แลกเปลี่ยนเรียนรู้คุณอำนวย : 23. ไม่คิดและไม่ทำแบบแยกส่วน


KM สั่งให้คนอื่นทำ...แต่คนสั่งไม่เข้าใจและไม่ทำด้วยนั้นยากที่จะสำเร็จ

          แม้ว่าในการเรียนรู้-การจัดการความรู้ หลานท่านอาจจะไม่ได้สนใจที่จะเรียกบุคคลที่ได้ทำหน้าที่ต่างๆ ว่าคุณ...ทั้งหลาย  เพราะโดยแท้จริงแล้ว    ในการจัดการความรู้นั้นจะต้องเป็นไปตามธรรมชาติ  คนๆ หนึ่งอาจทำได้หลายๆ บทบาทหน้าที่  หรือหน้าที่เดียวอาจจะร่วมมือกันปฏิบัติหลายๆ คน เพื่อความสำเร็จของงาน-กิจกรรมในการเรียนรู้   แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ง่ายต่อการสื่อความเข้าใจ ผมก็จะยังขอใช้คำว่า "คุณอำนวย"  ซึ่งในความหมายก็คือ "นักจัดการความรู้ที่ทำด้วยใจที่สั่งมา" ก็แล้วกัน  เห็นด้วย-ไม่เห็นด้วยกับชื่อก็คงไม่เป็นไร ต้องขออภัยด้วย

         ในการนำการจัดการความรู้มาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาตนเอง  พัฒนาองค์กรนั้น   หลายที่หลายแห่ง  หลายองค์กร หลายหน่วยงาน ก็คงมีรูปแบบที่แตกต่างกันไม่ไม่มีตายตัว   ผมเคยเขียนเป็ยบทความไว้ตั้งแต่เดือนธันวาคม  2548 ชื่อว่า กว่าจะมาเป็นการจัดการความรู้ ในตอนที่เขียนนั้นก็เริ่มจะเห็นหรือพบสัญญาณบางอย่างว่า

  • เรายังมองการจัดการความรู้แบบไม่เป็นธรรมชาติ
  • มองเห็นการจัดการความรู้เป็นโครงการ
  • มีเจ้าของ
  • ทำเฉพาะคณะทำงาน
  • ฯลฯ

         นอกจากที่ได้เขียนไว้แล้ว  สิ่งที่ได้พบเห็น และได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงพบต่อมาอีกว่า    ที่ว่าจัดการความรู้นั้น  คนในองค์กรยังไม่หลุดจากประเด็นต่างๆ ที่ได้เขียนไว้ในบทความเหล่านั้น  ที่สำคัญที่อยากจะนำมาแลกเปลี่ยนประสบการกับนักจัดการความรู้ หรือคุณอำนวยทั้งหลายในบันทึกนี้ต่อก็คือ   ในการนำการจัดการความรู้มาใช้เป็นเครื่องมือที่จะพัฒนาองค์กรนั้น      เราต้องไม่คิดและทำแบบแยกส่วน เพราะจะส่งผลให้เป็น KM ที่ไม่เป็นธรรมชาติ  คือไม่เนียนไปกับงานนั่นเอง

          เพราะการจัดการความรู้ หากจะให้เนียนหรือเป็นธรรมชาติไม่แยกส่วนนั้น  น่าจะเป็นดังนี้

  • ต้องสามารถปรับใช้ในทุกเรื่อง  ทุกกิจกรรม
  • ทำได้ในทุกเวลา ทุกสถานที่ ตามแต่โอกาสและความเหมาะสม
  • ทุกคนสามารถเรียนรู้และร่วมมือกันได้ ทำได้แม้ว่าจะไม่ใช่คณะทำงาน km (ไม่ยึดติดว่าเป็นบทบาทของคนถือแฟ้มเท่านั้น)
  • ในองค์กรนั้น  ทุกส่วน  ทุกระดับต้องร่วมมือกัน  และลงมือปฏิบัติ จึงจะเกิดพลังและเป็นองค์กรอมตะ  
  • KM สั่งให้คนอื่นทำ...แต่คนสั่งไม่เข้าใจและไม่ทำด้วยนั้นยากที่จะสำเร็จ
  • ไม่แยกส่วนคือต้องทำด้วยใจ  ไม่ใช่ว่านำเครื่องมือของKMชิ้นหนึ่งมาใช้แล้วก็จะถือว่าได้จัดการความรู้แล้ว  แต่หากไม่ได้ทำด้วยความเข้าใจ  ทำเพราะเห็นไม่ได้เห็นว่ามีความจำเป็นว่าต้องทำ   หรือว่าทำเพราะจะให้ผ่านตัวชี้วัด(ของ กพร.)  เหล่านี้น่าจะเป็น KM เทียมๆ
  • ต้องไม่ทำตามกระแส   แต่ต้องทำด้วยการความเห็นความสำคัญ  ทำเพื่อที่จะพัฒนาตนเอง  พัฒนางาน  และพัฒนาองค์กร
  • ทุกคนต้องคิดใหม่...ว่าผลของความสำเร็จที่เกิดขึ้น  เป็นผลงานขององค์กร  เป็นของทุกๆ คน ไม่ใช่เป็นของคนที่ไปรายงานผล  หรือคนรับถือแฟ้ม  หรือเป็นของคณะทำงานเท่านั้น
  • งานกับการเรียนรู้นั้นเป็นเรื่องเดียวกัน
  • เราต้องลงมือจัดการความรู้ด้วย   อย่างน้อยก็จัดการความรู้ให้ตนเองเป็น   จึงจะมองภาพที่อยู่ภายนอกตัวเราได้แจ่มชัด
  • ไม่ยึดติดรูปแบบหรือผลสำเร็จของอดีตที่ผ่านมาเท่านั้น   แต่การปฏิบัติและเรียนรู้จากปัจจุบัน  เพื่อปรับตัวไปสู่อนาคตนั้นมีความสำคัญมากกว่า
  • ขอความกรุณาช่วยเพิ่มเติมด้วยครับ...............

วีรยุทธ  สมป่าสัก    25  ธันวาคม  2550

หมายเลขบันทึก: 155868เขียนเมื่อ 25 ธันวาคม 2007 16:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 22:07 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)

KM สั่งให้คนอื่นทำ...แต่คนสั่งไม่เข้าใจและไม่ทำด้วยนั้นยากที่จะสำเร็จ

...

ประเด็นนี้น่าสนใจมากครับ  โดยเฉพาะในระดับบริหารดูจะสะดุดอยู่กับกระบวนการเหล่านี้อยู่มากเหมือนกัน 

ขอบพระคุณครับ

สวัสดีครับ  สิงห์ป่าสัก

  • ตามที่เขียนมาถูกต้องชัดเจน
  • cko ผมว่ากรมคิดได้ยังยัง KM 3 โครงการ
  • มันไม่ยั่งยืน  KM ต้องทุกเรื่อง  ทุกคน
  • แต่ทำคนเดียวไม่สำเร็จ...แน่  ปัญหา
  • ขอบคุณมากครับที่นำมาแบ่งปัน

สวัสดีค่ะคุณสิงห์ป่าสัก

  • ห่างหายจากพักสายตาเถอะนะคนดี ไปหลายวัน
  • กลับมาคราวนี้ เขียนตัวตน KM ได้แบบถึงใส้ถึงพุง ขอบค่ะ
  • สะดุดประโยคนี้ค่ะ
  • "งานกับการเรียนรู้นั้นเป็นเรื่องเดียวกัน"
  • ขอต่อยอด งานไม่ได้มีเป้าหมายเพียง ตำแหน่ง หน้าที่ หรือ เงินเดือนที่สูงขึ้น แต่งานยังสร้างโอกาสให้เราได้เรียนรู้ (โชคดีที่ได้ทำงาน และได้เรียนรู้จากงาน)
  • แม้ว่างานจะสำเร็จหรือเจออุปสรรค เราก็เรียนรู้จากผลนั้นได้เสมอ สนับสนุนค่ะ งานกับการเรียนรู้นั้นเป็นเรื่องเดียวกัน
  • สวัสดีครับพี่สิงห์ป่าสัก
  • เรื่องสายตา คงจะดีขึ้นแล้วนะครับ
  • มีเมนูอาหารเพื่อสายตามาฝากครับ

         1 ผัดผักบุ้ง

         2 ปลาทูทอด

         ผมมั่นใจว่าจะทำให้สายตาดีขึ้นเพราะไม่เคยเห็นเต่ากับแมวใส่แว่นเลย หุ หุ

  •  เห็นด้วยครับในประเด็นการคิดแบบแยกส่วน เพราะเราถูกสอนให้คิดแบบแยกส่วน (วิทยาศาสตร์แบบเก่า) มาโดยตลอด ทำให้การเปลี่ยนมุมคิดทำได้ค่อนข้างยาก...แต่ก็สามารถทำได้หากว่าเราตั้งใจจะทำ
  • ผมเองคิดว่าจุดเริ่มต้นที่สำคัญ น่าจะอยู่ที่การเปลี่ยนวิธีคิด (ของทุกคนที่เกี่ยวข้อง) เพราะถ้าไม่เปลี่ยน เดี๋ยวก็จะเหมือนเดิม ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ เหลาลงไป.....เฮ้อ...
  • ที่ผมได้แจ้งกับพี่ไว้ว่า ผมเปิดบันทึกใหม่ ไว้เล่าเรื่องจากการทำงานที่สถาบันฯ ผมใส่ link มาให้แล้วครับ รบกวนพี่นำเข้าชุมชนฯ ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ
  • http://gotoknow.org/blog/witsarut2

1.  น่าคิดนะ...3-4 ปี ของการจัดการความรู้ที่เกิดขึ้น คงต้องมาประเมินตนเองแล้วละ แต่คงไม่ต้องประเมินคนอื่นมั้ง...

