เป้าหมายชีวิต


ว่าแล้วก็รื้อต่อไป งานรื้อบ้าน ก็เป็นความสุขอีกอย่างหนึ่งเหมือนกัน

    เมื่อวานได้รื้อเก็บหนังสือพิมพ์ย้อนหลัง รื้อไป ก็อ่านไป จากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายสัปดาห์  26 ส.ค. 50 คอลัมภ์ของ ศ.ดร.นพ.วิทยา นาควัชระ เขียนเรื่อง เป้าหมายชีวิต

     พูดว่า.. คิดแบบลึกซึ้งจริงๆแล้ว ทุกคนต้องการความสุข

  - ความสุขทางกาย

  - ความสุขทางใจ

  - ความสุขทางจิตวิญญาณ

     สิ่งที่กำกับ ความสุขทางกาย คือ ความพอ  ยอม  ถ่อมตัว ถ่อมใจ

     ความสุขทางใจ หมั่นแสดงความรักและมิตรภาพอย่างเหมาะสมกับตนเองและผู้อื่นโดยเฉพาะคนใกล้ตัว โดย ยิ้มแย้ม ทักทาย ชมเชย ช่วยเหลือ

    ความสุขทางจิตวิญญาณ  จิตวิญญาณ ต้องการอาหาร คือ ความดี

........................................

    อ่านแล้วน่าสนใจดี ว่าแล้วก็รื้อต่อไป งานรื้อบ้าน ก็เป็นความสุขอีกอย่างหนึ่งเหมือนกัน

หมายเลขบันทึก: 128301เขียนเมื่อ 15 กันยายน 2007 12:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 20:25 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

สวัสดีครับ พี่หน่อย

สุข สบายดี นะครับ...ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ

.....................

บันทึกเล็กๆของพี่มีคุณค่ามากเลยครับ อ่านเเล้วได้ข้อคิดเตือนใจ ..

เห็นพี่รื้อบ้าน ผมคงต้องรื้อบางแล้ว เพราะรื้อแล้วเจอขุมทรัพย์ที่เคยซ่อนตัวเองไว้

สนุกดีครับ

แต่ถ้าอ่านไปเรื่อยๆ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ความสุขต่างๆนั้นแยกกันได้อย่างไร โดยเฉพาะทางใจและทางจิตวิญญาณ

ทุกวันนี้เราใช้คำว่าจิตวิญญาณกันมากเลยครับ

ไม่รู้ว่า จริงๆแล้วมันแปลว่าอะไร

ยิ่งงานวิจัยใหม่ที่ออกมา มีคำว่า จิตสังคม (แปลมาจาก psychosocial) อีก เล่นอาผมหัวปั่น

คุณหน่อยช่วยขยายความได้ไหมครับ

ขอบคุณพี่หน่อยครับ...จะเร่งสร้างความสุขทั้งหลายให้เกิดขึ้นในเร็ววัน

P
   สวัสดีคะ  มีเวลาว่าง ก็รื้อบ้านน่ะ มันรกหนังสือ ทั้งที่ไม่ได้อ่านและอ่านแล้ว  จริงอย่างน้องเอกว่า รื้อไปมา เจอ ขุมทรัพย์นะ บางที รื้อไปยิ้มไป บางทีอ่านไป
บอกตัวเองว่า .. ดีจัง  ...เอาไปใช้ได้
P
      คำถามดีคะ พี่หน่อยย่อมาน่ะ ( ข้างบน ) แต่ลอกมาตอบอีกก็ได้คะ  ...( เผื่อได้คะแนน. )...
     จากบทความนะคะ เขาว่า...
  ความสุขทางใจ เวลาที่เรามีชีวิตอยู่ปัจจุบันนี้  อยู่ในสังคมน่ะคะ
ใจที่ต้องการมิตร ต้องการความรัก ความสุข ต้องเปิดใจตัวเอง สร้างมิตรภาพกับตัวเองให้ได้เสียก่อน และสร้างมิตรภาพกับคนอื่นด้วย
  ความสุขทางจิตวิญญาณ   ผู้เขียน เขาบอกว่า จิตวิญญาณเป็นส่วนของชีวิตที่ออกจากร่างตอนตายไปแล้ว เชื่อว่า เราต้อง ทำความดีไว้มากๆ จะได้ส่งผลให้จิตวิญญาณ มีพลังที่ดี...
........................................................
    แต่พี่หน่อยว่านะ  เรื่องใจ กับจิตวิญาณ ในตัวเรา
มันน่าจะอยู่ใกล้กันมากเลย และมันน่าจะถูกพัฒนาไปพร้อมๆกันน่ะ และต่อเนื่อง
     เช่นว่า  พอเราทำ ใจ ให้มันดีๆ เดี๋ยวนี้ ตอนนี้ มันก็จะเห็นผลเลยนะ  และ พลังจิต ที่มันอยู่ในเรา มันก็จะส่งผล ทันทีเหมือนกัน  ...ไม่ต้องรอว่า จะใกล้ตาย
หรือ หลังตาย แล้วค่อย นำไปใช้  มันน่าจะเอาออกมาใช้ให้มีประโยชน์ ก่อนตายนะ ว่ามั้ย....
     และที่ คุณหมอว่า  " จิตสังคม (psychosocial) " พี่หน่อยก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง หรอกคะ  ไม่ค่อยได้อ่านงานวิจัย  แต่น่าสนใจดี 
    ถ้า คำนี้ไปอยู่ในประโยครวมๆ น่าจะเดาความหมายได้  แต่มาโดดๆ คิดว่า นะ  เป็นแบบ
จิตใจทีอยู่กับสังคม  ไม่ชอบอยู่โดดเดี่ยว อยู่รวมหมู่
ชอบช่วยเหลือ หรือ เกี่ยวข้องกับผู้อื่นคนอื่น....หรือเปล่า
P
3. ย่ามแดง 
      เมื่อเช้าพี่หน่อย โทร.คุยกับพี่ลม้ายที่ปัตตานี ที่ทำงานวิจัยกับ อ.นุกูล ฟังเรื่องราว...ก็ยังนึกถึง น้องขุน
อยู่เลย......
       เรื่องข้อบันทึก ข้างบน พี่เห็น แล้วสดุดใจดี ก็เลย
นำมาบันทึกไว้เตือนตัวองด้วย เขาแบ่งได้น่าสนใจดี
กาย ใจ จิตวิญญาณ.........
       การที่เราอยู่ ในที่ไม่คุ้นเคย คุ้นชิน ห่างบ้านเกิด
ก็เป็นสิ่งเปรียบเทียบ ในการเติบโต และแนวทางที่จะดำเนินไป ของ  สาม อย่างนี้อย่างมากนะ
       และปัตตานี ...การอยู่เรียนรู้ ที่นี่ ของพี่หน่อย ก็มีส่วนที่ หล่อหลอม สามอย่างนี้ ให้พี่ด้วย  พี่จึงรู้สึกอยู่เสมอ ขอบคุณสิ่งที่ผ่านมาและผู้คนที่แวดล้อมเรา
สวัสดีครับ.......หน่อย  พี่ผ่านร้านเน็ต เข้ามาดูนิดหนึ่งครับ เห็นเขียนไว้ จึงขอแจมนิดก็แล้วกัน  ..ถ้าเป้าหมายชีวิตของคนเราอยู่ที่การอยู่ดีมีสุข ทั้งกาย วาจา ใจ และจิตวิญญาณ .....เป็นสิ่งที่ดีมากเลย เพราะที่ผ่านมาในชีวิตมีแต่ความทุกข์ ทางกาย วาจา ใจ และจิตวิญญาณ ใช่หรือเปล่า?????     แต่ความเป็นจริง กลับไม่ใช่ เพราะว่า.มันน่าจะมีมากกว่าที่อ่าน.....ความเป็นจริง คือ กฎของไตรลักษณ์ (ทุกขัง,อนิจจัง,อนัตตา) เป็นตัวตั้ง เป้าหมายคือ การละบาป ,ทำดี และทำจิตใจให้ผ่องใสเข้าไว้ .....ถ้าคนเราไม่เข้าใจว่าทุกข์กาย คือสรรพโรค ,การที่ร่างกายไม่จิรังยั่งยืน ,ตายได้ และอ่อนแอกว่าสัตว์ใด ๆในโลกนี้ แล้วจะทำให้สุขกายได้อย่างไร? แค่มีที่อยู่อาศัยกันแดดกันลม ,มีเสื้อผ้าไว้ปกปิดร่างกาย,มีอาหารการกินที่เหมาะกับฟันที่ทานเนื้อทานผักใบไม้ และธัญญพืช ,การได้รักษาโรคด้วยคิลาน มากกว่านายแพทย์ แค่นี้ทำให้สุขกายอย่างถูกต้องตามหลักธรรมชาติที่สุดแล้วครับ..แล้วที่เกินมา คืออะไรครับ สุขกาย ,สุขใจ,สุขจิตวิญญาณ ที่ควรเป็นอย่างธรรมชาติคืออะไร?  แมวไม่สบาย หาหญ้ากินเอง คนไม่สบายหาหมอครับ ผิดธรรมชาติ...........ครับ
P
7. นาย สมพงศ์ ตันติวงศ์ไพศาล 
    ดีคะ  พี่อธิบายเพิ่ม ให้บันทึกนี้สมบูรณ์คะ  ให้มอง
เห็น สิ่งที่ ไม่จีรัง  ให้เห็นสิ่งที่เป็นธรรมชาติ
    เป็นการย้ำ ว่า ถ้าเป้าหมายของ มนุษย์ ต้องการ
ความสุข เราก็ต้องไปถึงสุขที่แท้จริง ในทุกด้าน เห็นความเป็นจริงในทุกสิ่ง  และไม่ยึดถือ
     ขอบคุณคะ  จะเอาไว้เตือนตัวเองบ่อยๆคะ

เข้าท่าจังน้องหน่อย

  • บันทึกของหน่อยทำให้พี่ลองทบทวนตัวเองดู
  • กับคนที่บ้าน บ่นว่างานมาก ล้นมือ(ทุกข์) แต่ก็สุขที่มีรายได้เข้ามาสู่ครอบครัวอย่างสุจริต และสุขที่ได้ทำงานที่ชอบ
  • สุขที่ได้กินอาหารที่ชอบ แต่ก็ทุกข์ที่อ้วนขึ้น อิ อิ ทั้งคู่เล้ยยย
  • ทุกข์ที่บ้านหลังคารั่ว แต่ก็สุขที่มีบ้านซุกหัวนอนเป็นของเราเอง
  • ทุกข์ที่แม่จากเราไป แต่ก็สุขที่นึกถึงความดีของท่านและทำบุญให้ท่านตลอด
  • ฯลฯ มันคู่กัน ไม่มีสุขก็ไม่มีทุกข์ ไม่มีทุกข์ก็ไม่เห็นความสุข
 
P

 

มันคู่กัน ไม่มีสุขก็ไม่มีทุกข์ ไม่มีทุกข์ก็ไม่เห็นความสุข...........................................    รู้สึกสนุกอีกแล้ว.....อย่างที่พี่ว่า เป็นของคู่กัน เราก็มองให้เป็นธรรมชาติ มองเป็นธรรมดา กลางๆ     งั้น เราก็มาเริ่มที่เหตุ ถ้าทำเหตุที่ดี สิ่งที่เกิดขึ้นจะทุกข์ จะสุข ก็สุดวิสัย ใช่มั้ยคะ     แต่ตัวอย่างที่พี่ยกมา น่ารักจังคะ  แข่งกันน้ำหนักเพิ่ม หรือคะ   พี่บางทรายชนะแม่บ้าน  แน่นอน 
P
 ขออนุญาติ ยกคำถาม คุณหมอ ไปตอบอีกครั้งที่ บล็อกสุขภาพ นะคะ อยากเปรียบเทียบกับเรื่องแนวสุขภาพด้วยน่ะคะ
   จริงๆ หัวข้อนี้ ว่าจะเขียนที่บล็อกสุขภาพ แค่กดผิด เพราะเพิ่มไป เพิ่มมา เลยงง
    พี่หน่อยก็ขอบคุณ คุณหมอ เหมือนกัน 
     วันนี้ ทานก๊วยเตี๋ยว เจ้าประจำอีกมั้ยคะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท