลายกล้ามเนื้ออย่างเต็มที่ เริ่มจากการปิดไฟในห้องให้มืดและเงียบสนิท นอนหงายบนฟูกหรือพื้นราบ หงายมือวางข้างลำตัว หายใจเข้าและออกลึกๆ อย่างสม่ำเสมอ หากทำได้ 10 นาที ร่างกายจะรู้สึกปลอดโปร่งมากขึ้น ออกกำลังกายอย่างเหมาะสมเป็นประจำ ช่วยให้อาการปวดไมเกรนดีขึ้น เพราะร่างกายจะหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน ช่วยบรรเทาความเครียดและปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ ทั้งนี้หากมีอาการไมเกรนอยู่ก่อนก็ไม่ควรออกกำลังกาย เพราะจะยิ่งทำให้อาการรุนแรงมากขึ้น
ปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นอาการไมเกรนให้กำเริบหรือเป็นถี่ขึ้นคือ ความเครียด สภาวะฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง เช่น ช่วงมีประจำเดือน การรับประทานยาคุมกำเนิด การรับประทานอาหาร เช่น ช็อกโกแลต ซึ่งมีสารประกอบทางไนโตรเจน ที่มีผลต่อการขยายตัวของหลอดเลือด ทำให้อาการปวดหัวทวีความรุนแรง หรือแม้แต่อาหารที่มีผงชูรส ไส้กรอก ของดองและการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย เช่น สถานที่ที่เสียงดัง มีแสงสะท้อนจ้า และสุดท้ายการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและสภาพอากาศ อย่างเช่นหน้าร้อนเดือนเมษายนบ้านเรา ซึ่งมีแนวโน้มว่าปีนี้จะร้อนมาก ผู้ที่เป็นไมเกรนเป็นประจำอาจหลีกเลี่ยงสภาวะกระตุ้นการกำเริบของโรค หรือป้องกันตนเองจากไมเกรนด้วยวิธีดังนี้
ขอบคุณข้อมูลจาก : นิตยสาร Health Today
http://variety.teenee.com/foodforbrain/7267.html
ตอนนี้คุณหมีไม่ว่างครับ กำลังไปเป็นนางเอกมิวสิก อิอิๆๆๆ
สวัสดีพี่หนูนุ้ย อ้อยควั้น
ปวดใจล่ะจ๊ะ?
แนะนำยามายเกรน คือทำจิตใจ ให้สดชื่นแจ่มใส ไม่เครียด
อ.ขจิต ครูรักษ์เรียกพี่ ครูตุ๊กแกก็เป็นน้องงั้นขอเรียกพี่ด้วยคน นะคะ..นะคะ
ไมเกรนไม่ปวด แต่ ปวดใจเหมือนเนปาลี ทำไงดีอ่ะคะ
หวัดดีครับ
พี่อ้อยจ๋า
คุณสมบัติอย่างนี้ ผมโดนแน่
ต้อนรับไมเกรน...................อิอิ
มาเยี่ยม...
ดีนะได้ศึกษาเรียนรู้ เมื่อเป็นแล้วจะได้แก้ไขได้นะ ฮิ ฮิ ฮิ
สวัสดีครับ
เป็นยังบ้าง...
อย่าหายไปนานนักนะครับ
...
คิดถึง, และเป็นกำลังใจให้เสมอ
โชคดี ...
และขอให้มีพลังเยอะ ๆ ...ต่อไปและต่อไป
ประกาศ ประกาศ ประกาศ
"ขอประกาศว่า....คิดถึงพี่อ้อยควั้นครับบบบบบ"
สวัสดีค่า เป็นกลุ่มสุ่มเสี่ยงพอดีเลยค่ะ
เพิ่งทราบว่าไม่ทานข้าวเช้าก็เป็นไมเกรนได้เหมือนกัน
ปัญหาอยู่ที่ไม่ได้ออกกำลังกายซิคะ แต่เรื่องนอนเกินเพียงพอเลยค่ะ หุๆ
ขอบคุณมากๆเลยค่า
สวัสดีค่ะพี่อ้อย
ช่วงนี้สถานการณ์ไม่ดีเลยนะคะ ดูแลและรักษาตัวเองด้วยนะคะ
คุณพระคุ้มครองค่ะ
พักนี้ปวดหัวบ่อย
ไปตรวจเมื่อวันเสาร์หมอบอกว่าตามีต้อกระจก
ต้องหยอดข้าวต้ม...เอ๊ย...หยอดตา
เกษตรรุ่นพี่ๆ เป็นกันเยอะ
ไม่เป็นไร...มีคนหยอดให้แล้ว...อิอิ.
พักนี้สายตาต้องว่องไวนะครับ....(เมื่อเช้าเล่นกลางตลาดเทศบาลเลยนิ)!!!
ทิ้งช่วงไปเสียนาน คิดถึงน้องอ้อยควั้นมากเลย เปิดบล็อคใหม่ ก็ใช้ชื่อใกล้เคียงกัน เพราะช่วงนั้นสับสนเข้าบล็อคเดิมไม่ได้ ก็เลยลองเปิดใหม่ ก็โอเคใช้ได้ แต่ไม่ค่อยมีเวลาเขียนเรื่งตนเอง มีแต่จะไปอ่านของคนอื่นจะได้ความรู้ที่มากมายออกไป ว่าจะเขียนกิจกรรมนักศึกษาโข่งที่เรียนไม่ปกติ ว่าเขามีกิจกรรมอะไรบ้าง ก็มีแต่ลงรูปภาพและอธิบายสั้นไว้ เรื่องราวยังไม่เขียน เพราะห่วงการเรียนอยู่ ทั้งทำงานทั้งเรียนหนังสือ ได้อย่างเสียอย่าง ก็เลยไม่ให้เสียซักอย่าง เข้ามาเยี่ยมอ่านนะคะ คิดถึงด้วยคะ และเห็นมีอีเมลย์หากันด้วย ยังทำไม่เป็นเลย คนเดินดินไม่อยู่ไม่ใช้เวพ ไม่มีตัวช่วย ให้ว่างก่อนจะเข้าไปศึกษา จากเจ้าของบล็อคทั้งหลายอยู่ จะถามเอาเอง ถ้าพร้อมที่จะเรียนเมื่อไหร่ หรือถ้าหากว่าน้องอ้อยควั้น จะแวะไปแนะนำที่บล็อคพี่ก็ได้ พี่จะเช็คอีเมล์พี่ว่ายังใช้ได้หรือเปล่า และมันเป็นพาสเวิทตัวไหนแน่ บอกตรงๆ รุ่นเก่าจริงๆ ใช้ยังไม่เป็น เชยมาก นับตั้งแต่เป็นนักศึกษาโข่ง มีอะไรต้องเรียนรู้อีกมากเลย ตามไม่ทัน พอรู้อย่างหนึ่ง ก็ตามมาอีกอย่างหนึ่ง