2.  วิศรุต ให้ข้อคิดที่ดีนะ...

3.  การจัดการความรู้ ที่เป็นอยู่และพบเห็นนั้น มีทั้งคนที่ทำ KM  และคนที่ใช้ KM.

P

 

  • สวัสดีครับ อ.แผ่นดิน
  • หากเป็นในระบบยิ่งจำเป็นมากครับ เพราะเขาผู้ติดงานไว้กับผู้....อำนาจ
  • ดังนั้น หากไม่เข้าใจก็จะเห็นแต่ของเทียมๆ หรือภาพลวงตาเต็มไปหมด  

P

 

  • สวัสดีครับพ่อครูบาฯ
  • นี่เฉพาะที่ผมได้รู้ได้เห็นนะครับ อาจจะมีอีกมากดังที่หลายๆ ท่านได้มาช่วยเพิ่มเติม
  • ขอบพระคุณมากครับ

P

 

  • สวัสดีครับพี่ไมตรี
  • อิอิ...เห็นด้วยครับ
  • พวกเราก็คงจะต้องขยายวงกันไปเรื่อยๆ ไม่หยุดอยู่แค่นั้น
  • ขอบคุณครับ

P

 

  • สวัสดีครับครูอ๊อด
  • ขอบคุณมากครับที่แวะมา ลปรร.
  • ตามไปอ่านบันทึกของครูอ๊อด เห็นไปเมืองคอนมาแล้ว คงสนุกมากนะครับ
  • ผมเชื่อว่า "KM ยิ่งทำยิ่งเข้าใจ   ยิ่งทำยิ่งมองเห็น(ได้เรียนรู้)" ครูอ็อตเห็นด้วยไหมครับ

P

 

  • สวัสดีครับน้องวิศรุต
  • ขอบคุณมากครับสำหรับเมนู...ผักบุ้งกำลังหว่านอยู่ 1 แปลงครับ
  • ถูกต้องแล้วครับ เริ่มที่ตัวเรา เริ่มที่การปรับเปลี่ยนวิธีคิด ทางพระเขาว่า "มีความคิดเห็นที่ถูกต้อง" หรือ สัมมาทิฐิ   คือมรรคองค์ที่ 1   อิอิ...จำเขามาอีกที
  • ลิงค์บันทึกใหม่เรียบร้อยแล้วนะครับ

P

 

  • สวัสดีครับคุณศิริวรรณ
  • อิอิ....คนทำKM-คนใช้KM
  • ขอบคุณครับ

สวัสดีปีใหม่ค่ะพี่สิงห์ ป่าสัก

ได้ความรู้กับ KM ที่บอก บางทีถ้าไม่ยึดติดกับรูปแบบบางคนก็ไม่ชัดเจน แต่พอยึดติดกับรูปแบบก็ตัดกับดักแบบดิ้นไม่หลุดจริงๆ ปีที่ผ่านมาสุขภาพไม่ค่อยดีเลยไม่ค่อยได้เข้าเวทีพื้นที่สักเท่าไร แต่ปีนี้คิดว่าจะมีเรื่องราวมาเล่าขานแลกเปลี่ยนมากขึ้น คอยให้กำลังใจมือใหม่ด้วยนะคะ

  • สวัสดีปีใหม่ครับทีมคลื่นลูกใหม่ 1
  • การทำงานที่เป็นธรรมชาติโดยนำกระบวนการจัดการความรู้ไปเสริมหนุนนั้น มีสิ่งที่พวกเราต้อง ลปรร.ซึ่งกันและกันเพื่อพัฒนาอีกมากมายนะครับ
  • ดีใจที่เห็นคลื่นลูกใหม่หลายๆ ท่านได้ก้าวเข้าสู่วงของการ ลปรร.แห่งนี้ เป็นความหวังหนึ่งขององค์กรเราที่ยังพอมีหวังอยู่
  • ต่อไปพวกเราคงจะสามารถต่อท่อถึงกันแบบ ใจถึงใจ และไร้ขีดจำกัดเหมือนกับชุมชนเฮฮาศาสตร์ที่ต่างก็ทำงานอย่างมีความสุข
  • เป็นหนึ่งตัวอย่างของชุมชนเสมือนที่มีโอกาสที่จะพัฒนาไปสู่ชุมชนจริงๆ และทำงานร่วมกันเพื่อสังคมได้อย่างแท้จริงที่ไยดติดอยู่กับกรอบใดๆ
  • ขอขอบคุณมากครับที่แวะมา ลปรร.  และจะคอยติดตามอ่าน เรียนรู้ และให้กำลังใจพวกเราอยู่ตลอดไปนะครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท