อ่านแล้วมาเล่า "เสือ! เสือ!"


"ในชีวิต เราล้วนเผชิญกับการท้าทายเช่นนั้น บ้างก็ยอมรับเสือโดยสดุดี บ้างก็พยายามทำให้มันเชื่องและอยู่กับมันอย่างสงบโดยไม่สบายใจนัก ทว่าก็ยังมีบางคน ซึ่งแข็งแรงกว่าพิชิตมันได้ แต่ก็มีอยู่น้อยมากที่ประสบความสำเร็จในการประหารมัน"

   อากาศเริ่มเย็น ทำให้สดชื่นขึ้นมา แต่ตอนเช้าแดดส่องมาบนที่นอนเป๊ะ เลยต้องรีบตื่น แต่ไม่เป็นไร ตื่นเช้าเป็นกำไรของขีวิต (มีบางวันก็ขาดทุนบ้างล่ะน่า)  หวังว่าทุกคนคงสดชื่นเหมือนกันนะครับ อ้อ รักษาสุขภาพกันด้วย อากาศเปลี่ยนแล้วใจคนเปลี่ยน เอ๊ย แล้วจะไม่ค่อยสบายกัน

ผมคิดไว้นานแล้ว ว่าจะเล่าเรื่อง Harimau! Harimau! ซึ่งเป็นนวนิยายภาษาอินโดนีเซีย แต่ยังไม่มีโอกาส วันนี้อากาศดี ตื่นเช้า และพอจะมีเวลา ไม่รีบออกไปข้างนอก

ภาพปกหนังสือ Harimau! Harimau!

   หนังสือที่ถืออยู่ในมือผมนี่ (ต้องขออภัยที่ถือด้วยมือซ้าย เพราะต้องใช้มือขวากดชัตเตอร์ครับ) เส้นลายมือผมสวยไหมครับ อิๆๆ อ้าว นอกเรื่องอีกแล้ว... คงเห็นชื่อบนปกนะครับ คนเขียนชื่อ มอชตาร์ ลูบิส (เกิด พ.ศ. 2465 ตาย พ.ศ. 2547) เป็นนักต่อสู้เพื่อสังคม ชาวอินโดนีเซีย เขาเป็นนักหนังสือพิมพ์ และนักเขียนเชิงวิพากษ์สังคม ประวัติน่าสนใจมากครับ อ้อ ได้รางวัลแมกไซไซ (เมื่อ พ.ศ. 2501 ซึ่งเป็นปีแรกของการมอบรางวัลนี้) สาขาวารสารศาสตร์ วรรณกรรม และศิลปะการสื่อสารเชิงสร้างสรรค์ อีกด้วยแน่ะ เคยถูกขังคุกจากคดีการเมืองสมัยประธานาธิบดีซูการ์โน ด้วย

  หนังสือเล่มนี้ ผมได้รับจากเพื่อนชาวอินโดนีเซีย เมื่อสองปีก่อน ตอนนั้นสนใจเรียนภาษาอินโดนีเซีย เขาบอกว่าจะหาหนังสือน่าอ่านส่งมาให้  เขาส่งมาหลายเล่ม อีกสองเล่มเป็นหนังสือแนวก้าวหน้าคล้ายๆ กัน น่าสนใจเช่นเดียวกัน

  " ฮารีเมา! ฮารีเมา!" หรือ  ถอดตามพยัญชนะได้ว่า "เสือ! เสือ!" นี้ เขียนตั้งแต่ ค.ศ. 1975 เป็นที่สนใจกันมาก

เนื้อเรื่อง

ฮารีเมา แปลว่าเสือ แต่ ฮารีเมา ฮารีเมา อาจไม่ได้หมายถึงเสือที่เป็นสัตว์ แต่มีนัยประหวัดถึงสิ่งที่มีอันตราย น่ากลัวต่างๆ ที่ผู้เขียนได้สร้างขึ้นในเชิงสัญลักษณ์เอาไว้ในหนังสือเล่มนี้

ผมไม่ได้เข้าใจภาษาอินโดนีเซียอย่างลึกซึ้ง (ตอนนี้ก็ยังงูๆ ปลาๆ อยู่ครับ) อาศัยพจนานุกรม และฉบับแปลภาษาอังกฤษของคุณ Florence Lamourex ซึ่งแปลผลงานของลูบิสเอาไว้หลายเล่ม ทำให้อ่านเรื่องนี้ได้สนุกจนจบ

เนื้อเรื่องเล่าถึงชีวิตในชนบทแห่งหนึ่งของอินโดนีเซีย เมื่อชายหนุ่มกลุ่มหนึ่งต้องเข้าป่าหายางไม้ เรียกว่า damar สำหรับใช้ย้อมผ้า ซึ่งเป็นของมีราคา จึงดั้นด้นบุกป่าลึกด้วยกัน 7 คน โดยมี วัก คาตอก ชายวัยห้าสิบเป็นผู้นำ ซึ่งเป็นที่นับถือของชาวคณะ เพราะเป็นพรานมือฉมัง นอกจากนี้ยังมีปัก ฮะยี วัยหกสิบ เป็นที่นับถือของชาวคณะ เพราะเคยไปมักกะมาแล้ว

คนที่อายุน้อยที่สุด คือ บูยุง หนุ่มวัยสิบเก้าปี ยังโสด เขาใกล้ชิดติดตามวัก คาตอก และนับถือเขามาก

ในการบุกป่าฝ่าดงนั้น พวกเขาต้องเดินทางผ่านอันตรายต่างๆ นานา ผู้เขียนบรรยายฉากในป่าได้อย่างละเอียดลออ เล่าถึงการเดินทางทีละช่วงทีละฉากได้อย่างน่าติดตาม

เมื่อชาวคณะเดินทางเข้าป่า ก็ได้พบกับปัก หิตัมที่มีบ้านอยู่กลางป่า ซึ่งหลายคนเชื่อว่าเขามีมนตร์ดำ ปัก หิตัมมีเมียสาวแสนสวยอยู่ด้วย ทุกคนหวาดกลัวชายผู้นี้ แต่ก็รอดพ้นมาได้โดยปลอดภัย ขณะที่บูยุง หนุ่มโสดแอบมีความสัมพันธ์กับเมียสาวของปัก หิตัม โดยมิได้ตั้งใจ และไม่มีใครรู้

เมื่อได้ของป่าที่ต้องการแล้ว ทุกคนก็เดินทางกลับ ไม่น่านก่อนจะถึงหมู่บ้าน ก็ได้ยินเสียงเสือคำราม ทำให้ชาวคณะตกใจกลัว สวดมนตร์ให้พระเจ้าคุ้มครอง (ทุกคนเป็นมุสลิม)  คิดกันไปต่างๆ นานา ว่าเป็นเพราะชาวคณะคนใดคนหนึ่งทำบาปเอาไว้ พระเจ้าจึงได้ส่งเสือมาจะทำร้ายคนบาป

ระหว่างที่ถกกันรอบกองไฟ คนที่ได้รับความนับถือศรัทธา ก็ถูกโจษและเปิดเผยความชั่วที่เคยทำกันมา บ้างก็สารภาพว่าตนได้ทำอะไรบ้าง และในคืนแรก เสือก็คร่าชีวิตชาวคณะไปคนหนึ่ง

ความหวาดกลัวทำให้ทุกคนเผยธาตุแท้ของตนออกมา วัก คาตอก ที่ใครๆ นับถือ และเกรงกลัวเยี่ยงเสือ กลับกลายเป็นคนที่ขี้ขลาดอย่างไม่น่าเชื่อ คนที่ไม่เคยมีใครถูกเผยเบื้องหลังก็คือบูยุง เด็กหนุ่มวัยสิบเก้า ซึ่งแสดงความอดทนต่อสถานการณ์เช่นนี้ได้เป็นอย่างดี

ในเรื่องนี้ ผู้อ่านจะได้ข้อคิดว่า ใครคือเสือที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อถึงกันแน่ เสือที่เป็นจอมโจร ซึ่งใครๆ ต้องขยาด หรือเสือร้ายในป่าตัวจริง หรือเสือที่เป็นสัญชาตญาณในใจของคน ที่โผล่ออกมากัดตัวตนผู้เป็นเจ้าของเพื่อความกลัวถึงขีดสุด

ส่งท้าย

สำหรับผมแล้ว ฮารีเมา ฮารีเมา เป็นนวนิยายที่น่าอ่านมาก นอกจากเรื่องการบรรยายฉากได้อย่างเห็นภาพ (บรรยากาศคล้ายทางภาคใต้ของเรา) แล้ว ยังเล่าเรื่องผูกปมได้อย่างน่าติดตาม ชวนอ่าน อยากรู้ตั้งแต่ต้นจนจบ โดยที่ผู้เขียนได้แฝงสัญลักษณ์ให้ได้ขบคิดไว้ด้วย

หนังสือเล่มนี้ มีการแปลเป็นภาษาไทยแล้ว เมื่อ พ.ศ. 2539 พี่ทราย ชญา (ไกรวรรณ สีดาฟอง) รุ่นพี่นักแปล (จากฉบับภาษาอังกฤษที่แปลย่อจากต้นฉบับภาษาอินโดนีเซีย) ใช้ชื่อเรื่องว่า "เสือ" พิมพ์โดยสำนักพิมพ์คบไฟ หาอ่านยากแล้ว ในห้องสมุดหลายแห่งอาจจะมีครับ

ผมไม่ได้อ่านฉบับภาษาไทย เพราะหาซื้อไม่ได้ ตามเก็บตรงโน้นตรงนี้มา พบส่วนหนึ่งของคำนำ ที่ผู้เขียนเขียนเอาไว้ ว่า

"ในชีวิต เราล้วนเผชิญกับการท้าทายเช่นนั้น บ้างก็ยอมรับเสือโดยสดุดี บ้างก็พยายามทำให้มันเชื่องและอยู่กับมันอย่างสงบโดยไม่สบายใจนัก ทว่าก็ยังมีบางคน ซึ่งแข็งแรงกว่าพิชิตมันได้ แต่ก็มีอยู่น้อยมากที่ประสบความสำเร็จในการประหารมัน"

หมายเลขบันทึก: 144922เขียนเมื่อ 8 พฤศจิกายน 2007 09:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:31 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (24)

สวัสดีครับคุณธวัชชัย

                    อ่านแล้วดีครับให้แนวคิด การแสดงพฤติกรรมผู้นำ และแสดงให้เห็นถึงผู้นำที่แท้จริงว่าควรมีการแสดงออกถึงการควบคุมอย่างไร

                                           ขอบคุณครับผม

  • น่าอ่านมาก
  • อยากให้อ่านของอาจารย์เสกสรรค์ ประเสริฐกุลเรื่อง คนกับเสือ
  • รับรองว่าต้องชอบครับ
  • ขอบคุณครับ

สวัสดีคะ

อยากอ่านจังเลยคะ

หวังว่าจะหาเจอให้ห้องสมุดนะคะ

ขอบคุณมากคะ

---^.^---

สวัสดีครับ P คุณนายช่างใหญ่

  • น่าเสียดายครับที่เขาไม่ได้พิมพ์ซ้ำ
  • หนังสือน่าอ่านหลายเล่ม ไม่ได้พิมพ์ซ้ำ
  • อาจจะเป็นเพราะยอดขายไม่มากพอ
  • ขอบคุณที่แวะมาอ่านและพูดคุยครับ

สวัสดีครับ P อ.ขจิต ฝอยทอง

  • ผมยังไม่เคยอ่านเรื่องที่อาจารย์บอก
  • จะลองหาดูนะครับ
  • ผมนึกถึง "คนขี่หลังเสือ" อีกเล่มหนึ่ง เป็นวรรณกรรมคลาสสิกที่มีแนวคิดเชิงเปรียบเทียบคล้ายๆ กัน
  • ขอบคุณครับที่แวะเวียนมาเยี่ยมเสมอๆ ;)

สวัสดีครับ P คุณพิมพ์ดีด

  • น่าสนุกครับ ต้องหาอ่านให้ได้ ;)
  • ความจริงผมชอบหนังสือแนวเที่ยวป่า
  • เล่มนี้มีครบ แถมแง่คิดด้วย ก็เลยสนใจมาก
  • น่าจะเป็นภาพยนตร์ คงสนุก หรือละครเวทีก็ยังได้
  • ความคิดเขายังทันสมัย ทั้งๆ ที่เขียนมาตั้งสามสิบกว่าปีแล้ว
  • ขอบคุณที่แวะมาครับ
  • สวัสดีครับคุณธวัชชัย
  • สวยมากครับ......ลายมือครับ
  • หนังสือน่าอ่านนะครับ
  • ผมชอบอ่านแนวลี้ลับอาถรรพ์น่าติดตามดีครับ
  • ขอบคุณที่แนะนำหนังสือดีๆครับ
  • สวัสดีค่ะ คุณ ธวัชชัย
  • ขอยืมอ่านหน่อยจิ
  • อยากอ่านมั่ง
  • ว่าแต่ บรรยายเห็นภาพ เลย
  • รู้เรื่องไปซะค่อนเรื่องแล้ว ยังจะสนุกไหมนี่
  • คิคิคิ

