ซำบายดี
กลับมาจากหลวงพระบาง
หลังจากไปเรียนรู้ เที่ยวเบิ่งเมืองมรดกโลกกว่า 10 วัน
ก็ถึงคราได้กลับมาบ้านเราเสียที
ไปเรียนรู้ครั้งนี้เรียกได้ว่าคุ้มค่ามากครับ ได้เที่ยว
ได้เรียนรู้ผ่านวิถีชีวิตคนลาว อย่างแนบแน่น
เพราะมีช่วงเวลาที่ได้ออกไปพักแบบโฮมสเตย์ในหมู่บ้านเล็กๆสงบริมน้ำคาน...เรื่องของบรรยากาศไม่อาจบรรยายได้เลย
วิถีที่ผมอยู่หลวงพระบางนอกจากเดินไปชมวิถีวัฒนธรรมของพี่น้องลาวแล้ว
ปั่นจักรยานยามแดดร่ม
ลมตกก็เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
เพิ่งกลับมาถึงเชียงใหม่ครับ
ด้วยการเดินทางที่ยาวนาน
ก็เหน็ดเหนื่อยกะจะเขียนบันทึกสิ่งที่ได้เรียนรู้ประเด็น
"การท่องเที่ยวโดยชุมชน"
ซึ่งเป็นประเด็นหลักที่มาเยี่ยมลาวในครั้งนี้
แต่ช้าก่อนครับ ...กระผมยังเหนื่อย ยังไม่ทันได้วางสัมภาระ
ขอนำภาพเส้นทางที่สวยงามและประทับใจ
ระหว่าง แขวงหลวงพระบาง - วังเวียง
จนถึงแขวงเวียงจันทร์มาให้ชมเป็นตัวอย่างนำเรื่องก่อน
เราออกเดินทางจากหลวงพระบางมาแต่เช้า
เพื่อจุดหมายปลายทางที่เวียงจันทร์ ว่ากันว่าเดินทางทั้งวัน
ผมนึกภาพไม่ออกเลยว่าจะขนาดไหน
เส้นทางจากแขวงหลวงพระบางเป็นเส้นทางลาดยางมะตอยที่ไม่ค่อยเรียบเท่าไหร่
ถนนเลนเดียวกับทางคดเคี้ยวขึ้นดอยสูง
เล่นเอาพวกเราใจหายใจคว่ำเหมือนกัน
แต่ทราบมั้ยครับว่า
สิ่งที่พวกเราลุ้นและไม่คุ้นชินคือการขับรถพวงมาลัยซ้าย
เวลารถสวนมาแต่ละที เหมือนจะวิ่งมาชนเรา ผมนั่งอยู่หน้าสุดของรถ
ย่อมลุ้นมากกว่าท่านอื่นๆในคณะ
ไม่ผิดหวังครับ....ถึงแม้ว่า กว่า 1 วันที่นั่งรถยาวนาน
วิวสองข้างทางระหว่าง แขวงหลวงพระบาง - วังเวียง -เวียงจันทร์
สวยน่าประทับใจ ให้ผมคิดไปถึงเมืองกุ้ยหลินที่จีน
สวยงามด้วยภูเขารูปทรงแปลกตา ป่าที่เขียวขจี
สลับกับบ้านเรือนเล็กๆกระจายตามสองข้างทาง
ผมกดชัดเตอร์จากหน้ารถแทบไม่ยั้งมือ
หลายครั้งที่ตื่นตะลึงกับทิวทัศน์สวยงามเบื้องหน้า
อย่ากระนั้นเลย ก่อนที่จะเขียนบันทึกต่อๆไป นำภาพมาให้พี่น้อง
gotoknow ชมกันก่อนครับผม
* * * ผมถ่ายรูปจากบนรถ รูปอาจจะไม่ได้มุมที่สวยมาก
เพราะจำกัดด้วยพื้นที่ และรถวิ่งไปข้างหน้าตลอดเวลา
สถานที่จริงสวยมากครับ
จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร
9 มิย.50