การกลับมาคราวนี้ของผมหลังจากหายหน้าหายตาไปเสียนานหลายวัน เพราะมีงานที่คั่งค้าง ทั้งโครงร่างวิจัยที่ติดค้าง สวรส.ภาคใต้ มอ. เขียนสรุปงานวิจัยไตรภาคีฯงวดปีที่ 2 สรุปสถานการณ์ของภาคี R2R ที่ดำเนินการมาแบบไม่ทราบว่าเขาเรียก R2R เตรียมสอนฯ นศ.ม.ทักษิณ เข้าร่วมประชุมคณะทำงานโครงการนวัตกรรม PCU ฯลฯ โดยสรุปก็คือ “ค้างเก่าทบกับของใหม่ ที่เข้ามาใหม่ก็ทบกับเดิมที่ค้างเก่า” เขียนไปก็สับสน โดยสรุปก็คือ “คั่งค้าง” และก็พอที่จะจัดการไปได้เยอะทีเดียว เมื่อได้ปฏิเสธงานใหม่เสียบ้างในช่วงเวลาที่ผ่านมาประมาณ 7 – 8 วัน
ผมมาตามอ่านบันทึกย้อนเก่า พบบันทึกมากเหลือเกิน พบอะไรหลาย ๆ อย่าง ยิ่งได้ทราบอะไร ๆ เพิ่มเติมอีกมากมาย โห! GotoKnow.Org เป็นไปได้ถึงขนาดนี้เชียวเหรอ เดี่ยวนี้ถูกใช้เป็นเวทีมากกว่าการจัดการความรู้ไปแล้วด้วย เป็นเหมือน Webboard ที่คอยเชือดเฉือนกันได้ด้วย ไม่ต้องปรากฎหลักฐานก็หาว่ามีการขโมยแนวคิดกันได้เฉยเลย นึกจะทิ่มแทงใครด้วยปลายนิ้วผ่าน Keyboard ก็ได้ ผมนึกเห็นเป็นภาพของ Webboard เก่า ๆ ที่ใครเปิดเผยตัวเป็นเจ็บปวด ใครปกปิดจนมิดชิดคือ Hero จริง ๆ ก็เข้ามาก่อนหน้าทีนึงแล้ว และทบทวนตัวเองว่าจะยังไหวไหม เมื่อได้ตัดสินใจเสียใหม่ก็บอกว่า ไม่เห็นเป็นไร สังคมน่าจะยังพอที่จะตัดสินใจได้ดีว่าอะไรเป็นอะไร เชื่อว่าใน GotoKnow.Org มีแต่คนที่ใช้ “ปัญญาในการเสพงานเพื่อเติมปัญญา” จึงน่าจะพิจารณาได้ว่าอะไรคือแท้หรือเทียม
อยากจะบอกว่าหากเป็นเมื่อก่อน ผมไม่ได้รู้จัก ไม่ได้ร่วมงาน หรือไม่ได้เรียนรู้ร่วม กับ Blogger ผมก็เชื่อทั้งนั้นที่เขาเขียน ๆ กันออกมา หากแต่เมื่อถึงเวลาหนึ่ง ณ เวลานี้ อยากจะบอกว่ามีเยอะมากที่ผมเริ่มไม่เชื่อ และที่ตัดสินใจได้เลยว่าไม่เชื่อ เพราะอะไรเหรอครับ ก็เพราะผมรู้จักดี เรียกว่ารู้นะว่าไม่ใช่ ผมจึงไม่เชื่อทั้งหมดเสียแล้ว “ตัวตนที่แท้จริงกับสิ่งที่เขียน ใช่แน่แท้หรือคือตัว”
ใช่แน่หรือคือเรื่องเล่าที่ผ่านการปฏิบัติมาจนได้ผลสำเร็จ หรือเพียงขโมยความคิดคนอื่นมาเขียนเสกสรรอย่างไม่ละอาย หากเพียงแต่ตะโกนบอกเขาดัง ๆ ว่าจะเก็บกินบ้าง ก็เพียงลูกไม้ข้าง ๆ บ้าน มีหรือที่เขาจะไม่ให้ การจะขโมยความคิดความอ่านคนอื่นไปใช้ แล้วอ้างว่าเป็นของตัว เพื่อประกาศว่าตนฉลาดนั้น สุดท้ายจะไปไม่รอด เพราะหาใช่แก่นความคิดที่แท้จริงของเจ้าของเขาไหม เจ้าของเขายังถอดแบบแผนการคิดของตัวเองถ่ายทอดออกมาไม่หมด ได้รับรู้มาเพียงกระพี้ก็นึกว่าแก่นแกน ฉกฉวยตอนเขาเผลอก็นำมาอวดอ้างว่าเป็นของตน สุดท้ายก็กระท่อนกระแท่นไปไม่ถึงฝั่งหมาย
กลับมาเพื่อ “สู้” ต่อ คราวนี้สอนให้ผมรู้จักเก็บกระบวนการคิดของตัวเอง ไม่เผลอไปพูดกับใครง่าย ๆ เสียแล้ว ยกเว้นว่าจะเป็นการให้คำปรึกษาอย่างเป็นทางการ หากแต่ไม่แน่ใจนักว่าทำได้แค่ไหน เพียงแต่รู้สึกเสียใจ ยอมรับว่าเสียใจที่หลงไว้ใจคนง่ายไป และไม่รู้จักรักษาระยะห่างไว้ให้พอสมควร อีกหนึ่งเรื่องที่ได้เรียนรู้เมื่อครบ 1 ปี สำหรับเวทีนี้ 1 ปีที่ผ่านไป คือการหมดประโยชน์ เพราะประโยชน์ยังไม่หมด แต่สิ้นสุดการมีประโยชน์ลงเพราะปฏิเสธด้วยเงื่อนไขที่ยิ่งมากเกินไป ให้ระวังจะโดนแทงข้างหลังเพราะยังไม่อิ่มในประโยชน์ ของคนที่เคยเสพรับประโยชน์นั้น นี่เป็นบทเรียนสำคัญประการหนึ่ง
ขอบคุณบันทึกนี้ค่ะ อ่านแล้วรู้สึกว่าตัวเองต้องระมัดระวังเวลาที่เขียนมากขึ้น (จากเดิมที่คิดว่าระวังมากแล้ว) ที่ว่าระวังคือ ระวังว่าไม่ไปกระทบใครโดยเจตนา (ถ้าไม่เจตนาก็ถือว่าเผลอสติคิดไม่รอบคอบ) ส่วนจะลอกความคิดใครหรือไม่จริงใจไม่มีอยู่แล้วค่ะ โลภโกรธ หลงอย่างไร ก็มีอยู่ แต่หาวิธีการจัดการอย่างไร เล่าสู่กันฟัง ได้ประโยชน์เสียอีกเพราะมีคนเข้ามาแนะนำวิธีลัดให้แก้ไขด้วย มีกำลังใจขึ้นอักโขค่ะ
เพราะเชื่อว่าบันทึกคือประวัติศาสตร์จะไปบิดเบือนทำไม เสียสมองไปคิดสร้างภาพ ..เอาเวลาไปสร้างสิ่งอื่นๆดีกว่าค่ะ คิดอย่างนี้แหละค่ะ
มันเป็นเช่นนั้นเองครับ...
G2K เป็นเพียงสังคมย่อย ในสังคมใหญ่ในชีวิตจริง ดังนั้นไม่แปลกที่จะมี หลากหลายรสชาติของชีวิตปนๆเข้ามาเรื่อย ตามจำนวนผู้คนที่เดินเข้ามามากขึ้น
ก็ถือโอกาสได้เรียนรู้ วิธีคิด ของคนไปด้วยครับ..ได้กำไรเพิ่มขึ้นอีก ๑ อย่าง
บางทีเราอาจมองสิ่งหนึ่งแบบแยกส่วน..ด้วยอะไรก็ดี กลับกลายเป็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ อยู่ภายใต้การยึดโยงของสิ่งต่างๆ ที่เรามีอยู่แล้ว
Gotoknow ก็เช่นเดียวกันครับ
ผมให้กำลังใจพี่ชายขอบและทุกท่านๆครับ
...สุขที่ได้ทำ สุขที่ได้คิด สุขที่ได้เรียนรู้....
อาจารย์จันทรรัตน์
ขอบคุณอาจารย์มาก ๆ นะครับ ผมไม่มีอะไรเติมต่อแล้วหรอกนะครับ เพราะอาจารย์เติมให้สมบูรณ์มากขึ้นเลยนะครับ
อย่าจมอยู่กับอะไรนาน ๆ ค่ะ...ให้หัดปลงซะ (ยกออกจากเตา) เพราะหากตั้งไว้นาน ๆ มันจะไหม้และเกรียมกรอบ ทั้งเหม็น และกินไม่ได้ เสียรสชาดของอาหาร เผลอ ๆ หม้อที่ต้มอาจทะลุ เสียของค่ะหากตั้งไฟนาน ๆ จนเผลอลืม ดังนั้นต้องใช้ไฟอ่อน ๆ คอยระแวดระวังและรีบปลงอย่าให้ทันไหม้
สุดท้ายให้ถือว่า...มันเป็นเช่นนี้เอง...มนุษย์ เรียนรู้เพื่อที่จะรู้...เก็บเกี่ยวเป็นประสบการณ์ไปตามเส้นทางเดิน การได้เรียนรู้ตัวตนของคน ๆ หนึ่ง นับว่าโชคดีขนาดไหนที่ได้เห็นทั้งตับ ไต ใส้ และพุงของเขา "ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน" ยังใช้ได้ผลดีเสมอค่ะ แต่ต้องใช้ระยะทางและกาลเวลาที่พอเหมาะพอดี ค่อย ๆ พิสูจน์อย่างชาญฉลาดและจะได้ผลแห่งการพิสูจน์ที่คุ้มค่าค่ะ
สุดท้ายก็สม...กับการรอคอยแห่งการพิสูจน์คนแท้คนเทียม เอะ!! คนขี้โขมยอย่างนี้ก็มีด้วยเหรอค่ะ...แบบนี้ต้องแจ้งตำรวจจับแล้วละค่ะ...แต่ไม่เป็นไรปล่อยไปเถอะค่ะ...บาปกรรมเดี๋ยวนี้ติดจรวดค่ะ...กรรมใดใครก่อกรรมนั้นย่อมตอบสนองเป็นสองเท่า...สาธุ!! ศาสนาทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดีค่ะ เน้นว่าทุกศาสนาค่ะ (ยิ้ม ๆ เครียดไปใหมเนี่ย)
น้องจตุพร
ขอบคุณน้องจตุพรนะครับ GotoKnow ทำให้เราได้เรียนรู้วิธีคิดของคน ที่ส่งผ่านตัวอักษรสู่สายตาที่เราได้อ่านเพื่อเสพรับเข้าไป มีอีกอย่างครับที่ได้เรียนรู้คือการสงบเงียบและนิ่ง/การเคลื่นไหว/การเบี่ยงเบน ล้วนเป็นไปเพื่อ Self Protect จริง ๆ นะครับ เข้าใจความเป็นไป แต่การทำลงไปน่าจะระลึกถึงจริยธรรมของศาสตร์ที่ตนเองใช้เลี้ยงชีพบ้างก็น่าจะดีนะครับ ไม่หนักไปนะก็เพื่อ ลปรร.กันนะครับ
อาจารย์น้อง Vij
หายแล้วครับ หายไปตั้งแต่จดนิ้วลงบนแป้นพิมพ์และขับบันทึกนี้ออกมานะครับ
ที่รีบหาย เพราะกลัวจะไหม้เกรียมนะครับ เพราะไม่มีใครคอยเติมน้ำเมื่อยามเดือด (...นิ)
อาจารย์ปภังกร
ผมก็ติดตามสิ่งที่ท่านเจออยู่ด้วยครับในขณะนั้น แต่มองเห็นว่าท่านเอาตัวรอดได้สบาย ๆ อยู่แล้ว นะท่านเจดาย
โชคดีนะท่าน ผมมองว่าท่านจะโชคดีตลอดไปอย่างนิจนิรันดร์ครับ ขออวยพรครับ
สวัสดีครับ ...นักสู้
สพพทานัง ธรรมทานัง ชินาติ (ไม่มีเครื่องหมายจุดบนจุดล่างอย่างภาษาบาลีครับ) แต่ก็อยากเขียนมาฝาก การให้ธรรมะเป็นทานย่อมชนะการให้ทั้งปวง ให้เขาไปเถอะ ให้เขาฉลาดขึ้นมาบ้างมันดีแล้ว ซึ่งความรู้ปฏิบัติแม้ใครจะเอาไปในที่สุดมันแยกได้ว่าใครเอาของใครไป ...พอดีวันนี้นั่งรถจาก จ.ตรัง กลับจ.นคร ผ่านสี่แยกอันดามัน (สี่แยกห้วยยอด) ของจังหวัดตรัง นึกขึ้นมาได้ว่าทะเลอันดามันมันกว้างขวางมาก ในมหาสมุทรอินเดีย เชื่อมต่อกับทุกมหาสมุทร เปรียบเหมือน gotoknow ใครจะเสพความรู้ที่เราสละเป็นทานแล้ว ก็เชิญเลย ถือเสียว่าได้บุญนะครับ ...ชายขอบสู้ๆๆ....
คุณครูนง...แห่งเมืองคอน
ขอบคุณมาก ๆ ครับ สำหรับคำสอนเพื่อเตือนตน แต่ที่เกิดบันทึกนี้เพราะดูเหมือนผมจะเป็นฝ่ายโดนกล่าวหาว่าไปขโมยไอเดียคนอื่นตามบันทึกนี้ ชื่นชม...ความดีของคนหนุ่มสาว ครับ
อาจารย์ปภังกร (อีกครั้ง)
ผมข้ามการตอบ คห.ท่านไป 1 คห.ครับ แต่ก็ไม่มีรุ่นพี่รุ่นน้องใน GotoKnow นะครับ หากตามที่ผมคิด เพราะ GotoKnow เป็นเวทีเสมือนเพื่อการ ลปรร.กันเสียมากกว่า บางท่านอาจจะเชี่ยวชาญมาจากเวทีเสมืออื่น ๆ อยู่แล้ว ที่นี่น่าจะเป็นเพียง 1 เวทีที่เราเลือกใช้ครับ หากอิ่มกับความเป็นไป ก็ใช่จะติดยึดอะไรมากมายครับ
สำหรับผมหากเมื่อได้ตัดสินใจแล้วคือเอาตามนั้น ช้างสารก็มาหยุดยั้งไม่อยู่ครับ
ตามไปอ่านบันทึกย้อนหลัง 2 บันทึก ก็พอจะเข้าใจที่มาที่ไปว่าความคิดที่จะให้คำปรึกษางานวิจัยชิ้นนี้ก่อกำเนิดเกิดขึ้นมาได้อย่างไร โธ่.....ไม่น่าเลย ถูกเค้าว่าอย่างนั้นไปได้ ท้าพิสูจน์ความจริงน่ะถูกต้องแล้ว แผ่เมตตา สัพเพ สัตตา ไปพร้อมๆกันนะ ......
บอกไม่ถูกว่า ตอนนี้รู้สึกอย่างไร
เพราะตอนที่เขียนความเห็นครั้งแรก ไม่รู้ที่มาที่ไปว่า เกิดกรณีอันใด และแม้จะตามไปอ่านจากลิงค์ก็ยัง ไม่รับรู้อะไร
เอาเป็นว่า ขอปล่อยให้ความเห็นนั้นเกิดจากความคิดบริสุทธิ์ที่ตัวเองที่มีกับ gotoknow ค่ะ...แม้ว่ามันจะนั้นกระเด็นออกไปนอกความคิดและนอกเรื่องของคุณชายขอบเจ้าของบันทึกไปหน่อย..ก็ขออภัยละกันค่ะ