สวัสดีครับ อ.บัวชูฝัก

ลายมือยุ่งมากเลยครับ

ก่อนนี้ผมก็มีล่องไพร เพชรพระอุมา ฯลฯ ท่องป่า ตื่นเต้น เอาเรื่องจริงผสมจินตนาการ สนุกดี

ถ้ามีเรื่องที่น่าสนใจจะนำมาเล่าอีกครับ ;)

ขอบคุณที่แวะมาครับ

สวัสดีครับ คุณ coffee_mania

อ่านแล้วอาจจะปิ๊ง กลับไปเขียนนิยายสักเรื่องสองเรื่องก็ได้นะครับ ให้หอยโข่งเป็นตัวเอกก็ได้อะ

ผมเล่าไปนิดเดียวเอง หนังสือตั้งสองร้อยกว่าหน้า คือว่า หนังสือค่อนข้างหายาก ผมก็เลยเล่าเรื่องย่อให้

ปกติถ้าเล่าเรื่องภาพยนตร์ หรือหนังสือ ผมจะเล่าย่อแบบนี้ คนที่ไม่มีโอกาสได้อ่าน หรือได้ดู จะได้ไม่หงุดหงิดครับ อิๆ

น่าอ่านจังค่ะ เนื้อเรื่องดีเชียว

มีเรื่องแปลกใจนิดหน่อยว่า "ฮารีเมา" ในภาษาอินโดออกเสียงคล้ายกับภาษาแมนดารินมากเลย แต่เผอิญคำที่เหมือนมันไม่ใช่เสือ ดันกลายเป็นแมวแทน เรียกว่า "ฮัวเมา" (พอนับเป็นตระกูลเดียวกันได้มั้ย ^ ^ ) ถ้าเป็นเสือต้องเรียกว่า "เหลาสู่" สุดท้ายแถมหมีแพนด้าให้อีกตัว เรียกว่า "เสียงเมา" ค่ะ (เขียนเป็นไทยยากจัง จริงๆ ต้องออกเสียงว่า ซิหยง+เมา แล้วพูดคำแรกเร็วๆ แบบสายฟ้าแล่บ)

สวัสดีครับ คุณ Little Jazz \(^o^)/


อิๆ จากเสือกลายเป็นแมวไปเลย

หมีแพนด้าชื่อแปลกดีจัง ซิหยงเมา

ผมเคยดูเปาบุ้นจิ้น แล้วได้ยินคนพากษ์ออกเสียง "โส-ยง" สงสัยจะเป็น สโยง อะไรประมาณนั้นหรือเล่าก็ไม่ทราบ

คุณ Little Jazz \(^o^)/ เก่งจัง รู้ภาษาจีนด้วย

ขอบคุณที่แวะมาอ่านครับ ;)

มีเรื่องดีๆมาฝากพวกเราอีกแล้ว

เรื่อง แมวเป็นเสือ อิอิ

 

อื้อ ออกเสียงคล้ายแบบนั้นแหล่ะค่ะ คนไทยจะออกเสียงแบบนี้ยากมาก คือยากในการออกเสียงพอกับตัว R ในภาษาฝรั่งเศสที่ต้องออกเสียงเหมือนขากเสลดนั่นแหล่ะ ^ ^

มีอีกหลายคำที่เขียนเป็นทับศัพท์ภาษาไทยไม่ได้ ไม่รู้จะเขียนยังไงเพราะเสียงควบสองเสียงแถมขึ้นจมูกด้วย ยากง่ะ - - "

สวัสดีครับ ท่านครูบา สุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์


เรื่องภาษาก็สนุกดีครับ

น่าเอาไปเลี้ยงที่สวนป่าของท่านครูบานะครับ เสือจะได้กลายเป็นหมีไปเลย

ขอบคุณที่แวะมาทักทายครับ ;)



สวัสดีครับ คุณ Little Jazz \(^o^)/


ขอบคุณครับ ที่เข้ามาตอบอีกครั้ง

วันหลังติดขัดเรื่องภาษาจีน ต้องรีบไปปรึกษาแน่ๆ เลย ;)

ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะ  อ่านเรื่องเสือแล้วอยากเป็นเสือมั่ง ไม่รู้จะเหมือนแมวเปล่า

 P

  • สวัสดีครับ P คุณ Nong
  • ลองอ่านดูสิครับ
  • อาจจะไม่เป็นเสือ แต่ว่าได้ขี่หลังเสือไปเลย ;)
  • ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยือนครับ

 

  • แวะมาดูเสือคะ
  • อิอิช่วงนี้ใครต่อใครก็อยากขึ้นขี่หลังเสือ
  • แถมยังมีอีกหลายคนที่ไม่ยอมลงจากหลังเสือ
  • อิอิ..คนท่าทางจะน่ากลัวกว่าเสือแล้วละคะ
  • สวัสดีค่ะ คุณธวัชชัย ..

บอกได้คำเดียวว่า อยากอ่านมากกกกกกก  TT_TT

ต้อมชอบอ่านเรื่องราวประมาณนี้  อย่าง เพชรพระอุมา นี้นับเป็นหนังสือเล่มโปรดในดวงใจเลย  แต่ก็สงสัยว่า เพชรพระอุมากับล่องไพร  ทำไมเกือบทุกฉาก เกือบทุกตอน คล้ายกันจังเลย

สวัสดีครับ คุณ naree suwan


เสือคงไม่ยอมให้ขี่ง่ายๆ ครับ

ดูๆ แล้วเสือคงมีอิทธิพลต่อความคิดของคนมาก

ชาติไหนภาษาไหน ก็มักจะเปรียบเทียบเสือกับความดุร้าย อำนาจ ทั้งนั้นเลย

คนคงจะเจ้าเล่ห์กว่าเสือครับ อิๆๆ

สวัสดีครับ


ถ้าอยากอ่านมากกก ผมจะลองหาวิธีก่อนครับ

เผื่อจะได้อ่านเร็วๆ นี้

เพชรพระอุมา สนุกดีครับ ผมอ่านแล้ว ก็รู้สึกว่าคล้ายๆ นิยายหลายเรื่อง อาจจะเป็นผูกพันส่วนของคนเขียนด้วย

วันหลังจะมาเล่า ว่าส่วนหนึ่งของเพชรพระอุมา คล้ายกับนวนิยายเรื่องอะไร

อุบไว้ก่อน

สวัสดีครับ อ.ธ วั ช ชั ย

อ.ย่อได้สั้นดีและอ่านรู้เรื่องดีน่าสนใจครับ สงสัยต้องไปหาภาษาไทยมาอ่านซะแล้ว อย่าว่าแต่ภาษาอินโดเลยครับ แค่ภาษาอังกฤษกว่าจะจบแต่ละตอนเมื่อยมือมากเพราะเปิดดิกชันนารี อิอิ

สวัสดีครับ P ท่านอัยการชาวเกาะ

  • ผมเสียดายที่หนังสือเล่มนี้ไม่ได้พิมพ์ซ้ำ คนเขียนแต่งหนังสือเอาไว้มาก ส่วนมากจะออกไปทางวิพากษ์วิจารณ์สังคม เข้าซังเตอยู่ก็หลายปี ออกมาก็เขียนอีก แถมยังได้รางวัลแมกไซไซคนแรกด้วย
  • ผมว่าท่านคงอ่านหนังสือได้เร็ว เพราะว่าอ่านสำนวนฟ้องทีหนึ่งเป็นลังๆ เห็นในข่าว เวลาเขาฟ้องรายใหญ่ๆ เอารถสิบล้อขนหลักฐานเอกสาร โฮๆ ปีหนึ่งจะอ่านจบไหมเนี่ย P

วีรภัทร เหลืองอร่าม
  1. พ่อผมตั้งชื่อเล่นให้ผมว่า ฮารีเมา ผมพยายามค้นหาที่มาของชื่อ พ่อเคยเล่าให้ฟังแต่ไม่เคยเชื่อ ไปไหนก็มีแต่ทำไมถึงชื่อเมา (หรือที่เรียกว่าเมาเหล้า) ตอนนี้พ่อผมเสียไปแล้ว ผมภูมิใจที่พ่อตั้งชื่อนี้หลังจากรู้ที่มาที่ไป ขอบคุณครับ love dad
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท