เมื่อดิฉันโดนโจรกระชากกระเป๋า


ถูกลูกยุให้เขียนเล่าให้ป้า ๆ น้า ๆ ใน gotoknow อ่านค่ะ

ปกติทุกวันหลังเลิกงานดิฉันกับลูก ๆ ก็จะไปรอพ่อบ้านอยู่ที่บริษัทของเขา  วันนี้ก็เช่นเดียวกัน ระหว่างรอพ่อบ้านกลับมาถึง ลูกๆ ก็ชวนไปทานข้าวและซื้อของที่คาร์ฟู  ซึ่งก็ไม่ได้หนักหนาอะไร เพราะแค่เดินข้ามถนนก็ถึงคาร์ฟูแล้ว 

 หลังจากซื้อของเสร็จ ก็ข้ามถนนกลับมา ระหว่างเดินเข้าในซอยได้สัก 100 เมตร ลูกก็หันมาบอกดิฉันว่า
"แม่ ๆ ระวังรถชน"


จังหวะที่ลูกบอก ดิฉันหันไปทันทีก็ปรากฎว่า มีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งวิ่งมาอย่างเร็วและชนถุงใส่ของดิฉันหล่น


จังหวะที่ดิฉันก้มลงเก็บถุง แล้วกะจะมองหน้าไอ้คนชน  ปรากฎว่ามันขี่ผ่านหน้าไป พร้อมกับกระเป๋าของดิฉันก็อยู่ในมือมันแล้ว

 

 เป็นอะไรที่เร็วมาก ทั้ง ๆ ที่อีกไม่กี่ก้าวดิฉันก็จะถึง office แล้ว และในซอยก็มีบ้านบางหลังที่มีคนนั่งอยู่หน้าบ้าน แต่ก็ไม่มีใครเห็นความผิดปกตินี้  เพียงแต่ได้ยินเสียงเด็กสองคนร้องไห้  ซึ่งเขาก็ไม่ได้สนใจอะไร

 จังหวะนั้น เสียงดิฉันไม่ออกเลยค่ะ  นึกในใจนะคะว่า เราต้องตะโกนว่า "ช่วยด้วยค่ะโจรกระชากกระเป๋า ช่วยด้วยค่ะ " แต่เสียงมันอยู่ในลำคอพูดไม่ออก จังหวะนั้นได้แต่ปลอบลูก ๆ ว่าอย่าร้องไห้ แม่ไม่เป็นอะไร แล้วก็พยายามใช้สติว่า มีอะไรอยู่ในกระเป๋าบ้าง
เงินหนะ ไม่มีแน่นอน เพราะเพิ่งถอนมาสองพัน  ใช้หนี้คุณเมตตา ไป 500  ซื้อโน่น ซื้อนี่ เหลือเงินไม่เกิน 500
กล้องถ่ายรูปที่อุตส่าห์อ้อนสามีให้รูดการ์ดให้  ก้อโชคดี ที่มีน้องคนนึงยืมไปเที่ยวภูกระดึง  ไม่งั้น ก็คงอันตรธานหายไปพร้อมกระเป๋าด้วย
มือถือสองเครื่อง  ปกติก็จะนอนแอ้งแม้งอยู่ในกระเป๋าใบเล็กอีกใบซึ่งก็อยู่ในกระเป๋านั่นแหละ  แต่ตะกี้ ดันถือแยกออกมาต่างหาก
ATM  กับบัตรข้าราชการ ก็อยู่ในกระเป๋ามือถือ
บัตรเครดิต  สามใบ  ตายแล้วบัตรเครดิต  ทำงัยดีเนี่ย  จะโทรไปไหน โทรอายัติยังไง ถามใครดีเนี่ย
ณ ตอนนั้น แทนที่จะนึกถึง 191 ดิฉันกับนึกถึงกัลยาณมิตรจากเชียงใหม่  ใช่สิ พี่อึ่งอ๊อบ  คิดอะไรไม่ออกให้บอกพี่อึ่งอ๊อบ  เธอมีเพื่อนเป็นคุณนายตำรวจ เธอคงช่วยเราได้

ดิฉันกดหาเธอทันที
"พี่อึ่งฯ ช่วยด้วย โดนกระชากกระเป๋า ทำไงดีเนี่ย บัตรเครดิต 3 ใบ อยู่ในนั้น"
"ใจเย็น ๆ มีบัตรของอะไรบ้าง"
ดิฉันบอกชื่อบัตรเครดิตให้เธอไป  เธอวางสายสักพักก็โทรกลับมาบอกเบอร์ที่จะให้ดิฉันโทรไปอายัติบัตรต่าง ๆ

เฮ้อ  เสร็จไปอีกเปลาะ

แล้วก็มานั่งนึกอีกว่า แล้วมันเอาอะไรไปได้บ้าง
เงิน น่าจะไม่เกิน 500
บัตรเครดิต ซึ่งใช้การไม่ได้แล้ว
ผ้าอนามัย 2 ผืน (ยังใช้การได้อยู่นะคะ)
บัตรสมาชิกต่าง ๆ เสียดายมากที่สุดก็บัตรฟูจินั่นแหละ สะสมแต้มไว้ได้ตั้งเยอะแล้ว
บัตรนอนโรงแรมพร้อมอาหารเช้า ฟรี 2 ห้อง 1 คืน  ดิฉันไม่น่าแย่งบัตรนี้มาจากกระเป๋าคุณสามีเล้ย  ด้วยความที่กลัวว่าคุณสามีจะเอาไปใช้กับใคร
พ่อครูขา  พี่อึ่งฯ ขา  ที่พักฟรีหนะ ไม่มีแล้วนะคะ  ฮือ ๆๆๆ
กุญแจต่าง ๆ 3 พวง
ที่แพงสุดก็คงจะเป็นกระเป๋าที่มันกระชากไปนั่นแหละ  ฮือ ๆ เพิ่งซื้อมาใช้ได้ไม่เท่าไหร่เอง  แต่ไม่เป็นไร ตะกี้ดิฉันอ้อนคุณสามีแล้วว่า "ซื้อใหม่ให้ด้วยนะ"

สุดท้าย พอหลาย ๆ คนรู้ว่า โจรมันได้อะไรไปบ้าง ก็บอกดิฉันว่า "ระวังเถอะ มันจะมาเอาคืน ที่ทำให้มันเสียเวลาไปตั้งเยอะ สุดท้ายได้ของไปนิ้ดเดียว"

แต่อะไรจะเกิดขึ้น ถ้า

ถ้าตอนนั้นดิฉันใจอ่อนให้ลูกสาวคนเล็กช่วยถือกระเป๋าถือให้

ถ้าดิฉันไม่ตัดใจเอาเงินที่มีอยู่เข้าธนาคารเก็บไว้

ถ้าดิฉันไม่ให้กล้องน้องคนนั้นยืมไป

ถ้าดิฉันไม่แยกกระเป๋าที่ใส่มือถือออกมา

เฮ้อ ไม่อยากจะนึกถึงเล้ย

หมายเหตุ  เหตุเกิด ณ วันที่ 28 มกราคม 2551 เวลา 20.00 น. โดยประมาณ

 

ปล. ท่านอัยการชาวเกาะค่ะ  ดร.แสวง ค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ ที่ทำให้พลอยตกกะใจไปกับดิฉันด้วย

 

 

หมายเลขบันทึก: 161993เขียนเมื่อ 28 มกราคม 2008 23:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 พฤษภาคม 2012 01:03 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (18)

สวัสดีครับพี่

           ขวัญเอ้ยขวัญมาครับ หายตกใจแล้วนะครับ โชคดีมากนะครับ ไม่ได้จำหลักฐานอื่นๆ ไว้หรือครับ

           น่าจะำทำระเบิดไข่เน่าใส่ไว้ในกระเป๋านะครับ พอฉกไปได้ ใช้รีโมทกดให้ไข่เน่าระเบิดพร้อมๆ กันทั้งรัง น่าจะดีพิลึกครับ

           จากสังคมเกื้อกูล พึ่งพา แบ่งปัน เป็น แข่งขันแย่งกันฉกชิง ลูกเค้าคงป่วยหนักก็ได้ครับพี่ เลยต้องหาเงินไปรักษาลูกครับ

เมื่อเรามีโอกาสถูกฉกชิง วันหนึ่งเราก็จะมีโอกาสเช่นกัน อยู่ที่ว่าเราจะทำหรือไม่? หากทำก็คงผูกกรรมกันต่อไปครับ

 

รักษาสุขภาพครับ 

ยังดีที่ของหายไม่มากนัก

นึกว่าฟาดเคราะห์ไปนะคะ

เดี๋ยว จะมีโชคแล้วค่ะ

มาเด้อ..ขวัญเอ้ย ....

จากนี้ไปขอให้พานพบเจอแต่เรื่องอันดีงาม... เสมอไป และตลอดไป

คิดถึงเสมอ..... นะครับ  ขอให้สุขภาพแข็งแรง ๆ  และแข็งแรง

 

     เจอแบบนี้ ใจหายเลยนะคะ แต่ อึ่งอ๊อบ นี่ น่ารักจัง

เฮ้อ ลูกยุให้เขียน ให้เล่า

ขอให้เหตุการณ์ผ่านไปด้วยดีนะแป๊ด

อยากขอร้องว่า ให้พ่อบ้านเอาใจคลอเคลียปลอบใจเป็นพิเศษ

จะได้หายขวัญหนีดีฝ่อ อิอิ

 

ขอแนะนำให้ถอดเครื่องประทับเก็บไว้ สวยแบบอันตรายไม่คุ้มหร๊อก

ยิ้มหวานๆให้คนรู้ใจก็พอแล้ว ประหยัด เรียบง่าย และมีประสิทธิภาพสูง ถ้าให้ดีต้องโผเข้าไปกอด ก็ของฟรีอีกนั่นแหละ

เขาเรียกว่าสวย ดูดี สง่า แบบพอเพียง นะแป๊ดเอ๊ย!!

ดีใจที่ปลอดภัย

ของนอกกายช่างมัน

ต่อไปต้องระวังตัวมากขึ้น

พี่ก็พยายามมีสติ ระวังอยู่เหมือนกัน  เพราะเวลาเข้าบ้านดึก ๆ ต้องเปิดประตูบ้าน จัดการมัดลูกชาย กว่าจะเอารถเข้าบ้านได้  บ้านก็ไม่มีใคร

ประกาศ.....บ้านไม่มีใครอยู่ด้วย

ก๊ากส์

ขวัญเอ๋ย  ขวัญมา

คิดซะว่า  ทำทานไปนะน้อง...  อย่างน้อยๆน้องยังมีคุณสามีใจดี๊..ใจดี  อยู่เสมอ

แป๊ดเอ๋ย...พี่หนิงก็เคยมีประสบการณ์โดนวิ่งราวกระเป๋านะคะ  ตอนนั้นจนมากเลย  โดนแถวสะพานควายที่ กทม.  ช่วงวันหยุดยาวด้วย  กลับบ้านไม่ได้  ทำบัตรอะไรก็ไม่ได้  อายัดได้อย่างเดียว  ติดต่อเพื่อนในกทม. เขาก็พาครอบครัวไปพักผ่อนตจว.กัน

กว่าจะออกจากโรงแรมได้  ต้องให้เพื่อนรักที่กลับจากไปพักผ่อนที่ตจว.มาไถ่ตัวออกจากโรงแรมอ่ะค่ะ  เพราะไปไหนไม่ได้ เหลือเศษตังค์ติดตัว 6 บาท  กินๆนอนๆ ใช้บริการ roomservice รอจนเพื่อนกลับมา  3 วันอ่ะ  สูญเงินและของรักในกระเป๋าไม่พอ  จ่ายให้โรงแรมอีกหลายพัน  เฮ้อ...

มาเยี่ยม...คุณ รัตติยา เขียวแป้น

สนใจในหัวเรื่อง...ขอให้ปลอดภัย..อย่าพบเจออีกนะครับ

เมื่อวันวาน...ผมนั่งทานข้าวเที่ยง..กับท่านรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยทักษิณ  วิทยาเขตสงขลา...ท่านเล่าว่า..มีอาจารย์ผู้หญิง มทษ. กำลังเดินเข้าบ้านในซอยแถวสงขลา...ก็โดนโจรดักกระชากกระเป๋า  พอรุ่งขึ้นมันมาดักที่เดิมใหม่..

เธอจำหน้าได้..กลัว...เลยขอที่พัก  ใน มหาวิทยาลัยชั่วคราว...

เมืองใหญ่ปัญหาเยอะ...ต้องแจ้งตำตรวจให้จัดการโจร...เพื่อสังคมน่าอยู่นะครับ

สวัสดีคะน้องแป๊ด มากอดอุ่น ๆ ขวัญมา ขวัญมานะค่ะ

ต่อไปขอให้มีแต่ความโชคดี

ฝากคำชมถึงสาวน้อยด้วยนะค่ะว่าหนูเก่งมาก

 

 

 

  • ขอบคุณมากครับที่เอามาเล่าสู่กันฟัง   จะได้ระมัดระวังกันมากขึ้น
  • ช่วงเศรษฐกิจไม่ดี  มิจฉาชีพก็มากขึ้น 
  • เพื่อนๆกันเจอ  อยู่ในบ้าน  ก็มีเดินเข้ามาดื้อๆ   ขอของขอตังแล้วก็รีบซ้อนรถเครื่องหนีไป   จะแจ้งความก็กลัวเพราะมันรู้จักบ้าน 
  • ดีนะครับที่เสียหายไม่มากและคนไม่เป็นอะไร 
เฮ้อ...ใจหายใจคว่ำไปด้วยค่ะ สงสารเด็กๆคงตกใจและมีความฝังใจกับเหตุการณ์นี้นะคะ ดีจริงๆที่ไม่ใช่น้องฟ้า น้องฟางถือกระเป๋านะคะ และต้องบอกว่าเหตุบังเอิญทั้งหลายที่ทำให้ไม่เสียหายมากไปกว่านี้นั้น น่าจะเป็นเพราะความดีที่คุณแป๊ดทำอยู่บ่อยๆแน่เลย ทำให้ผ่อนหนักเป็นเบาได้ อ่านความเห็นคุณเม้งแล้ว หลังจากตื่นเต้นมา อดหัวเราะไอเดียไม่ได้นะคะ คิดได้ไงเนี่ย ระเบิดไข่เน่าน่ะ

วันนั้นผมนั่งทานอาหารอยู่กับน้าอึ่ง อ.แสวงและภรรยา น้าอึ่งบอกเล่าเหตุการณ์และขอทราบเบอร์โทร.แจ้งระงับบัตร ธ.ไทยพาณิชย์ ผมโทร.หาลูกชาย เขาก็บอกมาเบอร์หนึ่ง อ.แสวงบอกของผมเคยหายเบอร์นี้เลย ๐๒-๗๗๗๗๗๗๗ พอรู้ว่ามันเอาอะไรไปได้ไม่มาก ไม่มีใครบาดเจ็บ ก็ใจชื้น แถมยังคุยกันว่าดีไม่ดีเดี๋ยวมันก็เอาของมาขว้างทิ้งที่หน้าสำนักงานด้วยความเจ็บใจที่ลงทุนวิ่งราวทรัพย์แล้วไม่คุ้ม(แถมมีผ้าอนามัยติดไปอีก อิอิ)

พ้นเคราะห์แล้ว ต่อไปชีวิตก็จะมีแต่ความสุขแล้วละครับ ไม่มีที่พักฟรีไม่เป็นไร ไปภูเก็ตเมื่อไรมีที่ให้พักฟรี......

โอ๋ๆๆๆ ขวัญเอ้ยขวัญมา ถ้าเจอกับตัวเองก็คงทำไรไม่ถูกเหมือนกัน

คนเราก็น่ะ ใจร้ายใจดำ

แต่ถ้ามากระชากแก่นบ้าง คงไม่ได้อะไรเหมือนกัน เพราะพกตังค์ไม่เกิน 500 บาทสักที หุหุ

 แต่ก็โชคดีที่มันไม่ทำอันตรายใดๆ ถือว่าฟาดเคราะห์ล่ะกันเนอะ...เพี้ย ขวัญมาๆๆ

สวัสดีค่ะ น้องแป๊ด

  • ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ.....ที่เกิดเหตการณ์ไม่คาดคิดแบบนี้
  • ไม่เป็นไรคุณแป๊ด...ของนอกกาย  ค่อยหาเอาใหม่   เดี๋ยวพี่ติ๋วช่วยหา...
  • คุณแป๊ดสบายดีนะคะ
  • ฝากความคิดถึงเพื่อนๆชาวใต้ด้วยค่ะ

คุณแป๊ดครับ

  • ทุกเหตุการณ์ทำให้เราเรียนรู้เสมอนะครับ
  • มันทำให้ผมคิดถึงข้อความที่อาจารย์หญิง.. กิตติกร นิลมานัต ส่งมาให้ mailgroup อ่าน เกี่ยวกับ ICE concept..in case of emergency

จริงหรือไม่ ที่เราบันทึกชื่อใครต่อใครไว้้ในโทรศัพท์เป็นร้อยๆ คน แต่ว่า จะมีซักกี่คนในนั้นที่เราจะรู้จักใกล้ชิดจริงๆ  ลองนึกดูว่า ถ้าโรคหัวใจคุณกำเริบขึ้นมา แล้วจะบอกอย่างไรเพื่อให้ใครซักคน บอกคนในครอบครัวของคุณ

แน่หล่ะ คุณมีเบอร์เป็นร้อยๆ เบอร์ในเครื่อง แต่ใครละที่จะเป็นคนที่ติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน  ด้วยเหตุนี้ เราต้องจึงควรมีซักเบอร์หรือมากกว่านั้น ที่จะบันทึกชื่อไว้ในเครื่องว่า ICE (In Case of Emergency)  

ปัจจุบัน ICE เป็นคอนเซ็ปที่เข้าใจได้ง่ายมาก แต่มีความสำคัญ ซึ่งเป็นวิธีในการติดต่อบุคคล ในกรณีฉุกเฉิน คนส่วนใหญ่จะมีโทรศัพท์มือถือพกพากันในปัจจุบัน

ดังนั้น สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ การเก็บรายชื่อ ICE ที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉินไว้ ความคิดนี้เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่มีคนประสบอุบัติเหตุ  ซึ่งมักจะมีโทรศัพท์อยู่ที่ตัวผู้ป่วย  แต่พวกเขาไม่รู้ว่า ควรโทรเบอร์ไหนดี จากนั้น เขาก็คิดได้ว่า คงเป็นความคิดที่ดี ถ้าจะมีอะไรที่เข้าใจได้ทั่วกันเป็นสากล เพื่อจุดประสงค์นี้

ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ผู้ให้การรักษาและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล จะได้สามารถติดต่อบุคคลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการโทรหาบุคคลที่บันทึกชื่อไว้ว่า ICE

กรุณาส่งต่อข้อวามนี้ เพื่อให้ทุกคนทราบ เพื่อเป็นการรักษาชีวิตคุณหรือคนที่คุณรัก หากคุณมีชื่อมากกว่าหนึ่งคน ก็แค่บันทึกชื่อไว้ว่า ICE1, ICE2, ICE3 เท่านั้น ทีนี้เรามาช่วยกันเผยแพร่ ICE คอนเซ็ปด้วยการบันทึกชื่อ ICE ไว้ในมือถือคุณ  ตั้งแต่วันนี้กันเถอะ

  • เหวอเจอโจรแบบนี้แย่เลย
  • หลังวันที่น้องไปหาดใหญ่ด้วย
  • แต่โชคดีที่ไม่มีอะไรมาก
  • สมน้ำหน้า โจร ที่ได้ ผ้าอนามัย ยังไม่ได้ใช้
  • อิอิอิ
  • คนดีพระย่อมคุ้มครองครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท