แนวคิดพึ่งพาตนเอง(เศรษฐกิจพอเพียง)ของ ท่านมหาตมคานธี Mahatma Gandhi's Self-Sufficiency Concept


การสัมมนาพิเศษ เรื่อง แนวพระราชดำริปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวงกับแนวคิดการพึ่งพาตนเองของมหาตมา คานธี

วันนี้ผมได้มาฟังการสัมมนาพิเศษ เรื่อง แนวพระราชดำริปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง  ของในหลวงกับแนวคิดการพึ่งพาตนเองของมหาตมา คานธี  ที่สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาชนบท  มหาวิทยาลัยมหิดล  ศาลายา

แนวคิดพึ่งพาตนเอง(เศรษฐกิจพอเพียง)ของ ท่านมหาตมคานธี  Mahatma Gandhi's Self-Sufficiency Concept  โดยลูกของเลขา มหาตมคานธี  มาเป็นวิทยากร ฝ่ายไทยคือ ดร.เสรี  พงศ์พิศ จากมหาวิทยาลัยชีวิต

อันที่จริงแล้วทั้งสองประเทศมีแนวคิดพึ่งพาตนเองเหมือนกัน

สาระของการเปิดพูดจานั้นเริ่มจากที่ประเด็นที่น่าสนใจสุดๆ  คือเริ่มที่รากเหง้า 
การเล่าของผมครั้งนี้ผมขอผสมผสานความเห็นของผมเองเติมลงไปด้วย  ในฐานะที่ได้ทำหน้าที่เป็นวิทยากรในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงตามเวทีต่างๆในอดีตและปัจจุบัน

มหาตมคานธีกล่าวว่า "เรามีทรัพยากรเพียงพออย่างอุดมสมบูรณ์  แต่ไม่เพียงพอสำหรับคนโลภ"

คานธีก็มีแนวคิดพึ่งตนเอง  ใช้หลักความสัตย์จริง  มายึดมั่น หลักนี้ต้องมีก่อนถึงจะไปสอนคนอื่นๆได้

ทั้งแนวคิดไทยและอินเดียเรื่องความพอเพียงนั้น เหมือนกันที่ว่า  "ถ้าชุมชนไม่เข้มแข็ง  ก็อย่าหวังว่าประเทศชาติจะเข้มแข็ง ชาติก็คงไม่มั่นคงไปด้วย"

สังคมที่ไม่พอเพียง  มีโฆษณาแบบบ้าเลือด  เพิ่มความอยาก  ขาดความจำเป็น  ใช้ชีวิตแบบสะสมๆๆๆๆ  บริโภคๆๆๆๆ  ทำตามความต้องการหรือความอยากของชีวิตต้องกลับมาสู่การทำตามความจำเป็นของชีวิตมากว่า  ศ.นพ.ประเวศ วะสี  เคยกล่าวไว้ว่าการจะสร้างเจดีย์ให้มั่นคงได้  นั้นจะต้องสร้างฐานของเจดีย์ให้มั่นคงก่อน

สังคมในยุคโลกาภิวัฒน์นั้นทำให้เราต้องปรับตัว  ต้องปรับเปลี่ยนไปถึงรากฐาน  ไม่อย่างนั้นชีวิตก็จะไปไม่รอด  เรียกว่าจะต้องเปลี่ยนทั้ง Paradigm  คงต้องถอยร่นไปตั้งหลัก  ตั้งมั่นให้เกิดความมั่นคงก่อน  เรียกว่าต้องทำชีวิตให้เรียบง่าย

พูดเป็นภาษาอังกฤษในหลายๆคำคือ 

  • Back to the source
  • Back to the nature
  • Back to the basic
  • Back to the rule
  • Back to the root 
ชีวิตต้องคืนสู่ธารแห่งชีวิต  กลับไปหาหลักธรรมและศีลธรรม  กลับไปหาต้นกำเนิดแห่งชีวิตของเราว่าเป็นมาอย่างไร  นั่นคือรากเหง้า  Back to the Root  กลับไปหาพ่อแม่และภูมิปัญญา  พื้นฐานของตนเอง  นึกถึงแม่ธรณี  แม่คงคา

