ผลไม้ริมทาง


ทรัพยากรท้องถิ่น

          สงสัยมาตลอดทางช่วงขากลับ  ตอนเดินทางไปเยี่ยมลูกชายที่ภูเก็ต  เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2550  ว่ามันคือลูกอะไร ที่ห้อยแขวนอยู่ตามร้านเพิงชั่วคราวของชาวบ้าน  เพื่อขายให้กับผู้เดินทาง ซึ่งมีมากตลอดเส้นทางช่วงพังงากับอำเภอทับปุด  สีสรรชวนสงสัยเพราะผูกไว้เป็นพวงยาว ๆ  จำเป็นที่ต้องหาคำตอบแล้วและต้องรีบทำเพราะมาระยะทางปลาย ๆ มาแล้วมันเริ่มเบาบางของการแขวนโชว์หากไปหวังเอาข้างหน้าเห็นท่าจะเลยพ้นจนพิสูจน์ไม่ได้แน่   รีบจอดรถเทียบข้างร้านของป้าคนหนึ่ง  แกยิ้มผมรีบถามเลย "ป้าลูกอะไร"   

          ป้าตอบด้วยเสียงอันดังแบบ ภูมิใจมั้ง  ผมคิดเอาเอง "ลูกปุย" ผมบอกผมไม่เคยเห็น ป้าแกบอก "ก็มันมีแต่ที่พังงา ที่อื่นไม่มี" และหัวเราะเพราะมองออกว่าผมสงสัยเอามาก ๆ ป้าบอกพร้อมหยิบมีดผ่าให้ผมดู  ผมบอกว่าผมซื้อโลหนึ่ง  เพราะต้องรีบเดินทางเดี๋ยวมืด

          ผมรับลูกปุยมากจากป้าหนึ่งกิโลกรัม  และส่งเงินให้ป้า 35 บาท  ตามราคาต่อกิโลที่ป้าบอก   และทุกคนในรถเริ่มลงมือพิสูจน์รสชาดกัน  และก็พูดกันว่า  เหมือนส้มไฟ (ลูกมะไฟ)  แต่ลูกมันโต  ผมลองพิสูจน์ดูบางเป็นอย่างนั้นจริง ๆครับ

                 

          เหมือนมะไฟจริง ๆ ในส่วนของรสชาด  และเมล็ดนั้นขมเหมือนเมล็ดมะไฟเช่นกัน  ส่วนผลก็ตามภาพที่เห็น


     
           ผมมีข้อมูลเท่าที่ป้าแม่ค้าสมัครเล่นท่านบอกเท่านั้นครับ  ท่านสมาชิกท่านใดมีข้อมูลมากกว่านี้  เรียนเชิญแนะนำด้วยนะครับ  เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่หรือชุมชน  แถว ๆ พังงา นะครับ   ผมคาดว่าน่าจะมีต้นอยู่บนภูเขาแถบนั้นแน่ ๆ และน่าจะเป็นทรัพยากรจากป่าครับ   เห็นแปลก ๆ ดี  ก็เอาที่ยังเหลืออยู่ถ่ายภาพมาแบ่งปันกันชมครับ

 

หมายเลขบันทึก: 119854เขียนเมื่อ 15 สิงหาคม 2007 21:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:15 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)
  • สวัสดีครับพี่ชาญวิทย์
  • เพิ่งเคยเห็นครั้งแรกเหมือนกันครับ
  • ขนาดพี่ยังไม่รู้จักแล้วผมอยู่บนดอย คงไม่มีข้อมูลแน่ๆ ครับ อิๆๆ
  • ขอบพระคุณมากครับที่นำมาแลกเปลี่ยน

น้อง วีระยุทธ

  • ช่วงนี้ติดตามโครงการภายใต้ยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข เริ่มมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัวแล้ว  เพราะอากาศร้อนมาก  แต่ละวัน ขึ้นรถลงรถ และเส้นทางไกล ๆ กันด้วย คณะติดตามเริ่มจากศาลากลาง ประมาณ 07.30 น. กลับมา 17.00 - 18.00 น.
  • ขอบคุณที่มาเยี่ยม  หวังไว้ว่าจะได้ข้อมูลจากสมาชิกที่อยู่แถวพังงามาต่อเติมให้ครับ
  • วันก่อนได้สนทนากับอาจารย์ ดีพร้อม ไชยวงศ์เกียรติ ตอนที่ท่านมา วิพาก FTA ที่สุราษฎร์ฯ อาจารย์คุยถึงลูกปุยนี้เหมือนกัน แต่ผมไม่รู้จักมัน เพิ่งจะเห็นจากภาพถ่ายพี่นี่แหละ แต่อาจายร์บอกว่า มีแถวยะลาด้วยนะ และน่าจะศึกษาเรื่องตลาดของพืชท้องถิ่นตัวนี้
  • ขอบคุณครับที่ นำรูปมาให้ดู วันหลังผมจะไปเก็บตัวอย่างของจริง ครับ

น้องบ่าว หนุ่มร้อยเกาะ

ขอบคุณที่มาเยี่ยม  อย่าลืมถ้ามีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับลูกปุยเอามาเล่าต่อแล้วกันนะครับ

      สวัสดีครับ   พีวิทย์

       * ที่ยะลาเขาเรียกว่าลูก  "รังแข" ผลสุกเปลือกจะแตกเป็นพู  แต่ผมไม่เคยเห็นต้นมันสักที เห็นขายทั่วไปในตลาดผลไม้  เนื้อน้อยเปลือกมาก  เดี่ยวจะไปติดตามเอามาแลกเปลี่ยน

      * ขอบตุณมากครับ

น้องตุก (เกษตรยะลา)

  • ขอบคุณครับ  ที่มาให้ข้อมูลเพิ่มเติม 
  • ขอเป็นกำลังใจในการทำงาน ดูแลตัวเองดี ๆ นะครับ

คนพังงาค่ะ ลองเข้ามาหาข้อมูลลูกปุยจากที่อื่นดูบ้าง เนื่องจากกำลังเขียนวารสาร หัวข้อชิมผลไม้พื้นเมืองของพังงาอยู่ค่ะ  สำหรับข้อมูลที่ได้ จาก อ.คำนวณ แก้วช่วง วิทยาลัยเกษตรกรรมพังงา

ลูกปุย   เป็นผลไม้พื้นเมืองที่พบมากอยู่ในป่า   เปลือกจะมีสีส้ม  เปลือกมีความหนามาก เวลาปอกเปลือกผลไม้จะพบเนื้อของลูกปุย  ซึ่งมีสีขาวน่าทาน และจากการที่เนื้อของผลไม้ชนิดนี้มีความขาวนวลคล้ายปุยเมฆยามเช้าที่อากาศสดใส ชาวพังงาจึงเรียกผลไม้ชนิดนี้ว่า ลูกปุย  รสชาติจะมีทั้งหวานและหวานอมเปรี้ยว    หลังจากที่ชาวบ้านใช้วิธีการเก็บลูกปุยในป่า  ปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนแปลงวิธีการปลูกโดยการเสียบตายอด  คือการนำเอายอดลูกปุยป่ามาเสียบต้นที่เป็นพันธ์ดี  เพื่อให้ได้ลูกปุยที่มีขนาดใหญ่ ผลโตน่ารับประทานและรสชาติหวาน   ท่านที่อยากลองทานผลไม้ชนิดนี้  ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย  เพราะใน 1 ปี จะมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นคือ เดือนสิงหาคม กันยายน

ปุยมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Baeeaurca Maerophylla Mucll

ชื่อทางวิชาการว่า "ลังแข"  เป็นพืชตะกูลเดียวกับ มะไฟ ละไม แต่ปุยมีผลและใบใหญ่กว่า

ส่วนจังหวัดอื่นๆที่มีขายกัน ทราบจากผู้ขายส่งผลไม้ในพังงาว่า จะนำไปขายจังหวัดต่างๆ เช่น ภูเก็ต  กระบี่ หาดใหญ่ (จังหวัดที่นิยมรับประทาน) เป็นต้น ส่วนที่ว่า  จังหวัดเหล่านั้นจะปลูกลูกปุยได้เองหรือไม่   ต้องการทราบข้อมูลเหมือนกันค่ะ  และที่อยากทราบอีกอย่างคือ  ต้นกำเนิดมาจากที่ใดกันแน่

สวัสดีครับ คุณจารุวรรณ์ คงเดช

  • ขอบคุณครับที่กรุณามาให้ข้อมูลเพิ่มเติม 
  • หากมีเพิ่มเติมเรื่องการปลูกเทคโนโลยีแบบใหม่ก็อยากให้มาเพิ่มเติมต่อ
  • ขอบคุณล่วงหน้านะครับ

คุณชาญวิทย์-นครศรีฯ รูปที่ลงไว้ดูไม่ได้เลยคะ รบกวนส่งเมล์มาให้หน่อยได้ใหมคะ

อยากเห็นคะ

เป็นผลไม้พื้นเมืองที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในขณะนี้ แขวนขายตามแผงผลไม้ริมถนนเพชรเกษม บ้านท่าอยู่ บ้านบางเตย จังหวัดพังงา ผูกเป็นช่อขาย 50 บาทต่อช่อ

ผลผลิตมากช่างเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม เป็นผลไม้ที่ขึ้นตามธรรมชาติ ผลผลิตมากน้อยแต่ละปีไม่แน่นอน

ที่สำคัญรสชาดไม่เหมือนผลไม้ ต้องลองครับ เคล็ดลับความ "หรอย" ต้องกลืนเมล็ดด้วยครับ

เมื่อวานผมได้มีโอกาสทานครับ รสอร่อยมากครับ หวานอมเปรี้ยว สดชื่นมากครับ

ราคาปี 2557 กก.ละห้าสิบบาทค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท