มีประโยคกินใจหลาย ๆ ประโยค ในการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ ตลาดนัดความรู้กรมส่งเสิรมการเกษตร ปี 2550 ซึ่งมีขึ้นเมื่อ 16 - 18 กันยายน 2550 ณ โรงแรมมารวยการ์เด้นส์ กรุงเทพ ฯ
ซึ่งในวันแรกของงานกรมส่งเสริมการเกษตร ได้เชิญผู้แทนหน่วยงานที่มีประสบการณ์ ในการใช้ KM เป็นเครื่องมือในการทำงานทั้งทางด้านการบริหารและทำงาน
ช่วงเช้าของวันที่ 17 กันายน 2550 เป็นวันแรกของการสัมมนา ฯ ได้เชิญผู้แทนบริษัท SPANSION (Thailand) Limited โดย ดร.ปรอง และ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย โดยคุณทวีสิน เป็นที่น่าชื่นชมยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทั้งสองบริษัทนำ KM ไปใช้เป็นเครื่องมือในการทำงานในหน่วยงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งสองท่านมีประสบการณ์สูง แต่เสียดายที่ทางกรม ฯ เองมีเวลาในการเล่าประสบการณ์ของทั้งสองท่านน้อย "รู้ลึกแต่โง่กว้าง" เป็นคำพูดที่ ดร.ปรอง ได้สะท้อนออกมาทำให้ผมต้องนำมาวิเคราะห์ต่อ ซึ่งในการทำงานหรือที่ทำงานก็คือสังคม จะเล็กหรือใหญ่ก็เป็นสังคมของคน ท่านบอกว่า "เหล่าวิศวกร" ซึ่งรวมถึงตัวท่านเองด้วยนั้นรู้เฉพาะทางรู้ลึกซึ่งเก่งเฉพาะด้าน แต่พูดกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง
ทำให้สังคมการทำงานนั้นเคลื่อนกระบวนงานได้แบบฝืด ๆ
และได้นำกระบวนการ KM นำเข้าไปปรับใช้ซึ่งส่งผลให้ดีขึ้น สังคมในการทำงานมีความสุขขึ้น ถ้าเรานำมาคิดต่อจะเรียนรู้ได้ว่า KM เป็นเครื่องมือในการทำงานที่มีประสิทธิภาพ เพราะคงไม่ได้เน้นในเรื่องของการสกัดองค์ความรู้ที่เป็นด้านของเครื่องมืออุปกรณ์กับเทคโนโลยี แต่ให้มีความสมดุลย์ในเรื่องของการจัดการคน และจัดการกระบวนการ ในการทำงานให้สอดคล้องกันด้วย
ไม่เช่นนั้นการก็ทำงานร่วมกันก็ทำได้ยากเนื่องจากในสังคมขององค์กร มีคนที่มาจากความแตกต่าง มีความรู้ความสามารถที่แตกต่าง ทั้งภูมิปัญญา วุฒิการศึกษารวมถึงสถาบันที่มีชื่อเสียง วัฒนธรรม ภาษา ฐานะดั้งเดิม วงศ์ตระกูล อันเป็นเหตุจูงใจให้มีความรู้สึกถึงการอยู่เหนือคนอื่นของคนบางคนที่คิดในเชิงได้เปรียบ
ไม่สามารถลดความรู้สึกในใจตรงนี้ลงมาให้เท่าเทียมกันกับคนอื่นเหมือนผิวน้ำได้ ส่วนคนที่มองตัวเองว่าด้อยก็ไม่เพิ่มระดับความรู้สึกว่าเราเองมีคุณค่าไม่ใช่น้อย การเรียนรู้ร่วมกันเพื่อทำงานร่วมกันแม้นเป็นสังคมเล็ก ๆ ในองค์กรการทำงานเห็นว่าถ้าเราจัดการ "คน"ให้ดี ให้เข้าใจลดเพิ่มความรู้สึกในทางบวก โดยมีกิจกรรมที่ไม่ใช่งานอย่างเดียวมาทำร่วมกันคนสามารถเรียนรู้ร่วมกันก็สามารถที่จะปรับจูนให้เข้ากระบวนการเดียวกันจากแนวคิดหรือความรู้สึกที่ต่างคนต่างมีต่างคิด ผมเชื่อว่าในองค์กรทำงานทุกคนก็อยากทำงานแบบสบาย ๆ ไม่เครียด อยากช่วยเหลือคนอื่นในขณะเดียวกันก็อยากให้คนอื่นช่วย เช่นกัน ทุกคนก็อยากเห็นคนอื่นยิ้มพร้อมทั้งตัวเองก็อยากยิ้มในที่ทำงาน
มีหลายท่านได้เขียนบันทึกและนำภาพถ่ายในกิจกรรมตลาดนัดความรู้กรมส่งเสริมการเกษตรมาเผยแพร่และเล่าบรรยายกาศในงาน ผมเองได้เก็บเกร็ดเล็ก ๆ ที่ฟังแล้วกินใจมาฝากและเพื่อให้คิดต่อครับ
ท่านสามารถอ่านรายละเอียดจากบันทึกของเพื่อนนักส่งเสริมได้ที่นี่ครับ
* สวัสดีครับคุณพี่
* เป็นความรู้ที่ดีมากครับ คำว่า "รู้ลึกแต่โง่กว้าง" ฟังดูแล้วก็ทำให้เราสามารถที่จะหันกลับมามองตัวเอง หรือมองระบบการทำงานในเรื่องต่างๆ ได้ดีทีเดียวครับ
น้องวิศรุต
น้องเชียรชัย พิชัยรัตน์
น้องปลาเค็ม
สวัสดีครับพี่นันทา
เรียน ท่าน ผอ.ธุวนันท์
สวัสดีครับ..พี่วิทย์
น้องจุก
คุณกาหลง
สวัสดีครับ น้องสิงห์ป่าสัก
แฟน ๆ รออ่านบันทึกหลาย ๆ ตอนก็ดีน่ะครับ ช่วงนี้คึกคักขึ้นสำหรับเพื่อน ๆ นักส่งเสริม ฯ เรา
สวัสดีครับผมน้องใหม่ ได้ใจครับ
สวัสดีค่ะคุณชาญวิทย์ ในการทำงานร่วมกันที่หลากหลายสายงานวิชาชีพ เคยพบบ้างเหมือนกันคะ คนฉลาดบางคนจะมีอารมณ์เบื่อง่าย เบื่อที่จะฟังคนอื่นเชื่อในความฉลาดของตัวเอง เลยรู้สึกไปว่าคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง ไม่อยากคุยเสียเวลา
สวัสดีค่ะพี่ชาญวิทย์