How to Love without Sex
ทุกอย่างที่มนุษย์สร้างและคัดสรรค์ล้วนมีความสวยความงามและความรักประกอบอยู่ แม้ว่ารักจะเป็นสิ่งที่สวยงาม แต่เราก็ต้อง
- ทุกข์เพราะรัก
- เจ็บปวดเพราะรัก
- เศร้าและเสียใจเพราะรัก
- และเราต่างอกหักเพราะไม่รัก !!
ทุกข์และสุขปนอยู่ในรัก แต่ส่วนมากจะมีแนวโน้มไปทางทุกข์เสียมากกว่า เพราะว่า....ในเมื่อรักไม่อาจนิยามได้ เราจึงยากที่จะพบรักแท้ รักแบบขาด รักแบบพร่องจึงไม่มีวันที่จะเต็มเสียสักที
รักอาจแบ่งได้ 4 ประเภท (๑)
- รักแบบราคะ กามา
- รักแบบเสนห์หา
- รักแบบเปมะ เป็นกัลยาณมิตรเอื้ออาทรช่วยเหลือกัน
- รักแบบเมตตา
รักแบบราคะ ถือว่าเป็นรักที่ต่ำสุด นับว่าเป็นรักที่ค้นหาไม่มีวันพบ เนื่องจากกระแสวัฒนธรรม การยั่วยุของสื่อต่างๆ รักที่จะเป็นอันตรายต่อเด็กและเยาวชนก็คือ รักแบบราคะและรักแบบเสน่ห์หา
นอกจากความทุกข์ที่เกิดเพราะรักแล้ว ปัญหาสังคมและสถานะการณ์การมีเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่นจึงเป็นที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง
ปัญหาเหล่านี้มิอาจเบาบางหรือลดความรุนแรงไปได้เลย หากไม่แก้ที่สาเหตุโดยใช้วิธีการแก้ปัญหาวิถีพุทธ
แยกรักออกจากใคร่
- กลิ่นเหม็นคาวที่ไม่รู้สึก
รู้สึกว่าตนเองโชคดีที่ได้ประสบกับความทุกข์อย่างแสนสาหัสในชีวิต เพราะนั่นถือเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต ดั่งคำว่า "เห็นทุกข์คือเห็นธรรม" และรู้สึกโชคดีอีกเช่นกันที่เคยได้ทุกข์เพราะรัก หากไม่ทุกข์เพราะรักก็คงไม่พบกับรักแท้ ความทุกข์เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนส่วนใหญ่หันหน้าเข้าหาธรรม
แต่รู้สึกเสียดายที่อาจจะพบกับรักแท้ช้าไป และทั้งๆที่เราอยู่ไกล้กับรักแท้มาตลอดชีวิต แต่กลับมองไม่เห็นค่า เหมือนกับคนตกอยู่ในบ่ออาจม กลับไม่รู้สึกเหม็นแถมยังยินดีกับกลิ่นเหม็นที่เคยชินนั้นไปด้วย หลังถูกฉุดให้ขึ้นจากบ่อนั้นแล้วจึงได้กลิ่นที่น่าสะอิดสะเอียนของมัน บ่ออาจมที่เราหลงยินดีนี่แหละ เป็นเหตุผลที่แม้มีทางเราก็ไม่ไขว่คว้าที่จะเดินและไม่ยอมแยกรักออกจากใคร่
- กายนี้ใจนี้เป็นห้องทดลองวิทยาศาสตร์
หลังจากทุกข์เพราะโลก และทุกข์เพราะรักจึงได้ค้นหารักแท้อย่างจริงจัง จนไปสะดุดกับบทความหนึ่งที่เขียนเกี่ยวกับความรักและการออกจากกามของคุณดังตฤณ (๒) ตอนแรกก็แปลกใจและสงสัยว่ามันเป็นวิธีที่ทำได้จริงหรือ ด้วยความสงสัยใครรู้ทำให้เราพยายามแสวงหาคำตอบด้วยการทดลองปฎิบัติตามวิธีการนั้นด้วยตนเอง
วิธีออกจากความกำหนัดในกามเรื่องเพศและการสืบพันธ์
- "มันก็แค่นั้นเอง"
เคยคิดไหมว่า ทานข้าวทุกวันไม่เบื่อบ้างหรือ? เบื่อก็ดิ้นรนไขว่คว้าไปหาของกินที่แปลกใหม่ จะเผ็ดร้อน หวานมัน เข็มข้นยังไง กินซ้ำๆกันทุกวัน กับข้าวทุกๆชนิดก็กลายเป็นแกงจืดหมด หนำซ้ำยังสรรค์หาเปิบพิศดารรสชาดแปลกประหลาดมากินกัน อาจจะมีeventแบบแข่งกันกินด้วยวิธีนับถ้วยนับจานกัน ใครกินได้จุใครสวาปามได้เยอะคือผู้ชนะ?
ไม่เบื่อการกิน การเสพกันบ้างหรือ? เป็นที่น่าแปลกที่หิวขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็สวาปามด้วยความกระหายใคร่อยาก และอร่อยทุกที แม้แท้ที่จริงแล้วมันอาจจะเป็นเพียงข้าวเปล่ากับน้ำปลาก็ตาม
Neo: I used to eat there. Really good noodles. I have these memories from my life. None of them happened. What does that mean?(๓)
คำถามก็คือ? หากเราจำไม่ได้ว่าวันนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มื้อเที่ยงเราได้ทานข้าวกับอะไร ความจำนั้นก็จะไม่เป็นความจริงและไม่มีความหมายใดๆอีกต่อไป
หากมองให้ลึกเข้าไปอีกก็จะพบว่ามันเป็นเพียงคลื่นสมองของความทรงจำรสชาดเท่านั้นเอง และเมื่อ "จำไม่ได้หรือไม่ได้จำอีก" สุดท้ายมันก็จะกลายเป็นไม่มีอะไรในที่สุด "มันก็แค่นั้นเอง"
- ละเลิก
วิธีลดความรุนแรงของความใคร่และราคะ นี้สามารถเห็นผลถึงการเปลี่ยนแปลงได้ภายในสามเดือน หากตั้งใจปฎิบัติอย่างจริงจัง และมีจิตใจที่เข็มแข็งพอที่จะต่อสู้กับกิเลสในใจ โดยมีวิธีการง่ายๆดังนี้คือ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องกามที่เกี่ยวกับเพศ ทั้งทางตรงและทางอ้อม เว้นต่อการปรุงแต่งทางกามารมณ์ใดๆทั้งสิ้น การไม่รับข้อมูลข่าวสาร ดูภาพโป้ ภาพยนต์เรท RหรือX และรวมถึงการช่วยตัวเอง
ถ้าสังเกตุดีๆก็จะพบว่า การที่พระไม่ใส่กกน. ก็มีข้อดีที่จะเป็นเครื่องกั้นในความละอายเรื่องเพศ ซึ่งพระหนุ่มเณรน้อยต้องผ่านตรงนี้มาเหมือนๆกันหมด ส่วนใครจะลดละเลิกได้มากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับการกระทำของแต่ละคน
- พิจารณาอสุภะ
ในเบื้องต้นเราจะรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องยากเพราะเรายังไม่เคยชินกับมัน หากมองเพศตรงกันข้ามแล้วเกิดความรู้สึกทางเพศ ให้ใช้การพิจารณาความสกปรกในร่างกาย ที่มีผิวหนังหุ้มอยู่ หากไม่ได้ผลก็ลองคิดดูว่าหากสิ่งที่มองเป็นซากศพ มีแผลเหวอะหวะ น้ำหนองน้ำเลือดไหล หนอนขึ้นยั้วเยี้ยน่าสยดสยอง -*-.
- Future eye
อีกวิธีหนึ่งที่ได้ทดลองใช้กับตนเองแล้วได้ผลคือ การมองอนาคตแบบTime Machine เช่นผิวหนัง ก้อนเนื้อ ที่เห็นจากที่สวยงามหากแร่งเวลาให้เดินเร็วขึ้น เราก็จะเห็นมันค่อยๆเหี่ยวค่อยๆยาน แก่ผมหงอกก็จะไม่น่ามองไปในที่สุด หากแร่งเวลาให้เร็วขึ้นไปอีกเราก็จะเห็นซากศพ เห็นโครงกระดูกที่เดินได้
การวัดผลการทดลองพุทธศาสตร์
เมื่อทำได้ดังนี้เป็นเวลาอย่างน้อยสามเดือนจึงจะเห็นผล เราจะสามารถลดความรุนแรงของความใคร่ลงได้ชัดเจน เพราะเมื่อกิเลสไม่มีอาหารที่เข้าไปหล่อเลี้ยงให้มันโต มันก็จะฝ่อและอาจถึงกับแห้งตายคือดับอารมณ์ในเรื่องเพศได้หากจิตมีกำลังแก่กล้าพอเมื่อปฎิบัติควบคู่กับการเจริญสติวิปัสนาจนถึงเวลาอันเหมาะสมของมัน
วิธีนี้ไม่แน่ใจว่าจะใช้ได้ผลกับเพศหญิงหรือไม่ เพราะความแตกต่างทางกายภาพและมิอาจทดลองกับตนเองได้
Morpheus: this is not far from the truth (๔)
มันอาจจะดูยาก แต่มันไม่ไกลจากความเป็นจริงเลย อยู่ที่เราจะต้องการก้าวไปพบกับความจริงนั้นหรือไม่.?
วิถีพุทธหยุด HIV
การตั้งใจรักษาศีลข้อใดข้อหนึ่ง(๕) หรือรักษาศีลห้าอย่างจริงจังรวมถึงวิธีการดังกล่าวข้างต้น ช่างมีความมหัศจรรย์ เป็นการออกจากกิเลสอย่างหยาบที่เป็นเครื่องปิดกั้น อย่างน้อยสุดคือเราจะไม่เสียเวลาไปหมกมุ่นอยู่กับเรื่องนั้นๆแบบไร้สาระอีกต่อไป แล้วเราจะมองเห็นว่าเวลาที่เสียไปกับการคุยโทรศัพท์เป็นคืนๆนั้น มันช่างน่าเสียดายจริงๆ สิ่งที่เราพร่ำบอกกันว่ารักนั้นแท้จริงแล้ว มันเป็นเพียงสัญชาตญาณการหาคู่และสิ่งที่คิดว่าจะเติมเต็มอันว่างเปล่า
การทำลายกำแพงเครื่องปิดกั้นเหล่านี้จึงเป็นการเปิดรับประตูแห่งปัญญา เมื่อไม่มีขยะหยาบๆในใจ เราก็จะมีเวลาและกำลังสมองในการสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคม วิธีนี้นี่เองที่จะนำเรากลับไปสู่การเป็นเด็กอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งธรรมชาติความบริสุทธ์แบบเด็กนั้นใกล้เคียงกับจิตเดิมแท้ประภัสสร รักของเราจึงเป็นรักแท้อย่างแท้จริง ที่แยกรักออกจากใคร่ได้อย่างเด็ดขาด อย่างน้อยสุดก็เป็นการประกาศความเป็นไทให้กับตนเองในจำนวนทาสหลายๆประเภท(๖) และต่อไปนี้หากเราจะรักใคร ก็จะเป็นรักที่แท้จริง
หลังจากได้ทดลองปฎิบัติด้วยตนเอง จึงได้ทราบว่า เพียงการตั้งใจรักษาศีลห้า และการออกจากกามในเรื่องเพศยังมีผลดีขนาดนี้เชียวหรือ ขนาดเพียงเศษเสียวของธรรม ยังให้ผลขนาดนี้เชียวหรือ....
หากวัยรุ่นไทยส่วนใหญ่ปฎิบัติได้เช่นนี้ บุพผาแห่งรักแท้ก็จะงอกงามผลิดอกชูช่ออย่างสวยงามเต็มไปหมด นี่แหละ!! เป็นรักแท้ที่มีอยู่แล้วในทุกตัวตน รอวันเพียงเจ้าของเช่นเราไปค้นหาเท่านั้นเอง
ธรรมะยิ่งศึกษายิ่งสนุก ยิ่งเรียนรู้ยิ่งปฎิบัติ ยิ่งมีความสุข มีความสุขทั้งตัวเราและสังคมรอบข้างจริงๆครับ
(๑) : ธรรมะเดลิเวอรี่ ตอนความรัก
(๒) : http://www.dungtrin.com
(๓) : Zen in the Matrix
(๔) : Zen in the Matrix I
(๕) : สุราคือภรรยาใจร้าย
(๖) : The Promise
ความเห็น (14)
- หากเรามีความรักแบบเปมะ รักนี้คงจะไม่มีทุกข์และเป็นความรักที่ยั่งยืนนะคะ
สวัสดีครับอ.ลูกหว้า พอดีเพิ่งอัพเดทงานเขียนชิ้นนี้ครับ
รักแบบเปมะ เป็นรักของกัลยาณมิตร เช่นรักของพ่อแม่พี่น้องและครูบาร์อาจารย์ครับ ยังเป็นทาสผู้ซื่อสัตย์อยู่ และก็ไม่สูงสุดเท่ารักแบบเมตตา เพราะเมตตาไม่เจาะจงว่าต้องเป็นใครของใครหรือเป็นสิ่งใดครับ
สวัสดีค่ะน้องแมน
ภาพสวยมากค่ะ ชอบจังขอ copy นะคะ
ภาพเดียวแทนคำได้มากมายเลย..
รักแบบเปมะพี่เพิ่งเคยได้ยิน แต่รู้สึกดีมากเลยค่ะ
สวัสดีครับคุณ
 |
- เมตตา = ความรัก แบบรักคนทั้งโลก ปราศจากเครื่องหมายทางเพศว่านี่ชาย นั่นหญิง คนรวย คนจน ไม่มีชนชั้นแม้แต่เสมอกัน
- ใจที่รักมั่นคงต่อเป้าหมายที่ต้องการจะช่วยตัดเรื่องนี้ง่ายขึ้น
- พระท่านว่าไว้ว่า ถ้าราคะจะเบาบางจางลงจริงๆ ความโกรธต้องลดลงด้วย เพราะเป็นภูมิธรรมของพระอนาคามี (ตัดกามราคะ + ปฏิฆะ)
- เบื่อหน่ายของแท้ต้องเบื่อหน่าย แบบคลายกำหนัดลงด้วย ถ้าไม่คลายก็ยังไม่จริง เบื่อน้อยๆ แต่ค่อยๆเบื่อ จะกำลังใจจะมั่นคงกว่า (แบบรักน้อยๆ แต่รักนานๆน่ะครับ)
"Real Love are not for Love somebody, It for Everybody & Nobody”
ขอบคุณครับพี่นกและคุณข้ามสีทันดร
เมตตาในที่นี้ยังรวมถึง ความรักที่ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต นั่นคือรักสิ่งแวดล้อม รักธรรมชาติ และผืนดิน(Earth) ด้วยครับ
man in flame
สวัสดีครับคุณ keigo
ขอบคุณสำหรับรูปครับ
รู้สึกว่าตอนที่มนุษย์ยังเป็นลิงค่างอยู่ ก็เป็นแบบนี้นะครับ เรากำลังพัฒนาแบบย้อนยุคกันหรือเปล่า?
ครูอ้อยชอบเพลงนี้จังเลย...ขอเก็บไปฟังบ้างได้ไหมคะ
ขอบคุณค่ะ
สบายดีไหมครับ
ช่วงนี้กระแสจากโพลเรื่องของการเสียตัวของวัยรุ่นในวันวาเลนไทน์กำลังมาแรง ผมนึกถึงบันทึกของคุณ Man In Flame เลย
ธรรมรักษา
เศษธุลีในจักรวาล
ให้ความรู้ดีมากเลยค่ะจะลองไปกฎิบัติดู ไม่อยากมีความรักเสียที
ล้ำลึกจริงๆ