คิดเสมอว่าอยู่เพื่ออะไร  กินเพื่ออะไร  กินเพื่ออยู่หรืออยู่เพื่อกิน

คิดเสมอว่า  คนที่ไม่มีอดีต  คือคนที่ไม่มีอนาคต   ให้ศึกษาอดีต  เพื่อกำหนดอนาคต
คนไม่มีรากเหง้า  จะถูกคนอื่นกำหนดอนาคต 

มาวันนี้เราต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิด จัดระเบียบชีวิต (เลิก ลด ทดแทน) ให้เป็นวิถีชีวิต  สร้างความสมดุล 

การกินเยอะๆ   ซื้อเยอะๆ  โลภเยอะๆ  GDP  เราจะได้เจริญเติบโต  สนองตัณหาวิถีทุนนิยม  มีแต่ชาติจะล่มจม

ต้องคิดเสมอว่าวันนี้เราอยู่เพื่ออะไร  เรากินเพื่ออะไร  จริงๆแล้วกินเพื่ออยู่หรืออยู่เพื่อกิน

เราดูตัวอย่างสหรัฐอเมริกาที่ว่าเป็นเจ้าแห่ง โลกาภิวัฒน์   ระบบเศรษฐกิจทุนนิยม  วันนี้เขาเริ่มเข้าสู่วิกฤติ Hamberger  Crisis  หนักหนาสาหัสมิน้อย  อาจจะมากกว่า วิกฤติต้มยำกุ้ง ด้วยซ้ำไป

 สาเหตุมิได้แตกต่างกันเลย  ทำให้เราเห็นว่าการที่เราเลียนแบบเศรษฐกิจแบบเขา  สุดท้าย  ก็เป็นอย่างที่ผมเคยกล่าวถึงบ่อยๆคือ  การพัฒนาไปสู่จุดจบ  โดยเฉพาะการศึกษาไทยในปัจจุบัน  ที่ขาดรากเหง้า  จึงถึงจุดจบไปนานแล้ว  ดูได้จากการเกิดวิกฤติไปทั่วทุกหัวระแหง 

มาวันนี้  เราต้อปรับเปลี่ยนวิธีคิด จัดระเบียบชีวิต (เลิก ลด ทดแทน) ให้เป็นวิถีชีวิต  สร้างความสมดุลแห่งชีวิต

เศรษฐกิจพอเพียงเป็นทางรอดของมนุษย์ชาติเป็นเรื่องใหญ่ 

มาถึงวันนี้เศรษฐกิจพอเพียงเป็นทางรอดของมนุษย์ชาติ  เป็นเรื่องใหญ่ของประเทศ  ควรเลิกพูดๆๆๆๆๆๆ  ให้เริ่มปฏิบัติเสียที  ไม่ว่าจะเป็นชุมชน  หรือรัฐบาลใหม่ที่กำลังจะเข้ามารับงาน

 

หมายเลขบันทึก: 163281เขียนเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2008 12:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:45 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (29)
  • สวัสดีครับลุงเอก
  • "เลิก ลด ทดแทน" เพื่อการพึ่งตนเองให้ได้
  • ขอบพระคุณมากครับ

สวัสดีค่ะ

พอดีกำลังจะเขียนเรื่องที่เกี่ยวกับการเงินค่ะ ขออนุญาตลิงค์มาที่นี่นะคะ

ไปสัมนามา ที่เครดิตสวิสเขาจัด และเป็นเรื่องที่สามารถโยงกันได้ ให้เห็นเป็นตัวอย่าง ไม่ใช่ให้เราไปซ้ำเติมเขานะคะ แต่เพื่อเป็นอุทาหรณ์

ตอนนี้ อเมริกากำลังเป็นหวัดอย่างแรง ซึ่งมากระทบเราด้วย และเขาเองก็กำลังพยายามช่วยตัวเอง อย่างเต็มกำลังอยู่แล้ว

สาเหตุเพราะ ภาคการเงิน ชอบสร้างผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆออกมาเรื่อย การแข่งขันก็สูงมาก ในอุตสาหกรรมการเงินของเขาเอง ทำให้เสี่ยงปล่อยกู้ออกมามาก พอพลาดเข้า ก็เรื่องใหญ่เลย

เมื่อเกิดปัญหาที่จุดๆหนึ่ง  เลยลุกลามเป็นการใหญ่

เรื่องการเงินเป็นเรื่องใหญ่มากๆค่ะ ไม่ใช่แต่ที่อเมริกา แม้ในยุโรปก็กำลังมีปัญหานี้อยู่กับธนาคารบางแห่ง

เศรษฐกิจพอเพียง จะช่วยให้เราปลอดภัยได้ในระดับหนึ่งค่ะ

พี่เอกกลับมาเขียนอย่างต่อเนื่องอย่างนี้ หล่อกว่าในรูปเสียอีกครับ 

หลังจากประจุไฟในถ่านก้อนใหม่อยู่นาน ขอส่งกำลังใจว่าถ่านก้อนนี้อย่าหมดเร็วนะครับ 

เมกาเป็นหวัด เวลาจามฮ้าดเช้ย น้ำมูกน้ำลายก็จะกระเด็นเปรอะเปื้อนไปทั่ว แต่เราจะไม่ปลิวหายไปตามแรงจาม ถ้าเรามีรากแก้วที่มั่นคง ถึงมีวิกฤติผ่านมา อาจจะกระทบบ้าง แต่ก็ยังคงยืนอยู่ได้ 

แต่ถ้าเราเป็นพืชล้มลุก มีแต่รากฝอย ฉาบฉวย เอาแต่โบ้ย เช่นเลือกตั้งแล้วรอความกรุณาปราณีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่จะหยิบยื่นมาโดยไม่ลงมือทำอะไร ก็จะล้มปลิวหายไปตามแรงจามครับ 

ถ้ามีหนี้ ก็จัดการหนี้เสียก่อน เวลาก่อหนี้ (แปลว่าทำอะไรเกินกำลังแล้ว) เรามักคิดว่าจำเป็น แต่ว่าสมองถูกหลอกง่ายที่สุด สิ่งที่คิดว่าจำเป็นนั้น จำเป็นจริงหรือไม่ ถ้าไม่มีแล้วจะมีใครเดือดร้อน นั่นก็อาจจะจำเป็นจริงๆ แต่ถ้าเราไม่มีแล้วพรุ่งนี้ก็ยังเหมือนเดิม ความจำเป็นนั้นอาจเป็นเพียงความอยากครับ 

"เรามีทรัพยากรเพียงพออย่างอุดมสมบูรณ์  แต่ไม่เพียงพอสำหรับคนโลภ" อันนี้เป็นคำที่โดนใจมานานแล้วค่ะ "Earth provides enough to satisfy every man's need, but not every man's greed. ท่านว่าไว้ตรงจริงๆ ถ้าคนเรารู้จักใช้ให้พอดีกับแค่การดำรงชีวิต โลกจะไม่เป็นอย่างที่เห็นทุกวันนี้

ที่เห็นแล้วสะใจที่สุดตอนนี้ก็คือนักเลงโตก็ติดบ่วงของตัวเอง เขาเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจแบบนี้ มั่นใจเกินเหตุ แล้วเวลาล้มทีก็ล้มดัง แต่ไม่ล้มคนเดียว เที่ยวฉุดชาวบ้านที่หลงเชื่อและเอาเศรษฐกิจประเทศไปผูกกับระบบของเขาล้มตามไปด้วย

สวัสดีค่ะ ในยุคที่สื่อครองเมือง บริโภคนิยมครองใจ ให้ติดใจหลงไหลกับการบริโภคทุกด้าน หากไม่มีสติ ไม่มั่นคงพอ ก็จะถูกกระแสพัดให้เข้าไปอยู่ในวังวนได้ง่ายมากเลยนะคะ

ไม่ทราบว่าจะหวังให้รัฐบาลใหม่เข้าใจเรื่องนี้ได้สักแค่ไหนนะคะ

สวัสดีครับ

เห็นด้วยครับว่า ควรเลิกพูด ให้เริ่มปฏิบัติกันเลย

ถ้าไง ไปดูงานที่อินเดีย โดยเฉพาะที่พาราณสี จะถูกกระชากจิตวิญญานแน่ครับ

ไม่ต้องพึ่งพิงโลกาภิวัฒน์เลย ก็อยู่กันได้ ถ้าอยากจะอยู่กับธรรมชาติ

อยากให้การสัมมนาดังกล่าวมีรายละเอีดยและสรุปให้คนได้เข้าไปอ่านด้วยครับ

Pท่าน อท.พอดีเขียนระหว่างฟัง  สรุปๆมาเฉพาะหัวๆ  มั่วนิดหน่อย  แถมผมเอาโครงการพาราณาสี ไปคุยกับวิทยากรจากธรรมศาสตร์พอใจใหญ่เลย  เพราะรู้จักกับท่านเจ้าอาวาส
Pการพึ่งตนเองคือวิถีแห่งความสุข  เมื่อพึ่งตนเองได้ก็แบ่งปัน  ลุงเอกมีความสุขในชีวิตมากๆ  ไม่เบียดเบียนใคร  ชีวิตมีแต่ให้  ไร้ทุกข์ตลอดกาลครับ
P

สวัสดีครับคุณนายดอกเตอร์

เห็นด้วยสื่อสร้างให้เกิดวิถีบริโภคนิยม ให้สิ่งที่ไม่จำเป็นสำหรับชีวิตมากมาย  น่าเสียดายที่เราขาดการดูแล  ผมไปต่างจังหวัดเข้าไปในป่าลึกๆยังมีป้ายโฆษณาให้เงินกู้เร่งด่วนกับชาวบ้าน  ติดเต็มไปหมดชีวิตจึงหลงไหลกับการบริโภคอย่างว่า  

 

ที่โรงเรียนทำเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงอยู่  ขออนุญาตแลกเปลี่ยนเรียนรุด้วย

                            วาสนา

ยินดีครับครูวาสนา  ลุงเอกเป็นที่ปรึกษาได้  ยินดีๆ 

กำลังใช้  บล็อกอยู่พอดีใช่หรือเปล่า  ท่านผู้การใจดีจัง 

                                     จากแฟนพันแท้

                                         วาสนา

        

P
เห็น คอนดักเตอร์ มาทีไรนึกถึงเด็กดูดนมทุกที 
ว่าจะเป็นคนแก่ที่ดี  ผมไฟไม่มีหมดๆเมืในถ่านก้อนใหม่อยู่นาน ขอส่งกำลังใจว่าถ่านก้อนนี้อย่าหมดเร็วนะครับ 

ที่ผ่านมาผมมีแต่น้ำลายที่กระจายไปทั่ว  ตอนนี้มีลายอักษรด้วย  ผมมีรากเหง้าที่มั่นคง  พอสภาพแวดล้อมมันเริ่มเลวร้าย  มันเตือนให้หยุดเจริญเติบโตครับ  ตอนนี้อากาศเริ่มดีจึงงอกงาม

P

เห็นพี่แล้วนึกถึงครูเก่าทุกที  เขาชอบบิดสะดือผมตอนเด็กๆ  แต่ก็รักเขาเวลาผ่านมาห้าสิบปีแล้ว

ผมไม่กลัวติดหวัดอเมริกา  เพราะเดี๋ยวนี้เลิก"วิถีเงินนำหน้าปัญญาตามหลัง"  บัตรเครดิตไม่มี  เขาเรียกว่าบัตรหนี้สิน

แต่ก่อนเคยบ้าเงิน  ช๊อบชอบ  เดี๋ยวนี้ไม่เกลียด  แต่ก็ไม่กระหายครับ  กลัวมันลุกลามมาโดนครับ

ผมชอบพึ่งตนเอง  เหลือก็ให้ แบ่งปันกัน  โดยเฉพาะความสุขมีมากๆเลย  แต่น้อยกว่าพี่นิดหน่อย 

สวัสดีครับคุณลุงเอก

นิตยสาร a day ฉบับเดือนม.ค.ที่ผมซื้อมา (แต่ยังไม่ได้อ่าน)มีภาพปกเป็นรูปของท่านมหาตมคานธี พร้อมแง่คิดว่า...Be the change that you want to see in the world 

Pขอบคุณครับคุณข้ามสีทันดร

ช่วงนี้เป็นวาระครบรอบ ๖๐ ปี ความสัมพันธไทย-อินเดีย  ครับ 

ใช้แต่ต้องไม่สุรุ่ยสุร่าย แสวงหาแต่ต้องไม่โลภมาก รักแต่ต้องไม่หลง อ่านแล้วได้นิยามอย่างนี้ครับ

สวัสดีครับลุงเอก

  • เรามีทรัพยากรเพียงพออย่างอุดมสมบูรณ์  แต่ไม่เพียงพอสำหรับคนโลภ

คือคำตอบของทุกสิ่งครับ

  • เคยอ่านประวัติของท่านมหาตามะ คานธี แล้วค่อนข้างชื่นชอบครับ ทั้งการต่อสู้แบบอสิงหา ซึ่งเป็นอสิงหาจริงๆไม่ใช่แบบที่แอบอ้างอย่างในการประท้วงต่างๆในประเทศไทย

ขอบคุณครับ

P

ใช้แต่ต้องไม่สุรุ่ยสุร่าย แสวงหาแต่ต้องไม่โลภมาก รักแต่ต้องไม่หลง

สรุปได้ดีครับเพราะ  ความรักทำให้คนตาบอด  โลภมากก็ละโมบมาก  สุรุ่ยสุร่ายก็จ่ายไม่หยุด

Pเห็นด้วย ๆ อย่างยิ่งเลยครับ  อีแอบอสิงหาไม่เอา

อุปชาติฉันท์ ๑๑ ไม่ทราบผู้แต่ง

Pแหมชอบตอนอุตส่า(ห่า)หากรรมนี่แหละขยะเต็มบ้าน  ลูกหลานเต็มเท็คไปหมด

สวัสดีค่ะลุงเอก

 พอดีหนูติดอบรมโยคะ ช่วงวันประชุมนี้พอดี เคยตั้งใจว่าจะไปฟัง เพราะ อ.โสภนา ท่านชวนอยู่ แต่แล้วโชคดี ลุงเอกนำมาเล่าให้ฟัง ขอบพระคุณค่ะ

 หนูเห็นด้วยกับการสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง และก็จะทำงานในส่วนนี้ ตามกำลังหน้าที่ให้ดีที่สุด ไว้เป็นจิ๊กซอชิ้นหนึ่งนะคะลุงเอก ที่จริงในG2K มีจิ๊กซอที่ดีหลายพื้นที่ เราทำไปเรื่อยๆ อย่ารอลมรอแล้งดีกว่านะคะ มันจะท้อเสียก่อนค่ะ

จ้ะรุ่ง  ดีมากเลยฝึกโยคะ ไปกุสินารา จะได้เดินตัวปลิวหน่อย

มีโครงการที่โรงเรียน  กำลังทำ  และกระจายแนวปฎิบัติได้ดี  ใคร่ให้ลงเอกดูเพื่อว่าช่วยเติมเต็มได้

           ด้วยความเคารพ

                  วาสนา

Pลุงเอกจะเข้าไปดูอย่างไรครับ

 จัดระเบียบชีวิต (เลิก ลด ทดแทน) ให้เป็นวิถีชีวิต  สร้างความสมดุลแห่งชีวิต

ความสมดุลของแต่ละคนจะไม่เท่ากัน จัดการอย่างไรให้ชีวิตเราสมดุล ไมใช่ จัดการอย่างไรให้ชีวิตเราเหมือนคนอื่น อยากให้เราชาวไทยได้รู้เรื่องราว ของอเมริการมากๆ จะได้ทายอนาคต ของตัวเองได้หากเรายังไม่ศึกษารากเหง้า และปรับสมดุลชีวิตของเรา

ขอบคุณลุงเอกคะ

Pสวัสดี หลานก้ามปู แบบอย่างที่ดีและล้มเหลวมีให้ดูทั่วไป  ขออย่าไปตามสิ่งที่ไม่ดี  และอย่าลืมสิ่งที่ดีๆแล้วกัน

การพึ่งพาตนเอง คือยังไงอ่ะค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท