8. เลียบชมวิถีวัฒนธรรมเมืองมัณฑะเลย์ (3)


พระสงฆ์พม่าเป็นทั้งผู้นำทางจิตใจและความถูกต้อง

 

       

     พวกเราไปชมหลายวัดมากจนจำชื่อไม่ได้ ทั้งหมด ขอนำเสนอ

เฉพาะที่จำชื่อได้เท่านั้นนะคะ

 

        วัดมหา อตุละวัยยัน (Maha Atulawaiyan) เป็นวัดที่มีพระอุโบสถใหญ่ กว้างขวาง ด้านในมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ เพดานคงทำด้วยไม้สักที่มีลวดลายสีทองประดับโดยรอบ อ่อนช้อย สวยงาม ภายในอุโบสถไม่มีเครื่องประดับอะไรมากนัก โล่งๆ

           ถัดจากวัดนี้เป็นวัด Golden Palace Monastery เป็นวัดเก่าแก่ที่ทำด้วยไม้สัก สลักฉลุลายที่ผนังไม้ด้านนอกและหลังคาตามแบบสถาปัตยกรรมพม่าสวยงาม ห้องด้านในทาด้วยสีทอง มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ พวกเราจบท้ายรายการตอนห้าโมงเย็นด้วยการเดินขึ้นเขามัณฑะเลย์เพื่อไปกราบนมัสการพระพุทธรูปและชมพระอาทิตย์ตกดิน  มีบันไดทางเดินขึ้นเขาประมาณ 1700 ขั้น แต่ไม่ลำบากอะไรเพราะมีหลังคาคลุมตลอดทาง ตามแบบวัดในพม่าทั่วไป เดินไปพักไปตามบริเวณที่มีที่ให้นั่งพักตามทาง มีร้านค้าขายของ แต่ละช่วงจะมีพระพุทธรูปประดิษฐานให้ได้กราบไหว้ ด้านบนสุดเป็นอุโบสถสวยงามที่มีพระเจดีย์สีทองประดิษฐานอยู่   รายรอบอุโบสถประดับตกแต่งด้วยกระจกสีต่างๆ สวยงามมาก ดูๆ ไปคล้ายศิลปะแบบมุสลิมนักท่องเที่ยวมากมายมาชมพระอาทิตย์ตกดินที่นี่

 

มีพระพม่าขึ้นมาเที่ยวหลายรูป มีรูปหนึ่งเดินขึ้นมากับเราตั้งแต่ครึ่งทาง ท่านพูดอังกฤษคล่องเพราะชอบมีปฏิสัมพันธ์กับชาวต่างชาติ ท่านดูแข็งแรง หนุ่มแน่น ท่านพูดคุยให้ฟังเรื่องราวต่างๆ มากมายหลายเรื่องเกี่ยวกับวัตรปฏิบัติของพระ ชี รวมทั้งความเห็นทางการเมืองด้วย ท่านพูดติดตลกว่าท่านเดินมากๆ ออกกำลังกายมากๆ เช่นนี้เพื่อให้มีสุขภาพแข็งแรงเอาแรงไว้ต่อสู้กับรัฐบาลทหารพม่า!!!

 

        เป็นที่น่าสังเกตว่าพระพม่าจะไม่เก็บเนื้อเก็บตัว ท่านออกไปทำกิจกรรมต่างๆ คล้ายชาวบ้าน มีปฏิสัมพันธ์กับฆราวาส ท่านเดินทักทาย พูดคุยกับชาวบ้านร้านค้าไปตลอดทาง ฆราวาสก็พูดคุยด้วยธรรมดา พวกเราอาจจะรู้สึกว่าท่านไม่ค่อยสำรวม บางทีนั่งคุยกับผู้หญิงฝรั่งก็มี (ฝึกภาษาอังกฤษ)  แต่ในด้านการศึกษาพระธรรมวินัยพระพม่า

เคร่งครัด ศึกษาและปฏิบัติอย่างจริงจัง ท่านทำหน้าที่สั่งสอนทั้งเยาวชนและฆราวาสทั่วไป เราจะเห็นพระพม่าสอนหนังสือเด็กในวัด ในขณะเดียวกันท่านเป็นผู้นำทางจิตใจสำหรับชาวพม่า ท่านต้องออกบิณฑบาตเองทุกวันในตอนเช้าไม่ว่าฝนจะตกหรือไม่ก็ตาม ไม่มีธรรมเนียมที่โยมนำอาหารมาถวายที่วัด แต่ท่านอาจมีโยมเจ้าประจำที่ถวายอาหาร  กิจกรรมหลายอย่างท่านต้องพึ่งตนเองเป็นหลัก

       

        บนยอดเขาเห็นวิวเมืองมัณฑะเลย์ชัดเจนมาก เห็นค่ายทหารที่มีบริเวณกว้างขวางมากโดยมีวัดอยู่ไม่ไกลจากที่นั่น ทราบมาว่าที่นั่นก็มีค่ายกักกันผู้ที่เห็นตรงข้ามกับฝ่ายทหารด้วย ทำให้รู้สึกหดหู่บอกไม่ถูกทั้งๆ ที่เมืองพม่าทั้งประเทศมีแต่วัดกับวัด

 

                           

 

เมื่อพักผ่อนจนหายเหนื่อยแล้ว พระอาทิตย์ตกดินไปแล้วพวกเราก็เดินกลับลงมา ในเวลาเดียวกันก็ยังมีนักท่องเที่ยวเดินสวนขึ้นไปบ้างก็ไม่ทราบจะได้เห็นอะไร เพราะมืดแล้ว เรากลับลงมาถึงด้านล้างเกือบทุ่ม พระท่านอาสาพาเราไปร้านขายทานาคาในเมือง ท่านนั่งด้านหน้า ไปถึงร้านมีสินค้ามากมาย มีสินค้าโชว์ได้แก่ ไม้ทานาคา

ห้อยไว้มากมายหลายขนาด ผลิตภัณฑ์ที่เป็นถุง เป็นกล่อง เป็นท่อนๆ รวมทั้งอุปกรณ์ที่ใช้ฝนแท่งทานาคาให้เป็นผง ร้านนี้ดูแล้วน่าจะขายของแท้ พวกเราก็ซื้อตามอัธยาศัย ราคาไม่แพง เสร็จแล้วกลับมาที่พัก พวกเรานิมนต์พระไปที่ร้านขายเครื่องดื่มเพื่อถวายเครื่องดื่มให้ท่าน ร้านนี้ขายเครื่องดื่ม ไอศครีม ช่วงนั้นเป็นภาพยนต์เกาหลีกำลังฉายอยู่ พนักงานขาย เสริ์ฟ จ้องหน้าที่ทีวีไม่กระพริบเลย นี่คืออิทธิพลเกาหลีที่ผ่านสื่ออย่าง

ได้ผล

 

หลายคนก็บอกว่าทำไมประเทศไทยไม่ลงทุนสร้างหนังเพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมไทยให้เป็นที่รู้จักในต่างประเทศเหมือนที่เกาหลีทำอยู่เมื่อพระฉันเสร็จ ท่านก็ลากลับโดยการเดินกลับ 3 กิโลเมตรซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับท่าน ในเมืองยามค่ำคืนบริเวณที่พวกเราพักดูไม่มีแสงสีมากนัก สำหรับเราแล้วไม่น่าเดินสักเท่าไร เราพยายามจะหาร้านอาหารก็ไม่พบ จึงกลับที่พัก เพื่อไปส่งอีเมล์ โชคดีที่โรงแรมมีบริการ ชั่วโมงละ 1 เหรียญสหรัฐฯ เราส่งเมล์กันเสร็จคนขับรถเจ้าเก่าก็มาหา บอกจะพาไปทานอาหารเย็น แกมีร้านที่รู้จักเป็นร้านแบบพม่า อยู่ไม่ไกลจากที่พักนักประมาณสองบล็อก แต่ถ้าไม่รู้จักก็หาไม่เจอหรอก คนขับต้องจอดรถทิ้งไว้ด้านนอกถนน พาพวกเราเดินเข้าซอยแคบๆ ไปสัก 50 เมตรเป็นเหมือนใต้ถุนบ้าน แต่มีอาหารขายหลายอย่างที่ทำสำเร็จแล้ว มีโต๊ะหลายชุด นั่งท่านกับพื้น มีคนทั้งนั่งทานอยู่ และซื้อกลับบ้าน เราก็สั่งๆ อาหารมามากมายหลายอย่าง อร่อยดีเพราะหิว ราคาไม่แพงนัก พวกเราเลี้ยงคนขับรถด้วย เสร็จแล้วเขามาส่งที่พัก นัดกันว่าพรุ่งนี้มารับตอน 6 โมงเช้า

 

---------------------------------------------------

ท่านที่สนใจจะศึกษาในระดับปริญญาโท-เอกของสถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาชนบท มหาวิทยาลัยมหิดล กรุณาเข้าชมรายละเอียดที่ www.lc.mahidol.ac.th หรือโทร. 02-800-2308-14 ต่อ 3101

       

หมายเลขบันทึก: 180652เขียนเมื่อ 5 พฤษภาคม 2008 11:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 23:54 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท