ความฝันของพระราชา


การสร้างสรรค์บนการทำลาย

สอนคุณธรรม

อันดับที่ 17/8

คุณธรรมแห่งการรู้จักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม


วัตถุประสงค์ เพื่อรู้รัก และฝึกฝนจนเคยชิน

นิทานคติ ความฝันของพระราชา



นานมาแล้ว ยังมีพระราชาผู้หนึ่ง เป็นผู้มีความคิดอ่านลึกซึ้งและยังชำนาญการศึก อาณาจักรของพระราชาองค์นี้ตั้งอยู่ในหุบเขาแห่งหนึ่ง รอบด้านเป็นทุ่งหญ้าโล่งกว้าง มีลำธารสี่สายไหลผ่าน เมื่อผ่านช่องเขาแต่ละด้านก็จะเป็นอาณาจักรที่มีขนาดใหญ่กว่า พระองค์ต้องการให้อาณาจักรของพระองค์ยิ่งใหญ่ขึ้น จึงได้ทรงทำศึกสงคราม และสามารถเอาชนะอาณาจักรที่อยู่รอบนอกได้จนหมดสิ้น ทำให้อาณาเขตของอาณาจักรของพระองค์ยิ่งใหญ่กว่าในอดีตหลายเท่า

ต่อมาพระองค์ทรงเห็นว่าเมืองของพระองค์มีขนาดเล็ก ไม่เหมาะสมกับการเป็นนครหลวงของอาณาจักรที่กว้างใหญ่ จึงทรงสั่งการให้หักล้างถางพง เคลื่อนย้ายชาวเมืองให้ออกไปอยู่รอบนอกมากขึ้น ทำให้เมืองใหญ่ขึ้น มีการตัดหิน และไม้จำนวนมาเพื่อการก่อสร้างเมือง อนุสาวรีย์ และบ้านเรือน เมืองขยายตัวออกไปอย่างรวดเร็ว ทุกวันพระองค์จะไปยืนอยู่บนชั้นบนของปราสาทเพื่อมองดูเมืองของพระองค์ คืนวันหนึ่ง พระราชารู้สึกง่วงนอน จึงทรงเข้านอนแต่หัวค่ำ และทรงหลับในเวลาไม่นาน พระราชาทรงฝัน ฝันที่น่าตื่นตกใจที่สุด พระราชาทรงฝันไปว่าพระองค์ได้ไปอยู่ในเมืองๆหนึ่งที่เจริญรุ่งเรือง มีการค้าขาย บ้านเรือนก่อสร้างใหญ่โต มีถนนหลายสายตัดกันไปมา ทุกจุดตัดมีน้ำพุขนาดใหญ่ ให้ความชุ่มฉ่ำกับผู้คน อีกทั้ง ผู้คนอยู่ร่วมกันจำนวนมาก ทรงรู้ด้วยใจว่านี่คืออาณาจักรของพระองค์เอง พระองค์จึงยืนมองอย่างพึงพอใจ เมื่อทรงตื่นจากฝันก็ทรงบัญชาให้ทำการขยายเมืองให้เร็วขึ้น

ผ่านไปอีกหลายเดือน พระราชาก็ทรงฝันอีก คราวนี้ทรงฝันเห็นเมืองที่ใหญ่โต บ้านเรือนสวยงาม อาคารหลายหลังสวงงามตระการตา มีผู้คนจำนวนมากกว่าเดิม การค้าขายเป็นไปอย่างคึกคัก แต่ทรงรู้สึกว่าอากาศร้อนอบอ้าว และเมื่อมองไปนอกเมือง ก็พบบ้านเรือนตั้งอยู่กระจัดกระจาย ป่าไม้รอบเมืองหลายไปหลายส่วน เมื่อทรงตื่นขึ้น ทรงสั่งให้ชะลอการขยายเมือง ทรงห่วงป่าที่ครั้งหนึ่งเป็นเสมือนกำแพงป้องกันเมือง และเป็นแหล่งของสัตว์ป่าต่างๆ ที่พระองค์เคยไปเที่ยวเล่นมาก่อน แต่อย่างไรก็ตามเมืองก็ยังคงโตขึ้น ผู้คนจากเมืองรอบข้างอพยพเข้ามาในอาณาจักรของพระองค์ เกิดแหล่งแออัดขึ้น

ผ่านไปอีกหลายเดือน พระราชาก็ทรงฝันอีก คราวนี้ทรงเห็นเมืองที่กว้างใหญ่มาก ใหญ่กว่าเมืองใหญ่ๆ ที่พระองค์เคยไปเห็นมา แต่ผู้คนดูอดอยาก บ้านเรือน ร้านค้าดูเงียบเหงา อากาศร้อนและแห้งแล้ว น้ำพุที่ตั้งตามจุดตัดของถนนต่าง ๆ ล้วนไม่มีน้ำทั้งสิ้น ทันใดก็มีคนเดินมาชนตัวของพระราชา พระราชาเห็นอีกฝ่ายเป็นเด็กหนุ่ม มีท่าทางรีบร้อนมากจึงถามว่า

ท่านกำลังรีบไปทำอะไรหรือ”<

เด็กหนุ่มนั้นตอบว่า

ข้ากำลังจะไปขอปันน้ำ จากพ่อค้าที่กลางเมือง อีกไม่นานก็จะเข้าหน้าแล้งแล้ว ต้องสะสมน้ำไว้ก่อน ท่านไม่ไปด้วยกันหรือ

พระราชารู้สึกงุนงงยิ่ง ทำไม่ต้องปันน้ำ เมืองนี้มีลำธารไหลผ่านตั้งสี่สาย จะขาดน้ำได้อย่างไร แต่ก็เดินตามเด็กหนุ่มคนนั้นไป เมื่อมาถึงกลางเมือง พ่อค้ากำลังขายน้ำอย่างแข็งขัน มีคนจำนวนมากกำลังแย่งกันซื้อน้ำอยู่ พระราชาจึงถามเด็กหนุ่มว่า

ทำไมต้องซื้อน้ำ น้ำในลำธารทั้งสี่ไม่พอให้ใช้หรือ

เด็กหนุ่มหันมามองหน้าอีกฝ่าย แล้วตอบว่า น้ำในลำธารหรือ ตอนนี้ไม่มีแล้วหละ ตั้งแต่พระราชาพระองค์ก่อนให้ขยายเมือง มีการเกณฑ์ผู้คนจากที่ต่างๆ มาอยู่ในเมืองมากขึ้น หักล้างถางพงจำนวนมาก ทำให้ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล หน้าน้ำ น้ำก็มาก พอหน้าแล้ว ก็ไม่มีน้ำจะกิน น้ำที่ท่านเห็นพ่อค้าต้องไปขนมาจากเมืองที่ห่างไปตั้งไกลทีเดียว”<

พระราชาทรงนิ่งคิด พระองค์ต้องการให้เมืองใหญ่ขึ้น เจริญขึ้น แต่ผลสุดท้าย กลับได้เมืองที่มีจุดอ่อนขึ้น จุดอ่อนนี้สามารถทำให้เมืองล่มสลายได้ แล้วอย่างนี้จะเป็นอาณาจักรใหญ่ได้นานเพียงใด

เมื่อพระราชาตื่นจากความฝันครั้งที่ 3 นี้ก็ทรงมีคำสั่งในจำกัดขนาดเมือง และทรงตั้งหน่วยงานดูแลป่าไม้และต้นน้ำอย่างจริงจัง เมื่อผ่านไปหลายสิบปีนครหลวงแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นนครหลวงที่ร่มรื่นที่สุดในอาณาจักรใหญ่น้อยทั้งปวง



ช่วยกันขยายความ

ช่วยหาคติพจน์ สุภาษิตที่ส่งเสริมการรู้จักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ให้ช่วยหาคำสอนของศาสนาต่างๆ ที่ส่งเสริมให้คนรู้จักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในทั้งสองกรณี ให้มีอาสาสมัคร รวบรวมบันทึกไว้ เพื่อทำเอกสารแจก ให้เก็บไว้เป็นที่ระลึกโดยลงวันที่ไว้ด้วย

ฝึกความประพฤติให้เป็นคุณธรรม

1. ฝึกให้รู้รอบ : เรื่องความฝันของพระราชาเหมาะสำหรับสอนเรื่องการรู้จักอนุรักษ์ธรรมชาติหรือไม่ เพียงใด

2. ฝึกให้เข้มแข็ง : เราจะช่วยแนะนำคนอื่นอย่างไรให้รู้จักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมต่างๆ ในการดำเนินชีวิตและการทำงานประจำวันอย่างไร

3. ฝึกให้พอเพียง : การรู้จักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างไรจึงเรียกได้ว่าทำด้วยความพอเพียง

- การรู้จักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างไรที่เรียกว่าทำด้วยความเกินพอเพียง ?

- การรู้จักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างไรที่เรียกว่าทำด้วยความขาด ?

4. ฝึกให้ยุติธรรม : ยกตัวอย่างและเหตุผลของการรู้จักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ยุติธรรมและไม่ยุติธรรมต่อธรรมชาติ สังคมและประเทศชาติ


กิจกรรมสันทนาการ1

ให้อาสาสมัครนั่งล้อมเป็นวงกลม แล้วให้ผลัดกันเล่าถึงประสบการณ์การไปท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ ความสวยงาม ความเป็นธรรมชาติ ความน่าตื่นตาตื่นใจ เมื่อเล่าครบทุกคน ให้ลองเอามาเทียบกับภาพของเมืองในนิทาน แล้วให้อาสาสมัครวาดภาพเหล่านั้นออกมา


กิจกรรมสันทนาการ2

ให้อาสาสมัครออกไปเดินสำรวจธรรมชาติในบริเวณ 100 เมตรจากจุดที่จัดกิจกรรม ให้ช่วยกันเก็บขยะ เศษไม้ ใบไม้ พลาสติก เพื่อนำไปทิ้ง แล้วให้ทุกคนมองไปรอบๆ ให้สังเกตความแตกต่างก่อนและหลังการช่วยกันเก็บขยะ แล้วช่วยกันหาข้อดีของการเก็บขยะครั้งนี้


เอกสารคุณธรรมและจริยธรรมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ 2549-51 ปรับจากหนังสือ Discovering the real me, Universal Peace Federation Edition

โดย นายเอนก สุวรรณบัณฑิต

หมายเลขบันทึก: 128294เขียนเมื่อ 15 กันยายน 2007 11:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 พฤษภาคม 2016 13:02 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

น่าจะมีแปลเป็นภาษาอังกฤษด้วย

ดีค่ะ แต่อยากให้มีการอนุรักษ์มากกว่านี้อ่ะค่ะ ต้องการไปแสดงละคร

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท