เปลี่ยนกิน...ขยะ


เปลี่ยนจากสาวนักหิ้วแบบเมืองกรุง มาเป็นสาวนักปรุงแบบเมืองเหนือ

ฉันเดินหิ้วถุงอาหารเย็นกลับห้องพัก และหิ้วของเหลือจากอาหารเย็นออกมาทิ้งหลังจากจัดการกับของกินได้ภายในหมดแล้ว

 

การใช้ชีวิตในเมืองกรุงเพียงลำพัง หาอาหารกินพอสำหรับหนึ่งท้อง ไม่ว่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยว ข้าวราดแกง หรืออาหารตามสั่ง ดูเหมือนเป็นชีวิตที่ง่ายๆ และสบายๆ ไม่เดือดร้อนใคร แต่...

 

ฉันนั่งมองขยะที่ถูกลำเลียงออกจากห้องของฉันทุกวันๆ แล้วหวนนึกถึงบ้านของฉัน

 "บ้านสุขใจ" บ้านที่มีสมาชิก 5 คน ที่บางวันแทบไม่มีขยะเหลือทิ้งออกจากบ้านเลย สัปดาห์หนึ่งมีขยะถูกลำเลียงออกจากบ้านเพียงน้อยนิดเมื่อเทียบกับฉันที่อยู่คนเดียว...

 อาหารเย็นที่บ้านสุขใจ ถูกปรุงแต่งด้วยฝีมือพ่อกับแม่ของฉันสลับกันไปตามแต่ความถนัด วัตถุดิบที่เป็นเนื้อสัตว์ต้องซื้อหาจากตลาด ซึ่งพ่อจะซื้อเก็บไว้เพียงพอสำหรับทำอาหาร 1 สัปดาห์..

ส่วนผักซึ่งเป็นอาหารหลักของบ้านแม่ฉันเดินรอบบ้านไม่ถึงสิบหน้าทีก็ได้อาหารจานเด็ดอย่างน้อยหนึ่งอย่างเสมอ...ประหยัด และปลอดภัย 

 

แม่ของฉันปลูกผลไม้ที่ลูกๆ ชอบกินไว้รอบบ้าน ทำให้มีผลไ้ม้ตามฤดูกาลไว้กินล้างปากหลังอาหารเสมอ ไม่ต้องจับจ่ายซื้อหาจากตลาด นอกเสียจากโอกาสพิเศษที่อยากกินสิ่งที่ไม่ในบ้าน เช่น ทุเรียน ของโปรดของทุกคนในครอบครัว...

 

เศษอาหารที่เหลือจากอาหารเย็น ถูกเทใส่ถังสี (ที่ช่างทิ้งไว้หลังจากการสร้างบ้าน) ที่มีน้ำผสมกากน้ำตาลไว้แล้ว ทำเป็นน้ำหมักจากเศษขยะ เมื่อหอมได้ที่ พ่อก็จะกรองเอาน้ำออกมาเก็บไว้ฉีดผลหมากรากไ้ม้ให้พวกเราได้ิกินกัน ส่วนกากที่เหลือจับใส่ใ้ต้ต้นไม้พร้อมปักกิ่งไม้รอบล้อมกันพวกน้องหมาที่น่ารักไปคุ้ยเขี่ยเพราะความยั่วยวนของกลิ่น  

 

อาหารเย็นสำหรับคน 5 คนที่บ้านสุขใจของฉันแทบไม่มีขยะที่ต้องจัดการส่งออกนอกบ้านเลย ในขณะที่ฉันซึ่งอยู่คนเดียว อาหารเย็นใส่กล่องจากปากซอย ... มีกล่องโฟม  ถุงพริกน้ำปลา และถุงหิ้ว บางร้านใจดีใส่ช้อนมาให้โดยไม่ได้เอ๋ยปากขอ เมื่อจัดการกับอาหารเสร็จทุกอย่างที่พูดมากลายเป็นขยะ ...

 

ด้วยวิถีชีวิตที่ง่ายเกินไป ทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองสร้างขยะมากเกินไป ถึงเวลาที่ต้อเปลี่ยน

 ฉันเริ่มต้นด้วยการลดขยะจากการกิน ฉันเลี่ยงการกินไม่ได้ แต่ฉันเลือกที่จะปรับพฤติกรรมของฉันได้... 

ที่บ้านสุขใจซื้อกับข้าวสำเร็จ (ที่เมืองเหนือเรียก กับข้าวสุก) มากินน้อยมาก ฉันจึงเลือกที่จะซื้อข้าวสาร ไข่ และผัก มาเ็ก็บไว้ ทำกินเอง ลดกล่องโฟมไปได้อย่างน้อยหนึ่ง แถมด้วยความภูมิใจในเมนูสร้างสรรค์ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น ไข่ตุ๋นหน่อไม้ฝรั่ง ไข่ตุ๋นน้ำพริกเผา ไข่ตุ๋นข้าว และอีกสารพัดตามแต่จินตนาการจะพาไป  หากวันไหนหมดมุขหรือหมดแรง ฉันก็เลือกที่จะนั่งทานข้าวที่ร้านมากกว่าที่จะหิ้วขยะกลับมาที่ห้อง

 

ส่วนผลไม้และของใช้จำเป็นต่างๆ ที่ต้องจับจ่าย  ฉันพกถุงผ้าใบเขื่องไปด้วยเสมอ คิดเงินเสร็จจับใส่ถุงให้ทันก่อนที่พนักงานจะคลี่ถุงพลาสติกแล้วโยนของๆ ฉันลงไป อย่างน้อยฉันก็ลดขยะถุงหิ้วลงได้บ้างแล้ว  ถึงแม้ว่าจะแลกด้วยสายตางงระคนหมั่นไส้และแปลกใจของพนักงานขายของ...

 นี่คือ การเริ่มต้นของฉัน เริ่มต้นเปลี่ยนที่อาหารมื้อเย็นตามสไตล์...

สาวนักหิ้วแบบเมืองกรุง เป็นสาวนักปรุงแบบเมืองเหนือ  

สาวถุงหิ้วทันสมัย เป็นสาวถุงผ้าทันยุค

 เิริ่มต้นตนด้วยการลด

อนาคตคนร่วมมือ

ลดถือลดหิ้วลดทิ้ง

เพิ่มคุ้มเพิ่มค่าเพิ่มคุณ

ขยะลดขยะหายสบายโลกา

 

---^.^---

 ท่านใดมีข้อเสนอเกี่ยวกับการ เปลี่ยน มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันเผื่อให้ฉันเอาไปปรับได้อีก ขอคำชี้แนะด้วยนะคะ

เพราะฉันเชื่อว่า

"ด้วยสองมือของเรา สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้"

  
หมายเลขบันทึก: 145832เขียนเมื่อ 12 พฤศจิกายน 2007 13:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 21:27 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)
  • เยี่ยมเลยน้อง
  • กำลังจะทำงาน
  • บันทึกนี้มาพอดี
  • ทุกครั้งที่ออกไปร้านสะดวกซื้อ จะพยายามไม่เอาถุงพลาสติก จนคนขาย งง
  • ถ้าเอาถุงผ้าไปด้วยก็ดี
  • ฟังน้องเล่าแล้วคิดถึงบ้าน
  • ฮือๆๆๆ

สวัสดีคะ

P

มาช่วยกันทำให้คนขายของเลิกงงกันนะคะ...

บ้านคือวิมานของเรา

อีกไม่กี่วันก็จะได้กลับบ้าน ไปสูดไอดิน กลิ่นหมอก แล้วคะ...อิอิ

ขอให้งานเสร็จตามเป้าหมายที่วางไว้นะคะ

---^.^---

ประเด็นเขียนของน้องพิมพ์วันนี้น่าคิดมากครับ ทุกวันนี้เราสรางขยะกันมาก ซื้อของชิ้นหนึ่งใส่ถุงแล้ว ใส่อีก หลายชั้น พลาสติกทั้งนั้น และใช้ครู่เดียวก็แปรเป็นขยะทันที...

เรื่องถุงผ้า เม้งเขาก็เขียนไว้น่าสนใจ ตามอ่านได้ครับ

ผมไปแพร่มาได้ถุงผ้ามากว่า ๑๐ ถุง กะว่าจะนำไปแจกให้บรรดาแม่บ้านเอาไว้ใส่ของเวลาไปตลาด

เราอาจกำหนดสังคมใหญ่ๆลำบาก เราหันมาสร้างวินัยให้ตัวเองดีกว่าครับผม

 

อ้ายเอก

สวัสดีครับคุณพิมพ์ดีด

                 อ่านแล้วทึ่ง ทำได้เก่งครับ ใคร ๆ น่าเอาเป็นตัวอย่าง โลกเราคงโสภาน่าอยู่ขึ้นเยอะ ถ้าเราช่วยกัน

                ทุกวันนี้ผมคดห่อมากินที่ทำงาน ประหยัดและไม่มีถุงพลาสติคให้แม่บ้านต้องเก็บทิ้งครับ

                 ขอบคุณแทนประเทศไทยที่มีความตั้งใจสูงครับ

                              โชคดีครับผม

  • สวัสดีครับคุณพิมพ์ดีด
  • ผมเคยบันทึกความคับข้องใจของผมเรื่องเกี่ยวกับถุงพลาสติกไว้ 1 บันทึกครับ ที่นี่
  • อาจจะมีวิธีการปฏิบัติที่ต่างกันแต่มีแนวทางเดียวกันครับ
  • ขอบคุณครับ

