ไปส่งลูก


เที่ยวนี้ดูแผนที่แบบดูแล้วดูอีก เพราะเคยขับรถหลงเข้าไปในกรุงเทพมารอบหนึ่ง ครั้งนั้นกลางคืนด้วย อาศัยถามแท็กซี่และเจ้าหน้าที่ทางด่วน จึงเอาตัวรอดกลับมาถึงบ้านจนได้(ฮา)

จะขับรถไปส่งลูกชายที่ชลบุรีครับ ลูกชายไปฝึกงานมาร่วมเดือนแล้ว หยุดเทศกาลสงกรานต์จึงกลับมาบ้าน เนื่องจากเป็นช่วงปิดเทอม ขากลับจึงตั้งใจจะไปส่งลูกเอง วางแผนการเดินทางให้คร่อมช่วงเวลาของผู้คนที่จะไหลเข้าสู่กรุงเทพอีกครั้งหลังเทศกาล

การเดินทางครั้งนี้พิเศษกว่าทุกคราว เพราะลูกทั้งสองสอบใบอนุญาตขับขี่มาเรียบร้อยก่อนหน้า ลูกชายจะรับผิดชอบขับรถขาไปตลอดเส้นทาง ขากลับจึงจะเป็นหน้าที่ผม ตกลงกันไว้อย่างนั้น เป็นความพิเศษ เพราะตัวเองจะได้นั่งสบายตลอดหกเจ็ดชั่วโมงในการเดินทาง ครั้งแรกเลยครับ นับตั้งแต่เลี้ยงลูกมาจนโต

ออกเดินทางตั้งแต่เช้า เส้นทางคือ พิษณุโลก นครสวรรค์ บางปะอิน ใช้ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 กาญจนาภิเษก แล้วก็มอเตอร์เวย์ หมายเลข 7 ลองทบทวนเมื่อหลายปีเคยหลงตรงไหน น่าจะที่นี่แหละครับ ขากลับจากระยองมาถึงชลบุรีก็ใช้เส้นทางนี้เหมือนขาไป ไม่ได้สังเกตสังกาอะไร ขับตามกันไปกับเพื่อนอีกสองคัน อาศัยตามเขาเอา(ฮา) เข้าใจว่าเมื่อขามาวิ่งเส้นหลักตลอด ขากลับก็เหมือนกัน พอถึงถนนหมายเลข 7 ต่อกับ 9 ความไม่รู้เรื่องก็ขับดุ่ยไปเรื่อย ไม่เข้าเส้นกาญจนาภิเษก ประเดี๋ยวเดียวเอง ก็พาทั้งครอบครัวเข้าไปงงอยู่ในกรุงเทพเรียบร้อย(ฮา) แต่ครั้งนี้ไม่พลาด วางแผนรัดกุม(ฮา) เดินทางกลางวัน พอถึงจุดสำคัญช่วงแยกเข้าสุวรรณภูมิ ชะลอรถ แล้วหยุดอ่านป้ายชัดๆ 

ระยองไม่ค่อยเห็นคนเล่นสาดน้ำ ดีเหมือนกันขับรถสบาย ระหว่างทางก็ไม่ค่อยเห็นเล่น คิดในใจไม่ทันไร พอเข้าไปถึงถนนเส้นชายหาดแม่รำพึงเท่านั้น รถติดยาวเหยียด ได้แค่ค่อยคืบตามกัน คนสนุกก็สนุก คนไม่นึกสนุกอย่างเรา ก็ไม่ค่อยสนุก เพิ่งจะดีใจเมื่อตะกี้ว่าไม่เล่นกันมาก ที่ไหนได้มารวมกันที่นี่ ความไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ทำให้ต้องเข้าขบวนกับเขาด้วยแบบไม่ตั้งใจเลย บ่นให้ลูกๆฟังบนรถครับ

หลังเดินทางมาครึ่งค่อนวัน รวมติดแหง็กที่ถนนริมชายหาดอีกเกือบสองชั่วโมง เราหมายถึง ผม ภรรยา และลูกทั้งสอง จึงมีโอกาสได้พักผ่อน สัมผัสบรรยากาศทะเล พร้อมชมพระอาทิตย์ตกที่นี่ กิจกรรมของผู้คนซึ่งค่อนข้างหนาตา ดูแล้วเพลิดเพลินครับ

รุ่งขึ้นลูกชายขับรถพาเที่ยว เลาะชายหาดไปเรื่อย ก้นอ่าว บ้านเพ สวนสน แหลมแม่พิมพ์ อนุสาวรีย์สุนทรภู่ที่แกลง เลยไปถึงแหลมเสด็จ จันทบุรี ซึ่งวันนี้นักท่องเที่ยวน่าจะแน่นกว่าวันอื่น ร้านขายของ ร้านขายอาหาร เรียงรายทั้งสองข้างทางคึกคัก ละแวกนี้เคยพานักเรียนมาเรียนรู้ป่าชายเลนที่อ่าวคุ้งกระเบนสองสามครั้ง จึงคุ้นเคย

จากนั้นย้อนรถไปหาดคุ้งวิมาน ขับตามป้ายบอกไปยังจุดชมวิว ซึ่งลัดเลาะฝั่งทะเลขึ้นไปบนเนินเขา บนนี้เมื่อมองลงมา หรือมองลงไปในทะเล ทัศนียภาพงดงามมาก

ต่อไปอีกไม่นานก็ถึงหาดเจ้าหลาว เราหยุดแวะรับประทานอาหารกลางวันในเวลาบ่ายมากแล้ว ร้านอาหารริมทะเลที่เลือก สงบ ไม่พลุกพล่าน พอท้องอิ่มจึงออกเดินทางต่อ เป้าหมายเป็นอำเภอแหลมสิงห์  

มาได้ครู่เดียวต้องข้ามสะพานไปอีกฝั่งหนึ่ง รีบให้ลูกหยุดรถ พลางบอกให้ไปจอดรอฝั่งโน้น อดไม่ไหวกับภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจครับ ถ้าจำไม่ผิดคล้ายเคยผ่านแถวนี้มาครั้งเมื่อหลายปีก่อน เร่งเดินเก็บภาพทั้งสองฟากฝั่ง ท่ามกลางเปลวแดด อย่างไม่รู้สึกรู้สาว่าต้องทนร้อนแต่อย่างใด

ใกล้จะเข้าอำเภอแหลมสิงห์ ต้องข้ามอีกสะพานหนึ่งที่สวยงามไม่แพ้สะพานที่ผ่านมา อาจเป็นเพราะเรือประมงของชาวบ้านจอดอยู่บริเวณนี้เต็มไปหมดด้วย จนร่วมห้าโมงเย็น คะเนกว่าจะถึงระยองคงค่ำ ช่วยกันเล็งหาป้ายบอกถนนที่ไปยังถนนสุขุมวิทได้ จากนั้น จึงรีบบึ่งรถกลับกันทันที

เช้าขึ้นมาออกจากระยองเร็วกว่ากำหนด เกรงรถจะแน่นและติดตามข่าว เพียงชั่วโมงเศษก็ถึงชลบุรี ที่พักลูกชายไม่ห่างจากถนนมอเตอร์เวย์นัก ความจริงไม่ได้ช้าอะไรเลย นึกจะกินข้าวกลางวันพร้อมหน้ากันอีกสักมื้อ ก็ทำไม่ได้ กังวลแต่เรื่องเวลา จุดประสงค์หลักของการเดินทางครั้งนี้ใกล้ลุล่วงแล้ว

ตั้งแต่ลูกๆกลับมาอยู่บ้าน อันที่จริงก็หลายวัน แต่ความรู้สึกตัวเองเหมือนสั้นมาก บัดนี้ต้องจากกันอีกครั้ง ลูกก็มีเส้นทางของลูก เราก็มีเส้นทางของเรา เราต้องสอนให้เขาแกร่ง ให้เขาเข้มแข็ง ผมเอ่ยกับภรรยาด้วยถ้อยคำเหล่านี้

ไม่รู้นึกอะไรขึ้นมา ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว การร่ำลาลูกชายวันนี้ ผมจึงตั้งใจกอดเขาแน่นเป็นพิเศษ

หมายเลขบันทึก: 435911เขียนเมื่อ 19 เมษายน 2011 10:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (17)

สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะคุณครู

อ่านแล้วนึกถึงบรรยากาศ ชมภาพอันสวยงาม ภาพสอง ได้อารมณ์มากๆ ค่ะ

ห้วงโมงยามแห่งความสุข มักผ่านไปเร็วเสมอ นึกถึงเวลายามจากลา คราใดแล้ว หวิวๆ นะคะ

ทำให้นึกถึงช่วงเวลาจากบ้านไปเรียน ทำงาน . ไม่ว่ายามใด พ่อแม่ ก็ยังห่วงใยลูกเสมอ

ส่งความสุขเทศกาล และส่งกำลังใจพร้อมรับการงานเทอมใหม่ค่ะ :)

ลูกก็มีเส้นทางของลูก เราก็มีเส้นทางของเรา เราต้องสอนให้เขาแกร่ง ให้เขาเข้มแข็ง

ขอบคุณ ถ้อยคำอันแสนอบอุ่นของครูนะครับ

สิ่งที่ไม่แน่นอน  คือสิ่งที่แน่นอน

ได้เที่ยวหลายที่เลยนะคะอาจารย์

 

สวัสดีค่ะอาจารย์ธนิตย์ได้พักผ่อนหลายวัน หลายที่แบบนี้ นี่แร่ะเค้าว่าจะได้เที่ยวไกลๆถ้าลูกอยู่ที่ไหนก็ได้ไปที่นั่น เนาะๆๆๆ ภาพสวยมากๆค่ะ

สวัสดีค่ะ

"....ลูกก็มีเส้นทางของลูก เราก็มีเส้นทางของเรา เราต้องสอนให้เขาแกร่ง ให้เขาเข้มแข็ง ...."

ขอชื่นชมความอบอุ่นพ่อแม่ลูกค่ะ

สวัสดีค่ะน้องอาจารย์

  • ช่างเป็นครอบครัวที่อบอุ่น  สายใยรักเหนียวแน่น
  • ชื่นชมในความรัก ลูกจะเล็กหรือโต เราก็ยังห่วงเสมอ
  • กลัวเขาหลงทาง กลัวเขาเจ็บ จึงต้องสอนๆๆตลอด
  • ยิ่งคนเป็นแม่จะเห็นไปทุกเรื่อง จนเหมือนคนขี้บ่นจู้จี้
  • แต่ลูกเขาจะรู้ว่าเพราะรัก  จึงเป็นเช่นนี้
  • น่ารักตรงพ่อกอดลูก (ส่วนใหญ่หน้าที่นี้แม่จองคนเดียว)
  • วางลูกตรงทาง แล้วนั่งดูลูกเดิน   ชีวิตเป็นของเขา

ภาพสวยด้วยฝีมือน้องอาจารย์  ยอดเยี่ยมค่ะ

 

เป็นเช่นนั้นจริงๆค่ะ...ต่างมีเวลาต้องเดิน...ต่างมีเวลาต้องไป..แต่สิ่งที่ให้คือ เติมใจให้กันจนเต็ม....

สวัสดีค่ะคุณครูธนิตย์

  • ลูกคือดวงใจของพ่อแม่ ถ้าใครยังไม่มีลูกก็คงไม่เข้าใจความรู้สึกนี้นะคะ แต่สำหรับคุณยาย เป็นทั้งลูกของแม่ และแม่ของลูก จึงเข้าใจความรู้สึกนี้ดีค่ะ
  • ขอให้มีความสุขทั้งครอบครัวนะคะ

ลูกคือทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับเรา ความห่วงใจ บางทีก็ทำให้เราคิดมาก เราก็เป็นบ่อยๆ แต่ลูกจะรู้ไหมหนอ ??

เพื่อนรุ่นพี่ผู้ชาย คุณพ่อของลูกชายหนึ่ง ลูกสาวหนึ่ง พูดให้ฟังนานแสนนานมาแล้ว ว่า

ลูกเปรียบเหมือน นก

เมื่อโตขึ้นเขาต้องโลดแล่นออกจากอ้อมอก รัง พ่อนกแม่นก

 

สมัยนั้นยังไม่มีลูก รับฟัง เข้าใจระดับหนึ่ง ซึมซาบได้ถึงความรักของพ่อแม่ ที่ต้องสมดุลย์กับความจริงแห่ง ชีวิต

ปัจจุบัน มีลูกแล้ว

แค่ลูกไปเรียน กินนอน ที่โรงเรียน

ไปส่งครั้งไร ใจแป้วทุกที

 

ห่างกันเพราะงานของเรา ก็แป้ว

 

ขอบคุณบันทึกและภาพวิวสวย ๆ ค่ะ

       เวลาที่ลูกอยู่กับเราช่วงเรียนประถม มัธยม ก็อยากให้โตเร็วๆ เมื่อไรจะเรียน

จบเสียที เพราะเหนื่อยทั้งพ่อแม่และลูก... แป๊บเดียวเขาก็จบแล้ว ปีกกล้าใจแกร่ง

พอก็ต้องปล่อยให้เขาโผบินออกไปสู่โลกกว้างแหละค่ะ ครูดาหลาเข้าใจความ

รู้สึกของพ่อแม่ดีค่ะ เพราะเรารักลูกจึงให้เขาออกไปเผชิญโลกกว้างเอง โดยพ่อ

แม่ให้กำลังใจอยู่ข้างหลังค่ะ

ขอบคุณภาพสวยๆ และเรื่องราวของครอบครัวที่เก่งและแกร่งนะคะ

      ชื่นชมและเป็นกำลังใจให้ครูธนิตย์และครอบครัวค่ะ

สวัสดีค่ะคุณครูธนิตย์

สวัสดีครับอาจารย์

แวะมาเยี่ยมด้วยความระลึกถึงครับ

ผมไม่เคยรู้สึกมาก่อนเลยว่าการจากกัีบลูกไปไกลหลายวันเนี่ยทำให้ใจหวั่นไหวไม่น้อย

ทำไมเราต้องกอดลูกแน่น ๆ ก่อนจะเดินทาง

ผมยังมีเวลาทำใจสำหรับเส้นทางของลูกน่าจะอีกพัใหญ่นะครับ...

ต้องรีบ ๆ กอดให้มาก ๆ

พี่เพิ่งต่อNetได้ รีบเข้ามาอ่าน (เมื่อสักครู่เขียนตรงนี้ได้ยาว พอบันทึก เขาก็แฮงไปอีกค่ะ พี่มีปัญหากับ G2K มากค

อาจารย์ธนิตย์คะ พี่เขียน ๑๐ บันทัด เขามาให้บันทัดเดียวเอง สงสัยต้องหนีไปนอนซะแล้ว

วันนี้เข้ามาก็เจอข่าวเศร้า...การจากไปของน้องเกียรติศักดิ์ และพอเข้ามาอ่านบันทึก อ.ธนิตย์ เจอข้อความของน้องอีก....

"ผมไม่เคยรู้สึกมาก่อนเลยว่าการจากกัีบลูกไปไกลหลายวันเนี่ยทำให้ใจหวั่นไหวไม่น้อย ทำไมเราต้องกอดลูกแน่น ๆ ก่อนจะเดินทาง ผมยังมีเวลาทำใจสำหรับเส้นทางของลูกน่าจะอีกพักใหญ่นะครับ... ต้องรีบ ๆ กอดให้มาก ๆ"

ยิ่งเศร้า...เพราะเวลาที่น้องเกียรติศักดิ์ได้ "กอดลูก" นั้นสั้นเหลือเกิน...

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท