ดูไบ เปลี่ยนไป (เมื่อน้ำมันราคาร้อยกว่าๆ ต่อบาเรล)
ด้วยราคาน้ำมันที่แพงกระฉูดจนรั้งไม่อยู่อย่างปัจจุบันนี้ เราลองมาดูประเทศดูไบกันหน่อยไหมครับ ว่าเขาอยู่กันอย่างไร
นี่เป็นภาพในปี 1990
และนี่เป็นภาพจากมุมเดียวกันในปี 2007
ดูภาพเพิ่มเติมได้ที่ Where Is All The Oil Money Going? ครับ
Enjoy, enjoy...
ความเห็น (6)
ปัจจัย 4 เป็นปัจจัยขั้นพื้นฐานและมีความจำเป็นในการดำรงชีวิต
มนุษย์คิดเอาวิถีชีวิตไปผุกติดกับสิ่งอื่น แล้วอ้างถึงความจำเป็น
จนเป็นปัจจัยที่ 5,6,7...มีโทรศัพท์มือถือ,น้ำมัน,อาวุธ เป็นต้น
ลองสังเกตดูว่าใน 1 วันเราใช้โทรศัพท์กี่ครั้ง ใช้น้ำมันกี่ลิตร
โทรศัพท์เป็นภัยคุกคามความเป็นส่วนตัวของเรา
น้ำมันเป็นภัยต่อความมั่นคงในชีวิตของเรา
ถามว่าสิ่งเรานี้เราไม่มีได้ไหม
สถานการณ์ปัจจุบันนี้คงตอบได้ว่า ไม่
เพราะเราสร้างสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาให้เป็นปัจจัยความจำเป็นขั้นพื้นฐานของมนุษย์ไปแล้ว
และในอนาคตกาลไม่ทราบว่ามนุษย์เราจะคิดอะไรมาเป็นบ่วง,ห่วง ไว้ผูกคอเราอีก?
สวัสดีครับอาจารย์
อะไรจะไวปานนั้นครับ...กามนิตไม่ติดฝุ่นเลย...แล้วอิแบบนี้ค่าน้ำมันจะทะลุไปถึงเพดานไหนครับเนี่ย...เห็นแล้วละเหี่ยใจ...ใช้จักรยานดีกว่า...ไม่ต้องพึ่งพาใครเขา...เฮ้อ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
โชคดีครับผม
ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล
ก็ถือเป็นยุครุ่งเรืองของเขา อย่าคิดให้เครียดกันเลยครับ
(เหมือนการค้าทั่วไป แต่กำลังมองในสเกลระดับโลก)
มุ่งคิดของเราดีกว่าครับ จะทำยังไงให้มียั่งยืน
สวัสดีค่ะอาจารย์ ติดตามความสุขของคุณพ่อคนใหม่เป็นระยะๆ แสดงว่ามีความสุขและจัดสรรเวลาได้ดี ได้อ่านเรื่องจากอาจารย์เรื่อยๆนะคะ
ได้ชมสารคดีทางทรูวิชั่นที่ดูไบสร้างอะไรต่อมิอะไร อลังการแบบเราอ้าปากค้าง เรียกว่าเงินไม่ใช่ปัญหาค่ะ และเอาชนะธรรมชาติอย่างหักหาญด้วยความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่จะทำให้มนุษย์หลงตัวขึ้นไปอีกว่าแน่
เห็นอย่างนี้คนไทยควรมีสติให้มากๆ
สุดยอดแห่งสุดยอดของการพัฒนา ผมไม่เคยเห็นอะไรที่แตกต่างขนาดนี้มาก่อน
โลกมุสลิมรึเนี่ย สุดยอดแห่งการเปลี่ยนแปลงเลยครับ จะมีสักกี่ชาติที่พัฒนาทั้งเมืองในระยะเวลาไม่ 20 ปี หรือเรียกอีกอย่างคือ สิ่งมหัศจรรย์ของโลกก็ว่าได้