จิตสำนึกของคน เริ่มต้นที่ตัวเอง ... เสมอ

:) รักษ์โลก

  • เริ่มจากที่ตัวเราก่อนครับ แล้วค่อยลามไปยังคนรอบข้าง
  • อิอิ  555555
  • สู้ ๆ ครับ

สวัสดีครับ


บล็อกนี้สีสันสดใจจังเลยครับ ;)

ถ้าซื้อของเล็กน้อยๆ ปกติผมก็ไม่รับถุงพลาสติก ยัดใส่กระเป๋าอเนกประสงค์ที่ใช้อยู่เกือบทุกวัน

เรื่องขยะ ถ้ามีที่ทิ้งขยะสำหรับหมักให้ประโยชน์คงจะดีไม่น้อย แต่ในเมือง อาจจะยาก ไม่ทราบจะหมักแล้วใช้อะไร เตาเผาขยะก็ไม่ work ต้องลดขยะลูกเดียว

วันก่อนซื้อกับข้าวมาทาน สองคน เอ ทำไมขยะเยอะจัง แกงสองอย่าง ก็สองถุง ข้าวอีกสองถุง ขนมอีก

ถ้ามีโอกาสทำกับข้าวเอง สะดวกที่สุด ถ้าจำเป็น ก็สร้างขยะให้น้อยที่สุดครับ

สวัสดีเจ้า

อ้ายเอก P

เริ่มต้นที่ตัวเองยอดเยี่ยมที่สุดเจ้าอ้าย...แล้วสักวันสังคมก็จะมองเห็นเรา...

งานยุ่งเหมือนเดิมเนาะอ้าย รักษาสุขภาพด้วยเน้อเจ้า

สวัสดีคะ นายช่างใหญ่

P

ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจที่เข้ามาเยี่ยมเยีอนกันคะ  ห่อข้าว หิ้วปิ่นโต...อิ่ม อร่อย สะอาด ปลอดภัย และเจริญอาหารแม้อยู่นอกบ้านนะคะ

สวัสดีคะคุณสุดทางบูรพา

P

ตามไปอ่านบันทึกถึงถุงพลาสติกใส่ถุงน้ำแข็งของคุณสุดทางบูรพาแล้วคะ...ต่างวิธีแต่เป้าหมายเดียวกัน...มาช่วยลดขยะกันนะคะ

ขอบคุณที่แวะมาคะ

สวัสดีคะ

P

รักษ์โลก เช่นกันคะ

ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาให้กำลังใจ

สวัสดีคะนายสายลม

P

ขอให้ ลาม เร็วเหมือนไฟลามทุ่งเลยนะคะ

สู้ๆ เช่นกันคะ

ขอบคุณที่แวะมาคะ

---^.^---

สวัสดีคะ คุณ ธ วั ช ชั ย

P

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยือนคะ

ชีวิตเมืองกรุง วิธีที่ดีที่สุด ก็คือ ช่วยกันลด และสร้างให้น้อยที่สุด

มาช่วยกันนะคะ

---^.^----

สวัสดีครับคุณพิมพ์ดีด

น่าชื่นชมและดูเป็นแบบอย่างเรื่องจิตสาธารณะมากครับ เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ทุกคนสามารถทำได้

ผมพยายามใส่ของรวมกันในถุงใบเดียวกันครับ

ใช้ถุงผ้าหน้าตาแบบไหนครับ ถ้าเห็นจะได้เข้าไปทักทายครับ อิอิ

 

สวัสดีคะ คุณข้ามสีทันดร

P

เรื่องใกล้ตัวที่พอจะทำได้ก็ช่วยกันนะคะ

ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาเยี่ยมกัน

ถุงผ้าที่น้องพิมพ์ใช้ ใบใหญ่เป็นผ้าดิบ สกรีนสีเขียวว่า "ฉันไม่ใช่ถุงพลาสติก" คะ ถ้าเจออย่าลืมมาทักทายกันนะคะ

---^.^---

I read your block in my computer lab and sorry that I can not write in Thai. I agree with you na. I try to recycle plastic in everyday life. It's better for yourself first in both of improving your good behavior and saving your money.And then it also can be a small factor which protect our environment and earth. :)

สวัสดี อ.เออ

ขอบคุณมากที่แวะมาทั้งๆ ที่ยุ่งๆ

แล้วที่โน้น "ประเทศที่ปล่อยคาร์บอนเป็นอันดับหนึ่งของโลก" มีมาตรการอะไรที่โดนๆ มาเล่าให้ฟังบ้างสิจ๊ะ

---^.^---

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท