ปัจจุบันกับการนิเทศในงานส่งเสริมการเกษตร
การนิเทศงานส่งเสริมการเกษตรในปัจจุบัน
เมื่อวันที่ 7-9 มกราคม 2551 ทีมนิเทศงานส่งเสริมการเกษตรของสำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร ประกอบด้วยท่านสุชาติ ทองรอด (เกษตรจังหวัดกำแพงเพชร) นายสายัณห์ เกียรติ์กำแหง (หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกร ) นายปริมาณ ปั้นลี้ (หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต) นายวิโรจน์ พ่วงกลัด (หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์และสารสนเทศ ) นางภันฑิราพร สุจิตรา (ห้วหน้าฝ่ายบิหารงานทั่วไป) และผม (นายสายัณห์ ปิกวงศ์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร 7ว.) ซึ่งทำหน้าที่เป็นเลขานุการทีมนิเทศงานในครั้งนี้ครับ
การนิเทศงานส่งเสริมการเกษตรของสำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร โดยผู้บริหารหน่วยงานคือ นายสุชาติ ทองรอด เกษตรจังหวัดกำแพงเพชร ได้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะว่าเป็นการไปรับทราบปัญหาอุปสรรคของการทำงานส่งเสริมการเกษตรระดับอำเภอและระดับตำบล เป็นรายบุคคล ตลอดจนสร้างความเข้าใจในระบบการปฏิบัติงานส่งเสริมการเกษตร รวมทั้งให้คำปรึกษาเพื่อแก้ไขปัญหา ทั้งระดับตำบล อำเภอ จังหวัด เป็นต้น และสำคัญที่สุดให้นักส่งเสริมการเกษตรผู้รับผิดชอบงานในระดับตำบลสามารถกำหนดเป้าหมายในการทำงานอย่างมีระบบ ตลอดจนสามารถกำหนดตัวชี้วัดงานของตนเองได้
ในเดือนมกราคม 2551 ได้กำหนดการออกไปติดตามนิเทศงานส่งเสริมการเกษตร จำนวน 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอไทรงาม อำเภอทรายทองวัฒนา อำเภอคลองขลุง อำเภอปางศิลาทอง อำเภอเมืองกำแพงเพชร และอำเภอโกสัมพีนคร ในหลักการแล้วตามระบบส่งเสริมการเกษตรของจังหวัดกำแพงเพชร เราได้กำหนดแผนการออกไปนิเทศงาน ภายในทุกสองเดือน ต้องไปนิเทศงานให้ครบทุกอำเภอ( 11 อำเภอ)
สำหรับนักวิชาการส่งเสริมการเกษตรระดับจังหวัด ของสำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งเป็น ผู้รับผิดชอบงานโครงการ และกิจกรรม ระดับจังหวัด ก็จะต้องกำหนดแผนออกไปปฏิบัติงานร่วมกับเกษตรอำเภอและนักส่งเสริมการเกษตรผู้รับผิดชอบระดับตำบล(ศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบล) ทั้งนี้ก็จะต้องยึดถือและให้สอดคล้องกับแผนปฏิบัติงานส่งเสริมการเกษตรของนักส่งเสริมการเกษตรผู้รับผิดชอบตำบล ส่งมาให้จังหวัด เป็นประจำทุกเดือน ในขณะเดียวกันนักส่งเสริมการเกษตรผู้รับผิดชอบตำบล ก็จะต้องกำหนดแผนปฏิบัติงานของตนเองให้สอดคล้องกับแผนของคณะกรรมการบริหารศูนย์บริการฯและแผนพัฒนากลุ่มอาชีพทางการเกษตรในแต่ละพื้นที่ เป็นต้น
ปัจจุบันนี้การทำงานตามระบบส่งเสริมการเกษตรของจังหวัดกำแพงเพชร ได้มีการทำงานเชื่อมโยงกันอย่างมีระบบ โดยมีเป้าหมายการทำงานเชิงบูรณาการ ทั้งระดับ อำเภอ ตำบล และกลุ่มอาชีพทางการเกษตร รวมทั้งประสานงานกับอปท. และสร้างพันธมิตรในการทำงานร่วมกัน เพื่อให้เกิดการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืนในชุมชน โดยยึดหลักตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และพัฒนาบุคลากรในการปรับเปลี่ยนการทำงานบนฐานทรัพยากร(Resource-Based ) มาเป็นการทำงานบนฐานขององค์ความรู้(Knowledge-Based )นั่นเองครับ
สำหรับแผนการตนิเทศงานในเดือนกุมภาพันธ์ 2551 เราได้กำหนดไปทิเทศระหว่างวันที่11-13 กุมภาพันธ์ 2551 ได้แก่อำเภอพรานกระต่าย ลานกระบบือ ขาณวรลักษบุรี บึงสามัคคี และอำเภอคลองลาน รวมแล้ว 5 อำเภอครับ
ความเห็น (4)
สวัสดีครับ พี่เขียว
- ดีมากเลยครับ ผู้บริหารลงเอง มีอะไรว่ามา..สงสัยอะไรถาม
- ที่ยะลาออกแต่หัวหน้ากลุ่มและนักวิชาการตัวแทนกลุ่มฝ่ายแบ่ง 3ทีม ออกทุกเดือน 8 อำเภอ
- ขอบคุณมากที่นำมาแลกเปลี่ยน
สวัสดีครับ
- จังหวัดใหญ่ อย่างจังหวัดผม 19 อำเภอ 2 เกาะ ต้องแบ่งเป็น 3 ทีม 3 สาย นำโดย หน.กลุ่ม/ฝ่าย
- ปีนี้ งบฯ จำกัดมาก จึงเปลี่ยนแผน เป็น สายละ 3 ครั้ง
- ขอบคุณพี่ไมตรีที่มาแวะลปรร.
- จ.กำแพงเพชร ปี51นี้ได้ปรับเปลี่ยน จากเดิมเคยแบ่งเป็นทีมมาเป็นเฉพาะผู้บริหารลงไปรับทราบปัญหาอย่างแท้จริง แต่นวส.ผู้รับผิดชอบงานโครงการกิจกรรมในระดับจังหวัดต้องลงไปAction กับผู้ปฏิบัติ ทั้งนี้ต้องจัดทำแผนปฏิบัติงานประจำเดือนรายบุคคลเป็นหลัก ลงไปเสริมหนุนระดับปฏิบัติการครับ
- ขอบคุณอ.หนุ่มฯที่มาแวะลปรร.กัน
- จังหวัดของท่านเป็นจังหวัดที่ใหญ่กว่าจ.กำแพงเพชร มาก
- จ.กำแพงเพชรมีเพียง 11 อำเภอครับ
- ระบบการติดตามนิเทศ หาก CKO ให้ความสำคัญแล้ว จะเป็นการเสริมหนุนให้ผู้ปฏิบัติในระดับอำเภอ ระดับของศูนย์บริการๆ หากลงไปถึงกลุ่มอาชีพได้ จะเป็นการให้ขวัญและกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติ นวส.ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ และรับทราบปัญหา ข้อจำกัดของผู้ปฏิบัติครับ