ช่วงหยุดยาวสงกรานต์ที่ผ่านมา มีโอกาสไกลับบ้าน ตจว. หลายวัน เลยมีเวลาพบปะพี่ น้อง ผอง เพื่อน และญาติๆ และเป็นธรรมเนียมที่ต้องถามข่าวคราวถึงคนโน่น คนนี้ ตามประสานคนที่อยู่ กทม. ไม่ค่อยได้กลับบ้านสักเท่าไหร่ และก็มีเรื่องที่ต้องทำให้ชวนคิด เมื่อถามถึงลูกชายวัย ๑๕ ของน้าคนหนึ่งในหมู่บ้าน เพราะตอนเด็กๆ เห็นบอกว่าเรียนเก่ง แต่คำตอบที่ได้กลับต้องแปลกใจครับ
เหตุเพราะว่า ตอนนี้น้องเขามีลูก ๑ คนแล้ว กับแฟนวัย ๑๔ ปี !!!
ผมจึงอดไม่ได้ที่จะสืบสาวราวเรื่องซะหน่อย จนได้ความว่า ขณะที่เรียนอยู่ ม.๓ ก็แอบพาแฟน ม.๒ ไปเที่ยวนั่น เที่ยวนี่ จนพ่อแม่ของสาวน้อยรู้ ผู้ใหญ่ของทั้ง ๒ ฝ่าย จึงมาคุยกัน จนได้ทางออกร่วมกัน คือ ให้ทั้ง ๒ แต่งงานกันซะ ทั้งสองจึงออกจากโรงเรียน แต่งงาน และมีลูกกัน ๑ คน โดยยังไม่ประกอบอาชีพใดๆ เป็นชิ้นเป็นอัน....
ผมฟังแล้วก็อึ้งๆ อยู่พอสมควร
หนึ่ง เพราะจริงๆ การศึกษา ม.๓ เป็นภาคบังคับ ที่คนที่ยังไม่จบน่าจะผิดกฎหมาย หรืออย่างน้อยก็ไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะเป็นพื้นฐานของการประกอบอาชีพในอนาคต
หนึ่ง เพราะเห็นทางออกของผู้ใหญ่ ที่จัดการให้ลูกๆ ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ หรือมีความเป็นผู้ใหญ่พอสมควร ในการดูแลตัวเอง และครอบครัวที่กำลังจะเกิดขึ้นใหม่ ซึ่งทางออกน่าจะเป็นอะไรก็ตามแต่ที่ทำให้เด็กๆ ได้คิดถึงอนาคต และวางแผนร่วมกันก่อนการแต่งงานและมีลูก
หนึ่ง เพราะสะท้อนมุมมอง และการคิด ของน้องๆ เยาวชนในปัจจุบัน ที่ไม่ได้คำนึงถึงผลที่จะตามมา ซึ่งอาจจะหลายเป็นวงจรปัญหาที่เพิ่มภาระหน้าที่ให้กับสมาชิกในครับครัว และสังคมมากขึ้น เพราะการแบกภาระเลี้ยงลูกทั้งที่ยังไม่มีงานทำที่เป็นหลักเป็นแหล่ง โอกาสของการส่งเสียลูกเรียนน่าจะยาก ไม่แปลกที่จะก่อให้เกิดปัญหาความเครียด ความรุนแรง การติดสุรา การหย่าร้างในครอบครัว ฯลฯ ซึ่งท้ายที่สุดหากปัญหาไม่ได้รับการป้องกัน อาจจะทวีความรุนแรงกระทบต่อสังคมในภาพรวมได้
ด้วยความเคารพรัก
สวัสดีครับอาจารย์
แถวบ้าน คนตานี ก็เป้นอย่างที่อาจารย์ว่าเหมือนกัน ลักษณะเหมือนกันเลย
แปลก แต่ แถวนี้ก็เป้นเรื่องธรรมดาไป สะแล้ว แม่คนตานีเองก็แต่งอายุ 15 เอง แต่คนสมัยก่อน ไม่เหมือนกับคนในปัจจุบัน นะครับ
วุฒิภาวะมากกว่า ไม่เหมือนกับคนรุ่นปัจจุบัน ที่ ยังรักสนุก ตามประสาวัยรุ่นนะฮับ
แต่ก็อยู่ที่แต่ละสังคม จะยอมรับ หรือไม่ เท่านั้นเอง
สวัสดีครับท่าน พี่หนุ่มคนตานี
ด้วยรัก
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีครับ คุณ rak-na
ด้วยความเคารพรัก
เด็กๆสมัยนี้ ชิงสุกก่อนห่ามจริงๆ