บ่อยครั้ง, ผมสังเกตเห็นว่าการทำงานในแต่ละครั้งมุ่งไปสู่ “อนาคต” โดยไม่เคยที่จะศึกษาข้อมูลอันเป็นเสมือน “ประวัติศาสตร์” ที่ผ่านมาของเรื่องนั้น ๆ เอาเสียเลย “งานประจำ” หลายอย่างถูกผลิตซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับเป็น “งานใหม่” เพียงเพราะขาดการศึกษาเรียนรู้จาก “เนื้องาน” เดิมที่เคยทำในครั้งที่ผ่านมา –
เมื่อไม่นานมานี้ผมได้เสวนากับทีมงานถึงการงานที่ผ่านมา, ผมตั้งข้อสังเกตว่าเราเสียเวลากับการประชุมเตรียมงานอย่างยาวนานเพื่อพูดถึง “ปัจจุบัน” และ “อนาคต” แต่กลับไม่ใคร่มีใครนำข้อมูลอันเป็นเนื้องานใน “อดีต” มานำเสนอเพื่อบูรณาการกับวิถีแห่งงานที่กำลัง “จะทำ” เท่าใดนัก
ซ้ำร้ายไปกว่านั้น เมื่อถามว่า “ปีที่แล้วทำอะไรบ้าง ? หรือแม้แต่ครั้งที่แล้วมีข้อเด่นข้อด้อยอะไรบ้าง ?” คำตอบที่ได้รับคือ ”ความเงียบ” !
ความเงียบที่ผมกล่าวถึงนั้น เป็น “ความเงียบทางความคิด” ที่เกิดจากการไม่เคยจัดเก็บข้อมูลในการทำงาน, ไม่มีการสรุปบทเรียนเพื่อเตรียมการ “ต่อยอดทางความคิด” ไปสู่อนาคต และอนาคตที่ผมกล่าวถึงนั้นก็คือ “วันนี้” นี่เอง !
ด้วยเหตุเช่นนี้กระมัง, บ่อยครั้งเราจึงทำงาน “ประจำ” ราวกับเป็น “งานใหม่” อยู่ร่ำไป เมื่อเป็นเช่นนี้ คลื่นลมในทะเลความคิดจึง (ได้ทีขี่แพะไล่) หัวเราะเยาะเราอยู่อย่างขบขัน เพราะนั่นคือ เรากำลังพายเรือวนอยู่ในทะเลความคิดโดยปราศจากวี่แววที่จะขึ้นฝั่ง - ซึ่งภาพสะท้อนดังกล่าว คือ “ปรากฏการณ์” ที่ฉายให้เห็นการซ้ำแล้วซ้ำอีก .. วนแล้ววนอีก ... เกิดขึ้นและดำเนินไปอย่างไม่มี “พัฒนาการ” ..
ปรากฏการณ์เช่นนี้, สะท้อนให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า ทำไม เรายินยอมให้ประวัติศาสตร์ที่นำความเจ็บปวดมาสู่เราเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้มากมายถึงเพียงนี้ ? ... และทำไม เราถึงทำงานราวกับเรื่องที่กำลังทำอยู่ในขณะนี้ เป็น “งานใหม่” ที่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในโลกแห่งการทำงานของเรา ! ...
ที่สุดแล้ว, เราก็สรุปกับแบบง่าย ๆ สั้น ๆ ตามประสาชุมชน “คนนักปฏิบัติ” ว่า “เสร็จแต่ละงาน เรามานั่งสรุปงานกันเป็นยก ๆ กันเถอะ และจัดเก็บข้อมูลงานนั้น ๆ ไว้เป็นเล่ม ๆ เลยดีกว่า ปีหน้า, จะได้ไม่ต้องเกิดภาวะความเงียบทางความคิดอีกต่อไป และที่สำคัญก็คือ จะได้ไม่ต้องรู้สึกว่างานที่กำลังทำอยู่นี้ไม่มีประวัติศาสตร์เอาซะเลย..”
ครูแผ่นดิน...สู้ๆเจ้าค่ะ.....เป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ.......อนาคตที่สดใส รอเราอยู่ 555555555555++
เป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ ----------> น้องจิ ^_^
แก้คำผิดครับ(เล็บ/แล็บ)
สวัสดีค่ะน้อง แผ่นดิน
เย็นนี้ พ่อบ้าน จะฉลองความสุขกันค่ะ...อิอิ
สวัสดีครับ บ่าววีร์
อีกสิ่งที่พบความอดทนการจะทำใจรับโปรแกรมคนอื่นมาทำต่อโดยเฉพาะโปรแกรมที่เขียนเพื่อเรียนจบ ต้องใช้ความอดทนมากเหมือนกัน. แต่ถ้าไม่ทนก็ต้องทำใหม่ (ซึ่งในบางโอกาสก็อาจจะดีกว่าก็ได้).
สวัสดีครับ น้องจิ
สวัสดีค่ะ
สวัสดีครับ อ.แพนด้า
สวัสดีค่ะ
คุณปู่คุณย่าช่วยได้มากๆนะคะ เห็นเอาลูกไปฝากอยู่ประจำเลย แต่เด็กๆก็รักคุณปู่คุณย่ามากด้วย
สมัยที่บริหารที่โรงงาน เราเอาวิธีของญี่ป่นมาใช้ ได้ผลมากๆค่ะ เอาต้นแบบมาจากโรงงานฮอนด้า พี่ไปดูงานมา
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีวินัย การฝึกคนไม่ยาก และมีการทำต่อเนื่อง ฝรั่งนำไปปรับใช้กันมากเลย
พนักงาน เช้างานเป็นกะ แต่ 8.00น .....
ทุกคนต้องมาเข้าแถว ร้องเพลงชาติไทย ถ้าป็นวันพระ นิมนต์พระมาเทศน์ครึ่งช.ม.
ต่อจากนั้น ผู้จัดการโรงงาน ขึ้นเวที สรุปปัญหางานเมื่อวาน ทั้งงานรับวัตถุดิบ การผลิต การควบคุมคุณภาพ และ logistic และส่งท้ายด้วย การปรับปรุงงานสำหรับวันนี้ อย่าให้มีผิดซ้ำซากอีก( โดยไม่ได้ตำหนิใคร)
ส่วนระดับหัวหน้า เข้ามาสรุปงานกัน ในห้อง และผู้จัดการโรงงาน จะทำรายงานเสนอพี่ทุกวัน โดยfax มาที่กรุงเทพ
ทำอย่างนี้ทุกวัน จนเราได้ ISO และได้รางวัลโรงงานอุตสาหกรรมดีเด่นจากกระทรวงอุตสาหกรรม สมัยคุณพรเทพ เตชะไพบูลย์เป็นร.ม.ต
ชื่นชมความคิดสร้างสรรค์ของคุณพนัสค่ะ ดีมากๆแต่ ต้องมีการทะอย่างต่อเนื่องทุกวัน จึงจะได้ผลค่ะ
สวัสดีครับ น้องสายลม
ระยะหลังพี่พยายามเขียนบันทึกในช่วงเช้า ๆ ... เพราะเป็นช่วงที่ชีวิตสดชื่น ...
และหวังว่าน้องสายลมจะมีเช้าชื่นแห่งชีวิตเสมอ ๆ นะครับ
สวัสดีครับ พี่ศศินันท์
ขออภัยนะครับที่ตอบบันทึกล่าช้า...
ผมค่อนข้างประทับใจในกระบวนการที่นำมาใช้ และเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะกิจกรรมเหล่านี้ผมถือว่าสำคัญมาก คือ
พนักงาน เช้างานเป็นกะ แต่ 8.00น .....
ทุกคนต้องมาเข้าแถว ร้องเพลงชาติไทย ถ้าป็นวันพระ นิมนต์พระมาเทศน์ครึ่งช.ม.
รวมถึง..
ต่อจากนั้น ผู้จัดการโรงงาน ขึ้นเวที สรุปปัญหางานเมื่อวาน
ส่วนระดับหัวหน้า เข้ามาสรุปงานกัน ในห้อง และผู้จัดการโรงงาน จะทำรายงานเสนอพี่ทุกวัน โดยfax มาที่กรุงเทพ
....
สิ่งเหล่านี้ ถือเป็นวิสัยทัศน์ที่ต้องปรบมือให้ ..
ขอบพระคุณครับ