สัญญาที่....ลุมพินี


บันทึกนี้ เพื่อสรรเสริญบุคคล ที่ควรสรรเสริญ

 

     ระหว่างที่ผู้เขียนอยู่ที่กุสินารา ผู้เขียนมีปัญหา หรือเรื่องราวปรึกษา ก็จะมาหาแม่ชีอัมพรตลอด ท่านก็จะช่วยแก้ไข ในสิ่งที่เหมาะสมให้ โดยชนิดบัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น ผู้เขียนเรียกท่านว่าแม่ ท่านบอกว่า คำว่าแม่นี้ลึกซึ้ง ผู้ที่จะเรียกใคร ก็ต้องเข้าใจความหมายนี้ ผู้ที่ถูกรียก ก็ต้องสำนึกในหน้าที่คำว่าแม่ด้วย จะดูแล ปกป้องลูกให้ปลอดภัย จนถึงที่สุด แล้วผู้เขียน ก็ตกลงใจ นับถือท่านเป็นแม่อย่างสนิทใจ และด้วยท่าที หน้าตา ก็ช่างคล้ายแม่ที่ล่วงลับไปแล้ว ของผู้เขียนเสียด้วย

   บางครั้งผู้เขียนอยากมานั่งกินข้าวกับแม่ชีในครัว ท่านก็จะห้าม และบอกว่า ต้องไปกินในที่เขาจัดให้ เป็นการให้เกียรติของที่นี่ กับแขกสำคัญ บางวันผู้เขียนต้องนั่งกินข้าวคนเดียว ในที่ที่เขาจัดให้ อย่างประณีต ซึ่งรู้สึกเกรงใจมากๆ แต่นี่คือสิ่งที่ทุกคนมีหน้าที่ที่ต้องทำตามหน้าที่ จึงจะเกิดความสบายใจด้วยกันทุกฝ่าย นี่ก็เป็นสิ่งหนึ่ง ที่ผู้เขียนได้รับการสอนจากแม่ชี

  แล้ววันหนึ่ง ผู้เขียนก็ได้ทราบข่าวว่าแม่ชีจะกลับเมืองไทย ไปตรวจสุขภาพ ที่เจ็บป่วย ไปเยี่ยมญาติตามอัธยาศัย ผู้เขียนรู้สึกใจหาย นี่เป็นสิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนไม่ค่อยชอบ ตัวเองเท่าไหร่ ที่มักจะตัดความผูกพัน กับผู้คนที่แวะเวียนเข้ามาในชีวิตได้ยาก และบางคน แม้ข้ามชาติแล้ว ก็ยังรู้สึกว่า ยังผูกพันอยู่ทั้งๆ ที่ไม่มีอีกแล้ว ผู้เขียน จึงมักจะมีเวลาของตัวเอง ที่ไม่มีใครเข้าใจได้ เวลาแห่งการจัดการตัวเอง กับความรู้สึกต่างๆ ที่ผ่านเข้ามา เพื่อจะได้อยู่ร่วมโลก กับสิ่งที่เป็นสัญญาเก่าให้ได้ และอยู่อย่างรู้เท่าทัน

  แม่ชีมีกำหนดกลับวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๕๑ โดยต้องมาขึ้นเครื่อง ที่ลุมพินี ต่อไปกาฏมัณฑุ แล้วกลับไทย ก่อนถึงวันเดินทางให้ไปพักที่วัดไทยลุมพินีก่อน ผู้เขียน ก็ได้รับคำสั่งจาก ท่านเจ้าคุณให้เดินทางไปที่วัดไทยลุมพินี พร้อมกับแม่ชีอัมพร ในส่วนของผู้เขียนท่านให้ไปจัดการเรื่องยา ส่วนแม่ชีนั้นไปเพื่อรอขึ้นเครื่องกลับไทย ที่เนปาล ซึ่งก็ไม่ทราบเหมือนกัน ว่าทำไมต้องมาขึ้นเครื่องที่เนปาล

  ได้เดินทางเข้าเนปาล ในวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๑ โดยท่านเจ้าคุณ ได้เดินทางมาส่งแค่ชายแดน แล้วพระวัดไทยลุมพินี ท่านมหาสุพจน์ ก็ได้มารับต่อไป วันรุ่งขึ้น พระอาจารย์ได้นัดหมายจะพาแม่ชีอัมพรไปไหว้พระ สถานที่สำคัญในเนปาลหลายแห่ง และผู้เขียน ก็ได้ติดตามไปด้วย ที่จริงก็คือ เป็นการให้โอกาสผู้เขียน ได้มาเที่ยวชม สถานที่สำคัญ ในเนปาลนั่นเอง หลายแห่งแม่ชีก็เคยมาแล้วทั้งนั้น บางครั้ง การเดินทางที่อ่อนล้ามาก ท่านก้ไม่ลงจากรถ แต่พอถึงที่สำคัญ ท่านก็จะต้องพาผู้เขียนลงไปสวดมนต์ อธิษฐานจิต นับเป็นโชคดีมาก ที่ได้ไปยังภูตะวัน ได้ผ่านสายน้ำจากหิมาลัย ได้ไปกราบสถานที่สำคัญ "รามคาม" ซึ่งเป็นที่ที่เดียว ที่พระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานอยู่ นับตั้งแต่มีการแบ่งพระบรมสารีริกธาตุ เมื่อครั้งพุทธปรินิพพานนั้น ซึ่งมี แปดแห่ง เล่าว่า ทั้งเจ็ดแห่งมีผู้อันเชิญ ไปจากที่เดิมหมดแล้ว ที่รามคามนี้ มีผู้พยายาม จะอันเชิญไป แต่ต้องเจอกับปาฏิหาริย์พญานาคที่เฝ้าอยู่ จนไม่มีใครกล้ามาอีก วันนั้นสุดท้าย ได้ไปที่แม่น้ำโรหินี แม่น้ำแห่งความสมานฉันท์ แม่ชีก็ลงไปด้วยเช่นกัน

  แม่ชีอัมพร ทำหน้าที่แม่ที่ปรารถนาดีต่อลูกโดยแท้ มีใจเป็นกัลยาณมิตรต่อกัน ผู้เขียนรู้สึกเช่นนั้น

 กลับมาถึงวัด อาบน้ำอาบท่าเสร็จ ยังลงมาเตรียมทำอาหารเช้าถวายพระได้อีก

  วันที่ ๙ เมษายน ๒๕๕๑ แล้วก็ถึงเวลาต้องจากกัน แม้ช่วงเช้า จะมีข่าวการประท้วงปิดถนนบางสายในเนปาล แต่กำหนดการ ก็เป็นไปตามปกติ ผู้เขียนกอดอำลาแม่ชี อย่างอาลัย และยกมือภาวนา ให้การเดินทางปลอดภัย และแอบสัญญากันว่า ถ้าผู้เขียนมีโอกาส ได้มาสร้างบารมีที่เนปาล ณ ลุมพินีแห่งนี้ ขอให้แม่ได้มาสร้างบุญร่วมกันอีกนะ  แม่ชีให้ผ้า คลุมเนื้อดีสีขาวสองผืน เป็นที่ระลึก ส่วนผู้เขียนไม่ได้ให้อะไรแก่ท่าน นอกจากบอกว่า บุญใดที่จะได้ทำต่อไปนี้ ขอให้แม่มีส่วนทุกบุญนั้น

     รถที่พาแม่ชีไป พระเนปาลเป็นผู้ขับ(คนท้องถิ่นนำทางจะปลอดภัย) ท่านขับรถพาแม่ชีอัมพรไปอย่างไม่เหลียวหลัง ทิ้งให้ผู้เขียน ยืนโบกมือส่งจนลับตา ลาก่อน กัลยาณมิตร ที่พบกันต่างแดน ผู้แสนดี จนกว่าจะมีโอกาสพบกันใหม่

              บันทึกนี้ เพื่อสรรเสริญบุคคล ที่ควรสรรเสริญ ด้วยมีความประทับใจ ที่กุสินาราแห่งนี้ และจากการสนทนาธรรมกัน ทำให้ได้รับทราบถึงธรรมะในตัวท่าน ที่อยู่ในระดับสูงพอสมควร

   ขออนุโมทนาบุญกับแม่ชีอัมพร มา  ณ โอกาสนี้

หมายเลขบันทึก: 177912เขียนเมื่อ 21 เมษายน 2008 11:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 พฤษภาคม 2012 01:21 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (20)
  • ตามมาดูพี่เรา
  • การจากเป็นเรื่องธรรมดา
  • ดีใจที่มีแม่อีกคน
  • รออ่านต่อครับ
  • ขอบคุณครับ

โยคีน้อย

เข้ามาร่วมสรรเสริญบุคคลผู้ควรสรรเสริญ แม่ชีอัมพรแห่งวัดไทยกุสินารา

และต้องชื่นชมกับท่านเจ้าคุณพระราชรัตนรังษีด้วยที่เป็นบุคคลที่ควรสรรเสริญยิ่ง

ท่านทำงาน"รุก"จริงๆ ทำให้ชาวพุทธไทยและข้าราชการไทยในต่างแดนพลอยภูมิใจและชื่นชมไปด้วย

คงได้มีโอกาสช่วยงานท่านอีก

จะเห็นว่าชีวิตที่ผ่านมาของโยคีน้อย มีแต่ธรรมะจัดสรร

ถือว่าเป็นการเข้ากระแสแล้ว

จะเหลืออยู่แต่เพียงการสร้างบารมีของเราเอง

สาธุกับบันทึกที่ประทับใจนี้

เป็นบุญบารมีของน้องรุ่งที่ได้สร้างสมมาด้วยที่ได้มาพบ ได้ใกล้ชิด ได้รับความเมตตาจากบุคคลที่น่าเคารพสรรเสริญยิ่งเช่นท่านแม่ชีอัมพร(และผู้คนอีกนับไม่ถ้วนในทุกที่ที่อยู่และเดินทางไป) และยังได้ไปยังพุทธศาสนถานสำคัญหลายแห่ง เป็นบุญยิ่งกว่าได้เที่ยวรอบโลกเสียอีกนะคะ ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

  • สาธุบุญค่ะ พี่รุ่ง

สวัสดีครับคุณตันติราพันธ์

               กินข้าวกับอะไร...อร่อยมั้ยครับ...ข้าวอินเดีย....โต๊ะกินข้าวคงยาวสี่ห้าเมตร...อิอิ

                                                โชคดีครับผม

  • สวัสดีครับ
  • มาอ่านเรื่องแม่ชีตรับ
  • ท่านกลับมาเมืองไทยหลายวันแล้ว
  • หมอกลับวันไหนครับ
  • ขอบคุณมากครับ
  • เหมาะสมแล้วจริงๆ กับที่ชื่อ "คุณหมอบุญรุ่ง"

อนุโมทนา สาธุ

ยินดีค่ะที่มีแม่ที่น่ารักอีกคนค่ะ

ขอให้สมปรารถนะทุกเรื่องนะคะ

สวัสดีค่ะพี่หมอรุ่ง

มาร่วมอนุโมทนาบุญแ่ก่แม่ชีค่ะ

สาธุค่ะ ^ ^

สวัสดีค่ะอาจารย์ขจิต

อบอุ่นจังอยู่ใกล้แม่อัมพร แม่เป็นคนเมือเพชร ทำขนมอร่อยมาก เห็นท่านเจ้าคุณบอก กลับมากุสินารา จะให้ทำขนมเมื่องเพชร เอาไว้ขาย ผู้แสวงบุญ รับรองขายดีแน่ๆ ที่นี่ ขนมจะมีรสหวานนนนนน อย่างเดียว ไม่มีมัน เค็ม เหมือนขนมไทย เอ้า เทศกาลท่องเที่ยวคราวหน้า ได้กินขนมไทย ที่เมืองแขกกันแน่ค่ะ

พี่โยคี..สวัสดีค่ะ

ขอบคุณที่มาติดตามอ่านเรื่องราวของผู้ควรสรรเสริญ และอนุโมทนาบุยกับแม่อัมพร

ในส่วนของท่านเจ้าคุณพระราชรัตนรังษีนั้น ท่านเป็นอัจฉริยะค่ะ ท่านดูแลหลายวัด ปณิธานคือ จะสร้างวัดไทย บำรุงพระพุทธศาสนา ให้กลับคืนสู่แผ่นดินแม่-อินเดีย ทุกสถ่นที่สำคัญ และเป้าหมายคือ ให้ตนเชื้อชาตินี้ เป็นผู้สืบทอดกันต่อไป ท่านว่า ท่านอยากดูแลเด็กอินเดีย ตั้งแต่แรกเกิด ปลุกกระแสเลือดที่เป็นชาวพุทธ แต่กาลก่อนขึ้นมา และสืบทอดต่อไป

ขอกราบสรรเสริญพระคุณท่านเช่นกันค่ะ

สวัสดีค่ะพี่นุช

บุญทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้ เพราะพี่และทุกๆคน ที่มาสนับสนุน ให้ได้ไปทำในสิ่งที่ดี ไปพบผู้ที่เป็นกัลยาณมิตรมากมาย และแต่ละคน มาแสดงความเป็นมิตรสหาย กันอย่างตั้งใจ เหมือนภาพฝันที่เมื่อคราวจะเดินทางมาอินเดีย ได้ฝันเห็นคนมายืนรอรับมากมาย และปรบมือ หัวเราะเสียงดัง ที่แท้ก็สหายเก่าทั้งนั้นนี่เอง

คงไดมีโอกาสเล่าให้พี่ฟังอีกค่ะ

อนุโมทนาบุญกับพี่นุขนะคะ อ้อ! จะบอกว่า นุ่งผ้าถุง แล้วก็ยังเดินเร็วได้ดีเหมือนเดิม ไม่อึดอัดเหมือนที่คิดเลยค่ะ

สวัสดีค่ะ Pa daeng

นี่ก็ใกล้วันกลับแล้ว กำลังทำใจจะอยู่จนถึงวันสุดท้าย เพื่อระลึกถึง สรุปผลงานในใจให้เรียบร้อย ก็ไม่รู้ว่า เมื่อไหร่จะมีโอกาสกลับมาอีก

วันหนึ่งมีคนไข้ ที่เป็นหมอดูมารักษา อายุมากแล้ว (คุณหมอซิงค์บอก) เลยถามเขาว่า จะได้มาอินเดียอีกไหม เขาดูนาฬิกาเวลาขณะนั้น ให้สะกดชื่อ นามสกุล เมืองที่อยู่ แล้วเขาก็นับไป บวกไป หารไป ที่สุดก็ได้เลข ๗

เขาบอกว่า จะได้มาที่นี่ อีกเจ็ดครั้ง โห..ป้าแดง

สวัสดีค่ะพี่บางทราย

คิดถึงพี่จัง เพิ่งอ่านบันทึกพี่เรื่องงานเฮฮาศาสตร์ ที่ภูเก็ต ขออภัยที่ไม่ได้โพสไว้ สถานการณ์จำกัดจริงๆ ตามที่บอกไว้ ถ้าเขียนบล็อก ก็อ่านบทความได้น้อย หรืออ่านแต่คอมเม้นต์ไม่ทัน ไฟดับบ่อยมากค่ะ

ขอบคุณที่มาเยี่ยมค่ะ อยากเจอพี่และคนแซ่เฮ แต่ขอกลับถึงไทยก่อนนะคะ

สวัสดีค่ะนายช่างใหญ่

เพิ่งเข้าใจวันนี้เอง ที่เคยบอกว่า โต๊ะกินข้าวยาว สี่ ห้า เมตร ที่จริงคือแต่ละบ้าน เขาจะมีเตียงรับแขก ปูผ้า หมอนเรียบร้อย เรียกว่า กินบนเตียงเสร็จแล้วใครอยากนอนก็เชิญ เป็นเช่นนี้จริงๆ

ขอบคุณที่มาเตือนสติ เลยนึกขึ้นมาได้ และนำมาเล่าต่อกันค่ะ

สวัสดีค่ะพี่เกษตรยะลา

ขอบคุณค่ะที่ถาม อยากจะบอกดังๆตั้งนานแล้ว กลัวชาวบล็อกจะลืม กลับวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๕๑ ถึงประเทศไทยประมาณ ๓ ทุ่มเศษค่ะ

พี่อย่าลืมมารับนะ ที่สุวรรณภูมิ

สวัสดีค่ะคุณ สะ-มะ-นึ-กะ

แม่ตั้งชื่อให้ค่ะ เลยขยันทำบุญ ส่งมาให้ชาวG2K ทุกวัน และคงเป็นบุญสนับสนุนของทุกท่านด้วย ทำให้โชคดีหลายๆเรื่อง

คุณสะ-มะ-นึ-กะ เป็นหนึ่งแรงใจ ที่ขอขอบคุณมิลืมเลยค่ะ

สวัสดีค่ะคุณอุบล

ที่นี่เขายินดีต้อนรับ พยาบาลอาสามากๆค่ะ ทั้งไทย ทั้งแขก เรามาหมุนเวียน เก็บบุญ ตามที่เราถนัดกันเถอะค่ะ คนละเดือน สองเดือน และคิดว่า เจ้าภาพก็รออยู่

สวัสดีค่ะคุณกมลวัลย์

สาธุ สาธุ สาธุ ป่านนี้ แม่ชี คงได้รับความชื่นใจ จากที่ทุกๆท่านสรรเสริญท่านแล้วนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท