แหลงใต้วันละคำ (29) : จี, หมก, เจี้ยน, ต๊อม,....(คำว่าด้วยการทำให้สุก)
หวัดดีครับพี่หน่องที่หรักที่ท่าน
วันนี้โผมจะเสนอคำเท่ว่าด้วยการทำห้ายสุก ยกตัวอย่างเช่น จี, หมก, เจี้ยน, ต๊อม,....
มาดูความหมายและการน้ำไปช้ายกันดูนะครับ
-
จี เช่น จีเคย หรือ เคยจี (ใช้กับการทำกะปิให้สุกนะครับ) เป็นการนำสิ่งนั้นไปวางบนตะแกรง ให้ไฟอ่อนๆ จนสุกครับ เช่นใช้ใบตองห่อเคยแล้วเอาไปจีบนไฟ แล้วมาทิ่มน้ำชุบ ชาติหรอยอย่าไปแล
-
หมก หรือ หม๊อก เช่น หมกหัวมัน หรือ หัวมันหม๊อก (ใช้กับหัวมัน หรือ ผักที่มีหัวทั้งหลาย หรืออื่นๆ) เป็นการเอาสิ่งนั้นที่ต้องการจะหมก เอาไปใส่ในไฟเลย เช่น ไข่ไก่หมก เอาไข่ไก่ ใส่ลงไปในไฟเลยครับ
-
เจี้ยน เช่น ปลาเจี้ยน น้ำพริกเจี้ยน เป็นการเอาสิ่งนั้น ใส่ลองไปในน้ำมันร้อนๆ ทอดจนสุก เจี้ยนจะนิยมใช้น้ำมันน้อยๆ ครับ ส่วน ทอดอาจจะน้ำมันมากกว่าก็ได้ครับ
-
ต๊อม ก็คือ ต้มด้วยน้ำนั่นเองครับ
-
.....คำอื่นๆ โปรดเชิญคุณบรรเลงต่อครับ
ขอบคุณมากครับ
เม้ง
ความเห็น (21)
 |
สวัสดีครับคุณวีร์
- เป็นเว็บของใครครับ เข้าไปลองสมัครแล้วยังว่างเปล่าเลยครับ
- ขอบคุณมากนะครับ ที่มาแนะนำนะครับ ไว้ค่อยไปใหม่ครับ
|
สวัสดีครับคุณวีร์
น่าสนใจมากๆ นะครับ ขอบคุณมากๆ เลยครับ ไปเยี่ยมมาแล้วครับ มาแวะบอกได้อีกนะครับ แล้วจะเข้าไปเยี่ยมอีกครับ
วัดดี๋ หน่องบ่าวเม้ง
วันนี้วันอาทิตย์ว่าง..ออกจากกุฏิ...แวะมาเยี่ยม...แหะๆ
ฟังเพลงนุกดี....ข่างคาวกิ่นกลวย ใช่หม้าย
ทำห้ายซุก...มีอีกหยาง.....เอาไป "หย้าง" ออกเสียง
ถูกหม้ายน้า..
บายดีนา....ไป่กอนแหล่วนา ขรับ
 |
ผมบายดี ฮานหยุ้งซั๊กหีดหวางนี้ครับ
โชคดีนะครับ ผมก็นานๆ จะได้ลงจากกุฏิ ตัวเองครับ
รักษาสุขภาพ และโชคดีนะครับ
โอ้โห ไม่ได้แวะมาทักทายเสียนาน คุณเม้งเปี๋ยนไป๋ ... ตัดผมใหม่ เท่ห์เลย
เรื่องภาษาใต้ไม่สันทัด แต่ชอบกินสะตอกับน้ำพริก อย่างไรแล้ว ก็ขอบคุณมากนะคะ ที่ถ่ายทอดมาเป็นความรู้
 |
สวัสดีครับคุณจินตนา
- ดีใจครับ ที่เห็นคนชอบกินลูกตอ ครับ อิๆๆ
- น้ำพริกกะปิ สะตอ กินแล้วอย่าได้ไปพูดกับใครนะครับ
- ว่าแล้วรีบๆ กลับไปบ้านดีกว่าครับ ขอบคุณมากคับที่แวะมาเยี่ยมเยียนครับ
สวัสดีค่ะคุณเม้ง ภาใต้น่ารักดีนะค่ะ โดยเฉพาะคำว่า หลาว คงจะเหมือนคำว่า เด้อ ภาษาอีสานทุกที่มีเสน่ห์ของภาษาไม่แพ้กันเลยนะ แล้วสอนอีดเยอะๆๆนะ ชอบเที่ยวภาคใต้..
 |
กุนเชียง |
สวัสดีครับคุณกุนเชียง
- คนอะไรชื่อน่ากินจริงๆ ครับ
- หลาว ในภาษาใต้ มีหลายความหมายครับที่ใช้ คือ
แหล้วหลาว (อีกแล้ว)
พันพรือหลาว (เป็นอย่างไรอีกหล่ะ) - กับอีกคำ ของคำว่าหลาว เช่น
แปลงหลาว (ประมาณว่า พุ่งเหลน นะครับ) เอ ไม่ได้ใช้คำว่า เหลน นานแล้ว กีฬาชนิดหนึ่งนะครับ ไม่แน่ใจว่าใช้คำถูกไหมครับชักมึนครับ - หรือกีฬาว่ายน้ำ ที่มีท่าแปลงหรือพุ่งตัวเองลงน้ำ ตอนจะว่ายท่ากบนะครับ ประมาณนั้นเลยครับ คือแปลงหลาว
- ขอบคุณมากครับ
 |
เม้ง สมพร ช่วยอารีย์ |
คั้ว, ขั้ว หรือ ฆั้ว ... (แล้วแต่จะออกเสียงท้องถิ่นไหน) หมายความว่า ทำให้สุกเช่นเดียวกัน เช่น คั้วโลกหัวคลก นั่นคือ เอาเมล็ตมะม่วงหิมพานต์ซึ่งยังไม่แกะเปลือกออกใส่กะทะหรือหม้อ แล้วตั้งบนเตา ก้อนเส้า หรือบนกองไฟ (กรณีนี้ ถ้าใช้เชียกผูกโยงไว้เหนือกองไฟก็จะเข้าท่าหว่า)...
โลกหัวคลกคั้วนี้ มีลดชาดเดียวกับ หม๊อก เพียงแต่ว่า ถ้าคั้ว จะได้ที่ละหลายๆ โหม้ง ....
นอกจาก โหม้งหัวคลก แล้ว สามารถคั้วอย่างอื่นๆ ได้ เช่น คั้วถั่ว คั้วเม็ดหนุน ...
อนึ่ง คั้ว ตามนัยนี้.... ต่างจาก คั้ว ซึ่งเป็นวิธีการปรุงอาหารอีกแบบหนึ่ง เช่น คั้วเผ็ด คั้วกลิ้ง... ซึ่งประเด็นหลังนี้ อาจารย์เม้งค่อยขยายความต่อก็แล้วกัน....
เจริญพร
 |
กราบขอบพระคุณมากๆ สำหรับ คำว่า คั้ว, ขั้ว หรือ ฆั้ว
ขออธิบายเพิ่มเติมสำหรับคำว่า คั้วเผ็ด คั้วกลิ้ง
ขออธิบายด้วยภาพแล้วกันนะครับ เป็นแกงนะครับ
- คั้วกลิ้ง จะไม่มีน้ำครับ
- คั้วเผ็ดอาจจะมีน้ำพอขลุกขลิกครับ
ภาพด้านล่างนี้คือ คั้วกลิ้งเนื้อครับ
ได้กินกับข้าวสวยร้อนๆ รับรอง กินพุงแวว
มาลองซูมกันให้ชัดๆ อีกซักรูปครับ
ภาพจาก www.kruaklaibaan.com ครัวไกลบ้านครับ
กราบขอบพระคุณมาก ๆ นะครับ
- หมก หรือ หม๊อก เช่น หมกหัวมัน หรือ หัวมันหม๊อก (ใช้กับหัวมัน หรือ ผักที่มีหัวทั้งหลาย หรืออื่นๆ) - - - - ->ชอบสุ๊ด - สุด ก็ หมก ลูกตอ ค๊า
 |
อิๆๆ สวัสดีครับ
หมันแล้วหล่ะก้า...ลูกตอหม๊ก...เอาไว้จิ้มกับน้ำชุบนะคุณเอ๋ย ตอสุกหรือตอแกๆ ซักหน่อยก้าหรอยจ้านเลยครับ
ขอบคุณกั๊บป๋ม
น้องเม้ง ตอนไหนเข้ามาช่วยอธิบายการเอารูปลงในบล๊อกให้ด้วยน่ะ สงสัยว่า แก่แล้วมั้งเรา ทำไม่เป็นอ่ะ แบบว่า เป็น น้องเม้งเอาแกงคั่งกลิ้งขึ้นโชว์ พี่จะเอารูปการแคว๊กขี้ยางขี้นมั่งแต่พยามเท่าได ก็ไม่ได้สักที มีเวลารบกวนชี้แนะด้วย
 |
สวัสดีครับพี่บาว
- หายไปนานนม...คิดถึงอยู่ครับ เลยส่งเมล์ไปหาเมื่อไม่กี่วันก่อนมานี้ด้วยครับ
- พันพรือมั่งครับ นึกว่าหายไปไหนมา กลับมาเอาเทคนิกการแคว็กขี้ยางมาบอกกันล่าว หรอยจริงพี่บาว
- ว่าด้วยชาวบ้านแล้ว ยังไงก็ต้องดินสู้ฟ้า หน้าสู้หลัง เอ้ยไม่ใช่ หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน กันอยู่ดี ไม่ว่าใครอี้ได้เป็นใหญ่ ใครอี้ได้เป็นดีพรือ ชาวบ้านก็ต้องนั่งตากลิบป๊อกๆ อยู่ร่ำไป
- ช้างบ้าชนกัน นับวันหญ้าแพรกก็แหลกลาญ
- ว่าด้วยเรื่องรูปนะครับ หากพี่มีรูปอยู่ในเครื่อง ก็เอาไฟล์ขึ้นทาง gotoknow ได้เลยครับ จากนั้น ก็ไปคลิกแสดงผลภาพ แล้วก็ไประบายภาพได้เลยครับ แล้วจากนั้น ก็เอามาวางในกล่องข้อความเห็นนี้ได้เลยครับพี่ ภาพมันจะมาตรงนี้นะครับ เหมือนกับกับก็อปปี้ที่อื่นๆ ไปไว้ในเวิร์ดหรือ พาวเวอร์พ้อยท์
- กรณีมีภาพที่ค้นหาเจอในเว็บ พี่ก็ไประบายภาพนั้น แล้วก็เลือกคัดลอก แล้วก็เอามาวาง ที่นี่ได้เช่นกันนะครับ
- ส่วนในระบบเบื้องหลังจะมีการจดจำที่อยู่ของภาพไว้เองอัตโนมัติ อันนี้เราไม่ต้องไปสนใจ แค่เขียนลิงก์ไว้ว่า เอามาจากไหนด้วยก็ดีครับ
- ขอบคุณมากๆ เลยครับพี่ ว่างๆ คงได้มีโอกาสคุยกันเสียงไนควีม มั้ง
|
หวัดดีครับพี่แดง
เปลี่ยนภาพบ่อยจริงนะครับพี่บาว มีภาพแค่ๆ มั้งหม้ายครับ อิๆ หรอยจริงชาติ เอาพวงขึ้ยางมาแจกให้ดูกันแต่หัววันเลยครับ อิๆ
พี่บายดีหม้ายครับ
หวัดดีครับน้องเม้ง
- มาทดสอบการจัดการรูปลงบล๊อกน่ะ ตอนนี้คิดว่าทำเป็นแล้ว ขอบคุณมากครับ
- เพิ่งกลับมาจาก อ.บุณฑริก ออกไปช่วยชาวบ้านแก้ปัญหาเรื่องที่กำลังจะถูกเอาเปรียบจากเจ้าหน้าที่ของรัฐฯ
- ขอเล่าลงรายละเอียดเพื่อมีใครสนใจ หรือ สงสัยหรือว่าที่อื่นมีปัญหาจะได้ช่วยกันแก้ครับ
- เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อก่อนชาวบ้านที่มีสวนยาง ต้องนำยางไปขายที่สหกรณ์การเกษตร ในตัวอำเภอ ห่างจากหมู่บ้าน 22 กม.
- ภายหลังพวกเราเข้าไปกระตุ้นให้ชาวบ้านรวมกลุ่มกับแล้วนำยางมารวมกันแล้วส่งน้ำหนักให้กับทางพ่อค้า หรือโรงงานที่มาลงทะเบียนไว้ให้มาประมูลใครให้ราคาสูงที่สุดก็เอายางไป
- ให้ภายหลังจากรวมกลุ่มให้ชาวบ้านไปจัดตั้งเป็นกลุ่มวิสากิจชุมชน
- ในปีกรีดยางที่ผ่านมามีเกษตรกรนำยางมาขายเป็นยอดเงิน 29 ล้านบาทเศษ ปีนี้คาดว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 40 ล้านบาท เรื่องรู้ไปถึงหูทางสหกรณ์จังหวัด ก็เลยติดต่อให้กลุ่มจัดตั้งเป็นกลุ่มสหกรณ์ แต่ทางกลุ่มบอกว่าเป็นวิสาหกิจก็ดีอยู่แล้ว
- ทางสหกรณ์ก็เลย พูดในทำนองว่า ถ้ากลุ่มไม่ยอมจัดตั้งเป็นกลุ่มสหกรณ์ระวังจะโดนกรมสรรพากร เก็บภาษี นะ แล้วระวังถ้าละเลยจะโดนภาษาย้อนหลัง
- ภายหลังชาวบ้านก็เลยแจ้งมาทางพี่ พี่ก็เลยออกไปทำความเข้าใจกับชาวบ้านโดยมีประเด็นที่ต้องให้ความรู้กับชาวบ้านคือ
- ยางพาราเป็นพืชที่มี พรบ.ควบคุมเกี่ยวกับการซื้อขายยางอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นกฏหมายที่บังคับใช้ทั้งประเทศคือ จะต้องมีการจัดเก็บเงินสงเคราะห์ หรือ เงิน cess ซึ่งคำนวนจากฐานราคายางส่งออก F.O.B ปัจจุบันเก็บอยู่ 1.40 บาท ต่อ ยาง 1 กก. เก็บเหมือนกับแหม็ดทั้งประเทศบ้านเรากะไม่แว้นโดยที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่รู้ว่า ราคายางที่เขาขายอยู่ตอนนี้มันเป็นราคาที่รวมเงิน cess อยู่ด้วย
- การเก็บภาษีเงินได้กับชาวบ้านที่มีรายได้จากการทำสวนยาง ทาง สรรพากรสามารถกระทำได้แต่เป็นภาษีเงินได้บุคคลครับ ไม่ใช่ภาษีกลุ่ม หรือภาษีที่เกิดจากการซื้อขายยาง
- ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือนทาง อบต.สามารถจะจัดเก็บได้ทั้งนี้แล้วแต่ระเบียบของ อบต. แต่ละแห่ง ซึ่ง อบต.บางแห่งก็มั่วเอาโดยการเก็บภาษีเงินได้กับชาวบ้านด้วย ( บ้าน อ.เม้งอยู่ แค่ อบต. น่ะ อย่าไปเกิดความสงสาร อบต.แล้วไปบอกให้เขาเก็บเศษเงินเล็กๆ น้อยๆ จาก ชาวบ้านหล่าว )
- เพื่อความไม่ประมาท ก็เลยแนะนำให้กลุ่มชาวบ้านกันเงินส่วนหนึ่งไว้สำหรับจ่ายเป็นเงินค่าภาษีตามที่ทางสหกรณ์จังหวัดเขาขู่ไว้ ก่อนที่จะทราบกฏเกณฑ์ชัดเจน โดยทั้งนี้และทั้งนั้น พี่จะเป็นธุระหาข้อมูลและประสานงานกับผู้รู้ให้กับกลุ่มให้เร็วที่สุด
รูปที่นำเสนอเป็น...
- ตลาดยางคนยาก
- ซื้อขายจ่ายเงินกันแบบนี้ มันยังจะมาเอาอะไรกับชาวบ้านอีก
|
สวัสดีครับพี่แดง
- ขอบคุณมากครับพี่แดง บายดีไหมครับ
- ขอบคุณมากครับ สำหรับรายละเอียดที่เอามาเล่าสู่กันฟังแล้วข้อคิดหลายๆ อย่างครับ
- ไม่ว่าจะยังไง ชาวบ้านก็ไม่เหลือไหร่อยู่ดีครับ ได้เงินมาเท่าใด ก็ไม่เหลือไหร่ ท้ายที่สุดก็หมดครับ
- หากไม่คิดสร้างให้ชุมชนเค้ารวมกลุ่มกันและสร้างชุมชนเข้มแข็งให้รู้ทัน รู้เท่าทัน หลายๆ อย่าง ท้ายที่สุดแล้วคนที่จุกก็คือ ประชาชน เสมอ ว่าแล้วก็เรื่องน่าเศร้า
- ส่วน อบต. เรื่องนี้วางใจได้ครับ เพราะว่าผมเป็นคนของรัฐที่ไม่ค่อยจะประทับใจการทำงานของรัฐซักเท่าใด
- พี่ได้คุยและอัพเดตข่าวทางบ้านมั่งหม้ายครับ คนบ้านเราตายกันหลายครับช่วงนี้ มีเรื่องวุ่น ๆ ให้คิดกันมากมาย
- ขอบคุณมากครับ