เมื่อวันที่ 19-20 ธันวาคม 2548 มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ได้จัดกิจกรรมขยายผลการจัดการความรู้ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สืบเนื่องมาจาก โครงการความร่วมมือทางวิชาการระหว่าง สคส. กับมหาวิทยาลัยราชภัฏ 13 แห่ง ซึ่งลงนามร่วมกันเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2548 เพื่อเป็นการแสดงเจตน์จำนงที่จะร่วมมือทางวิชาการ ในการใช้การจัดการความรู้สู่การพัฒนาพันธกิจเพื่อให้บรรลุเป้าหมายแห่งความร่วมมือกันดำเนินการ โดยมีวัตถุประสงค์หลักที่สำคัญ ดังนี้คือ
1.ร่วมมือในการฝึกอบรมและพัฒนาคณะจารย์ให้มีความรู้ความเข้าใจ เจตคติและทักษะในการจัดการเรียนการสอนและพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนด้วยกระบวนการจัดการความรู้
2.ร่วมมือศึกษา ค้นคว้า วิจัย พัฒนาการเรียนการสอน และการพัฒนาหลักสูตรด้วยกระบวนการจัดการความรู้สู่การประยุกต์ใช้และเผยแพร่
3.ร่วมมือในการติดตาม ทบทวน เพื่อการประเมินผล การนำกระบวนการจัดการความรู้ไปปฏิบัติจริงในการจัดการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง
ทาง มรภ. สุราษฎร์ธานี ใช้ชื่อกิจกรรมครั้งนี้ว่า “ตลาดนัดความรู้สู่คณะคุณภาพ” ซึ่งจัดโดย กองแผนงานและนโยบาย มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ณ กระบี่ มาริไทม์ สปา แอนด์ รีสอร์ท จังหวัดกระบี่ ผู้เข้าร่วมทั้งหมด 60 คน ประกอบด้วย คณบดี รองคณบดี อาจารย์ จากทั้ง 6 คณะของ มรภ.สุราษฎร์ธานี กิจกรรมครั้งนี้ เป็นการต่อยอดขยายผลการจัดการความรู้ ให้เกิดขึ้นภายใน มรภ.สุราษฎร์ธานี โดยมีวัตถุประสงค์ คือ 1. เพื่อให้เกิดกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของผู้บริหารและอาจารย์ในคณะ 2. เพื่อให้เกิดกระบวนการจัดการกับองค์ความรู้ 3. เพื่อให้เกิดการคิดอย่างเป็นระบบครบวงจร 4. เพื่อให้มีการถ่ายทอดความรู้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งรูปแบบกระบวนการตลาดนัด ทางผู้จัดได้ใช้กระบวนการแบบเดียวกับที่ สคส. ใช้ โดยผู้ที่ทำหน้าที่เป็นวิทยากรนำกระบวนการ คือ ผู้ที่เข้าร่วมตลาดนัดความรู้ การจัดการเรียนรู้สู่ความเป็นเลิศของผู้เรียนและชุมชน เมื่อวันที่ 9-11 ตุลาคม 2548 ณ โรงแรมรอยัล ซิตี้ กรุงเทพฯ กิจกรรมและกระบวนการดังกล่าว ค่อนข้างรื่นไหล บรรยากาศเป็นกันเอง สนุกสนาน ผู้เข้าร่วมฯ ให้ความร่วมมือและสนใจที่จะเรียนรู้อย่างเต็มที่
บรรยากาศของตลาดนัดความรู้ การสกัดขุมความรู้จากเรื่องเล่า
และต่อไปนี้ คือ AAR ของผู้เขียน
1. ความคาดหวังหรือวัตถุประสงค์ในการเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ คือ ไปเป็นพี่เลี้ยงและเป็นที่ปรึกษาให้กับทีมวิทยากรและคณะทำงานผู้รับผิดชอบโครงการ
2. สิ่งที่ได้รับเกินความคาดหมาย คือ ได้เห็นคณะวิทยากรและคณะทำงานที่มีความตั้งใจอย่างสูง และสามารถดำเนินการออกมาได้ดี ที่สำคัญมีการทำงานเป็นทีม ไม่ว่าจะเป็นทีมประสานงาน ที่บริหารจัดการทั้งคน เวลา สถานที่ วัสดุอุปกรณ์อย่างพร้อมสรรพ ทีมวิทยากรก็มีการเตรียมการมาเป็นอย่างดี มีการประชุมพูดคุยกับทำความเข้าใจกันหลายครั้งทีเดียว แต่ละคนเตรียมตัวและทำหน้าที่ของตนเองเป็นอย่างดี ที่สำคัญ มีการกำหนด วิทยากรประจำกลุ่มด้วย โดยทำหน้าที่เหมือนกับเป็นพี่เลี้ยงของกลุ่มย่อย ซึ่งทีมวิทยากรกลางกับวิทยากรประจำกลุ่มย่อย จะมีการประชุมและ AAR ร่วมกันตลอดเวลา ทำให้ทีมวิทยากรได้รับรู้ถึงความเข้าใจและปัญหาที่เกิดขึ้นในกระบวนการของตลาดนัดความรู้ได้อย่างทันท่วงที
การเตรียมการเหล่านี้ แสดงให้เห็นว่า การเริ่มต้นการจัดการความรู้ โดยให้ลงมือปฏิบัติจริงๆ เลยนั้น มีประโยชน์มาก คณะวิทยากรได้บอกกับผู้เขียนว่า ครั้งแรกที่เข้าร่วมตลาดนัดความรู้ที่ สคส. เป็นวิทยากรให้นั้น ก็พอจะเข้าใจกระบวนการบ้าง แต่เมื่อลงมือเป็นวิทยากรเองนั้น ยิ่งทำให้เข้าใจกระบวนการจัดการความรู้ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ตรงนี้จึงเป็นความภูมิใจของผู้เขียนมากที่สุด
3. สิ่งที่ไม่ได้รับหรือได้รับน้อยกว่าที่คาดหมายไว้ คือ “แก่นความรู้” เนื่องจากว่า “หัวปลา” ในครั้งนี้ คือ "คณะคุณภาพ" ซึ่งค่อนข้างกว้าง ผู้เข้าร่วมหรือ “คุณกิจ” ก็มีทั้งผู้บริหารและอาจารย์ผู้สอน จึงเล่าเรื่องกันแบบกระจัดกระจาย ส่งผลให้ “แก่นความรู้” ที่ได้จึงมีถึง 20 แก่น แต่เท่าที่สังเกตเห็นผู้เข้าร่วมรู้สึกพึงพอใจกับแก่นความรู้ที่ได้
4. จะกลับไปทำอะไรต่อ สำหรับตัวผู้เขียน คงทำหน้าที่ “คุณประสาน” เพื่อให้ มรภ. ทั้ง 13 แห่งและผู้สนใจทั่วไป ได้ทราบถึงความเคลื่อนไหวต่างๆ ของ มรภ. สุราษฎร์ธานี และกระตุ้นให้ มรภ. สุราษฎร์ธานี ได้ผลักดันให้ มรภ. อื่นๆ ได้ลงมือ “ปฏิบัติ” การจัดการความรู้เองบ้างต่อไป เพราะตอนนี้เรียกว่า มรภ.สุราษฎร์ธานี เป็นได้ลงมือเดินหน้านำร่องไปแล้ว รวมทั้งเพื่อกระตุ้นผลักดันให้เกิดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันระหว่างเครือข่าย 13 มรภ. โดยมี มรภ.สุราษฎร์ธานีเป็นแกนนำ และอาจจะขยายออกไปยัง มรภ. อื่นๆ ด้วยต่อไป ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อเตรียมการที่จะเกิดเป็นเวทีแลกเปลี่ยนระดับประเทศ ในงานมหกรรมจัดการความรู้ ครั้งที่ 3 ต่อไป
5. หากจะมีการจัดกิจกรรมเช่นนี้ในครั้งต่อไป จะต้องมีการปรับปรุงอะไรบ้าง สำหรับตัวผู้เขียนคิดว่า การกำหนดหัวปลาให้ชัดเจนและการเตรียมบทบาท “คุณอำนวย” กับ “คุณลิขิต” มีความสำคัญอย่างมาก เพราะจะทำให้กระบวนการรื่นไหลและได้รับผลที่ดีมากยิ่งขึ้น