ด้วยเชื่อว่าการเรียนรู้จากประสบการณ์ที่หลากหลาย
จะเพิ่มพูนสติปัญญาได้มากกว่าการเรียนในห้องเรียนเพียงอย่างเดียว
นักเรียนทั้งเด็กเล็ก เด็กโต ที่โรงเรียนนี้จึงคุ้นชินกับการเรียนรู้ทั้งนอกห้องเรียนและนอกโรงเรียน
การจัดการเรียนเช่นนี้
ไม่ได้ง่ายดังพาเด็กไปเที่ยว
แต่กลับต้องมีการเตรียมการ และ ประสานงาน ที่ต้องละเอียดถี่ถ้วน
ต้องคิดใคร่ครวญ ตั้งแต่ขั้นวางแผนการสอน
กำหนดเป้าหมายในการเรียนที่สอดคล้องกับมาตรฐานของหลักสูตรให้ชัดเจน
เห็นภาพของการจัดกิจกรรมที่นำสู่การเรียนที่รู้จริง
ให้เด็กเห็นช่องทางนำความรู้ไปใช้
หากทำได้ถึงขั้นดัดแปลง ประยุกต์ใช้ความรู้
ก็ดูจะเป็นความสำเร็จที่นำความชื่นใจมาให้อย่างใหญ่หลวง
ซึ่งกิจกรรมทั้งปวงที่วางไว้อาจไม่สัมฤทธิ์ผล หากไร้คนสนับสนุน
ไม่ว่า ผู้บริหาร ผู้ปกครอง แม้กระทั่งเพื่อนครู
ที่ต้องร่วมกันดูแลเด็กระหว่างการร่วมกิจกรรม
แต่ด้วยความเชื่อมั่นในการเรียนรู้เช่นนี้
จึงได้เห็นคุณครูของเราพยายามพัฒนาวิธีการนานาชนิดมาส่งเสริมให้ลูกศิษย์ได้เรียนรู้
เช่นคราวเมื่อครูพาเด็กไปขี่ควายในปลายฤดูฝนที่ผ่านมา
ที่กว่าจะได้ออกเดินทาง
แม้จะเตรียมการในส่วนของครูเสร็จ
เด็กและครูยังต้องร่วมกันกำหนดทิศทางของการเรียน
ทั้งรูปแบบกิจกรรม
ทั้งวิธีรวบรวม แลกเปลี่ยนความรู้ จนทะลุถึงขั้นตอนสรุปองค์ความรู้
และประเมินผล
ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะนำสู่การเดินทางเพื่อการเรียนรู้อย่างมีเป้าหมาย
และเห็นภาพการทำงานร่วมกันอย่างชัดเจน
เมื่อวันเดินทางมาถึง
เด็กๆ จึงต้องสังเกต และบันทึกเรื่องราวตั้งแต่เริ่มเดินทาง
ทั้งจากมุมมองของตนเองและตามที่กลุ่มของตนมอบหมายงาน
ที่ศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
จ.เชียงใหม่..
เด็กๆ ได้เรียนรู้จากหอนิทรรศการ และจากฐานการเรียนต่างๆ
ทั้งหัดขี่ควาย ไถนา ดำนา เพาะเห็ด ทำปุ๋ย
พูดคุยกับวิทยากร
ภาพของเด็กๆ
เสื้อแดงทั้งหญิงชาย ต่อแถวเกาะหางไถนา ขี่ควาย ลุยโคลน ดำนา
ยิ้มร่า
บ้างก็กลับโรงเรียนพร้อมทั้งถือถุงเห็ดติดมือกลับมาเพื่อจะเอาไปลองเพาะที่บ้าน
ทำให้ครูพอจะมีความหวังว่า
บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายยังพอจะเหยียบขี้ไก่ฝ่อ
ต่อจากการไปทัศนศึกษา
จึงเป็นขั้นตอนของการเรียบเรียงความรู้จากรายคน
จนรวบรวมทำเป็นหนังสือเล่มเล็ก
ทั้งยังต้องร่วมกันนำเสนอ แลกเปลียนเรียนรู้ เติมเต็มในส่วนที่ขาด
ช่วยกันทำหนังสือเล่มใหญ่ของแต่ละกลุ่ม ให้คะแนนตนเอง
ให้คะแนนเพื่อน
หลักสูตรขี่ควาย จึงไม่ใช่เพียงพาเด็กไปขี่ควาย
แต่มุ่งหมายจะให้เกิดความตระหนักรู้ในคุณค่าแห่งการงาน
ผสานกับการใช้สติปัญญาในการเลือกรับ
รวบรวมและใช้ความรู้อันจะก่อให้เกิดคุณประโยชน์แก่ตนและผู้อื่น
แม้ผลที่ได้อาจไม่ได้เกิดขึ้นทุกสิ่งในเร็ววัน
แต่..ก็เป็นอีกหนึ่งบทเรียนที่ครูก็ได้เพาะกล้าพันธุ์แห่งการเห็นคุณค่าในชีวิตแบบพอเพียงให้แก่เด็ก
และ..เป็นบันไดสู่การพัฒนา ทั้งในส่วนของครูและเด็ก
ให้รักในการเรียนรู้..ร่วมกัน
ขอบคุณ ครูสุกัญญา โนพี และคณะครูระดับมัธยม โรงเรียนมงคลวิทยา ที่จัดหลักสูตรขี่ควาย
ควันหลงจากกิจกรรม
น้องประถมถามคุณครูด้วยหน้าตาสงสัยว่า..ครูครับพี่เค้าไปไถนามาแล้วควายไม่ขวิดเหรอ..
คุณครูตอบ..ไม่ขวิดหรอกครับ..ทำไมเหรอลูก..
น้องตอบว่า.. อ้าววว...ก็ผมเห็นพี่เค้าใส่เสื้อแดงไปไถนา.. ?!!?!..
สวัสดีค่ะ
(ควายเชื่องนะคะ...ถึงไม่ตกใจกับสีแดงเต็มทุ่ง)
ขอบคุณค่ะ
ชอบจังเลยหลักสูตรอย่างนี้น่ะ...ชื่นชมจ้า
รูปควายยิ้มน่ารักเน๊อะ...เห็นใจใสๆของคนวาดน๊ะ
ปรัชญาว่าด้วย ควาย อิอิ
โฮ...นับถือผ่านบันทึกนี้เลยครับ.. และขอนำเข้าแพลนเน็ตตนเองเพื่อศึกษาต่อยอด
พาเด็กไปจัดกิจกรรมลงแขกดำนา, เกี่ยวข้าว บ่อย ๆ ...เขาจะได้เรียนรู้ความจริงของชีวิต และสิ่งเหล่านั้นก็จะเป็นต้นทุนทางปัญญาสืบไปอย่างไม่รู้จบ
...
ผมคงไม่เสนอแนะใด ๆ เพราะประทับใจ, นับถือ และอิ่มสุขที่ได้อ่านบันทึกนี้เหลือเกิน
ขอชื่นชมความมีจิตอันละเอียดอ่อนของผู้ทำหลักสูตร และลงมือพาเด็กทำกิจกรรมนี้กันค่ะ
เด็กๆคงได้เรียนรู้มากมายและสนุกสนานทำให้จดจำประสบการณ์แห่งแผ่นดินนี้ไปยาวนานนะคะ
สวัสดีครับ
แปลกใจเหมือนกันที่ทำไมควายไม่ขวิด
แต่ก็ชอบน้องควายจริงๆ ..รูปควายยิ้มน่าร๊ากกก >.<
สวัสดีครับพี่
เอาป้ายมาปิดที่โรงเรียนครับ
โครงการสร้างสรรค์แบบนี้ น่าจะเป็นตัวอย่างให้กับสถานการศึกษาอื่นๆ ได้อย่างดีครับ
ขอบคุณมากๆ นะครับ
สวัสดีค่ะพี่อึ่งขา
ท่าทางน่าสนุกและได้เรียนรู้จริงๆ เลยค่ะ เห็นภาพแล้วทำให้นึกถึงสมัยเด็กๆค่ะ เคยนั่งหลังควายหนหนึ่ง และก็ชอบวิ่งตามทุ่งนาหน้าแล้งหากองขี้ควายเพื่อขุดหาแมงกุ๊ดจี่ สนุกมากๆ ชอบๆ คิดถึงแล้วมีความสุข ... สักวันคงได้มีโอกาส บรรยาย ถึงสภาพทุ่งนาสมัยนั้น...
เด็กๆ น่ารักจัง ใจกล้าด้วย โรงเรียนที่สนับสนุนกิจกรรมดีๆ แบบนี้น่ายกย่องค่ะ เกิดมายังไม่เคยมีโอกาสขี่เลยค่ะ ยอมรับว่ากลัวเหมือนกัน แต่ถ้ามีโอกาสก็อาจจะขอลองขี่ดูสักหน แล้วคลัตช์อยู่ตรงไหนคะ อิ อิ
บันทึกใหม่ยังไม่มา รออยู่จ๊ะ
20. ทะเลดาว
สวัสดีครับ พึ่งสังเกตุว่าคนขี่ สวมเสื้อสีแดง
ผมมีคำแนะนำหน่อยครับ
ถ้าคุณมีบันทึกที่ดีๆ ช่วยนำไปรวมในรวมตะกอนด้วยครับ จะช่วยได้มาก เพราะผมทำได้ไม่ทั่วถึงครับ
น้องออตคะ..พี่ใช้สิทธิพาดพิงแล้วน้า
สวัสดีค่ะ..เรื่องเอาบันทึกไปใส่ไว้ในรวมตะกอน..อิ..อิ..ถ้าของตัวเองไม่ค่อยกล้าค่ะ..ไม่รู้ว่าบันทึกจะดีหรือเปล่า แต่ถ้าเจอของใครดีๆ จะพยายามช่วยเอาไปรวมไว้นะคะ
คุณน้องคะ..พี่ก็อยากลองขี่ควายดูสักทีเหมือนกัน เคยแต่เอาฝักจามจุรียื่นให้วัว..ควายของคนอื่นกินตอนเด็กๆ แต่เจ้าของเค้าก็ไม่อยากให้กินมาก เพราะจะทำให้ท้องอืด..แต่เราก็สนุกนี่นะคะ
เพิ่งเข้ามาเห็นบันทึกนี้เมื่อเวลาผ่านไป 7 ปี นักเรียนที่โชคดีได้เข้าโรงเรียนเลี้ยงควายตอนนั้น คงโตขึ้นอย่างมีคุณภาพ เป็นคนดีของสังคมนะคะ ได้เห็นการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขของศิษย์เก่ามงคลรุ่นแรกๆ ที่ปลูกฝังกันมาแต่เล็กๆยังรวมกลุ่มกันได้อย่างสมศักดิ์ศรีของศิษย์มงคล วิทยาค่ะ เพลงมาชร์ จามจุรี เขียวขจีชูก้านกิ่ง ยืนต้นนิ่งขอบรั้วรายชายทุ่งนา รอบเขตขันธ์ุมงคลวิทยา ยลแล้วพาอ่อนและน้อมน่านิยม.....ยังคงดังก้องกังวานทุกครั้งที่ศิษย์แต่ละรุ่นพบกัน เป็นความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจมากๆค่ะ